“จุลพันธ์” อวยเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สุดลิ่ม ปูดมีมากกว่า 1 จุดแน่ เพราะช่วยกระตุ้นจีดีพี รีบปัดมีการเกี้ยเซียะทุนใหญ่ “ประเสริฐ” รับ ครม.ซุ่มเงียบไฟเขียวเอาพนันออนไลน์ขึ้นบนดินแล้ว อ้างไม่แถลงเพราะถูกกาสิโนกลบ “รังสิมันต์” ผวาจีนเทาสอดไส้เข้ามาฟอกเงินในไทย บอกแค่ปรับโฉมโรงแรมใหญ่ให้มีการพนันก็ได้แล้ว “เด็ก ปชน.” ยันไทยไม่มีความพร้อม เชื่อประเทศกลายเป็นฮับอาชญากรรมแน่ “จตุพร” ฝากความหวังที่แพทยสภา-ป.ป.ช. ชี้หากป่วยทิพย์ชั้น 14 ทุกอย่างดับสูญ “แก้วสรร” แนะศาลใช้อำนาจไต่สวน
เมื่อวันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 ยังคงมีความต่อเนื่องหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..... หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยเฉพาะกรณีสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า ไม่ได้ยินเลย เพราะความเห็นของ สศช.ที่ส่งมาที่ ครม.ไม่มีประเด็นนี้ ถ้าจำไม่ผิดเขาให้ดูเรื่องผลกระทบ เพราะกฎหมายนี้ต้องออกมาควบคุม กำกับดูแล พร้อมกับเยียวยา รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการพนันอาจไม่ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง แต่การศึกษาของกระทรวงการคลัง เกิดผลกระทบใน 2 ช่วง คือช่วงก่อสร้างจีดีพีโตตกปีละ 0.2% ซึ่งไม่รวมการพนัน และการจะนำมาคำนวณเป็นจีดีพี จะต้องมีการผลิตเกิดขึ้นในหลายส่วน จึงยืนยันว่ามันมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอยู่แล้ว เพราะมูลค่ามันกว่าแสนล้านบาท แต่ถ้าเรามีมากกว่า 1 จุด มันจะเติบโตมากกว่านั้น ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเพียงการประเมินเรื่องของการลงทุน ยังไม่ใช่ผลพลอยได้ เนื่องจากโครงการที่จะทำคือ Man-made destination ซึ่งในพื้นที่จะต้องมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องอีกมากมาย ที่จะสร้างรายได้ให้กับประชาชนรอบพื้นที่ และสามารถเก็บรายได้เข้ารัฐได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้วางไทม์ไลน์ไว้หรือไม่ว่าร่างกฎหมายจะมีผลบังคับใช้เมื่อไร นายจุลพันธ์กล่าวว่า เร็วที่สุด รัฐบาลชุดนี้ทำงานเร็วอยู่แล้ว เข้าใจว่าหลายอย่างมีขั้นตอนตามกฎหมาย แต่เราทราบว่าการขับเคลื่อนเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ จึงเชื่อว่าไม่มีใครชักช้า ขณะนี้อยู่ในมือของกฤษฎีกา คาดว่าไม่นาน เพราะความล่าช้าเป็นต้นทุนทางโอกาส และถ้าล่าช้าความแตกต่างของผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนมันจะเห็นได้ชัด
“เรื่องนี้เป็นประโยชน์ ไม่เหมือนกับที่หลายสำนักข่าวไปบอกว่าเป็นกาสิโน และเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ มันทำให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จำเป็นจะต้องออกกฎหมายเฉพาะ แต่ยอมรับว่าถ้าจะให้บังคับใช้ได้ไตรมาส 3 ก็ตึงมาก ส่วนไตรมาส 4 ตอบไม่ได้จริงๆ” นายจุลพันธ์กล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า บริษัทที่จะลงทุนต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในไทย แต่ไม่ได้จำกัดเรื่องสัญชาติ เพราะจะมีการเขียนกฎหมายให้ผู้ลงทุนต้องมีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท เพื่อคัดกรอง ให้รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นเบอร์ใหญ่ และเป็นนักลงทุนจริง เพราะการทำโปรเจกต์ขนาดนี้ต้องเป็นคนที่มีความพร้อมและมีศักยภาพ มีประสบการณ์ เคยทำธุรกิจประเภทนี้มาก่อน แต่ขอยืนยันว่ายังไม่เคยพบกับใครตามที่เป็นข่าว แล้วไม่ต้องมีใครมาพบตนเองด้วย เพราะเรื่องสถานที่ ใครทำอะไรที่ไหน จะมีคณะกรรมการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะมีการเขียนกฎหมายให้รอบคอบและรัดกุม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตนเองที่จะทำกฎหมายให้โปร่งใสที่สุด ใครจะได้ทำอะไรที่ไหน ต้องเสนอเข้ามาแข่งขันกัน และรัฐจะได้ประโยชน์จากมิติต่างๆ ทั้งการจัดเก็บภาษี มิติสังคม และสิ่งปลูกสร้างที่จะเกิดขึ้นมา อะไรที่จะว้าวต้องไปวัดกันข้างหน้า
อ้างข่าวกาสิโนกลบ
“ยืนยันว่าไม่มีเรื่องของเส้นสายหรือเกี้ยเซียะอะไรในรัฐบาล เพราะในรัฐบาลไม่มีใครกล้าทำ ส่วนที่ภาคเอกชนกังวลเรื่องการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมนั้น อยู่ที่การร่างกฎหมายและกลไก การตรวจสอบมีเยอะแยะ ทั้งนักร้อง จึงเชื่อว่าไม่มีใครกล้าทำ” นายจุลพันธ์กล่าว
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงมติ ครม.เมื่อวันที่ 13 ม.ค. มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอแนะของดีอีเรื่องการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับพนันออนไลน์ว่า ข้อเสนอแนะดังกล่าวเห็นชอบให้แก้ไขกฎหมายระดับรอง ก่อนแก้ไขกฎหมายใหญ่ต่อไป ซึ่งการแก้กฎหมายระดับรองให้ 3 หน่วยงานคือ ดีอีทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและกฤษฎีกา โดยกฎหมายระดับรองคือพระราชกฤษฎีกา ซึ่งอาจต้องให้ ครม.พิจารณา แต่หากเป็นกฎกระทรวงก็ไม่ต้องเข้า ครม. ซึ่งคิดว่าจะใช้เวลาดำเนินการภายใน 1 เดือน
“การแก้พนันออนไลน์ เช่น พนันบอลที่คนไทยเล่นกันมากในโลกออนไลน์ หรือการพนันอื่นๆ ที่อยู่ในโลกออนไลน์ทั้งหมด หรือโครงสร้างการพนันที่เป็นระบบดิจิทัล หรือสรุปแล้วเอาของใต้ดินที่เป็นเงินไม่ถูกต้องมาไว้บนดินให้หมด ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้เสียภาษี” นายประเสริฐกล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องสำคัญแบบนี้ทำไมถึงไม่แถลงเป็นมติ ครม. แต่ประชาชนกลับทราบข้อมูลผ่านนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พูดในงานดินเนอร์ทอล์กเมื่อวันที่ 13 ม.ค. นายประเสริฐกล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ก็มีการพูดถึงเรื่องนี้บ้าง แต่สังคมไปสนใจเรื่องร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มากกว่า
ถามว่า หากกฎหมายเรื่องพนันออนไลน์มีผลบังคับใช้ ภาครัฐหรือภาคเอกชนจะเป็นเจ้ามือ นายประเสริฐกล่าวว่า ยังไม่ได้คิดว่าใครจะเป็นเจ้ามือ ขอให้กฎหมายระดับรองออกมาก่อน แต่ในหลักการมีการแก้ไขเรื่องการพนันออนไลน์แล้ว
เมื่อถามว่า เจ้ามือมีบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่เตรียมเข้ามาแล้วหรือยัง นายประเสริฐกล่าวว่า ยังไม่มี
ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่าเป็นสิ่งสำคัญ ต้องเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมพรรคก่อน โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีผลกระทบและเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน รวมถึงประชาชน ทั้งยังมีผลผูกพันกับกฎหมายอีกหลายฉบับ แต่เมื่อผ่าน ครม.