พรรคส้ม-น้ำเงินโต้เดือด! ทุ่มร้อยล้านซื้อเสียงอบจ.

ปะทะเดือด! "ปชน." โวย สส.ค่ายน้ำเงินขู่กลางห้องประชุมสภาฯ อย่ายุ่งเลือกตั้ง อบจ. "มัลลิกา” ซัดกลับ “ประเสริฐพงษ์” ต้องรับผิดชอบ จี้ “ปธ.วันนอร์” ตั้ง กก.สอบ "องค์กรต้านโกง" แฉ อบจ.68 ซื้อเสียงแบบใหม่ เพิ่มงบจ้างบุคลากรเกิน 40% จับตา 20 จังหวัด พุ่งหลายร้อยล้านบาท

ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 16 มกราคม เวลา 09.30 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อน โดยนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นหารือเป็นคนแรก ว่า มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเพื่อน สส. วันที่ 15 ม.ค. ที่มีต่อนายสาธิต ทวีผล สส.ลพบุรี พรรคประชาชน ซึ่งนั่งอยู่ในห้องประชุม โดย สส. 2 คนเดินมาหยอกแกมข่มขู่ว่า ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ที่ จ.ลพบุรี ซึ่งมีพยานคือ นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร สส.นนทบุรี พรรคประชาชน ที่นั่งอยู่ข้างๆ

 “ผมคิดว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในสภาอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ก็ต้องฟ้องประธาน ว่าช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง และช่วยบอกกับเพื่อนสมาชิกว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้” นายประเสริฐพงษ์ระบุ

จากนั้นนายประเสริฐพงษ์ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นการพูดหยอกแกมขู่ สาเหตุที่ลุกขึ้นมาพูดอยากให้รู้ถึง สส.ที่มาขู่ และหัวหน้าพรรคที่ สส.รายดังกล่าวสังกัดอยู่ จะขอรอดูผลการสอบสวนข้อสั่งการของประธานสภาฯ และหวังแค่ว่าผู้กระทำจะได้รับการตักเตือน แต่ไม่คิดที่จะเอาผิดจริยธรรมร้ายแรง

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เคยโดนขู่เช่นกัน คิดว่าพรรคประชาชนโดนพุ่งเป้าหรือไม่ นายประเสริฐพงษ์กล่าวว่า เป็นธรรมดา เพราะพรรคเราตั้งใจทำงาน แต่เรื่องการข่มขู่เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่มีการสั่งการจากใคร อย่างไรก็ตาม จะรอดู สส.ผู้กระทำดังกล่าวยอมรับในพฤติกรรมหรือไม่ หากไม่มีเจตนา อย่างน้อยๆ ต้องมีการกล่าวคำขอโทษออกมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส.คนดังกล่าวที่มีพฤติกรรมข่มขู่ สังกัดพรรคขนาดกลางค่ายสีน้ำเงิน

ต่อมาเวลา 13.45 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยหลังพิจารณาวาระกระทู้ถามทั่วไปเสร็จสิ้น น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นชี้แจงกรณีที่นายประเสริฐพงษ์กล่าวพาดพิงว่ามีการข่มขู่กลางสภาว่า ขอให้ประธานสภาฯ ตั้งกรรมการสอบ เพราะนายประเสริฐพงษ์ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอาไปกระเดียด คนที่เขาเป็น สส. เป็นผู้นำ ต้องพูดจาให้ชัดเจน พูดจริงทำจริง พูดตรงไปตรงมา

 “วันนี้ดิฉันเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหา และเป็นผู้ที่ถูกพาดพิง ดิฉันขอให้ประธานตั้งกรรมการสอบ เมื่อกี้นายสาธิต ทวีผล สส.ลพบุรี พรรคประชาชน มาขอร้องว่าอย่าให้มีเรื่องเลย นายประเสริฐพงษ์ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แล้วนายสาธิตที่ถูกกล่าวพาดพิงด้วยกันก็บอกเองว่าไม่ได้เป็นคนไปบอกนายประเสริฐพงษ์ ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องเคลียร์ การที่พูดจาแบบนี้ พูดเกินความเป็นจริง ไม่ใช่นิสัยของผู้นำ คนเป็นนักการเมืองต้องพูดจริง มีความจริงใจกับประชาชน และยืนยันขอให้ตั้งกรรมการสอบด้วย” น.ส.มัลลิการะบุ

จากนั้น     น.ส.มัลลิกาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้ขอให้สภาตั้งกรรมการสอบแล้ว ว่าใครพูดจริงหรือไม่จริง เราจะได้รู้กันว่า คนที่เป็น สส. คนที่เป็นผู้นำ พูดจาแล้วให้ชาวบ้านเชื่อถือได้แค่ไหน ใครที่ชอบเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาพูดขยายให้เป็นเรื่อง ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของนายประเสริฐพงษ์ ครั้งก่อนมีประเด็นพูดจาเกินความจริง เรื่องยื่นเอกสารให้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่รับเดินหนี ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้น หรือที่เรียกว่าพวกปั้นน้ำเป็นตัว แล้วเรื่องก็เงียบไป แต่เรื่องนี้ไม่เอาเรื่องไม่ได้ เสียหาย ปกติตนเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง ไม่หิวแสง ซึ่งนายประเสริฐพงษ์อ้างชื่อ สส.อีกคนหนึ่งให้เป็นพยาน เพราะฉะนั้น ในการตั้งกรรมการสอบ ต้องเชิญมาเป็นพยานร่วมกัน

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังนายสาธิต ซึ่งยอมรับว่าเป็นความเข้าใจผิด ข้อมูลคลาดเคลื่อนกัน การที่นายประเสริฐพงษ์พูดเช่นนี้มีเจตนาเพื่อที่จะปกป้อง สส.รุ่นน้องในพรรค อย่างไรก็ตาม โดยปกติตนและ น.ส.มัลลิกา พูดเล่นกันแบบนี้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ทั้งนี้ไม่ได้ติดใจอะไร

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธว่า ไม่มี สส.พรรคภูมิใจไทยข่มขู่ สส.พรรคประชาชน “ไม่มี แล้วกลัวเหรอ แค่มาข่มขู่แค่นี้กลัวเหรอ จะกลัวอะไร เมื่อเป็น สส.ได้แล้ว เป็นผู้แทนราษฎรแล้ว ใครมาขู่ก็สวนไปเลย”

ทางด้าน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงเปิดตัวโครงการ "เซฟสิทธิ เซฟเสียง" เพื่อเชิญชวนประชาชนมาร่วมเป็นอาสาสมัครจับตาดูการเลือกตั้ง อบจ. ในวันที่ 1 ก.พ.นี้

นายพริษฐ์เปิดเผยว่า กมธ.ได้ออกหนังสือถึง กกต.เพื่อขอความชัดเจนถึงขอบเขตและแนวทางในการใช้กลไกของมาตรา 117 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อขอให้สถานประกอบการกำหนดให้วันเสาร์ 1 ก.พ. เป็นวันหยุดเต็มวันหรือครึ่งวัน พร้อมขอให้ กกต. ประสานงานเชิงรุกไปยังองค์กรเอกชน สถานประกอบการ โรงงาน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับประเทศและในระดับจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกจ้างมีเวลาเพียงพอในการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

วันเดียวกัน นายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เปิดเผยถึงกลโกงการเลือกตั้ง อบจ. 68 ว่า การทุ่มซื้อเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ได้จำกัดแค่การซื้อด้วยเงินแบบวิธีการเดิมๆ แต่มี “อุบาย” ใหม่ที่น่าจับตาอย่างยิ่ง โดยในปีที่มีการเลือกตั้ง อบจ. มักมีการเพิ่มงบบุคลากร บางแห่งเกินร้อยละ 40  ของงบประมาณทั้งหมด ซึ่งขัดต่อมาตรา 35 ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลท้องถิ่น โดยพบว่ามีถึง 20 จังหวัด ประกอบด้วย ศรีสะเกษ นราธิวาส มหาสารคาม (เพิ่มเท่ากัน ร้อยละ 57) มุกดาหาร (ร้อยละ 55) พิจิตร (ร้อยละ 54) ชัยภูมิ (ร้อยละ 51) กาฬสินธุ์ (ร้อยละ 50) สกลนคร (ร้อยละ 49) หนองบัวลำภู (ร้อยละ 48) พัทลุง นครราชสีมา (ร้อยละ 47) ยะลา ร้อยเอ็ด ขอนแก่น (ร้อยละ 46) อำนาจเจริญ น่าน (ร้อยละ 45) แพร่ อุตรดิตถ์ (ร้อยละ 43) สระแก้ว พะเยา (ร้อยละ 42) ในจำนวนนี้ อบจ.ที่มีงบบุคลากรปี 2568 เพิ่มขึ้นจากปี 2567 สูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1.ขอนแก่น 650 ล้านบาท 2.ร้อยเอ็ด 433 ล้านบาท 3.นราธิวาส 360 ล้านบาท 4.มหาสารคาม 355 ล้านบาท และ 5.ชลบุรี 335 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีงบจ้างงานถูกใช้จ้างเหมาบริการ เช่น ขุดลอกคูคลอง ดูแลสวนสาธารณะ กวาดถนน มีทั้งที่ อบจ.จ้างและจัดสรรงบให้เทศบาลหรือ อบต.เป็นงบมูลค่าประมาณหลักแสนบาทหรือน้อยกว่า คนที่ได้รับสัญญาจ้างเหมามักเป็นคนในเครือข่าย

ส่วนการทุ่มซื้อเสียงผ่านกลไกการเมือง ผ่านเครือข่ายหัวคะแนนในพื้นที่ และเครือข่ายบ้านใหญ่นั้น ผู้สมัครที่ยังใช้วิธีเดิมๆ อาจหมดค่าใช้จ่ายในการหาเสียง บวกเงินซื้อเสียงและเงินวงพนัน ราว 60-300 ล้านบาท ตามขนาดจังหวัดและความเข้มข้นในการแข่งขัน หลายจังหวัดใช้ อสม. บางคนคุมเสียงในพื้นที่เล็กๆ เพราะเครดิตดี เป็นผู้หญิง คนเชื่อถือมาก ต่างจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ติดภาพว่าเป็นคนมีตำแหน่ง มีอิทธิพล ข่มชาวบ้าน หรือมีประวัติอมเงิน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สส.ปชน. ร้องโดนข่มขู่กลางห้องประชุมสภาฯ ไม่ให้ยุ่งเลือกตั้ง อบจ.ลพบุรี

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่2 เป็นประธานการประชุม เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อน โดยนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นหารือเป็นคนแรก