"หัวหน้าอิ๊งค์” ลุยนครพนม ช่วย “อนุชิต” ผู้สมัครนายก อบจ.เพื่อไทยหาเสียง อ้อนได้กำลังใจกลับไปทำงาน โว พท.มาคนจนรวยแน่ ขอให้กาดีเอ็นเอ พท. โอดพูดอะไรไม่ได้มากโดนจับผิด บอกดูคนหน้าเหมือนพ่อใหญ่ไปก่อนเด้อ "พิธา" บุกตลาดบ้านเกิดแม้วช่วยหาเสียงนายก อบจ.เชียงใหม่ เชื่อฐานเสียงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ "วิโรจน์" เผยถูกขู่เอาชีวิต ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองจันทบุรี "เทพไท" จี้ กกต.คุม "ทักษิณ" ก่อนเลือกตั้งจะเป็นโมฆะ "นิด้าโพล" เผยพ่อนายกฯ ปราศรัยเชียงใหม่-เชียงรายไร้ผล เพราะไม่เลือก พท.อยู่แล้ว
เมื่อวันอาทิตย์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกฯ, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ เดินทางลงพื้นที่ จ.นครพนม เพื่อช่วยนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม พรรคเพื่อไทย หาเสียง โดยมีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม มารอต้อนรับที่สนามบิน เมื่อ น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางมาถึง ได้มีประชาชนและกลุ่มผู้สนับสนุนในพื้นที่ มารอมอบดอกไม้และให้การต้อนรับ พร้อมทั้งตะโกนว่า “เรารักนายกฯ อิ๊งค์” ซึ่งถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกของ น.ส.แพทองธาร เพื่อช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียง
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารมีกำหนดการปราศรัยรวม 3 เวที ประกอบด้วย ช่วงเช้า ที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก ซึ่งเป็นเวทีปราศรัยแรกให้กับผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม พรรคเพื่อไทย ช่วงบ่าย หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ที่มหาวิทยาลัยนครพนม อ.เมืองฯ และอาคารโดมสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ
จากนั้นเวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธารเดินทางถึงสนามกีฬาเทศบาลตำบลนาแก ซึ่งเป็นเวทีปราศรัยแรกด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กท 888 กรุงเทพฯ ซึ่งตรงกับหมายเลขของนายอนุชิตที่ได้เบอร์ 8 ในการจับสลาก ทันทีที่มาถึงประชาชนที่รอรับฟังคำปราศรัยจำนวนมากได้ตะโกนต้อนรับและโบกธงผู้สมัคร พร้อมกรูกันมาสวมพวงมาลัยดอกดาวเรือง มอบดอกกุหลาบ และผูกผ้าขาวม้าที่เอวเป็นการต้อนรับ
โดย น.ส.แพทองธารได้เดินแหวกฝูงชนมายังเวทีปราศรัย ก่อนปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้ดีใจอย่างมาก ปีใหม่ได้มานครพนมจังหวัดแรก ตั้งแต่เดินเข้ามาได้รับการต้อนรับอย่างดี พรุ่งนี้วันจันทร์กลับไปมีกำลังใจจากพี่น้องนครพนมแน่นอน วันนี้อยากฝากนายอนุชิต เพราะทำงานหนัก เป็นคนนครพนมอย่างแท้จริง เข้าใจปัญหาของนครพนมอย่างแท้จริง นายอนุชิตเป็นคนนครพนมแท้ๆ และมีดีเอ็นเอเพื่อไทยแท้ๆ มาทีไรช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ ปัญหายาเสพติดต้องหมดไป พรรคเพื่อไทยมาทีไรใครจนอยู่ต้องรวยแน่นอน วันนี้ปัญหายาเสพติดหนักหน่วง ลูกหลานไปยุ่งเกี่ยวกับยาบ้าที่ราคาถูกและเข้าถึงลูกหลานง่าย นายอนุชิตบอกว่าจะเอาคนติดยามาบำบัดเรียนรู้อาชีพให้กลับเข้าไปอยู่ในสังคม อย่างไรก็ตาม ท้องถิ่นต้องประสานส่วนกลางเพื่อทำงานสอดคล้องกันทั้งประเทศ วันที่ 1 ก.พ. ขอให้กาเบอร์ 8 และมั่นใจว่านายอนุชิตไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
จากนั้นเวลา 12.35 น. ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม น.ส.แพทองธารปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้ชาวนครพนมมีรัฐมนตรีของตัวเอง มีนายสุริยะ มีนางมนพร สองคนนี้พูดน้อยแต่ทำงานหนัก เกิดปัญหาอะไรแจ้งได้เลยปัญหาหมดแน่นอน วันนี้มาฝากนายอนุชิตที่จะช่วยดูแลปัญหา เช่น เรื่องยาเสพติด นายอนุชิตตั้งใจทำเรื่องนี้ไปสุดทางแน่นอน ยาเสพติดต้องหมดไป ซึ่งยาเสพติดน้อยสุด สมัยพ่อใหญ่ทักษิณ และนายก อบจ.เป็นหน่วยปฏิบัติงานจริง บ่ขี้ตั๋ว บ่ขี้คร้าน ทำงานหนักเหลือเกิน ขอให้เลือกเบอร์ 8 อย่าลืมกันเด้อ
“วันนี้มาถึงพูดอะไรได้ไม่มาก โดนมองจับผิดว่าจะผิดกฎข้อนั้นข้อนี้ ตอนนี้นักร้องเสียงดีเยอะเหลือเกิน แต่เมื่อกี๊ตอนเดินเข้ามามีชาวบ้านกระซิบว่าแอบกดไลก์ในโซเชียลให้ทุกวัน ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ ที่มาหาเสียงวันนี้เป็นข้ออ้าง เพราะอยากได้กำลังใจจากพี่น้องชาวนครพนม จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ในส่วนที่ได้รับ ยืนยันปีนี้เป็นปีแห่งโอกาสแน่นอน ขอให้ทุกคนเลือกเบอร์ 8 ขอให้สุขภาพแข็งแรง ขอให้รวย รวย รวย ถ้วนหน้า”
จากนั้นเวลา 14.10 น. น.ส.แพทองธารเดินทางไปปราศรัยต่อเวทีที่ 3 ที่อาคารโดมสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ โดยปราศรัยว่า คิดฮอดกันบ่ คิดฮอดพ่อใหญ่บ่ ดูคนหน้าเหมือนไปก่อนเด้อ ไปมาสามเวที เวทีสุดท้ายยังไม่อยากกลับ พี่น้องนครพนมต้อนรับดี วันนี้อยากบอกว่า เรามั่นใจในนายอนุชิต ว่าที่นายก อบจ. ทำงานให้พี่น้องเต็มความสามารถแน่นอน วันนี้พี่น้องประชาชนรวยหรือยัง ถ้ายังไม่รวยต้องช่วยเต็มที่ ยาเสพติดเราก็จะช่วยแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ยาเสพติดมันเยอะมาตั้งแต่หลังสมัยพ่อใหญ่ เราจะกำจัดให้หมดภายในปีสองปี ปีนี้ต้องเอาให้หมดให้ได้ ขอให้คนของพรรคเพื่อไทยมาช่วยดูแลประชาชนให้อยู่ดีกินดี หนี้ลดลง และในเรื่องการศึกษา ตนอยากส่งเสริมการศึกษาให้ลูกหลานมีโอกาสได้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
'พิธา' โวสายน้ำไม่ไหลกลับ
ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน (ปชน.) ลงพื้นที่ช่วยนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ โดยช่วงเช้าได้ไปหาเสียงที่ตลาดอุ๊ยทา อำเภอสันกำแพง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยนายพิธาได้เดินตลาดพบปะประชาชน ถือโทรโข่งปลุกใจด้วยการขานเบอร์ผู้สมัครเสียงดัง
จากนั้นนายพิธาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ต้องมาที่นี่ว่า เพราะเป็นเขต สส.พรรคเรา ตนยังนึกถึงความไว้วางใจที่พี่น้องชาวสันกำแพงมอบให้มา ยังจำได้อยู่ภาพที่เห็นก็เป็นครอบครัวก้าวไกล-ประชาชน เป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น ครอบครัวในเชียงใหม่เราก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นความตั้งใจที่จะมาชวนพี่น้องชาวเชียงใหม่ให้ความไว้วางใจอีกครั้ง เพื่อจะให้ครอบครัวของเราขยายมากขึ้น จะได้ดูแลพวกท่าน หากครอบครัวของพวกเราใหญ่ขึ้น นั่นหมายความว่าการเมืองในสภา การแก้กฎหมายสำคัญ การแก้ไขปัญหาพื้นที่ รวมถึงงบประมาณที่จะนำมาใช้ อบจ. ก็มีหน้าที่โดยตรง เราจะได้ทำงานอย่างไร้รอยต่อกับท้องถิ่น
นายพิธากล่าวถึงการพูดคุยกับนายทักษิณในงานฉลองมงคลสมรส สส.พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนว่า ไม่ได้มีอะไร วันนั้นก็ทักทายตามปกติ พอเสร็จงานตนก็แพ็กของมาลงพื้นที่หาเสียงลำพูน เชียงใหม่ต่อ เชื่อว่าประชาชนต้องการการแข่งขันทางการเมืองที่เข้มข้นตรงไปตรงมา ทำงานเพื่อให้เขาสามารถมีความเชื่อถือและเชื่อมั่นได้ว่าความเป็นไปของเชียงใหม่ที่จับต้องได้ มันก็ผ่านมา 25 ปีแล้ว แกก็คงอยากจะเห็นว่าเชียงใหม่เปลี่ยนแปลงอะไร เจอโควิด ที่เรียกว่าเป็นเมืองปราบเซียนแล้ว ปราบเซียนเข้าไปใหญ่ เจอทั้งโควิด เจอทั้งฝุ่น เจอทั้งฝน ทั้งน้ำท่วม ดังนั้น ต้องมีคนรุ่นใหม่เข้าไปบริหารจัดการ
"พรรคเก่าที่ผ่านมาชอบที่จะแข่งขันและเน้นการแข่งขันกับตัวเอง เราก็จะโฟกัสกับปัจจัยที่เราพยายามควบคุมให้ได้มากที่สุด แล้วไปเทียบกับอดีตว่าทำได้ดีขึ้นมากหรือไม่ เชื่อว่าพี่น้องเชียงใหม่ เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ ก็จะให้โอกาสคนที่ตอบโจทย์กับยุคสมัย เราต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังวังชาและเจอกับความท้าทายใหม่ๆ ของเชียงใหม่" นายพิธากล่าวทิ้งท้าย
ภายหลังการให้สัมภาษณ์ นายพิธาได้เดินทางไปพักรับประทานอาหารที่ร้านเสน่ห์แม่กวง อำเภอดอยสะเก็ดต่อ ก่อนมีกำหนดการปราศรัยในช่วงเย็น
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 12 ม.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. นายจิรวัฒน์ อินทอง ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี อ.มะขาม ต.วังแซ้ม ต.ปัถวี และ ต.ฉมัน ได้ไปร่วมประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดวังแซ้ม จู่ๆ นาย ส. ซึ่งเป็นผู้ติดป้ายหาเสียงของผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี ที่เป็นคู่แข่งขัน ก็เข้ามาพูดจาในลักษณะข่มขู่หมายเอาชีวิตตน โดยบอกกับนายจิรวัฒน์ว่า "เดี๋ยววิโรจน์จะถูกยิง"
ผู้สมัคร ปชน.โวยถูกขู่ฆ่า
นายจิรวัฒน์จึงรีบโทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบเพื่อระวังตัว ตนจึงได้โทรศัพท์ไปปรึกษา พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองจันทบุรี ในวันที่ 11 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 20.00 น. พร้อมด้วย น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี เขต 3 พรรคประชาชน และนายวรายุทธ ทองสุข สส.จันทบุรี เขต 1 พรรคประชาชน เพื่อพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 (1) ขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้าย พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ได้ประสานให้นาย ส. โทรศัพท์เข้ามาพูดคุยกับตน ซึ่งนาย ส. ยอมรับว่าได้พูดกับนายจิรวัฒน์ในลักษณะที่รับฟังได้ว่าเป็นการข่มขู่หมายเอาชีวิตตนจริง และยอมรับว่าเป็นผู้ติดป้ายหาเสียงให้กับผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี อีกหมายเลขหนึ่ง ซึ่งเป็นคู่แข่งขันจริง แต่นาย ส. อ้างว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะยิงตนตามที่ได้พูดข่มขู่ และได้ขอโทษในสิ่งที่ได้กระทำลงไป
"ผมในฐานะผู้แทนราษฎร ปกติก็ไม่อยากจะดำเนินคดีกับประชาชนอยู่แล้ว และ พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ก็ได้รับปากว่าจะพยายามสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้ จึงตัดสินใจไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับนาย ส. โดยขอเพียงลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน ไม่ต้องเป็นห่วงผม ผมยังคงมีกำลังใจที่ดี และยังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยหาเสียงให้กับพี่หน่อย มานะ ชนะสิทธิ์ ผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี ของพรรคประชาชน อย่างไม่ย่อท้อต่อไป"
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า เราได้เน้นย้ำในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่จะเกิดขึ้น เช่นเดียวกับนโยบายปราบผู้มีอิทธิพล ซึ่งเรารู้ว่าปีนี้จะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้มากขึ้น ซึ่งนายวิโรจน์ขณะนี้เป็นผู้ถูกคุกคาม การไปแจ้งความก็เป็นสิ่งที่เขาต้องดำเนินการ เราในฐานะที่รับรู้เรื่องราวและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ต้องสืบสวนสอบสวน เรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอย่างไร และมีมาตรการชั้นต้นในการช่วยดูแลอยู่แล้ว เมื่อมีการร้องเรียนเข้ามา เราก็รับฟัง มีทั้งที่เป็นเหตุการณ์จริง หลายๆ อย่างเกิดขึ้นได้หมด ก็ต้องอยู่ที่ความเป็นจริง เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติดำเนินการได้
เมื่อถามว่า เกิดเหตุเฉพาะกับพรรคประชาชน ก่อนหน้านั้นก็โดนตามประกบลงพื้นที่หาเสียงแถวภาคเหนือ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องไปดูข้อเท็จจริง อะไรขัดกัน ไม่ใช่พรรคการเมือง แต่อะไรที่ขัดกันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ในข้อเท็จจริงของการก่ออาชญากรรม ไม่อยากให้แปลเป็นเรื่องการเมือง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ "กกต.จัดระเบียบ 'ทักษิณ' ด่วน" ระบุว่า ได้เห็นกำหนดการเดินสายปราศรัยของนายทักษิณ ลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทย ในความเป็นจริงนายทักษิณไม่ได้มีเป้าหมายหลักในการหาเสียงให้กับผู้สมัครนายก อบจ. แต่ต้องการใช้เวทีหาเสียงการเมืองท้องถิ่น เพื่อขยายผลไปยังการเมืองระดับชาติ โดยจะขึ้นปราศรัยในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของรัฐบาล ทั้งที่ตัวนายทักษิณไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล กลับประกาศนโยบายและแผนงานที่จะทำของรัฐบาล จนอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของตัวผู้สมัครได้
'ทักษิณ' ปราศรัยไร้ผล
"เรื่องนี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แสดงความเห็นในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่ฟันธงว่านายทักษิณทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ อยากให้ กกต.ได้เร่งสรุปการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณว่าฝ่าฝืนหรือผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ เพราะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในระหว่างผู้สมัครด้วยกัน ถ้า กกต.ยังปล่อยให้นายทักษิณปราศรัยหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมายเช่นนี้ และไปสรุปหลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว ก็อาจจะช้าเกินไป จนอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และจัดเลือกตั้งใหม่ กกต.กล้าๆ หน่อย อย่าเกรงกลัว เกรงใจคนทำผิดกฎหมายอีกเลย" นายเทพไทระบุ
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ทักษิณปราศรัยเชียงใหม่ เชียงราย …แล้วเราควรตัดสินใจอย่างไร” ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,803 หน่วยตัวอย่าง เมื่อถามถึงการตัดสินใจของประชาชนที่มีต่อการปราศรัยหาเสียงของคุณทักษิณ ชินวัตร เพื่อสนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ของพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 37.11 ระบุว่าไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เพราะจะไม่เลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว รองลงมา ร้อยละ 23.24 ระบุว่าส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกพรรคเพื่อไทย, ร้อยละ 17.06 ระบุว่าไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เพราะจะเลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว, ร้อยละ 13.59 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจใดๆ และร้อยละ 9.00 ระบุว่าส่งผลต่อการตัดสินใจ ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย
ด้านความคิดเห็นต่อผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ในครั้งนี้ อาจส่งผลต่อการเลือกตั้ง สส.จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งถัดไป พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 30.37 ระบุว่าไม่ส่งผลเลย รองลงมา ร้อยละ 28.87 ระบุว่าส่งผลมาก, ร้อยละ 24.74 ระบุว่าค่อนข้างส่งผล, ร้อยละ 14.43 ระบุว่าไม่ค่อยส่งผล และร้อยละ 1.59 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับการตัดสินใจที่มีต่อการปราศรัยหาเสียงของคุณทักษิณ เพื่อสนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ.เชียงรายของพรรคเพื่อไทย พบว่า ร้อยละ 33.01 ระบุว่าไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เพราะจะไม่เลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว รองลงมา ร้อยละ 26.09 ระบุว่าส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกพรรคเพื่อไทย, ร้อยละ 17.12 ระบุว่าไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เพราะจะเลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว, ร้อยละ 14.54 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจใดๆ
เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ในครั้งนี้ อาจส่งผลต่อการเลือกตั้ง สส.จังหวัดเชียงรายในครั้งถัดไป พบว่า ร้อยละ 36.96 ระบุว่าไม่ส่งผลเลย รองลงมา ร้อยละ 25.95 ระบุว่าส่งผลมาก, ร้อยละ 20.24 ระบุว่าค่อนข้างส่งผล, ร้อยละ 16.44 ระบุว่าไม่ค่อยส่งผล และร้อยละ 0.41 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กอ้วนตอกยํ้า แจก‘เงินดิจิทัล’ ‘อนุสรณ์’เตือน
“ภูมิธรรม” ยันรัฐบาลเร่งแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
รพ.ตำรวจอึมครึม เวชระเบียนชั้น14
เส้นตายพุธนี้! แพทยสภาสอบหมอช่วย "ทักษิณ" อึมครึม "แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ" ปัดตอบส่งเอกสารหรือยัง
‘จ่าเอ็ม’เครียด อุบ‘ผู้มีบุญคุณ’ ตร.หิ้วฝากขัง!
ตำรวจเค้นสอบ “จ่าเอ็ม” ตลอดคืน ยังให้การไม่เป็นประโยชน์คดียิงอดีต
ลุยเปิดกาสิโนส่อสะดุด กฤษฎีกาโดดขวางเต็มสูบ
แนวคิดการทำให้ พนันออนไลน์ ขึ้นมาอยู่บนดิน ตามที่ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำรัฐบาลเพื่อไทยตัวจริงส่งสัญญาณมา หลายคนยังมองโมเดลนี้ไม่ออกว่าจะทำได้อย่างไร เพราะน่าจะติดล็อกข้อกฎหมายหลายอย่าง รวมถึงต้องเจอแรงต้านในส่วนของภาคประชาสังคม
จับตา!เคาะ‘กาสิโน’ คลังชงเข้าครม.ไฟเขียว/นักวิชาการชี้ผลประโยชน์ทับซ้อน
จับตา “คลัง” เล็งชงเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้า ครม.จันทร์นี้หรือไม่ หลัง
‘อิ๊งค์’ ลุยนครพนมช่วย ‘อนุชิต’ อ้อนขอคะแนนเสียง
หัวหน้า “อิ๊งค์” ลุยนครพนมช่วย “อนุชิต” ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม เพื่อไทยหาเสียง อ้อนได้กำลังใจกลับไปทำงาน ขอให้กาเบอร์ 8 ดีเอ็นเอ พท.