โค้งท้ายอบจ.เดือด! ‘ทักษิณ’แพ้ไม่ได้ปลุกเคี้ยวส้ม สว.บี้เลิกอ้างสิทธิปกปิดชั้น14

โค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.คึกคัก "ปธ.กกต." ลั่นทุกจังหวัดพร้อม 1 ก.พ. แย้มซื้อเสียงเริ่มร้องมาเยอะ "ทักษิณ" บุกเชียงรายช่วยหาเสียง ถูกใจชาวบ้านบอกคายส้มแล้ว ขอตรุษจีนใส่เสื้อแดงแล้วกินส้มจะได้เจริญ โว 3 ปีนี้ทุ่มเทแก้ปัญหา ปท. "พท." ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์  มั่นใจกวาดทุกสนามนายก อบจ. "อนุสรณ์" เมินร้องคุณสมบัติ "แม้ว" ปชน.จัดแกนนำดาวกระจายหาเสียง "ช่อ" มั่นใจลำปางไม่พลาด "ผบ.ตร.” ยัน  รพ.ตำรวจยึดตาม กม.ส่งเวชระเบียนชั้น 14 ให้  ป.ป.ช. "สว.อังคณา" ชี้ "ทักษิณ" ป่วยไม่ควรปิดบัง   หยุดอ้างสิทธิส่วนบุคคล ต้องยอมเสียสละ ร้อง "กรมการแพทย์-รพ.ตำรวจ" เปิดเผยข้อมูล

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการ​การเลือกตั้ง (กกต.)  กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. ภายหลังเดินทางมาตรวจเยี่ยมการจัดเตรียมเลือกตั้ง อบจ.ลำปางว่า เท่าที่ติดตามและไปมาด้วยตนเองหลายจังหวัด เช่น จ.อุดรธานี เลย จันทบุรี ตราด เชียงใหม่ และลำปาง พบทุกจังหวัดมีความพร้อมและเตรียมงานกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของจังหวัดลำปาง ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียน 5 เรื่อง น้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่มี 9 เรื่อง ซึ่งก็หวังว่าเรื่องร้องเรียนจะไม่สูงกว่าการเลือกตั้ง อบจ.เมื่อปี 63 เพราะเชื่อว่าผู้เกี่ยวข้อง ผู้สมัคร ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ย่อมตระหนักดีอยู่แล้วว่าอะไรที่ควรหรือไม่ควรทำ ฉะนั้นสิ่งที่จะเป็นการฝ่าฝืนก่อให้เกิดคำร้องก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นเยอะ

นายอิทธิพรกล่าวว่า ในการเลือก อบจ.ครั้งนี้ ตนหวังว่าในภาพรวมเรื่องร้องเรียนทั่วประเทศจะไม่สูงเท่าปี 63 ที่มีคำร้องทั้งหมด 718 เรื่อง โดยการทำงานของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะทำให้จำนวนคำร้องลดลง อย่างไรก็ตาม คำร้องที่มีเข้ามาในขณะนี้มีทุกลักษณะความผิดที่มาตรา 65 พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นกำหนดไว้ อันดับ 1 คือการร้องเรื่องซื้อเสียง ซึ่งเราพยายามป้องกัน ป้องปรามไม่ให้เกิด โดยในทุกจังหวัดเรามีการตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็ว จัดตั้งหมู่บ้านไม่ขายเสียง

"กระบวนการเหล่านี้เราพยายามป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำผิดซื้อเสียง ซึ่งนอกเหนือจากการทำงานของ กกต.แล้ว หากมีผู้ใดมีข้อมูลการทุจริต  ก็ขอให้ความร่วมมือในการให้เบาะแสต่อ กกต. ซึ่งถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ เราก็มีกระบวนการการคุ้มครองพยาน เรื่องที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการในลักษณะนี้ไปไม่น้อย และมีการให้รางวัลแก่ผู้ให้เบาะแสจำนวนสูงสุดถึง 1 ล้านบาท ซึ่งหวังว่าปัจจัยเหล่านี้จะสามารถช่วยป้องกันการซื้อเสียงได้บ้าง" ประธาน กกต.กล่าว

ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ กกต.สอบกรณีหญิงปาถุงขึ้นบนเวทีปราศัยหาเสียง อบจ.ของพรรคเพื่อไทยที่ จ.มหาสารคาม เพราะไม่ได้เงิน 200 บาทนั้น นายอิทธิพรกล่าวว่า ตรวจสอบตามปกติเวลามีประเด็นพวกนี้ เบื้องต้น กกต.มีชุดปฏิบัติการข่าวคอยติดตามและรายงานให้ส่วนกลางทราบอยู่เสมอ เรื่องนี้อยู่ในเรดาร์การทำงานของเรา และทราบว่าสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดมหาสารคามกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่

ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ยังคงลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย โดยเดินทางพร้อมไปที่ จ.เชียงราย ช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย หาเสียง และขึ้นเวทีปราศรัยเวทีแรกที่สิงห์ เชียงราย สเตเดียม อ.เมืองฯ ในเวลา 12.00 น. ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม 2 ชั่วโมง ซึ่งวันนี้นายทักษิณได้สวมเสื้อเชิ้ตสีเหลืองสดใสต้อนรับเทศกาลตรุษจีน

นายทักษิณเริ่มต้นปราศรัยว่า สุมาเต๊อะ มาช้าไปหน่อย อากาศฮ้อนยังอุตส่าห์รอ ขอบคุณจั๊ดนัก  ดีใจที่ได้มาเจอกัน วันนี้ดีใจที่ได้มาพบพี่น้อง ดีใจที่พี่น้องอุตส่าห์รอในเวลาเที่ยงแล้ว ตนหายไป 17 ปีพี่น้องคิดถึงตนหรือไม่ ตนจะกลับมาช่วยพัฒนาเชียงรายให้เจริญ 10 กว่าปีที่ผ่านมามีเงินอยู่หรือไม่ ล้วงกระเป๋ามีเงินหรือไม่ หรือมีอยู่นิดเดียว ปีนี้จะค่อยๆ มี ปีหน้าจะมีเยอะขึ้น เราจะช่วยกัน  รัฐบาลจะสร้างโอกาสเต็มที่

 “วันนี้ประเทศไทยอยู่กับปัญหาเฉพาะหน้ามากไปหน่อย ต่อไปเราก็ต้องแก้ปัญหาล่วงหน้า แล้ว อบจ.เป็นกำลังสำคัญของรัฐบาล วันนี้ผมมา นายยงยุทธ ติยะไพรัช เปรียบเสมือนน้องรักผม ตอนผมเป็นนายกฯ ยงยุทธเป็นโฆษกรัฐบาล ต่อมาก็มาเป็นเลขาฯ นายกฯ เป็นรัฐมนตรี และเป็นประธานสภาฯ วันนี้สลักจฤฎดิ์เมียยงยุทธเป็นผู้ปกครองยงยุทธ อาสามาขอเป็นนายก อบจ. ขอให้พี่น้องเลือกสลักจฤฎดิ์มาเป็นมือไม้เชื่อมโยงกับรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องได้อย่างเต็มที่ ขอให้พี่น้องเลือกนายก อบจ.และ สจ.เป็นทีมเดียวกัน เพื่อจะได้ช่วยกัน" นายทักษิณกล่าว

จากนั้นนายทักษิณยังได้กล่าวถึงปัญหายาเสพติด ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ที่ขอให้ช่วยกันแก้ไขส่งข้อมูลปัญหาผ่าน อบจ.และ สส. รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งต้อนรับนักท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งได้สอบถามเงินหมื่นที่รัฐบาลช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

 “วันนี้ตรุษจีน ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ หรือเป็นหนี้ก็ต้องใช้ ตรุษจีนชอบใส่เสื้อสีแดง แล้วชอบกินส้ม ตรุษจีนนี้ต้องใส่เสื้อสีแดงแล้วกินส้มให้ได้ จะได้เจริญๆ” นายทักษิณกล่าว ซึ่งได้มีประชาชนตะโกนขึ้นมาว่า “กินส้มแต่คายแล้ว” นายทักษิณจึงตอบกลับว่า “ดีๆ”