แล้ว ถือเป็นนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า ที่ผ่านมามีกลุ่มจีนเทามาถึงรัฐสภาเพื่อมาพรีเซนต์ราวกับเข้ามาขายงาน ดังนั้นหากรัฐบาลเดินหน้าในเรื่องนี้ ต้องเผชิญกับความต้องการ ความมุ่งหมายของกลุ่มจีนเทาที่จะเข้ามา ซึ่งเป็นห่วงว่าอาจเข้ามาในฐานะผู้ประกอบการ และอาจนำเงินที่ผิดกฎหมายมาฟอกเงินผ่านกาสิโนที่จะเปิดขึ้นในไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเตรียมการ เพราะในฐานะ สส. แทบไม่เห็นรัฐบาลสื่อสารหรือออกมาพูดเรื่องนี้เลย และไม่เห็นความพยายามของรัฐบาลที่จะทำความเข้าใจต่อประชาชน ดังนั้นเป็นห่วงว่าหากเปิดกาสิโน สิ่งที่จะตามมาคือจะรับมือกับทุนจีนสีเทาอย่างไร
ปรับโฉมโรงแรมใหญ่ก็พอ
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ปัญหาที่สองคือเรื่องโครงสร้างกฎหมายระบบราชการ มีความพร้อมเพียงใดในการรับมือกับเรื่องนี้ นอกจากเจอปัญหาเรื่องบัญชีม้า ซิมม้า ปัญหาทุนจีนสีเทาที่ใช้การฟอกเงิน และเจอปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ดังนั้นคำถามคือรัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร และประเด็นที่สามเรื่องความโปร่งใส ถ้าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นร่างที่เคยมีการรับฟังความเห็นจากประชาชนมาแล้ว มีความเป็นห่วงในเรื่องของการคอร์รัปชันที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสถานที่ว่าใครจะได้ประโยชน์ในการเลือกให้ใบอนุญาต อาจเกิดปัญหาเรื่องการล็อกสเปก ดังนั้นเมื่อนำเหตุผลมาประกอบทั้งหมด มีความกังวลจริงๆ ว่าการที่รัฐบาลจะเร่งรัดเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อาจอันตรายต่อประเทศไทยได้
เมื่อถามเหตุผลของรัฐบาลที่จะดึงเม็ดเงิน 1 แสนล้านบาทเข้าสู่ประเทศ จึงเกิดการเร่งรัดในเรื่องนี้ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าไทยกำลังเจอปัญหา 2 อย่าง คือการถูกดึงเม็ดเงินออกด้วยธุรกิจสีเทาด้วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 1 แสนล้านบาท เรื่องพนันออนไลน์และปัญหายาเสพติด ซึ่งก็เข้าใจว่าทุกรัฐบาลอยากให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามา แต่ประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อว่าจะได้เม็ดเงินเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ อย่าลืมว่าเรื่องนี้ต้องมีคู่แข่ง เช่น มาเก๊า สิงคโปร์ หรือโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกันในพื้นที่ กทม.ก็มีโรงแรมและห้องประชุมครบอยู่แล้ว เพียงเติมกาสิโนเข้าไปก็กลายเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือเช่นที่พัทยาและภูเก็ต ก็มีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว เติมกาสิโนไปก็เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ดังนั้นแทบไม่มีความจำเป็นต้องคิดถึงการลงทุนจำนวนมากมายมหาศาล
นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. กล่าวว่า มีข้อวิตกกังวลในการมีกาสิโนในประเทศไทย เพราะสภาพทั่วไปรัฐบาลยังปล่อยให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่หละหลวมและเลือกปฏิบัติ คอร์รัปชันยังเต็มไปหมดในทุกระดับ หากมีการเปิดกาสิโน จะกลายเป็นฮับระดับโลกในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ อบายมุข ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ และการคอร์รัปชันทุกรูปแบบ แม้กระทั่งการทวงหนี้โหดที่เคยเกิดขึ้นในมาเก๊า กาสิโนจะเป็นถังขยะใบโตที่ทิ้งไว้ให้รุ่นลูกหลาน
