อึ้ง! "นายกฯ อิ๊งค์" หวิดโดนคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน ใช้ AI อ้างเป็นผู้นำขอรับบริจาค โชคดีนอนหลับไปก่อน สั่ง "รมว.ดีอี" เร่งติดตาม "ผบช.ไซเบอร์" รับลูกลุยหาข้อมูลตามล่า "รมต.เพื่อไทย" ดาหน้าป้องกาสิโนสร้างประโยชน์ชาติ "ภูมิธรรม-จุลพันธ์" มั่นใจช่วยลดพนันผิด กม. ชี้เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ปั้นรายได้ท่องเที่ยวพุ่ง 2.38 แสนล้าน ดูดต่างชาติเข้าไทยอีก 5-10% "โฆษกรัฐบาล" ปูดมีกลุ่มทุนจ้องล้มร่าง กม. หลังกระทบพนันใต้ดิน "เท้ง" สงสัยรัฐบาลเร่งดันสถานบันเทิงครบวงจรเกินเหตุ “สังศิต” ข้องใจใช้ระบบให้ใบอนุญาตแทนประมูล เปิดช่องผลประโยชน์ทับซ้อน
ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี วันที่ 15 ม.ค. เวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) หัวหน้าหน่วยงานราชการจากทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เข้าร่วมงานว่า "เรื่องอาชญากรรมออนไลน์ ตัวดิฉันเองเป็นนายกรัฐมนตรีก็โดนเหมือนกัน คอลเซ็นเตอร์มาแบบแอดวานซ์ ไม่ได้เป็นคอลเซ็นเตอร์ธรรมดา เป็นคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกว่าเป็นผู้นำบางประเทศ หลอกว่าดิฉันยังไม่บริจาคบางอย่าง ขอไม่เอ่ยชื่อเดี๋ยวจะเป็นเรื่องอีก อ้างว่าเป็นผู้นำประเทศหนึ่ง ส่งเสียงผู้นำประเทศนั้นมา"
"ขอเตือนภัยประชาชนว่า ดิฉันเองก็เกือบเชื่อเหมือนกัน เพราะเคยได้ยินเสียงของผู้นำท่านนั้นจริงๆ พูดว่า Good morning Prime Minister of Thailand และชวนคุยและพูดต่อว่ายังไม่ได้บริจาค แต่ส่งลิงก์ของอีกประเทศหนึ่งมา เป็นเรื่องที่ทุกคนเจอจริงๆ เป็นการหลอกที่เริ่มแอดวานซ์ เนียนมากขึ้นเรื่อยๆ ดิฉันเกือบเชื่อไปแล้ว" นายกฯ กล่าว
ต่อมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เขาสวมรอยได้เนียนมาก เป็นเสียง AI ซึ่งคอลเซ็นเตอร์ปกติที่เคยเจอจะเป็นแนวที่ใช้เบอร์โทร.แปลกๆ โทร.มา ซึ่งนั่นทำให้เราทราบว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์ แต่ครั้งนี้ที่โดนเป็นการใช้ AI ไปเอาเสียงของผู้นำประเทศมา โดยส่งคลิปเสียงมาก่อน เพื่อพูดคุยสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง และอยากทำงานร่วมกัน ซึ่งตนได้พิมพ์ตอบกลับไปโดยไม่ได้ส่งเสียง สักพักได้หายไปโดยระบุว่าจะติดต่อกลับมา จากนั้นได้โทร.กลับมา แต่โชคดีที่โทร.มาตอน 23.00 น. ซึ่งหลับไปแล้วจึงไม่ได้รับสาย พอมาเห็นตอนเช้ารู้สึกตกใจมาก และส่งข้อความกลับไปว่าขอโทษที่ไม่ได้รับโทรศัพท์ และนัดเวลาว่าจะโทร.หากี่โมง
"คนร้ายก็ส่งคลิปมาอีกครั้งว่าขอให้บริจาค และย้ำว่าไทยเป็นประเทศในอาเซียนที่ยังไม่ได้บริจาคเลย ทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว เพราะมาเห็นบัญชีที่ส่งมาให้โอนเงินเป็นของอีกประเทศหนึ่ง จึงมั่นใจว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์ จึงฝากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้ช่วยดูต่อ เพราะการส่งมาเป็นแอปต่างประเทศไม่ใช่ไลน์ แต่ไม่แน่ใจว่าจะดูได้แค่ไหน" น.ส.แพทองธารกล่าว
ถามว่า ได้แจ้งไปถึงผู้นำประเทศนั้นหรือไม่ว่าโดนแอบอ้าง นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้มีรายละเอียดที่มากกว่านั้น ที่จริงไม่ใช่อยู่ๆ จะได้คอนแท็กต์ติดต่อกับตน แต่มีอีกคนที่โดนหลอกมาก่อน แต่คนก่อเหตุรู้ว่าคนที่โดนหลอกมีคอนเนกชันกันกับตนก็เลยติดต่อมา สรุปคือคอลเซ็นเตอร์ได้คอนแท็กต์มาจากคนอื่นอีกทอด เพราะหลอกมาหลายคนและแจ็กพอตมาเจอที่ตน
"ขอเตือนภัยประชาชนว่าบางทีที่มีการแอบอ้างให้ระวัง เพราะเคยเจอสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่กลับมาที่ประเทศไทย และมีคนส่งมาว่านายทักษิณแจกเงิน โดยมีเสียงของนายทักษิณพูดประกอบ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้รับบริจาค มีเส้น หรือรับเงินอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าให้ถูกหลอก ยืนยันว่าดิชั้นไม่มีไปรับตังค์อะไรทั้งสิ้น อย่าถูกหลอก เพราะเรื่องนี้ทำให้รู้สึกกังวลใจมาก" นายกฯ กล่าว
ล่าคอลเซ็นเตอร์หลอกอิ๊งค์
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กล่าวถึงกรณีคอลเซ็นเตอร์โทร.หลอกนายกฯ ว่า ตำรวจไซเบอร์จะขอประสานไปยังรองนายกฯ และ รมว.ดีอี เพื่อมาดำเนินการในส่วนนี้เกี่ยวข้องต่อไป
"ที่ผ่านมาตำรวจไซเบอร์มีข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้เอไอปลอมเสียงโทร.มาหลอกลวงประชาชน ซึ่งก็มีหลายรูปแบบ ทั้งโทร.มาและใช้เสียงบุคคลที่เรารู้จักหรือคุ้นเคยโทร.มาหลอกลวงผู้เสียหาย ในส่วนข้อสั่งการคงต้องประสานข้อมูลกับทางดีอี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทางนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายเอาไว้" ผบช.สอท.กล่าว
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล ที่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย หวั่นทุนจีนสีเทาเข้าแทรกแซงว่า ขอฝ่ายค้านอย่าจินตนาการ เป้าหมายของรัฐบาลคือการทำให้ธุรกิจใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน ซึ่งจะทำให้ควบคุมง่ายกว่า และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประเทศได้ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้นมีส่วนประกอบของกาสิโนเพียงแค่ 10% เท่านั้น สิ่งใหญ่คือการสร้างกิจการที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อให้ความเข้าไปท่องเที่ยว
"เรื่องของการพนัน หวยถือว่ามีมากอยู่แล้วในประเทศไทย และเชื่อว่าเศรษฐกิจใต้ดินหากเอาขึ้นมาบนดิน จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศมาก ขณะนี้สภาพเศรษฐกิจลำบาก รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยเคยเห็นแล้วว่าการนำหวยใต้ดินขึ้นมาบนดินจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมากแค่ไหน และจะคืนกลับสู่ประชาชน อย่างทุนการศึกษา หรือหลายๆ อย่าง ดังนั้นขออย่าเพิ่งไปกังวลใจ คงไม่มีใครอยากให้ประเทศเน่าเฟะไปกว่าเดิม สิ่งที่อยากทำคือ อยากให้เกิดประโยชน์ให้มากขึ้น" นายภูมิธรรมกล่าว
เช่นเดียวกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นเขตพัฒนาพิเศษเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับโลก รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ ซึ่งคาดว่าจะเกิดการลงทุนจริงเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 119,000-238,000 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศเพิ่มขึ้น 5-10% และเพิ่มการใช้จ่ายต่อคนต่อทริป อยู่ที่ 66,043 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง
"จะสร้างรายได้ให้รัฐราว 12,037-39,427 ล้านบาทต่อปี โดยแบ่งเป็นรายได้ภาษีจากกิจการอื่นๆ เช่น โรงแรม 5 ดาว สวนสนุก ประมาณ 8,773-35,093 ล้านบาทต่อปี และรายได้จากกิจการกาสิโน เช่น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ภาษีการเล่นพนันขั้นต่ำ ที่ 3,264 ล้านบาทต่อปี และยังมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการเข้ากาสิโนอีกขั้นต่ำ 3,700 ล้านบาทต่อปี โดยรัฐสามารถนำรายได้ส่วนนี้ไปพัฒนาประเทศ และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศ" นายจุลพันธ์กล่าว
รมช.การคลังกล่าวว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะสร้างในพื้นที่ที่มีศักยภาพและเหมาะสม เช่น มีการเดินทางที่สะดวก มีสนามบินอยู่ใกล้ มีรถไฟฟ้า มีเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวอื่นประกอบ มีโรงแรมจำนวนมากอยู่แล้ว เมื่อเกิดแล้วจะทำให้รองรับคนได้จริงๆ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ขึ้นมา โรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคักอย่างแน่นอน
ดาหน้าป้องกาสิโนช่วยชาติ
“เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ลดการพนันที่ผิดกฎหมาย ยกตัวอย่างในสิงคโปร์ ที่ลดการพนันจาก 2.5% เหลือ 0.2% ซึ่งมองว่ากลไกนี้มีประสิทธิผลในการลดการพนันที่ผิดกฎหมายได้จริงๆ โดยจะเร่งรัดให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะถ้าล่าช้าจะทำให้สูญเสียโอกาส” รมช.การคลังกล่าว
นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ยืนยันว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในส่วนของกาสิโนเราจะมีมาตรการป้องกันกลุ่มจีนสีเทา ตั้งแต่การขออนุมัติ เมื่อมีการจัดตั้งสำนักงานที่ดูแลด้านนี้โดยตรง ซึ่งบริษัทต่างๆ จะต้องยื่นแผนประกอบการลงทุน ระบุรายละเอียดผู้ถือหุ้นเป็นใคร ดังนั้นจะตรวจสอบได้ว่าใครคือผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังมีระบบที่ระบุอยู่ใน พ.ร.บ. ว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นต้องแจ้งให้กับคณะกรรมการนโยบายทราบ โดยจะมีการตรวจสอบย้อนหลังไปถึงผู้ถือหุ้น และบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกก็ให้ความสนใจ จะไม่เสี่ยงในเรื่องเหล่านี้ เพราะหากเกิดความเสียหายจะส่งผลกระทบต่อบริษัท ทำให้รัฐบาลคิดว่าแนวทางตามที่คณะกรรมาธิการศึกษาเรื่องนี้ ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก ทั้งด้านการดึงดูด, การลงทุน และการกำกับดูแล
"หากร่าง พ.ร.บ.เข้าสู่ที่ประชุมสภาแล้ว จะถือเป็นโอกาสให้ผู้แทนของประชาชนได้พิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบ และให้มีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการรับฟังความเห็นเพื่อให้กฎหมายดังกล่าวดีขึ้น" นายศึกษิษฏ์กล่าว
ถามถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้มีการจัดทำประชามติ เนื่องจากเรื่องนี้จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง นายศึกษิษฏ์กล่าวว่า เรื่องนี้มีการรับฟังความเห็นไปแล้ว และผ่านการโหวตจากสภานิติบัญญัติแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพร้อมรับข้อสังเกตจากประชาชน
"ไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลาย และมองเป็นประเด็นทางการเมืองมากเกินไป แต่อยากให้มองเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจมากกว่า เรื่องนี้จะสามารถดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ และยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดยที่จะมาพร้อมกับมาตรการการป้องกันผลกระทบทางสังคมที่บริษัทยักษ์ใหญ่มีอยู่แล้ว การฟอกเงินและจีนเทา เรื่องนี้ค่อนข้างครบถ้วนแล้ว โดยที่ส่วนตัวเข้าใจว่าจะมีคนเห็นต่าง" รองเลขาธิการนายกฯ กล่าว
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า อยากให้พูดกันด้วยเหตุด้วยผล ไม่ต้องอ้างว่าเมืองไทยเมืองพุทธ วันนี้ต้องยอมรับความจริงว่าเมืองไทยเรามีการเล่นพนันกันรอบประเทศ มีทั้งบ่อนเถื่อน บ่อนสารพัด และยังมีเว็บไซต์การพนันอีกที่ยังควบคุมไม่ได้ ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก เราไม่ได้เห็นว่าการพนันเป็นเรื่องที่ดี แต่เห็นว่าทำอย่างไรที่เราจะควบคุมได้ ไม่สร้างปัญหาเรื่องคอร์รัปชันให้เจ้าหน้าที่รัฐ และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน เราอยากสร้างเขื่อนจะไม่ให้เสียต้นไม้มันเป็นไปไม่ได้ มันต้องมีบ้างที่จะเสีย อยากให้เข้าใจว่าโลกยุคใหม่ทุกวันนี้มันมีปัญหาเรื่องระบบโซเชียล อยากให้เข้าใจตรงกันว่า รัฐบาลตั้งใจทำ ถ้าจะคัดค้านกันด้วยเหตุด้วยผลก็มาพูดกัน ไม่มีปัญหา เรายินดีรับฟัง
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งแก้ไขปัญหาที่อยู่ใต้ดิน โดยตอนนี้เริ่มจะมีกลุ่มทุนที่พยายามจะคว่ำร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งไม่ว่าจะใช้วิธีการอย่างไร รัฐบาลก็จะนำของใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดินเพื่อควบคุม โดยเชื่อว่าแนวทางที่รัฐบาลดำเนินการอยู่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
ถามว่า กลุ่มทุนใดจะเข้ามาขวางร่างกฎหมายนี้ โฆษกรัฐบาลระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่มีกลุ่มเสียประโยชน์ ก็จะช่วยกันคว่ำ โดยจะหาเหตุผลทางสังคม ซึ่งใช้วิธีขัดขวางทางโซเชียลและผ่านกลุ่มคนอื่นๆ รวมถึงไอโอ อย่างไรก็ตาม เมื่อนำขึ้นมาบนดินแล้วรัฐบาลเราเห็นเรารู้ แล้วจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้
"ร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อผ่านความเห็นของ ครม. ก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป พร้อมขอเรียกร้องฝ่ายค้านหากดูนโยบายเก่าๆ ก็สนับสนุนเรื่องนี้ ฉะนั้นขอเรียกร้องให้ฝ่ายค้านหรือคนที่อยู่ในสภา เมื่อกฎหมายเข้าไปแล้ว ในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ที่พิจารณารายมาตรา หากเห็นอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนก็ขอให้เข้าไปแก้ไขในชั้น กมธ." โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
ส่อเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า สิ่งที่เรากังวลใจคือผลกระทบที่เกิดขึ้นทางสังคม และสิ่งที่รัฐบาลอาจจะยังไม่ได้ให้ความชัดเจนมากคือ ถึงแม้บ่อนการพนันจะมีแค่ 10% จากโครงการทั้งหมด แต่สิ่งที่เรากังวลคือผลกระทบที่ตามมา ข้อเสนอของเราตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกลคือต้องมีการตรวจสอบเรื่องฐานรายได้ ต้องอยู่ในระบบภาษีเงินได้ เรายังไม่เห็นว่ารัฐบาลมีมาตรการป้องกันอะไร รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนเพื่อมาเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นในสังคม ก็ยังไม่เห็นความชัดเจน
"เราไม่ได้คัดค้านกาสิโน บ่อนการพนันที่ถูกกฎหมาย เราเชื่อว่าถ้าเราสามารถจัดการ ภาครัฐสามารถบริหารได้อย่างดี ก็สามารถแก้ไขปัญหาสังคมได้ส่วนหนึ่ง แต่วัตถุประสงค์จริงๆ ที่บอกว่าเป็น Man-made Destination ใช้เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่กลับเอาเรื่องนี้มาครอบเพื่อจะผลักดันบ่อนกาสิโน อันนี้เป็นประเด็นที่เราตั้งข้อสงสัย สิ่งที่เราอยากได้ความชัดเจนก็คือเรื่องมาตรการที่จะป้องกันปัญหาสังคมและความโปร่งใสในการให้สัมปทาน สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะทำให้สังคมเห็นได้ว่าตกลงสิ่งที่รัฐบาลต้องการดำเนินการนี้ทำเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม หรือทำเพื่อผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรมากกว่านั้น” หัวหน้าพรรค ปชน.กล่าว
วันเดียวกัน นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ที่ติดตามเรื่องการยกร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ที่ให้มีการเปิดกาสิโนในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาลมาต่อเนื่อง กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาครัฐไม่ค่อยพูดถึงก็คือปัญหาที่จะตามมา โดยเฉพาะปัญหาด้านอาชญากรรมและการฟอกเงิน ที่เป็นปัญหาใหญ่มากที่โลกกังวล คือกาสิโนถูกใช้เป็นพื้นที่การฟอกเงินของอาชญากรรม ตอนนี้เราจะพบเห็นข่าวกลุ่มอาชญากรรมเข้ามาป้วนเปี้ยนในประเทศไทย เหมือนใช้บ้านเราเป็นทางผ่าน ทำให้หากมีการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายในไทยและไม่มีหน่วยงานที่กำกับดูแลที่ดีพอ เพราะการบังคับใช้กฎหมายในไทยยังมีปัญหาอยู่มาก ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่กาสิโนในประเทศไทยจะถูกใช้เป็นสถานที่ฟอกเงินของอาชญากรรมต่างๆ
นายธนากรกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ยังเขียนไว้เพื่อเปิดช่องให้สามารถเอื้อกลุ่มทุนในการเข้ามาขอรับใบอนุญาตทำธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ในประเทศไทย เช่น เรื่องของเงื่อนไขของบริษัทที่จะได้รับใบอนุญาตให้ทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คือต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีทุนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ที่ก็อาจเป็นบริษัทที่มีอยู่แล้ว เช่นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แล้วก็ไปจดทะเบียนเพิ่มการประกอบกิจการว่าทำกิจการด้านสถานบันเทิงครบวงจร แล้วก็อาจไปจับมือร่วมกับบริษัทต่างชาติที่เป็นกลุ่มทุนที่ทำกิจการกาสิโนในต่างประเทศ เพราะกฎหมายก็มีข้อยกเว้นเรื่องการประกอบธุรกิจของกลุ่มคนต่างด้าว เช่นไม่จำเป็นต้องมีถิ่นพำนักในประเทศไทย หรือว่าไม่จำเป็นต้องถือหุ้นถึง 1 ใน 4
“เป็นไปได้ว่าทุนกาสิโนก็จะมาจับมือกับทุนไทยที่ทำธุรกิจอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องตั้งบริษัทใหม่ แล้วต้องมีทุนหมื่นล้านบาท ทำให้เปิดได้ไม่ยากเท่าไหร่ และก็อาจจะมีทุนการเมือง เข้ามาจับมืออีกหนึ่งกลุ่ม ก็จะกลายเป็นทุนสามฝ่ายในการทำสถานบันเทิงครบวงจร คือทุนไทย, ทุนต่างชาติ, ทุนกลุ่มการเมือง โดยผลการศึกษาของกลุ่มนักวิชาการ พบว่าโมเดลนี้เกิดขึ้นแทบทุกประเทศในประเทศเพื่อนบ้านเรา อย่างกาสิโนตามชายแดนประเทศไทย ก็พบว่ากลุ่มที่ทำกาสิโนก็จะมีสามกลุ่มทุนหลักคือ กลุ่มทุนการเมืองในประเทศ, กลุ่มทุนต่างชาติที่ทำกาสิโน และกลุ่มทุนธุรกิจท้องถิ่น ที่คือสูตรสำเร็จของการเปิดกาสิโน” นายธนากรระบุ
ส่วนนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และนักวิชาการที่ศึกษาติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมายธุรกิจใต้ดินมาหลายสิบปี และทำวิจัยเรื่องการเปิดกาสิโนในประเทศไทย กล่าวว่า เคยเตือนไว้เสมอตลอด 30 ปีที่มีการคุยกันเรื่องการเปิดกาสิโน ว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องระมัดระวังมี 3 เรื่อง คือ 1.เรื่องการมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะหากรัฐบาลเข้าไปมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับกาสิโน จะทำให้ระบบการเมือง ข้าราชการและสังคมเสียหายอย่างรุนแรง เพราะเม็ดเงินมโหฬาร หากนักการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวประเทศจะเสียหายมาก เพราะเรื่องกาสิโน อำนาจการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องได้ง่าย เพราะรัฐบาลเป็นคนร่างกฎหมายเอง
2.การจะให้ไปเปิดกาสิโนที่ไหน ต้องฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ด้วย ที่จะให้เปิดกัน 10 แห่ง ไม่ว่าจะเปิดที่ไหน ต้องฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ว่าเขาอยากได้กาสิโนไปเปิดหรือไม่ 3.การบังคับใช้กฎหมาย เพราะก่อนที่จะทำกาสิโน ต้องปฏิรูปตำรวจให้สุจริตก่อน เพราะทุกวันนี้บ่อนการพนันที่ผิดกฎหมาย ตำรวจก็ปราบไม่ได้ เอาชนะไม่ได้ บ่อนการพนันเทียบกับกาสิโนไม่ได้เลย ขนาดเงินแค่นั้นยังปราบไม่ได้ แล้วมาเป็นกาสิโน จะทำให้บังคับใช้กฎหมายโดยถูกต้องได้อย่างไร แล้วจะกลายเป็นแหล่งที่เงินสีเทาหรือเงินสีดำเข้ามาฟอกผ่านกาสิโนได้
นายสังศิตแสดงความข้องใจระบบการให้ใบอนุญาตเปิดสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน ไม่ได้ใช้ระบบการประมูล เห็นว่าหากต้องการให้บริษัทต่างๆ ทั่วโลกเข้ามาแข่งขันทำธุรกิจก็ต้องทำให้มีการประมูลที่โปร่งใส แต่ใช้วิธีมาขอใบอนุญาตที่มันเป็นวิธีทางการเมือง ที่มันไม่เหมาะสม เพราะจะทำให้เกิดข่าวอื้อฉาวทางการเมือง แล้วรัฐบาลจะเสียหาย ประเทศก็เสียหาย
"การเขียนไว้ในร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรว่า บริษัทที่จะทำธุรกิจดังกล่าวได้ต้องเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนซึ่งมีทุนชำระแล้ว ไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท มองว่าการล็อกไว้แบบนี้ ก็เป็นการจำกัดคนที่จะเข้ามา คิดดูว่านักธุรกิจเมืองไทยที่มีเงินหมื่นล้านแรกจะมีกี่คน กี่ตระกูลที่จะทำได้ วิธีการแบบนี้ทำให้นักธุรกิจไทยที่พอจะทำอะไรได้เขาไม่มีโอกาสเลย มันเหมือนกับคล้ายๆ ไปกำหนดสเปกให้คนไม่กี่คนได้ใบอนุญาต" นายสังศิตกล่าว
นอกจากนี้ นายสังศิตกล่าวว่า การเปิดกาสิโนถึง 10 แห่งเยอะเกินไป เพราะไทยเรายังไม่มีประสบการณ์ จึงต้องดูด้วยว่าเมื่อเปิดแล้วมีผลกระทบด้านลบกับสังคมอย่างไรบ้าง คิดว่าอย่างมากที่สุดควรให้เปิดแค่ไม่เกิน 2 แห่งภายใน 20 ปี เพราะกาสิโนไม่ได้อยู่ได้ตลอดไป ตอนหลังคนที่ไปเล่นจะน้อยลง คนจะเล่นผ่านออนไลน์มากขึ้น หากไปให้เปิดเยอะแยะจะกลายเป็นกาสิโนร้างได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทอน-เท้งไม่กล้าแตะแม้ว ร้องกกต.ซื้อเสียง52เรื่อง
“อิทธิพร” ยืนยันความพร้อมเลือกตั้งสมาชิก-นายก อบจ.
งบปี69ยึด3เป้า ย้ำขรก.ใช้คุ้มค่า คัด‘ปธ.ธปท.’อืด
นายกฯ มอบนโยบายจัดทำงบปี 69 วาง 3 เป้าหมาย ไม่ลดสัดส่วนนักลงทุน-ไม่เพิ่มงบ-ไม่เพิ่มอัตรากำลัง
สภาไฟเขียว‘สุราชุมชน’ ตีปี๊บซอฟต์พาวเวอร์ไทย
มติสภาเอกฉันท์ 415 เสียง ไฟเขียว "กม.สุราชุมชน" เปิดโอกาสเกษตรกรรายย่อยผลิต-มีเครื่องกลั่นสุรา
ลากทักษิณขึ้นเขียง แพทยสภาเปิดวอร์รูมตรวจเวชระเบียนชั้น14เร่งจบมี.ค.
แพทยสภาเข็นนักโทษเทวดาขึ้นเขียง “หมออมร” เปิดวอร์รูมนัดแรกตรวจเอกสารลับ
หนาวแน่ 'สนธิญา' ยื่นอสส.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 'นายกฯอิ๊งค์' ตั้ง 'ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ' ขัดรธน.
’สนธิญา‘ยื่น อสส.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายกฯอุ๊งอิ๊ง ตั้ง 'ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ' เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ชี้พฤติการณ์สนับสนุนม๊อบเคยโดนตัดสิทธิทางการเมือง
27ม.ค.โอนเงินหมื่นเฟส2 คลังยันคุยธปท.ดันศก.โต
นายกฯ สรุปทิศทางทำงบปี 69 ย้ำต้องตอบโจทย์พัฒนาประเทศ