กกต.รับรองสุภาพร พท.ปลุกซ่อมหลักสี่

กกต.รับรอง “น้ำหอม-สุภาพร” เป็น ส.ส.สงขลาแล้ว "ชลน่าน" ย้ำส่งผู้สมัครชิงเลือกตั้งซ่อมลำปางแน่ มั่นใจทวงพื้นที่คืน “ลุงป้อม” ไม่รู้เด็กชูสามนิ้วเป็นแกนนำม็อบ 3 นิ้ว บอกเป็นลูกหลานทั้งนั้น คุยกันดีไม่มีอะไร "ส.ส.เต้" ยันไม่ฟ้องถูกปิดกั้นลงพื้นที่ "เพื่อไทย" ปลุก ปชช.เขต 9 กทม.เลือก "สุรชาติ" เพื่ออนาคตประเทศเปลี่ยนแปลงการเมือง "ชัชชาติ" เปิดสภากาแฟ เพื่อนชัชชาติ ชวน ปชช.คุยปัญหาเมือง ตั้งเป้าขยายเครือข่าย 1 พันแห่งทั่ว กทม.  

เมื่อวันที่ 25 มกราคม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอผลการตรวจสอบเบื้องต้นและเห็นควรประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ 6 แทนตำแหน่งที่ว่าง ประกอบความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา ที่เห็นควรประกาศผลการเลือกตั้ง จึงออกประกาศ กกต.เรื่อง ผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 มาตรา 127 ซึ่ง น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ การประกาศผลดังกล่าวไม่เป็นการตัดหน้าที่และอํานาจของ กกต.ที่จะสืบสวน ไต่สวน หรือวินิจฉัย กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทําการทุจริตในการเลือกตั้ง หรือการเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ไม่ว่าจะได้ประกาศผลการเลือกตั้งแล้วหรือไม่ก็ตาม สำหรับผู้ได้รับการเลือกตั้ง สามารถมารับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (ส.ส. 6/4) นับแต่วันที่ 25 ม.ค.เป็นต้นไป ที่สำนักงาน กกต.แจ้งวัฒนะ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการเลือกตั้งซ่อมเขต 4 จ.ลำปาง ว่า รอให้ศาลประกาศให้มีการเลือกตั้งซ่อม แม้ กกต.จะให้ใบเหลืองแล้ว ยังไม่จบกระบวนความ พรรคเพื่อไทยพร้อมส่งผู้สมัคร พร้อมสู้ มั่นใจว่าจะได้พื้นที่คืนมาด้วย ส่วนผู้สมัครที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น อยู่ในกระบวนการคัดสรร ซึ่งผู้สมัครของเราดี ถ้าส่งก็มั่นใจว่าชนะ เพราะเป็นพื้นที่เดิมของเรา แต่ที่ไม่ได้ส่งคราวก่อน เพราะมีเหตุผลบางเรื่อง บางประการ ครั้งนี้ก็ต้องมาพิจารณาให้รอบคอบถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีลงพื้นที่ช่วยนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตหลักสี่-จตุจักร หาเสียงแล้วมีเยาวชนรายหนึ่งที่มาร่วมเซลฟีกับ พล.อ.ประวิตรชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ว่าเด็กก็คือเด็ก ตนเป็นผู้ใหญ่ก็คุยกันดี ไม่เห็นมีอะไรเลย

เมื่อถามว่า เห็นพูดคุยกันแบบใกล้ชิด รู้หรือไม่ว่าคนที่คุยด้วยเป็นแกนนำกลุ่มราษฎรหรือกลุ่ม 3 นิ้ว พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "เหรอ ไม่รู้ แต่เห็นเขาก็พูดดี ก็เป็นลูกเป็นหลาน ก็คุยกันดี ไม่เห็นมีอะไรเลย คนไทยด้วยกันทั้งนั้น"

ที่ตลาดประชานิเวศน์​ 1​ นายสมศักดิ์​ เทพสุทิน​ รมว.ยุติธรรม​ ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร.​, นายอนุชา​ นาคาศัย​ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค มาช่วยนางสรัลรัศมิ์​หาเสียง​ โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน มีแม่ค้าบางส่วนได้ส่งเสียงโอดครวญถึงราคาปัญหาสินค้า รวมถึงปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลแพง โดยช่วงหนึ่งนายอนุชาได้พูดคุยกับผู้ค้าสลากที่มารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พร้อมระบุว่า รัฐบาลกำลังแก้ปัญหา

ระหว่างที่คณะของนายสมศักดิ์กำลังช่วยนางสรัลรัศมิ์หาเสียง ได้เดินมาเจอคณะของนายมงคลกิตติ์​ สุขสินธารานนท์​ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่มาช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียงอยู่อีกฝั่งหนึ่ง​  โดยนายอนุชาได้เข้าไปทักทายนายมงคลกิตติ์ตามมารยาท ขณะที่นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ต่างคนต่างหาเสียง ส่วนที่มีข่าวว่าตนจะไปร้อง กกต.จากกรณีที่ถูกปิดกั้นไม่ให้ไปหาเสียงที่ชุมชนสะพานไม้ 2 เมื่อวันที่​ 24​ ม.ค.ในช่วงที่ พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่นั้น ตนไม่ร้องหรอก ไม่อยากรังแกกัน

นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า มาช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับนางสรัลรัศมิ์ ครอบครัวนี้เป็นคนทำงาน​ โดยเฉพาะนายสิระ  ที่ทุ่มเทให้กับพื้นที่ ตนเคยมาในพื้นที่นี้ในช่วงที่มีการระบาดโควิดหนักๆ ซึ่งเขาทุ่มเทหายาสมุนไพรเท่าที่ทำได้มาช่วยชาวบ้าน และชาวบ้านรู้สึกประทับใจ​ ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ทำงาน​ ทุ่มเทหลายสิ่งหลายอย่างแก้ปัญหาในช่วงภาวะวิกฤตต่างๆ​ นายกฯ เป็นคนที่เข้มแข็ง​ อดทน​ มั่นคง​

