“ภูมิธรรม” ยันรัฐบาลเร่งแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ และให้เรียนรู้การปฏิบัติใช้เงินดิจิทัล นักวิชาการเตือนระวังช่องว่างดิจิทัล ที่จะทำให้ความเหลื่อมล้ำในสังคมเพิ่มมากขึ้น
เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวตอนหนึ่งระหว่างตรวจเยี่ยมและพบปะรับฟังปัญหาจากประชาชนที่สำนักงานเทศบาลตำบลบุญเรือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากความระลึกถึง และฝากสวัสดีปีใหม่ประชาชน ซึ่งรัฐบาลประกาศชัดเจนว่าปีนี้จะเป็นปีสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะอำเภอไหน จังหวัดใด หรือภาคไหน รัฐบาลให้ความสำคัญเท่าเทียมกันที่ต้องดูแล ซึ่งรัฐบาลทราบดีแม้ทำงานเพียง 4 เดือน ทั้งเศรษฐกิจที่รัฐบาลพยายามแก้ไขให้ได้ ปีนี้ต้องเห็นผล โดยการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นพื้นฐานแก้ปัญหา
นายภูมิธรรมยังได้สอบถามว่าในพื้นที่นี้มีใครได้เงินดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลได้จ่ายเป็นงวด เพราะประสบความยากลำบาก เพราะมีข้อคิดเห็นแตกต่างกันไป รัฐบาลก็รับไปถกเถียง ใช้เวลาเป็นปีกับความเห็นที่แตกต่างที่รับฟังมา แต่เป้าหมายของเราคืออยากกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะมอบให้กับผู้อายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เมื่อมีปัญหาจำเป็นต้องแบ่งจ่ายดิจิทัลวอลเล็ตบางส่วนได้แล้ว กลุ่มผู้สูงอายุได้ประมาณตรุษจีน
“เงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่เงินได้เปล่า เราใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและให้เรียนรู้การปฏิบัติวิธีการในการใช้โซเชียลด้วยเงินดิจิทัล อยากได้ประชาชนเรียนรู้ เข้าใจปฏิบัติได้ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพักชำระหนี้ การดูแลสินค้าเกษตรสูงขึ้น” นายภูมิธรรมกล่าว
ด้าน รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า พลวัตเศรษฐกิจดิจิทัลในปี 2568-2570 จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดดมากกว่าเดิม ภายใต้การแข่งขันทางเทคโนโลยีของกลุ่ม G-8 รวมทั้งการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นระหว่างสองมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาและจีน
รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวอีกว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งหลายภายใต้เศรษฐกิจแบบดิจิทัลสามารถทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและการแบ่งขั้วในสังคมเพิ่มขึ้นก็ได้ ลดลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเหล่านี้ไปในทางไหน และด้วยการกำกับดูแลทั้งทางนโยบายอย่างไร หรือกลไกตลาดในระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปอย่างไร ทุนนิยมโลกาภิวัตน์และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลมีผลทำให้เกิดการแบ่งขั้วด้านอาชีพมากขึ้น อัตราการเติบโตของค่าตอบแทนระหว่างผู้บริหารระดับสูง กับอัตราการเติบโตของค่าตอบแทนของคนงานทั่วไปถ่างกว้างมากขึ้นทุกวัน เช่นเดียวกับแรงงานที่มีทักษะทางด้านดิจิทัล และแรงงานที่ไม่มีทักษะในเรื่องดังกล่าว เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องช่องว่างดิจิทัล เนื่องจากช่องว่างดิจิทัลจะทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมย่ำแย่ลง
รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวอีกว่า ศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยอยู่ในระดับไม่ดีนัก เนื่องจากปัญหาการเข้าถึงเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ของประชาชนส่วนใหญ่ หากเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ประเทศไทยมีสัดส่วนครัวเรือนที่มีคอมพิวเตอร์ไม่ถึง 25% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่ 49% และค่าเฉลี่ยของประเทศกำลังพัฒนาที่ 38% ขณะที่ไทยมีสัดส่วนครัวเรือนที่มีอินเทอร์เน็ตที่บ้าน 68% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่ 55% และค่าเฉลี่ยของประเทศกำลังพัฒนาที่ 44%
“ช่องว่างทางดิจิทัลมิใช่เป็นช่องว่างเชิงเดี่ยว แต่เป็นช่องว่างหลายมิติ เช่น เกิดขึ้นระหว่างประเทศ เกิดขึ้นระหว่างเพศ เกิดขึ้นระหว่างวัย ฯลฯ กรณีของไทย หากพิจารณางบประมาณทั้งปี 2568 และ 2569 ต้องเพิ่มการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลและไอซีทีเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน หากไทยต้องการเป็นศูนย์กลางทางด้าน Data Center ต้องเตรียมพร้อมทางด้านทักษะแรงงาน ทำให้ค่าน้ำค่าไฟฟ้าถูกลง เพียงพอต่อการใช้งานในทุกภาคเศรษฐกิจ ภาคครัวเรือน ไม่ก่อให้เกิดปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรน้ำและไฟฟ้าจากการลงทุนโครงการทางด้าน Data Center” รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อิ๊งค์หาเสียงฟุ้งพท.มาคนจนรวยแน่
"หัวหน้าอิ๊งค์” ลุยนครพนม ช่วย “อนุชิต” ผู้สมัครนายก อบจ.เพื่อไทยหาเสียง
รพ.ตำรวจอึมครึม เวชระเบียนชั้น14
เส้นตายพุธนี้! แพทยสภาสอบหมอช่วย "ทักษิณ" อึมครึม "แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ" ปัดตอบส่งเอกสารหรือยัง
‘จ่าเอ็ม’เครียด อุบ‘ผู้มีบุญคุณ’ ตร.หิ้วฝากขัง!
ตำรวจเค้นสอบ “จ่าเอ็ม” ตลอดคืน ยังให้การไม่เป็นประโยชน์คดียิงอดีต
จับตา!เคาะ‘กาสิโน’ คลังชงเข้าครม.ไฟเขียว/นักวิชาการชี้ผลประโยชน์ทับซ้อน
จับตา “คลัง” เล็งชงเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้า ครม.จันทร์นี้หรือไม่ หลัง
‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!
"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย
‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา
กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