อิ๊งค์ปัดนิติกรรมอำพราง สวนเรืองไกรข่มขู่ให้จ่าย

"อิ๊งค์" ยันปมหนี้ 4 พันล้านของสามีคนใต้ ไม่มีนิติกรรมอำพราง แจ้ง ป.ป.ช.แล้ว ถูกต้องทุกอย่าง เปิดประเด็นใหม่สวนกลับ "เรืองไกร" เหน็บไฟแลบ! ไม่ได้แม่นกฎหมาย ถ้ามีการข่มขู่ว่าจะต้องจ่ายนั่นนี่เพื่อจะไม่ฟ้อง อ้างลูกเรียนต่างประเทศ "เผอิญไม่ค่อยแม่นเรื่องกฎหมายเท่าไหร่ ต้องช่วยกันแจ้งนิดนึง"

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีหนี้สิน 4,000 ล้านบาทของนายกฯ ที่เป็นการกู้ยืมกันในครอบครัว มีการตั้งข้อสังเกตเป็นการทำนิติกรรมอำพรางว่า มันเป็นหนี้ระหว่างเครือญาติกัน ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แถลงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปหมดทุกอย่างแล้ว ฉะนั้นมันจะอำพรางอะไรได้จุดนี้ ยืนยันว่าเป็นหนี้ระหว่างเครือญาติ มีตั๋วมีอะไรเรียบร้อยหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่กรณีนี้จะเป็นการซ้ำรอย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีซุกหุ้นภาค 2 โดยนายกฯ ยืนยันว่า "ไม่กังวล เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย"

เมื่อถามถึงกรณีนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ให้บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด กู้เงินโดยที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัท จะมีปัญหาหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า จริงๆ เราแจ้งรายละเอียดแบบละเอียดยิบสามารถตรวจสอบได้ทุกอย่าง เพราะมาถึงจุดนี้ต้องแจ้งให้ละเอียดที่สุด แล้วคำถามอะไรถ้า ป.ป.ช.มีเรื่องที่จะถามมาก็ยินดีพร้อมตอบอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องกังวลอะไร จะตีความอะไรอย่างไรทางที่บ้าน ทางทนายก็แจ้งทุกอย่างหมดเกลี้ยง

ซักว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จะนำเรื่องนี้ไปร้องกังวลหรือไม่ นายกฯ หัวเราะในลำคอก่อนกล่าวว่า “เรืองไกร อ๋อ แล้วสมมติว่าตัวดิฉันเองก็ไม่ได้แม่นกฎหมาย ถ้ามีการข่มขู่ว่าจะต้องจ่ายนั่นนี่ เพื่อจะไม่ฟ้อง เพื่อจะอะไร อ้างลูกเรียนต่างประเทศผิดกฎหมายข้อไหนบ้างล่ะ เผอิญไม่ค่อยแม่นเรื่องกฎหมายเท่าไหร่ต้องช่วยกันแจ้งนิดนึง ไม่ทราบเหมือนกันว่ายังไง ผิดกฎหมายข้อไหนมั้ยคะ ดิฉันไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่เรื่องนี้”

น.ส.แพทองธารยังกล่าวถึงกรณีเข้าขอพรปีใหม่จาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนน์ ประธานองคมนตรี จะเป็นภาพประวัติศาสตร์ครั้งใหม่หรือไม่ เพราะเดิมตระกูลชินวัตรกับบ้านสี่เสาเทเวศร์เหมือนจะเป็นขั้วตรงข้ามกันว่า ทุกคนต้องมูฟออน เวลามันไม่หยุดอยู่กับที่ เวลามันผ่านไปเรื่อยๆ ถามว่าเราจะนั่งถือทุกเรื่องไว้ในใจของเราทั้งหมดมันหนัก

"อย่างที่เคยบอกว่าไม่ค่อยเกลียดใคร ไม่ค่อยได้ไม่ชอบใคร คิดว่าบางเรื่องที่มันจัดการได้ก็จัดการได้ พอดิฉันเข้าไปพบท่านองคมนตรีก็ให้คำแนะนำดีๆ มาเยอะ ท่านเคยถวายงานรับใช้รัชกาลที่ 9 ในเรื่องของน้ำเยอะมาก ท่านก็แนะนำในเรื่องของน้ำมา ในเรื่องน้ำท่วมต่างๆ ว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เรื่องนี้ถามว่าประโยชน์อยู่ที่ใคร ไม่ได้อยู่ที่ดิฉัน ไม่ได้อยู่ที่องคมนตรี แต่อยู่ที่ประเทศชาติ เพราะฉะนั้นการเข้ามาคุยร่วมกันแบบนี้เราต้องมองภาพนั้นเลย ถ้าเราจะมามองว่าเรื่องส่วนตัวอะไรยังไง ดิฉันไม่ได้คิดเลย ดิฉันไปก็สวัสดีปีใหม่ท่านและนั่งพูดคุย ก็เป็นอย่างนั้น ไป ทำงานกันต่อ เอาดรามาให้น้อยหน่อย” นายกฯ กล่าว

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ น.ส.แพทองธาร กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยนั้น พบว่ามีหลายหลายการที่ควรตรวจสอบ ซึ่งในวันนี้เป็นการขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบเงินให้กู้ยืมของคู่สมรสที่ให้บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด กู้ยืมจำนวน 8 รายการ (ลำดับที่ 2-9) โดยเกิดขึ้นระหว่างปี 2564-2565 รวมเป็นเงิน 12,770,000 บาท และมีการแจ้งรายได้ดอกเบี้ย 383,100 บาท ถูกต้องสัมพันธ์กันกับข้อมูลของบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด หรือไม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 น.ส.แพทองธารแจ้ง ป.ป.ช.ว่า คู่สมรสชื่อนายปิฎก สุขสวัสดิ์ อยู่กินกันฉันสามีภรรยา ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานการลงทุนและการเงิน บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด

2.น.ส.แพทองธารแจ้ง ป.ป.ช.ว่า คู่สมรสมีรายได้หลายรายการ รายการหนึ่งคือดอกเบี้ยจำนวน 383,100 บาท

3.น.ส.แพทองธารได้แจ้งบัญชีรายการเงินให้กู้ยืมแก่บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด ของคู่สมรส จำนวน 8 รายการ (ลำดับที่ 2-9) โดยเกิดขึ้นระหว่างปี 2564-2565 รวมเป็นเงิน 12,770,000 บาท

4.จากการขอคัดหนังสือรับรองบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด ณ วันที่ 6 มกราคม 2568 พบว่า กรรมการของบริษัทมี 5 คน คือ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์, นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์, นายฤภพ ชินวัตร, ร้อยโท ปรีชาพล พงษ์พานิช และนายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์

5.จากการขอคัดสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5) ณ วันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 30/04/2567 พบว่า บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท มีผู้ถือหุ้นคนไทยรวม 14 คน คือ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ถืออยู่ 7,000 หุ้น น.ส.สุทิษา ประทุมกุล ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายพงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิสกุล ถืออยู่ 7,000 หุ้น นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายวิม รุ่งวัฒนจินดา ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายต้น ณ ระนอง ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายมิตติ ติยะไพรัช ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายฤภพ ชินวัตร ถืออยู่ 7,000 หุ้น ร้อยโท ปรีชาพล พงษ์พานิช ถืออยู่ 9,000 หุ้น นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น และ น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร ถืออยู่ 7,000 หุ้น รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

6.จากหมายเหตุประกอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ของบริษัทฯ ข้อ 9 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน ระบุว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ มีเงินกู้ยืมจากกรรมการ จำนวน 12.77 ล้านบาท (2565: 12.77 ล้านบาท) คิดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี และมีกำหนดชำระคืนเมื่อมีการทวงถาม

7.งบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ของบริษัทฯ ได้แสดงรายการค่าใช้จ่ายทางการเงินของปี 2566 เป็นเงิน 383,100 บาท และของปี 2565 เป็นเงิน 379,680.81 บาท

8.จากการที่ น.ส.แพทองธารแจ้ง ป.ป.ช.ว่า คู่สมรส มีรายได้ดอกเบี้ยจำนวน 383,100 บาท จึงสอดคล้องกับรายการดอกเบี้ยร้อยละ 3 ของยอดเงินกู้ 12,770,000 บาท แต่มีข้อสังเกตที่ต่างกันคือ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ ไม่มีชื่อเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด แต่อย่างใด ทั้งที่หมายเหตุข้อ 9 ระบุว่ายอดเงินกู้ 12,770,000 บาทของบริษัทฯ เป็นเงินกู้ยืมจากกรรมการ

9.ดังนั้น จึงมีเหตุอันควรขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบรายการเงินให้กู้ยืมของคู่สมรส จำนวน 12,770,000 บาท ถูกต้องหรือไม่ คู่สมรสเป็นกรรมการบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด หรือไม่ มีการนำดอกเบี้ยไปเสียภาษีรวมกับรายได้อื่นครบถ้วนหรือไม่ บริษัทฯ ผู้จ่ายดอกเบี้ยมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือไม่ และดอกเบี้ยดังกล่าวต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ การแจ้งรายการดังกล่าวถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ทั้งนี้ได้แนบสำเนาข่าวของสำนักข่าวอิศรามาประกอบด้วยแล้ว

 “วันนี้จึงได้ยื่นหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช.ทำการตรวจสอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ว่า การแจ้งบัญชีรายการเงินให้กู้ยืมของคู่สมรส เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 หรือไม่” นายเรืองไกรระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นายกฯอิ๊งค์' ขอเคลียร์ปม 'พ.ร.บ.กาสิโน' หลังถก ครม.

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์