ที่พรรคเพื่อไทย ได้ออกคำแถลงมีเนื้อหาว่า การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 9 ในวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.2565 นี้ จะเป็นหมุดหมายสำคัญ ในการจุดประกายแสงสว่างของการปรับเปลี่ยนการเมืองไทยสู่แนวทางที่ถูกต้องชอบธรรม เป็นประชาธิปไตยตามความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง                  พรรคเพื่อไทยขอกราบเรียนเชิญพี่น้องประชาชน ช่วยส่งเสริมสนับสนุนเลือกคุณสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 3 เพื่อร่วมมือร่วมใจกันเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย เพื่ออนาคตของประเทศไทย

ขณะที่นายสุรชาติ เทียนทอง เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่พบปะประชาชนบริเวณหมู่บ้านมหานคร ว่าการปราศรัยใหญ่วันที่ 28 มกราคม จะนำเสนอนโยบายของพรรคหลายด้านที่จะเป็นการกำหนดทิศทางของประเทศ เพื่อตอกย้ำให้พี่น้องประชาชนได้เห็นว่า แม้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน แต่เราทำหน้าที่ตรวจสอบและนำเสนอทางออกของประเทศให้พี่น้องประชาชน เพื่อให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยยังเป็นความหวังเสมอ  

ส่วนที่มีรายงานพบการทุจริตในพื้นที่ในเขตชุมชนแล้วนั้น นายสุรชาติกล่าวว่า   มั่นใจว่าประชาชนจะรักษาศักดิ์ศรีของตนเอง ในวันลงคะแนนเลือกตั้งจะมีตัวแทนของพรรคและอาสาสมัครภาคประชาชนช่วยจับตาการเลือกตั้ง อยากฝากประชาชนร่วมกันจับตาจำนวนผู้มาใช้สิทธิว่าแต่ละหน่วยเลือกตั้งของเขตหลักสี่-จตุจักร มีจำนวนบัตรลงคะแนนของผู้มาใช้สิทธิ์ในหีบ ตรงกันกับจำนวนประชากรในแต่ละหน่วยหรือไม่ สำหรับการลงพื้นที่หาเสียงในเขตที่มีการเลือกตั้งไม่ควรถูกปิดกั้น ผู้สมัครทุกคนควรได้เข้าถึงพื้นที่ตราบใดที่ไม่เป็นการรบกวนพี่น้องประชาชน ส่วนตนสามารถลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนได้ทุกจุด

วันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ทีมนโยบายเศรษฐกิจ เปิดตัวสภากาแฟ เพื่อนชัชชาติ เพื่อเปิดพื้นที่ชวนประชาชน คุยปัญหาเมือง คิดหาทางออก และลงมือทำ โดยมุ่งไปถึงแก้ปัญหาที่ลงมือได้ทันที พร้อมกับเป้าขยายสภากาแฟไม่ต่ำกว่า 1,000 แห่ง ครอบคลุม 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ พร้อมเชิญชวนภาคประชาชนร่วมเป็นอาสาสมัคร เพื่อนชัชชาติ รวมพลังสร้างกรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน 

นายชัชชาติกล่าวว่า สภากาแฟ เพื่อนชัชชาติ เป็นความร่วมมือระหว่างทีมเพื่อนชัชชาติกับเครือข่ายผู้ประกอบการร้านกาแฟในกรุงเทพฯ เน้นนำประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ภายในสภากาแฟ มีการติดบอร์ดรับฟังปัญหาเมืองและเสนอภาพกรุงเทพฯ ในฝัน ควบคู่กับสนับสนุนการใช้แพลตฟอร์มทราฟี ฟองดู (Traffy Fondue) แพลตฟอร์ม Crowd-sourcing รับแจ้งปัญหาเมือง โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลและพัฒนาเป็นนโยบายรายเขตต่อไป

นายสมสวัสดิ์ เสริมสวัสดิ์ศรี เจ้าของ Galley Cafe เปิดเผยว่า เมื่อได้ฟังแนวคิดสภากาแฟ ตอบรับเข้าร่วมทันที เพราะที่ผ่านมาเปิดร้านมา 15 ปี คนที่อยู่อาศัยบริเวณนี้มักแวะเวียนมาแลกเปลี่ยนปัญหาย่านนี้อยู่แล้ว

 ส่วน น.ส.เกษรากล่าวว่า สภากาแฟ เพื่อนชัชชาติ จะเป็นช่องทางสำคัญในการรวบรวมปัญหาที่ประชาชนพบเจอในชีวิตประจำวัน และพัฒนาเป็นนโยบายที่ตอบโจทย์เฉพาะเขตได้ นอกจากนี้ ยังถือเป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบการและลูกจ้าง ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมือง เมื่อภาคประชาชนได้รับการสนับสนุน จะส่งผลให้ชุมชนแข็งแรง และเมืองก็แข็งแรงตามไปด้วย เบื้องต้นตั้งเป้าขยายเครือข่ายไม่ต่ำกว่า 1,000 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 50 เขต กทม. โดยในระยะที่ 1 ซึ่งเปิดตัวพร้อมกันวันนี้ มีร้านกาแฟให้ความสนใจร่วมเครือข่ายแล้วทั้งสิ้น 24 แห่ง กระจายใน 17 เขต ขณะนี้มีประชาชนสมัครเป็นอาสาเพื่อนชัชชาติ รวมทั้งสิ้น 8,214 คน.