ต่อมาเวลา 13.10 น. นายทักษิณเดินทางมาปราศรัยต่อที่โรงเรียนพานพิเศษพิทยา อ.พาน มีประชาชนรอฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่ โดยตอนหนึ่งนายทักษิณปราศรัยว่า พี่น้องหากินแทบตายนึกว่าเงินจะอยู่ในเชียงราย ปรากฏว่าเงินเข้ากรุงเทพฯ หมด เชียงรายเหือดแห้งเหมือนป่าไม่มีน้ำ 3 ปีนี้ ตนทุ่มเทเต็มที่ทั้งกำลังกายกับสมอง พรรคเพื่อไทยจะระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาให้พี่น้องคนไทย เอาให้มันฟื้นและรุ่งเรืองเหมือนตอนที่ตนเป็นนายกฯ  สมัยตนอยู่มีอัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจไวที่สุด  งบประมาณสมดุลถึงสองปี ตอนนี้งบประมาณขาดดุลอย่างต่อเนื่อง เป็นหนี้สินมากมาย วันนี้มีหนี้ประชาชน หนี้ครัวเรือน หนี้ประเทศมาก จากนี้ไปสามปีพี่น้องจะเฟื่องฟูเหมือนเก่า

"จะต้องทำให้พี่น้องมีเศรษฐกิจที่ดี ลดค่าใช้จ่ายให้ได้ เดี๋ยวนี้ความสัมพันธ์ไทย-จีนดี ล่าสุดจีนประกาศรับซื้อมันสำปะหลัง 3 แสนตันทำราคาขึ้น  ลำไยก็เหมือนกัน ซึ่งไม่มีที่ไหนทำราคาลำไยได้เท่าบ้านเรา ก็จะขอให้จีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญรับซื้อ และสินค้าเกษตรจะขอให้จีนเปิดตลาดอย่างต่อเนื่อง และจะเจาะตลาดเพิ่ม รวมถึงเรื่องข้าว ตนจะหาวิธีทำให้ราคาดีขึ้น รวมถึงเรื่องยางพารา จะเพิ่มเรื่องการแปรรูป นอกเหนือจากการพึ่งการส่งออกส่วนหนึ่ง เราจะต้องร่วมมือกัน รวมถึงสินค้าเกษตรทุกตัว กำลังดูว่าตัวไหนจะขึ้นก่อนขึ้นหลัง กำลังทำกันอย่างเต็มที่" นายทักษิณกล่าว

ด้านนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย กล่าวถึงกรณีนายไทกร พลสุวรรณ  นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความระบุ นายทักษิณพาซวยเพราะขาดคุณสมบัติเป็นผู้ช่วยหาเสียง ซึ่งอาจทำให้ผู้สมัครได้ใบแดงว่า ส่วนตัวไม่กังวล เพราะตนเป็นตัวแทนของพรรค ผู้ช่วยหาเสียงก็คือตัวแทนของพรรค ในการมาช่วยดูแลและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในแต่ละจังหวัด ซึ่งก่อนลงสมัครตนได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติหลายครั้ง เพื่อให้พรรคส่งลงเป็นผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย โดยผ่านขั้นตอนให้พรรคพิจารณาจึงผ่านคุณสมบัติได้ ในส่วนของผู้ช่วยหาเสียงก็เช่นกัน เพราะจะส่งผลถึงการเลือกตั้ง

 “สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เรามั่นใจ และกรณีมีเรื่องเช่นนี้ออกมา ซึ่งประชาชนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถูกกลั่นแกล้งหรือให้ข่าวบิดเบือน เพื่อไม่ให้ประชาชนตัดสินใจเลือก แต่ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนมีความเชื่อมั่น และดิฉันจะไม่มีการร้องกลับในประเด็นนี้ แต่ในส่วนของพรรคนั้นก็ขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะดำเนินการอย่างไร" นางสลักจฤฎดิ์กล่าว

ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงช่วงโค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.ว่า ผู้สมัครของพรรคถือว่ามีความพร้อมในเรื่องของการดำเนินการหาเสียงและเลือกนโยบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ผ่านมาผู้สมัคร ในสนามเลือกตั้ง จ.นครราชสีมา ก็มีผลงานเป็นที่ถูกอกถูกใจประชาชน ก็คิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ จะต้องมีการลงพื้นที่ให้หนักขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้าย และที่สำคัญต้องเข้าถึงประชาชนและสื่อสารนโยบายที่ทำต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด

ถามว่า สนามเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ถือว่าพรรคเพื่อไทยต้องการปักธงในอีกสนามหนึ่ง เพราะอดีตนายกฯ ลงพื้นที่หาเสียงอีกครั้ง นายประเสริฐย้ำว่า ใช่ เป็นเช่นนั้น เมื่อถามว่ามีความมั่นใจเท่าไหร่หากให้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ นายประเสริฐกล่าวว่า ก็อยากจะพูดว่ามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีบรรดานักร้องร้องตรวจสอบคุณสมบัติผู้ช่วยหาเสียงของนายทักษิณขาดคุณสมบัติว่า พรรค พท.มีฝ่ายกฎหมาย โดยเฉพาะที่นายทักษิณมาช่วยหาเสียง เราได้ศึกษาข้อกฎหมาย ระเบียบของ กกต.ครบถ้วน และ กกต.ไม่ได้พูดถึงคุณสมบัติผู้ช่วยหาเสียง กำหนดแค่ว่าผู้ช่วยหาเสียงต้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และไม่ได้กำหนดด้วยว่าต้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตที่ไปหาเสียงด้วย ดังนั้นนายทักษิณไม่ขาดคุณสมบัติ

"สิ่งที่เราตั้งข้อสังเกตเวทีโค้งสุดท้ายที่ จ.เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน เราขึ้นมาหลายเวที และพูดก่อนหน้านั้น ตั้งแต่เวที อบจ.อุดรธานี  อุบลราชธานี ก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเป็นไปได้หรือสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายหรือกฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับ กกต.ออกมาพูด แต่ กกต.ยังไม่พูดอะไร ปราศรัยทุกที่มีแค่ผู้สมัครต้องระวังอะไรบ้าง  อีกทั้งการหาเสียงรอบนี้ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ก็เป็นการแข่งขันนโยบายต่อประชาชน ไม่หนักใจอะไร พรรคเพื่อไทยดูข้อกฎหมายเรียบร้อยแล้ว คุณสมบัติก็ไม่ได้มีกำกับไว้ นายทักษิณมีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้" นายอนุสรณ์กล่าว

ถามว่า การมาปล่อยข่าวช่วงโค้งสุดท้ายต้องการอะไร นายอนุสรณ์กล่าวว่า กระแสผู้สมัครพรรคเพื่อไทยช่วงออกตัวออกสตาร์ทดี แต่ไม่ดีขนาดนี้ แต่พอผ่านไปหลายเวทีเห็นชัดเจนว่าผู้สมัครที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล ผู้สมัครที่ไม่มีส่วนยึดโยงกับรัฐบาล กับผู้สมัครเพื่อไทยที่เป็นพรรครัฐบาล เวลาจะขับเคลื่อนนโยบายสามารถเชื่อมประสานการทำงานร่วมกันได้ หลายนโยบายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เริ่มเห็นผลอย่างชัดเจน สิ่งที่รัฐบาลเพื่อไทยพูดไว้สามารถทำได้ทุกอย่าง พูดแล้วทำ

ซักว่ามองเป็นการดิสเครดิตกันหรือไม่   นายอนุสรณ์กล่าวว่า เป็นความพยายาม แต่ตอนนี้บ้านเมืองบอบช้ำมากจากการขัดแย้งในสังคม ผู้สมัครลงแข่งขันนายก อบจ. ก็นำเสนอนโยบายตนเอง สุดท้ายก็เป็นการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์ ฝ่ายที่ร้องก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ท่านมีสิทธิ์ร้องก็ร้อง แต่หน้าที่ ในการวินิจฉัยต่างหากที่ กกต.จะเป็นผู้บอกว่าทำได้หรือไม่ได้

"ผมอยากให้ไปย้อนฟังคำปราศรัยหรือคำให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ เวลาโดนร้องมากๆ เสียเวลา เสียบรรยากาศ ทำลายบรรยากาศความสมานฉันท์ มองความเป็นจริงไม่มีมูลเหตุ ไม่มีผิด ไม่มีใครก็ต้องรับผิดชอบ" นายอนุสรณ์กล่าว

ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่และ จ.ลำพูน ในวันที่ 30 ม.ค. เพื่อช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียงว่า เป็นการลงพื้นที่เพื่อกระตุ้นและรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญที่เรามีโอกาสชนะ แต่ไม่มีการตั้งเวทีปราศรัย เนื่องจากได้จัดไปก่อนหน้านี้แล้ว

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง กล่าวว่า จ.เชียงใหม่มี สส.จากอดีตพรรคก้าวไกล 7 คน แน่นอนว่าเป็นพื้นที่ที่เราคาดหวัง และเครือข่ายชาติพันธุ์ของเราก็ทำงานอย่างเข้มแข็ง ซึ่งเราใช้นโยบายชนะใจคนกลุ่มนี้ได้เยอะมาก จ.เชียงใหม่เป็นพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งดูได้ชัดเจนจากแกนนำส่วนกลางลงพื้นที่ เน้นไปในจังหวัดที่เรามีโอกาสชนะในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

ถามว่า เป็นการลงพื้นที่เพื่อจะชนกับนายทักษิณหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า คงเรียกว่าชนหรือไม่ชนไม่ได้ แต่ 3 วันสุดท้ายเป็นวันที่ทุกคนต้องลงพื้นที่เป้าหมาย ใครก็ทราบว่านายทักษิณตั้งใจกับ จ.เชียงใหม่ไว้มาก เพราะเป็นบ้านเกิด และอาจรู้สึกไม่พอใจกับผลการเลือกตั้งปี 66 ที่เสียพื้นที่ให้พรรคก้าวไกลเกือบหมด

"จ.ลำพูนมีโอกาสสูงมากที่เราจะชนะ เพราะถือเป็นพื้นที่ 1 ใน 5 ที่เราคาดหวังไว้ ถ้าไม่ติดเรื่องวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ เนื่องจาก จ.ลำพูนเป็นพื้นที่ที่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ หากพนักงานหยุดทำงาน แม้จะไม่นับเป็นวันหยุดวันลา แต่ก็ไม่ได้รับค่าจ้าง จึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะมีใครยอมเสียค่าแรงมาเลือกตั้ง ส่วน จ.เชียงใหม่ ถือเป็นพื้นที่ส้มเข้มข้น อย่าง อ.สันทราย สส.เราก็ได้คะแนนสูงที่สุดในประเทศ ขณะที่ อ.ฝาง ก็เป็นที่แรกที่เราลงหลักปักฐานตั้งแต่ก่อร่างสร้างพรรคอนาคตใหม่ มีฐานเสียงแน่นหนาอยู่กับพรรคมา 3 เจเนอเรชัน" น.ส.พรรณิการ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคประชาชน (ปชน.) ได้แบ่งสายในการช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร  อบจ.เป็น 3 สาย ได้แก่ 1.นายชัยธวัชและ น.ส.พรรณิการ์ ไป จ.ลำพูนและ จ.เชียงใหม่ 2.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และประธานคณะก้าวหน้า ไป จ.ระยอง 3.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไป จ.สมุทรสงคราม

ที่ห้องประชุมแจ้งยอดสุข ชั้น 3 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2568 โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

น.ส.แพทองธารได้กำชับทุกกระทรวงที่กำกับดูแลหน่วยรับงบประมาณให้จัดทำคำขอการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน รวมทั้งเน้นย้ำ 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.ปัญหาเรื่องฝุ่น 2.เรื่องขอให้ทุกกระทรวงกระชับความสัมพันธ์ในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน และ 3.เรื่องความมั่นคง ทั้งการปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรมไซเบอร์ และการให้สัญชาติถิ่นที่อยู่ถาวรกับกลุ่มชาติพันธุ์

ช่วงเย็น น.ส.แพทองธารเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ไปร่วมงานตรุษจีนเยาวราชประจำปี 2568  จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสนามไชย ไปยังสถานีหัวลำโพง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยและผลตอบรับของผู้ใช้บริการจากมาตรการรถไฟฟ้าฟรี ซึ่งมีประชาชนเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก โดยคุณป้าท่านหนึ่งบอกว่าดีใจมากที่เห็นนายกฯ ตัวจริง และฝากความคิดถึงถึงคุณพ่อ (นายทักษิณ) ด้วย และอธิษฐานให้ท่านได้กลับมาทุกวัน เพราะท่านทำความดีให้กับประเทศมากมาย  ฝากบอกท่าน (ทักษิณ) ด้วยว่าใจเย็นๆ อย่าใจร้อน ยอดเยี่ยมมาก และโชคดีมากที่ได้มาเจอนายกฯ  เหมือนถูกหวยรางวัลที่ 1 ก่อนที่นายกฯ จะตอบว่า "ขอบคุณค่ะ พ่อกลับมาแล้ว อายุ 75 ปีแล้วต้องใจเย็น"

 ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส  อดีต ผบ.ตร.และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เข้าให้ข้อมูล ป.ป.ช.ถึงการรักษาตัวของนายทักษิณที่ รพ.ตำรวจ พร้อมระบุหากไม่ส่งผลการรักษาให้ ป.ป.ช.อาจถูกฟ้องได้ว่า เป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง

"ผมได้บอกไปแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอำนาจหน้าที่ของแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจที่จะพิจารณาในรูปคณะกรรมการ และต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบด้วย ซึ่งหนังสือที่มีการยื่นมา ผมได้มีการสั่งการไปแล้ว ป.ป.ช.ก็ได้มีหนังสือมา ผมก็ได้สั่งการไปที่แพทย์ใหญ่ให้ดำเนินการไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ได้สั่งการไปแล้ว" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าว

ถามว่า แล้วทาง รพ.ตำรวจได้มีการส่งเวชระเบียนไปให้ ป.ป.ช.แล้วหรือยัง ผบ.ตร.กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่แพทย์ใหญ่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีนายพิชิต ไชยมงคล  แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ขอหลักฐานการรักษาตัวของนายทักษิณจากโรงพยาบาลตำรวจ แต่ได้รับแค่หนังสือปะหน้าเอกสาร "ลับ ต้องระมัดระวังระเบียบการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ" กลับมาว่า เรื่องของนายทักษิณนั้นไม่ควรเป็นเรื่อง เพราะในความเห็นส่วนตัว มองว่านายทักษิณเป็นผู้ใหญ่ และการเจ็บป่วยของบุคคลสาธารณะไม่ควรต้องปิดบัง หากไม่ได้เป็นโรคติดต่อหรือโรคที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ตนได้พูดมาโดยตลอด อีกทั้ง รมว.ยุติธรรมและผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจก็พูดว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล

"สิ่งที่อยากจะบอกคือ สิทธิส่วนบุคคลต้องมาชั่งน้ำหนักกับประโยชน์สาธารณะ นายทักษิณก็เป็นถึงอดีตนายกฯ และเป็นบุคคลสาธารณะ ก็น่าจะมีความเสียสละในเรื่องสิทธิส่วนบุคคลบางประการ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ไม่ให้เกิดความกังขาและให้เกิดความโปร่งใสต่อสังคม ซึ่งกรมการแพทย์และโรงพยาบาลตำรวจก็ควรที่จะเปิดเผย และหยุดอ้างเรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัว" นางอังคณากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง