โปรยยาหอม‘ชายแดนใต้’ อิ๊งค์ประทับใจจะกลับมาอีก

นายกฯ บินชายแดนใต้ อุ่นใจ ผบ.ตร.-ผบ.ทบ.ร่วมวง พร้อมเซลฟีฉ่ำ โปรยยาหอมเยาวชนใช้ซอฟต์พาวเวอร์สร้างโอกาส ตีปี๊บเร่งรัดแก้หนี้ พัฒนาพื้นที่ทางเศรษฐกิจ แก้ปัญหาน้ำท่วม แจกทุนการศึกษา คุยกับผู้นำศาสนาพร้อมสนับสนุนพี่น้องมุสลิมทุกมิติ ย้ำความรักสามัคคี คนไทยด้วยกัน เผยประทับใจมาก มีโอกาสจะกลับมาอีก

เมื่อวันที่ 16 มกราคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง   รมว.ยุติธรรม, นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม, พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์  ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.), พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ,  พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เจ้ากรมยุทธการทหารบก ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6)  ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส

เมื่อมาถึงได้เดินทางด้วยรถยนต์ไปที่ลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส เพื่อพบปะนักศึกษาและผู้ปกครองที่เข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้  “มีอยู่ มีกิน มีใช้” 

จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมบูธของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนราธิวาส บูธเรือนจำจังหวัดนราธิวาส โดยนายกฯ สอบถามถึงผลิตภัณฑ์ฝีมือแรงงานของผู้ต้องขัง ก่อนเยี่ยมชมบูธของศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมชิมชาชักซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในจังหวัดชายแดนใต้ ของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนราธิวาส  โดยนายกฯ บอกว่า "อร่อยดี กินแล้วมีความเป็นไทย สมูธๆ ดี" ต่อมานายกฯ เดินทักทายประชาชนจำนวนมากที่ขอถ่ายภาพร่วมด้วย ซึ่งนายกฯ ได้หยิบมือถือของประชาชนมาถ่ายภาพเซลฟีด้วย ขณะที่ประชาชนบางคนตะโกนบอกว่า “นายกฯ สวย” โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเจอกับพี่น้องทุกคน และได้มาที่ จ.นราธิวาส ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่ได้มาเจอกับประชาชนด้วยตนเอง และตั้งแต่เดินเข้ามา ทุกท่านต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก ต้องขอขอบคุณอย่างมากในนามของรัฐบาล ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เปิดโอกาสให้กับประชาชนเข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องหนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาเรื้อรังยาวนานของประเทศไทย การปรับโครงสร้างหนี้การช่วยเหลือประชาชน การซัพพอร์ตต่างๆ ในเรื่องนี้จะทำให้ต้นทุนของประชาชนลดลง และทำให้มีแรง มีกำลังในการที่จะจ่ายค่าครองชีพที่ถูกลง รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้เพิ่ม

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องหนี้สินถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรจะได้รับการดูแลในเรื่องนี้ ต่อจากนี้คือเรื่องของการหารายได้เพิ่มให้กับตนเองและครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่ารัฐบาลจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างโอกาสดีๆ  ให้กับประชาชน เพราะปีนี้เป็นปีแห่งโอกาส และรัฐบาลจะพยายามที่จะทำให้พี่น้องประชาชนทุกๆ คนได้รับโอกาสในทุกพื้นที่ ขอฝากไปยังเลขาฯ ศอ.บต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งหารือกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการไกล่เกลี่ยหนี้ได้อย่างรวดเร็ว

ต่อมาเวลา 13.20 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี ชั้น 2 มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองฯ จ.นราธิวาส นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมเร่งรัดติดตามความก้าวหน้างานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้และติดตามโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก รวมถึงติดตามโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการจัดหลักสูตรเตรียมความพร้อมการผลิตกำลังคนด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยมีว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารส่วนราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารฝ่ายความมั่นคงจังหวัดนราธิวาส และนายกูเฮง ยาวอหะซัน สส.นราธิวาส เขต 4, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส เขต 5 พรรคประชาชาติ  เข้าร่วมด้วย

นายกฯ กล่าวว่า ตั้งใจมาตรวจราชการเพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่จากคนในพื้นที่โดยตรง ว่ามีอะไรบ้างที่ส่วนกลางจะสามารถช่วยได้จริงๆ ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพราะท้องถิ่นสามารถดูแลประชาชนได้ดี และใกล้ชิดประชาชนมากกว่าส่วนกลาง ในเรื่องของคมนาคมที่ทางจังหวัดนราธิวาสกำลังดำเนินการ ฝากให้ทางจังหวัดดูเรื่องระยะเวลา ไม่ต้องการให้ล่าช้า เพราะหากล่าช้าจะเกิดทุนที่เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลพยายามประหยัดงบประมาณ แต่ต้องการพัฒนาประเทศไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนการสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก จากการพูดคุยกับทางมาเลเซีย ได้ตกลงความร่วมมือการจัดซื้อจัดจ้างร่วมกับทางมาเลเซียแล้ว คาดว่าจะเริ่มกระบวนการก่อสร้างในเดือน มี.ค.2568 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน มิ.ย.2568 รวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมดจำนวน 24 เดือน โดยจะเปิดให้บริการภายในปี 2570

นายกฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ถือเป็นการพัฒนาโครงการสาธารณะ ช่วยทำให้การขนส่งสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลพยายามนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาระบบขนส่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการส่งออกสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของจีดีพีของประเทศไทย ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาอย่างจริงจัง รวมทั้งหาข้อมูลประเทศเพื่อนบ้านที่เขามีความทันสมัยกว่าประเทศไทย นำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อสนับสนุนสินค้าการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในทุกๆ พื้นที่

 “ขอบคุณกำลังใจพี่น้องชาวใต้ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ฝากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ในการลงพื้นที่พบปะแก้ไขปัญหา ให้กำลังใจประชาชน ฝากบอกประชาชนว่า รัฐบาลยินดีที่จะสนับสนุน แก้ไขปัญหาทุกอย่างให้พี่น้องชาวใต้อย่างเต็มที่ ขอเน้นย้ำให้ส่วนราชการอย่าห่างเหินกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก อะไรที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนจะรอช้าไม่ได้”

จากนั้นนายกฯ และคณะเดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อ.เมืองฯ จ.ยะลา เมื่อเดินทางไปถึง นักเรียนได้ร้องเพลงมาร์ชเป็นภาษามลายูของโรงเรียนต้อนรับ ก่อนนายกฯ เดินทักทายผู้นำศาสนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจารย์รอซี เบ็ญสุหลง ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะผู้บริหารโรงเรียน สส.ยะลา และ สส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ เป็นต้น โดยนายกฯ เดินพบปะนักเรียนโรงเรียน ท่ามกลางฝนที่ตกลงมา โดยนายกฯ ถ่ายภาพและเซลฟีร่วมกับเด็กนักเรียนอย่างสนุกสนาน

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจจะพัฒนาเยาวชนของเราให้แข็งแรง เข้มแข็ง เต็มไปด้วยชีวิตที่มีโอกาสแห่งการศึกษา กระจายไปทุกพื้นที่ ตนตั้งใจให้น้องๆ ทุกคนจะได้สร้างรายได้หลักให้กับตัวเองและให้กับครอบครัว น้องๆ คงได้ยินซอฟต์พาวเวอร์บ่อยจากตัวของพี่ จริงๆ แล้วซอฟต์พาวเวอร์มีอยู่ทุกที่ ทุกจังหวัด มีความพิเศษไปคนละอย่าง แน่นอนว่าเราจะส่งเสริมเรื่องนี้ต่ออย่างเต็มที่

ต่อมานายกฯ พบปะผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และผู้บริหาร จ.ยะลา โดยผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่มีนายกฯ ถึง 2 คนมาเยี่ยมโรงเรียน คนแรกคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2548 จังหวะนี้ยังได้เปิดภาพแผ่นสไลด์ซึ่งเป็นภาพเมื่อครั้งที่นายทักษิณเป็นนายกฯ เดินมาตรวจเยี่ยมโรงเรียนแห่งนี้ ด้านนายกฯ ที่นั่งรับฟังรายงานยิ้มอย่างประทับใจด้วย โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณผู้นำทางศาสนาทุกท่านด้วยที่สอนน้องๆ เด็กๆ ให้มีจิตใจที่แข็งแรงเป็นพื้นฐานของทุกอย่างในชีวิต เราอยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าเราจะอยู่ศาสนาใดก็ตาม เชื้อชาติใด หน้าตาผิวพรรณ ความเชื่อ ความชอบที่แตกต่างกัน แต่เราเป็นคนไทยด้วยกัน ขอให้รักกัน โดยตนและรัฐบาลพร้อมสนับสนุนความสามัคคี ความรักนี้และพร้อมที่จะสนับสนุนพี่น้องในภาคใต้ในทุกมิติที่สามารถทำได้

นายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีแผนที่จะดูแลการแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งระยะสั้น ระยะกลาง  และระยะยาว อันไหนที่ทำได้ เรารีบทำก่อน ไม่อยากให้ทุกปีมีปัญหาเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง อยากให้ลดลงเรื่อยๆ อาจไม่สามารถหายไปได้ในทันที แต่อยากให้น้อยลงเรื่อยๆ อยากให้ปีที่แล้วที่เจอเป็นปีที่แย่ที่สุด แล้วค่อยๆ ดีขึ้นทุกปี คือความตั้งใจจริงของรัฐบาล ฉะนั้นจะมีเรื่องที่สามารถช่วยกันได้อย่างไร ก็ขอให้มั่นใจว่าจะทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่แน่นอน

ต่อมาเวลา 17.55 น. น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์บนเครื่องบินระหว่างเดินทางกลับกรุงเทพฯ ว่า ประทับใจมาก เมื่อไปโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ น้องๆ ต้อนรับดีมาก และที่ จ.นราธิวาส อสม.ก็ต้อนรับอย่างอบอุ่น ตนยังพูดกับ ผบ.ทบ.อยู่เลยว่าเมื่อมาถึงรู้สึกว่าทำไมบรรยากาศชื่นมื่น น่ารักแบบนี้ ฝ่ายความมั่นคงเตรียมการไว้อย่างดี และดูแลอย่างดีมากๆ ในพื้นที่ประชาชนก็ต้อนรับอบอุ่นมากๆ น้องๆ เป็นวัยสดใส เดินไปก็กรี๊ดกร๊าด

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีโอกาสอยากมาอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กลับมาแน่นอน เมื่อถามว่าภายหลังการลงพื้นที่แล้วจะมีการปรับยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ผอ. โรงเรียนรายงานว่าห้องที่เรานั่งอยู่เคยน้ำท่วม 2 เมตร พร้อมโชว์รูปคุณพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) ให้ดูว่าเมื่อปี 2548 คุณพ่อเคยมายังหนุ่มอยู่เลยตอนนั้น และบอกว่าหน้าเหมือนกัน โดย ผอ.โรงเรียนได้ขอให้ตนเซ็นชื่อให้ และมีอาจารย์วาดวาดรูปให้ สวยมาก ก็ประทับใจ พอมาเจอ มาเห็นเอง มันก็เกิด option ในหัวให้เรารู้จักตรงนี้ตรงนั้นมากขึ้น เวลาจะทำงานก็สามารถดึงมาใช้ให้เกิดประโยชน์

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้เห็นการสร้างสันติภาพในพื้นที่ด้วยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใช่ เห็นชัดขึ้นเยอะเลย เวลาไปจังหวัดไหนก็ยิ่งเห็นจังหวัดนั้นชัดยิ่งขึ้น.