ทำได้แค่นี้! สัปดาห์หน้าฝุ่น PM 2.5 มาอีกแล้ว นายกฯ แนะประชาชนใส่หน้ากาก เพราะเป็นเรื่องสำคัญ "ชัชชาติ" เสนอรัฐบาลให้กรุงเทพฯ เป็นเขตควบคุมมลพิษ "อนุทิน" มอบ 5 นโยบายให้ผู้ว่าฯ ยกระดับ สั่งการหน่วยงานดำเนินการทุกมาตรการอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 3568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีการกำชับอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ว่า ก็เป็นมาตรการเดิม แต่ให้เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งช่วงนี้ค่าปริมาณฝุ่นน้อยลง แต่คาดว่าสัปดาห์หน้าน่าจะแรงขึ้นอีก ก็ขอให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความสำเร็จในการนำมาตรการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone: LEZ) มาใช้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในการห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่เมืองชั้นใน จำกัดโซนการวิ่งรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปที่ไม่ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว ห้ามเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก ซึ่งรถมาลงทะเบียนบัญชีสีเขียวกว่า 38,000 คัน สำหรับรถที่ฝ่าฝืนเข้าพื้นที่ในการประกาศใช้มาตรการช่วงค่าฝุ่น PM 2.5 สูง ช่วงที่ผ่านมาได้ให้เทศกิจแต่ละเขตพื้นที่ดำเนินการแจ้งความต่อไป
"การเริ่มต้นในครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นปัญหา และได้เห็นประสิทธิภาพในการใช้เทคโนโลยี ไม่ต้องตั้งด่าน ไม่ต้องใช้คน เชื่อว่าในแผนมาตรการฝุ่นฉบับใหม่ของประเทศที่กำลังร่างก็น่าจะนำเรื่อง LEZ ไปเป็นโมเดลด้วย"
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า สำหรับการขยายผลต่อเนื่อง ก็จะรวบรวมเป็นประเด็นนำเสนอรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการฝุ่น 11 ข้อ ของกรุงเทพมหานคร ที่คิดว่าปรับปรุงได้ และขอให้ กทม.มีอำนาจ รวมถึงเรื่องสำคัญคือการประกาศให้กรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมมลพิษ ซึ่งจะทำให้เรามีอำนาจมากขึ้น เช่น สามารถใช้เงินกองทุนส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมในการเพิ่มระบบการทำงานต่างๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้มอบนโยบายและข้อสั่งการในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ดังนี้
1.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด สั่งการหน่วยงานดำเนินการทุกมาตรการอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ และพิจารณาออกประกาศกำหนดการควบคุมการเผาล่วงหน้า และบังคับใช้กฎหมายในการห้ามเผาอย่างจริงจัง เคร่งครัด และเด็ดขาด
2.ยกระดับมาตรการป้องกันปราบปรามเพื่อควบคุมการเผาในพื้นที่อย่างจริงจัง ใช้กลไกท้องถิ่นและท้องที่ลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลและจัดทำบัญชีผู้มีพฤติกรรมการเผา ร่วมกันสอดส่อง ป้องปราม ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น หากพบการเผาในพื้นที่ให้ดำเนินการยับยั้งการเผาในทันที กรณีพบการเผาในพื้นที่ป่าให้พิจารณาปิดป่าสงวนแห่งชาติ
3.ยกระดับมาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ช่วยออกหน่วยบริการให้คำแนะนำข้อปฏิบัติในการป้องกันตนเอง จัดหาอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) ห้องปลอดฝุ่น คลินิกมลพิษ ไว้บริการประชาชน เป็นต้น หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่อง ให้พิจารณาประกาศใช้มาตรการ Work From Home อย่างจริงจัง
4.ยกระดับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ในการระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ ยุทโธปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย และทรัพยากรอื่นๆ ให้พร้อมสนับสนุนในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ กรณีมีความจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนทรัพยากรในการปฏิบัติงานในพื้นที่ให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว และ 5.กรณีสถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหรือเกินค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน ยกระดับการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดประสานบูรณาการทรัพยากรร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมในวันนี้ได้รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. จนถึงวันที่ 3 ก.พ.นี้ ประเทศไทยจะเผชิญกับอากาศปิดอีกระลอก ซึ่งจะส่งผลให้ประมาณค่าฝุ่นในหลายพื้นที่ของประเทศอาจเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งที่ประชุม ปภ.ช.ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือการสั่งงดเผาโดยไม่มีข้อยกเว้น และยกระดับมาตรการต่างๆ แต่ในระยะเร่งด่วน ในพื้นที่ที่ค่าฝุ่นยังเกินมาตรฐาน ให้ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนให้มากที่สุด
โดยได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขจัดเจ้าหน้าที่พร้อมทีมแพทย์เข้าดูแลประชาชน โดยเฉพาะ 5 กลุ่มเสี่ยง โดยสาธารณสุขได้รายงานว่า มียอดรวมประมาณ 178,000 ราย ประกอบด้วย เด็กเล็ก 29,982 ราย, ผู้สูงอายุ 137,622 ราย, หญิงตั้งครรภ์ 2,305 ราย, ผู้มีโรคหัวใจ 3,857 ราย และผู้มีระบบทางเดินหายใจ 5,007 ราย
“ในช่วงที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ขอความร่วมมือประชาชนงดออกกำลังกายกลางแจ้ง รวมทั้งกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคหัวใจและโรคระบบทางเดินหายใจ ออกกลางแจ้งเท่าที่จำเป็น หากพบอาการผิดปกติ ไอ จาม หายใจลำบาก มีผื่นแดงตามตัว มีน้ำมูก หอบเหนื่อย ตาแดง ให้พบแพทย์ที่สถานพยาบาลหรือศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อทำการรักษาโดยเร็ว” นายจิรายุกล่าว
ขณะที่ นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะผู้อำนวยการกลาง/เลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) โดยยกระดับการดำเนินงานอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในทุกมาตรการ ทั้งการลดปริมาณฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิดต่างๆ และการดูแลผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมถึงพิจารณาพื้นที่ออกประกาศกำหนดการควบคุมการเผาล่วงหน้า โดยปัจจุบันได้มีการประกาศควบคุมพื้นที่ห้ามเผาแล้ว 39 จังหวัด
พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนเกษตรกรและผู้หาของป่าให้ทราบประกาศล่วงหน้า เพื่อให้รับทราบและปฏิบัติตามกฎหมายห้ามเผา และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการแอบอ้างว่าไม่รู้ประกาศห้ามเผา พร้อมบังคับใช้มาตรการกฎหมายการห้ามเผาอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด ตรวจตรา ควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะหรือเผาในที่โล่งทุกประเภท ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายอนุทิน ว่าในช่วงระยะ 3 เดือน หรือ 90 วันต่อจากนี้ ต้องห้ามเผาโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ที่ Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย X @DDPMNews Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แพทองธาร' วิ่งรอกเข้าบ้านพิษณุโลก ถก 5 ที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันที่ 21 ก.พ. เวลา 10.00 น. นายกฯเดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก เพื่อประชุมทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยมี นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษา
จองเวรเพิ่ม! บี้ ป.ป.ช. สอบ 'นายกฯอิ๊งค์' ยังไม่แจ้ง 'รองเท้าไข่มุก-ไอแพด'
'เรืองไกร' บี้ ป.ป.ช. สอบบัญชีทรัพย์สิน 'นายกฯอิ๊งค์' ยังไม่ยื่นรองเท้าไข่มุก-ไอแพด เย้ยแจงไม่เป็น ให้ทนายโทรหาได้
'สมคิด' แจงเหตุตีตก 'กม.บำนาญถ้วนหน้า' ใช้งบมหาศาล เร่งขึ้นเงินผู้สูงอายุปลอบใจ
'สมคิด' โต้ฝ่ายค้าน ปัดเล่นการเมืองตีตก กม.บำนาญ 3 ฉบับ แจงต้องใช้งบมหาศาล หน่วยงานเกี่ยวข้องไม่รับรอง เผยรัฐบาลกำลังดันเงินผู้สูงอายุ 1 พันบาท
โละเงินฝาก50ล้าน ดึงคนไทยบ้ากาสิโน
"จุลพันธ์" ขวางกฤษฎีกากำหนดคนไทยมีเงิน 50 ล้านบาทเข้ากาสิโน
รุมยำราคาข้าวดิ่งเหว 7พรรคยื่นญัตติถล่มยับ!นายกฯถก‘พิชัย-นฤมล’เร่งแก้ไข
"นายกฯ อิ๊งค์" เรียก “พิชัย-นฤมล” ถกด่วนแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ
โรมแฉเก็บอัตลักษณ์มั่ว หวั่นจีนเทามาทำผิดอีก
"โรม" แฉระบบจัดเก็บอัตลักษณ์ไทยหมดอายุ ทำให้ไม่มีข้อมูลคนเข้า-ออกไทยกว่า 17 ล้านคน