“สภาพสังคมไทยยังไม่พร้อมมีกาสิโน เพราะขาดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการเลือกปฏิบัติ การทุจริตคอร์รัปชันยังแพร่หลาย และยังมีผลกระทบทางลบจากการพนันในสังคมไทยจะมีมากขึ้น รวมถึงความโปร่งใสในการคัดเลือกผู้รับใบอนุญาต”
นายจุลพงษ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลไม่ควรยกตัวอย่างสิงคโปร์หรือญี่ปุ่น ซึ่งเทียบกับไทยไม่ได้ในเรื่องประสิทธิภาพของการบังคับใช้กฎหมาย หลายสิบปีก่อนสิงคโปร์ก็ไม่ยอมให้มีกาสิโน แต่เมื่อสิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการปราบคอร์รัปชันและบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลจึงยอมให้มีกาสิโน ส่วนประเทศญี่ปุ่น ทราบว่าจะยอมให้เปิดกาสิโนในเร็วๆ นี้ ซึ่งมีกระบวนการคิดหลายสิบปี ไม่ใช่ปีสองปีเท่านั้น
เด็ก ปชน.ชง 5 ข้อเสนอ
นายจุลพงษ์กล่าวว่า หากรัฐบาลยังดึงดันยืนยันให้ร่าง พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้จริง ขอเสนอ 5 ประเด็น คือ 1.ร่าง พ.ร.บ.ควรเพิ่มการกําหนดให้ประกาศเงื่อนไขและข้อกําหนดการประมูลใบอนุญาตกาสิโน รวมทั้งจัดมีการประมูลใบอนุญาตอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะเหมือนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมของ กสทช. 2.การกำหนดจังหวัดและเขตที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจรที่จะมีกาสิโนอยู่ในนั้นด้วย ควรทำประชามติของประชาชนในพื้นที่ก่อนว่าเห็นชอบด้วยหรือไม่ 3.การกําหนดเงื่อนไขการเข้าเล่นกาสิโนของคนไทยที่ไม่เพียงแต่มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี แต่ควรกำหนดเงื่อนไขอื่นๆ เช่น รายได้ขั้นต่ำ การไม่ติดเครดิตบูโร เป็นต้น 4.การจัดแบ่งรายได้เข้ารัฐ ให้มีการจัดสรรรายได้ให้รัฐจากรายได้ก่อนหักภาษีและค่าใช้จ่ายผันแปรไปตามรายได้ของแต่ละปีตลอดเวลาใบอนุญาต 30 ปี แทนที่รัฐจะได้รับรายได้จำนวนคงที่ตลอด 30 ปี และ 5.ควรจัดตั้งกองทุนป้องกันและฟื้นฟูผลกระทบจากการประกอบธุรกิจสถานประกอบการครบวงจร
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า โครงการบ่อนกาสิโนมีเป้าหมายตั้งขึ้นทั่วประเทศอย่างน้อย 8 แห่ง โดยบ่อนแต่ละแห่งลงทุนประมาณ 1 แสนล้าน รวมเป็นเงิน 8 แสนล้าน ส่วนประเทศได้รับประโยชน์เล็กน้อยเพียงจ่ายค่าแรกเข้าแห่งละ 5,000 ล้านบาท และอีกปีละพันล้านตลอดอายุสัมปทาน รวมประโยชน์ทั้งหมด 2.8 แสนล้าน ซึ่งเทียบกับความเสียหายของประเทศไม่ได้
“ถ้าแพทยสภาและ ป.ป.ช.ทำหน้าที่ไต่สวนตรวจสอบชั้น 14 ได้รวดเร็วแล้ว อาจทำให้บ่อนไม่เกิดมาสร้างความเสียหายกับบ้านเมืองได้แน่ เพราะการตั้งบ่อนประเทศไม่ได้อะไรขึ้นมา นอกจากความเสียหาย ส่วนคนผลักดันให้ตั้งบ่อนจะได้ประโยชน์มากมาย” นายจตุพรระบุ
นายจตุพรกล่าวว่า ถ้าผลตรวจสอบจริยธรรมของแพทยสภามาเร็วแล้ว จะโยงถึงการไต่สวนขององค์กรอื่นหรือมีบุคคลยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางนักการเมือง อีกอย่างนายทักษิณอาจถูกนำตัวกลับไปรับโทษคดีทุจริต 1 ปี ซึ่งจะทำให้บ่อนเกิดขึ้นมาไม่ได้ และประชาชนไม่ต้องเหนื่อยออกมาลงถนนคัดค้านด้วย อีกทั้งหวังว่าถ้าการเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงก่อน โครงการสร้างความหายนะให้กับบ้านเมืองจะถูกหยุดยั้งไปพร้อมกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ประเทศไทยจะโชคดีหรือร้ายจึงอยู่ที่ผลสอบสวนของแพทยสภาและ ป.ป.ช.
นายจตุพรยังกล่าวว่า บ่อนกาสิโนที่จะเกิดขึ้นจะสร้างความหายนะอย่างร้ายแรงให้คนไทย นอกจากนี้ยังมีโครงการบ้านเพื่อคนไทยที่มาแทนโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ไม่ประสบความสำเร็จและมีการทุจริตมากมาย แต่รัฐบาลพยายามจะสร้างขึ้นใหม่เพียงให้คนไทยคุ้นชินกับเวลาเช่า 99 ปี เพื่อไปดันนโยบายให้ต่างชาติมาซื้อคอนโดฯ และเช่าที่ดินโครงการแลนด์บริดจ์ 99 ปีเท่านั้น ซึ่งโครงการที่จะทำความเสียหายเหล่านี้ คนไทยยังมีเวลาหยุดยั้งความหายนะกัน ดังนั้น ประชาชนต้องร่วมสามัคคีกันหยุดยั้ง เพราะแต่ละโครงการที่จะเกิดขึ้นนำพาสู่ความฉิบหายของบ้านเมืองทั้งสิ้น
ทวีข้องใจองค์กรสิทธิฯ
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้พิจารณาแต่งตั้งที่ปรึกษาองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการรักษาตัวที่ชั้น 14 ของนายทักษิณว่า ถือเป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งกระบวนการต่างๆ ป.ป.ช.จะต้องเป็นผู้ชี้แจง บุคคลอื่นไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะอำนาจหน้าที่เป็นของ ป.ป.ช.
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มมวลชนออกมาเรียกร้องให้โรงพยาบาลตำรวจส่งมอบเวชระเบียนการรักษาตัวของนายทักษิณให้แพทยสภาและ ป.ป.ช.นั้น พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า หน่วยงานที่ถูกเรียกร้องก็ต้องเป็นผู้พิจารณาว่าได้เรียกร้องไปแล้วหรือไม่ หรือหน่วยงานนั้นจะส่งมอบเวชระเบียนโดยที่หน่วยงานต่างๆ จะไม่เผยแพร่ให้สื่อมวลชนรับรู้ แต่ก็ขอตั้งข้อสังเกตว่า ในเรื่องสิทธิส่วนบุคคลนั้น องค์กรสิทธิมนุษยชนถึงได้เลือกปฏิบัติไม่ทำทุกกรณี เช่น กรณีของแบงค์ เลสเตอร์ ที่เสียชีวิต ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่กลับไม่ออกมาพูดถึง แต่เมื่อเป็นกรณีของนายทักษิณ กลับมุ่งเน้นสิทธิส่วนบุคคลที่ไม่เท่าเทียมกัน จึงทำให้มองว่าองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่สิทธิมนุษยชน กลับไม่เสมอภาค ซึ่งการไปพูดถึงเรื่องคนอื่นมากเกินไป อาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเอง ส่วนการเรียกร้องประวัติการรักษาของนายทักษิณ ถือเป็นภาคเอกชนที่สามารถทำได้ ซึ่งเราเองก็ต้องเคารพ แต่เมื่อเรื่องถึง ป.ป.ช.แล้ว ก็ขอให้ทุกฝ่ายอย่าก้าวล่วง ควรเคารพในข้อกฎหมายและองค์กรอิสระ
“กรมราชทัณฑ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หาก ป.ป.ช.มีการร้องขอเวชระเบียนหรือเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวกับนายทักษิณ เราก็ยินดี แต่บางเรื่องก็มีข้อกฎหมายทับซ้อนกันอยู่ ก็ต้องดูในรายละเอียด ซึ่งเขาก็ให้สิทธิเจ้าของคนไข้ที่ไม่ให้เปิดเผย หรือต้องได้รับอนุญาตจากคนไข้ ถึงเปิดเผยได้ แต่ในกฎหมายที่เกิดใหม่ ป.ป.ช.ก็มีอำนาจที่จะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ดังนั้นฝ่ายกฎหมายของทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องไปศึกษาขั้นตอนอย่างละเอียดเพื่อตกลงกัน และท้ายที่สุดหน่วยงานก็ต้องเอาความจริงมาให้ปรากฏต่อสาธารณชน”
พ.ต.อ.ทวียืนยันว่า หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงยุติธรรมไม่มีความกังวล และเชื่อว่าทุกหน่วยงานจะต้องปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย รวมทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะให้ความร่วมมือ เมื่อกฎหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงไม่กังวลว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกไปอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา เนื่องจากมีการหยิบมาพูดนานแล้ว และย้ำว่าไม่มีอะไรต้องไปปิดบัง
ชี้ศาลมีอำนาจไต่สวน
ขณะที่ นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ ออกบทความเรื่อง ความรับผิดชอบในคดีชั้น 14 ในลักษณะถาม-ตอบ ยืนยันว่า รพ.ตำรวจต้องให้เวชระเบียนตามที่แพทยสภาออกคำสั่ง เพราะเป็นการทำตามหน้าที่ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม จะอ้างสิทธิคนป่วยมาหวงเวชระเบียนไว้ไม่ได้ กฎหมายสุขภาพชัดเจนว่าให้ปฏิเสธได้ แต่เฉพาะการขอทราบโดยอ้างสิทธิสาธารณชนตามกฎหมายข้อมูลข่าวสารเท่านั้น
เมื่อถามว่า ถ้า รพ.ตำรวจและเรือนจำทำนิ่งเฉยไม่ส่งเวชระเบียน หรือตอบว่าไม่มี นายแก้วสรรอธิบายว่า เป็นอย่างนั้น ความตามปากคำพยานบุคคลคือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่เห็นด้วยตาว่านายทักษิณไม่ป่วยจริง ก็จะมีน้ำหนักฟังเป็นที่ยุติขึ้นมาทันที จะโดนมาตรา 157 กันหมดทั้ง ผบ.เรือนจำและ ผอ.รพ.ตำรวจ
นายแก้วสรรยังระบุถึงอำนาจการตรวจสอบย้อนหลังของศาลว่า อำนาจตรวจสอบให้มีการปฏิบัติตามหมายจำคุกนั้นยังมีอยู่เสมอไป มาตรา 246 เป็นมาตราที่ยืนยันความมีอยู่ของอำนาจนี้ว่า ราชทัณฑ์จะเห็นหมายศาลที่ให้จำคุกเป็นกระดาษเช็ดก้นไม่ได้ ซึ่งศาลลงมือไต่สวนได้โดยไม่ต้องรอ ผล ป.ป.ช.หรือแพทยสภา เพราะเรามีแต่ห้ามองค์กรใดพิจารณาแข่งกับศาล ไม่มีเลยที่ให้ศาลรอผลองค์กรอื่น และยิ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาว่าเบี้ยวคำพิพากษาศาลหรือไม่ด้วยแล้ว ศาลจะมานั่งรอเห็นตามคนอื่นไม่ได้
“เรื่องนี้เป็นเรื่องความยุติธรรมในบ้านเมือง ที่ประชาชนได้ยอมรับเห็นศาลเป็นเสาหลักมาสี่ชั่วคนแล้ว ถ้าวันนี้คนในสถาบันไม่รู้สำนึกในหน้าที่นี้ บ้านเมืองก็ต้องฉิบหายต่อไปอีก จนในที่สุดก็หายไปหมดทั้งศาลและประชาชนบนแผ่นดินนี้” นายแก้วสรรระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พรรคส้ม' ไม่ค้าน 'กาสิโน' แต่สงสัยรัฐบาลทำเพื่อแก้ปัญหาสังคมหรือผลประโยชน์ทับซ้อน
'ณัฐพงษ์ ' สงสัย รัฐบาล ดัน 'เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' เพื่อแก้ปัญหาสังคมหรือผลประโยชน์ทับซ้อนกันแน่ ชี้ไม่มีแม้แต่ความชัดเจน จี้แจงให้ชัดมาตรการป้องกันปัญหาสังคม-ความโปร่งใสในการให้สัมปทาน
'วิรุตม์' สับ รัฐบาล 'สิ้นคิด' แก้ปัญหาการพนันด้วยการ 'เปิดบ่อน' ครบวงจร!
พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม(สป.ยธ.) กล่าวว่า กรณี ครม.เห็นชอบร่างพรบ.เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพลกซ์
27ม.ค.โอนเงินหมื่นเฟส2 คลังยันคุยธปท.ดันศก.โต
นายกฯ สรุปทิศทางทำงบปี 69 ย้ำต้องตอบโจทย์พัฒนาประเทศ
สภา415เสียง แก้ไขข้อบังคับ คนนอกรื้อรธน.
“รัฐสภา” ถกแก้ข้อบังคับการประชุม "สว.-รทสช." รุมค้านเปิดทาง
เสด็จฯพระราชพิธีสมมงคล
"ในหลวง" เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าสมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี
เหนือ-อีสาน อุณหภูมิยังหนาวจัด กทม.16 องศา มีหมอกบาง
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและ