สภาไฟเขียว‘สุราชุมชน’ ตีปี๊บซอฟต์พาวเวอร์ไทย

มติสภาเอกฉันท์ 415 เสียง ไฟเขียว  "กม.สุราชุมชน" เปิดโอกาสเกษตรกรรายย่อยผลิต-มีเครื่องกลั่นสุรา ลดผูกขาดการค้า "เท่าพิภพ" ยินดี  พร้อมชวนจับตากฎกระทรวง-ภาษีต่อเนื่อง   นายกฯ โพสต์เป็นการยกระดับสุราซอฟต์พาวเวอร์

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ….. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มีนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ. พิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการพิจารณาในวาระสองและวาระสาม

ทั้งนี้ ในรายละเอียดของร่างกฎหมายนั้น นายชนินทร์กล่าวว่า การแก้ไขของ กมธ.ในร่างกฎหมายเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อเข้าถึงใบอนุญาตทำธุรกิจ ตามวัตถุประสงค์ของผู้เสนอร่างกฎหมาย คือ พรรคเพื่อไทย ที่มีชื่อเรียกว่าสุราชุมชน และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีชื่อเรียกว่าสุรารวมไทย และจากความร่วมมือของหน่วยงาน ทราบว่าจะไม่รอกฎหมายผ่าน จะปรับปรุงกฎกระทรวงเพื่อช่วยเหลือประกอบธุรกิจสุราให้ทำได้มากขึ้น และเมื่อกฎหมายผ่านวุฒิสภา จะแก้ไขกฎกระทรวงทั้งฉบับเพื่อสอดคล้องกับร่าง พ.ร.บ.ที่แก้ไขต่อไป

นายชนินทร์กล่าวต่อว่า สาระสำคัญของร่างกฎหมายที่ กมธ.ได้แก้ไข คือกรอบในการออกกฎกระทรวงเพื่อออกกฎกระทรวงในการกำหนดหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตและเงื่อนไขการออกใบอนุญาตผลิตสุรา หรือมีเครื่องกลั่นการผลิตสุราไว้ในครอบครอง คือให้ใบอนุญาต จะไม่สามารถนำหลักเกณฑ์ใดๆ มาใช้ในลักษณะการเลือกปฏิบัติหรือผูกขาดทางเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นธรรมหรือสร้างภาระเกินสมควรแก่ผู้ขออนุญาต และต้องสนับสนุนให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน  องค์กรเกษตรกรหรือผู้ประกอบการรายย่อย สามารถขอรับใบอนุญาตสุราเพื่อการค้าได้ โดยทำสุราได้ทุกประเภท อาจมีสีหรือกลิ่นได้

“การทำงานของ กมธ. ทำตามอำนาจที่สภามอบให้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนหลักการ และคงไว้ของข้อห่วงใยที่ว่าการขออนุญาตผลิตสุราหรือถือครองเครื่องกลั่นสุราจำเป็นต้องควบคุมผลกระทบทางสังคม โดยการแก้ไขนั้นไม่ใช่ปรับให้ผลิตสุราโดยเสรีแบบไม่ต้องขออนุญาต และไม่ได้ปรับเปลี่ยนไปตามหลักการของร่างสุราก้าวหน้าที่อนุญาตทำเพื่อการค้าเท่านั้น แต่คงไว้คือ การขออนุญาตผลิตหรือถือครองจำเป็นต้องแจ้งให้หน่วยงานรัฐทราบ” นายชนินทร์ชี้แจง

นายชนินทร์กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขกฎหมายเพื่อส่งเสริมนโยบายรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร  นายกฯ ใน 4 ประเด็น คือ 1.ลดการผูกขาดการประกอบการผลิตสุราและการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการทำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายมีโอกาสเข้าถึงใบอนุญาตและมีอาชีพที่ถูกต้อง เสียภาษีให้แก่รัฐ 2.ส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ยกระดับเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรไทยมีช่องทางแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร มีมูลค่าเพิ่ม 3.จะสร้างรายงานได้ส่วนเพิ่มให้รัฐโดยนำผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กลับขึ้นมาอยู่ในการกำกับของรัฐ  เสียภาษีถูกต้อง และเพิ่มโอกาสการขยายของเศรษฐกิจ 4.ส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ สร้างเสน่ห์ สร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้ประเทศ โดยนำวัฒนธรรมการผลิตสุราชุมชน ยกระดับและต่อยอดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารให้ไทยรู้จักของนานาชาติเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ในรายละเอียดของร่างกฎหมายที่ กมธ.แก้ไข ในประเด็นการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสุราไว้ในครอบครอง มีข้อกำหนดให้ต้องออกกฎกระทรวง ภายใต้เงื่อนไขคือ ต้องมีมาตรฐานการผลิต สนับสุนให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตร หรือผู้ประกอบการรายย่อย สามารถขอรับใบอนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้า โดยหลักเกณฑ์ที่กำหนดต้องไม่เลือกปฏิบัติหรือผูกขาดทางเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็น

อย่างไรก็ตาม หลังเปิดให้สมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นแล้ว ที่ประชุมลงมติในวาระสาม  เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต หรือกฎหมายสุราชุมชน ด้วยคะแนน 415 ไม่เห็นด้วยไม่มี ไม่ลงคะแนน 5 เสียง และเห็นชอบตามข้อสังเกตของ กมธ. ทั้งนี้ จะได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป

ด้านนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.พรรคประชาชน แถลงภายหลังที่ประชุมสภามีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง  ก้าวต่อไปคือวุฒิสภา หากวุฒิสภาเห็นชอบและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทางกรมสรรพสามิต หน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ จะมีเวลาตามบทเฉพาะกาล 180 วัน ในการออกกฎหมายแก้ไข ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดนี้ ไม่น่าจะเกินภายในระยะเวลาครึ่งปี และมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 68

นายเท่าพิภพกล่าวถึงมุมมองส่วนตัวในฐานะประชาชนว่า กว่า 2,917 วัน ตั้งแต่วันที่ตนโดนจับกุม หรืออีกหนึ่งสัปดาห์หน้าของเมื่อ 8 ปีก่อน ที่กลายเป็นผู้ร้ายทางกฎหมายและสังคม ซึ่งในวันนั้น ตนคิดว่าทำไมประเทศนี้ทำให้ดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้ ทำไมประเทศนี้ แค่จะต้มเบียร์ขายเป็นไปไม่ได้เลยหรือ ตนก็หมดหวังเหมือนกับประชาชนในหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องเบียร์อย่างเดียว แต่ตนก็ตั้งใจ และสู้ต่อ จนได้โอกาสมาเป็นผู้แทนราษฎร พรรคโดนยุบไปก็ไม่เป็นไร พ.ร.บ.โดนเตะไปก็ไม่เป็นไร  มาจนถึงวันนี้ เป็นฉันทามติให้พรรคการเมืองทุกพรรคได้ทำตาม ต้องขอบคุณเครือข่ายสุราชุมชนทุกพื้นที่ และเครือข่ายคราฟต์เบียร์ทุกจังหวัด ที่ทำให้เรามีตัวตนในสังคมนี้

นายเท่าพิภพกล่าวในฐานะ สส.ว่า  ต้องบอกว่าตอนแรกเราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเราเป็นเสียงส่วนน้อยของสภาแห่งนี้ ซึ่งต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งเพื่อผ่านกฎหมาย และวันนี้มันก็ผ่าน ตนรู้ถึงสิ่งที่ทุกคนบอกว่า แค่พูดเรื่องเบียร์ได้ก็เก่งแล้ว แค่นำเรื่องนี้เข้าสภาก็เยี่ยมแล้ว แต่ตนไม่เคยดูถูกตัวเองเลยว่าจะเป็นกฎหมาย แล้ววันนี้ตนได้พิสูจน์แล้วว่า การเมืองแห่งการเปลี่ยนแปลงมันเป็นไปได้

"พรรคประชาชนพูดเสมอว่า แม้ว่าเราเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่ก็สามารถผลักดันประเด็นที่เราอยากผลักดันตามนโยบายของเราให้สำเร็จได้ และนี่คือบทพิสูจน์นั้น ท่านจับต้องได้แน่นอน ไม่เคยมีฝ่ายค้านใดในประวัติศาสตร์ประเทศไทยทำได้มาก่อน และผมไม่อยากให้เป็นครั้งสุดท้ายด้วย ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายค้าน หรือแม้เสียงคุณจะมีจำนวนน้อยเพียงใดในสภา แต่ถ้าคุณทำงานหนักมากพอ ก็เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นจริงได้" นายเท่าพิภพ ระบุ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการต่อสู้เรื่องใบอนุญาตผ่านไปแล้ว แต่ยังต้องจับตาดูกฎกระทรวงและประเด็นอื่นๆ อีก อย่างเช่นเรื่องภาษี ว่าควรจะให้แต้มต่อกับผู้ประกอบการรายย่อยหรือไม่ รวมถึงเรื่องขนาดบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่อาจมีการผูกขาดที่ยังเป็นปัญหาอยู่ และต้องแก้ต่อไป เป็นอำนาจของรัฐบาลที่สามารถทำได้ผ่านกฎกระทรวง และเป็นหน้าที่โดยตรงของ รมว.การคลังที่จะศึกษาและออกกฎได้ ซึ่งน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือน จึงอยากวิงวอนรัฐบาล ว่าหากอยากทำเรื่องนี้จริง ก็ยังมีเป้าหมายต่อไปที่สามารถทำร่วมกันได้ 

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและ X แสดงความยินดีว่า "อีกหนึ่งเรื่องน่ายินดีของวันนี้ ร่าง พ.ร.บ.สุราชุมชน ผ่านวาระ 3 ของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะลดการผูกขาดการผลิตสุรา ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก เปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถผลิตสุราหลายประเภทได้ง่ายขึ้น สร้างโอกาสให้พี่น้องเกษตรกรส่งต่อสินค้าเกษตรและเครื่องเทศไทย ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เป็นวัตถุดิบในการผลิตสุรา สร้างมูลค่าให้ผลผลิตมากขึ้น พร้อมยกระดับผลิตภัณฑ์สุราที่มาจากภูมิปัญญาไทย ไปสร้าง #Softpower ให้แก่สายตาชาวโลกค่ะ".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง