เป็นแม่ที่ดีหรือยัง! ‘อิ๊งค์’ เปิดอกวันเด็กสมัยก่อนไม่มีไอแพดโวยถูกบูลลี่

"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานวันเด็กคึกคัก! เด็กขอถ่ายรูปแน่น พี่อิ๊งค์ล้อมวงเปิดอกตอบคำถามเด็กๆ มีพ่อเป็นต้นแบบ เผยวัยเด็กไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ พี่มีลูกสองคน ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นแม่ที่ดีแล้วหรือยัง บ่นพึมถูกบูลลี่เรื่องการแต่งตัว

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 มกราคม 2568 ที่กระทรวงศึกษาธิการ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด "เรียนดี มีความสุข Smart Kids, Happy Future" โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และคณะผู้บริหารเข้าร่วม

เมื่อมาถึงตัวแทนเด็กและเยาวชนได้มอบพวงมาลัยให้นายกฯ จากนั้นนายกฯ สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 ก่อนเดินมาที่เวทีจัดงาน โดยนายกฯ มอบของขวัญ เช่น ตุ๊กตาหมี ลูกฟุตบอล ให้กับเด็กซึ่งเป็นตัวแทนจากทั่วประเทศ

จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดงานว่า วันนี้ถือว่าเป็นปีแรกของตนในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานวันเด็กที่กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก รมว.ศึกษาธิการเตรียมงานไว้ดีมาก และเมื่อสักครู่ได้เห็นน้องๆ มาแสดงบนเวที เป็นเด็กตัวเล็กๆ รู้สึกว่าน่ารักมาก  เก่งมาก จำบทได้และสามารถพูดได้ ตนประทับใจ ถือเป็นการเริ่มวันเด็กที่สดชื่นและสดใส ลีลาการเต้น สไตล์การเต้นต้องผ่านการฝึกฝน ความชอบ ความตั้งใจ และความสามัคคีในหมู่คณะ รวมถึงต้องอาศัยทุกอย่างให้โชว์ออกมาได้ดีและน่าประทับใจ ซึ่งพี่ขอชื่นชมและขอสนับสนุนให้น้องๆ ไปทางด้านนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะมันไม่ใช่การที่เราซ้อมวันสองวันแล้วได้เลย น้องๆ ต้องซ้อมเป็นเดือนหรือเป็นปีไปชิงแชมป์โลก นำชื่อเสียงกลับมาให้กับประเทศได้มากขนาดนี้ ก็ขอชื่นชมจากใจจริง

นายกฯ กล่าวต่อว่า เรามีครอบครัว มีพ่อ แม่ พี่ น้อง เราเปิดโอกาสให้เด็กๆ สมัยใหม่ได้เรียนรู้ด้วยตัวของเขาเอง โดยมีผู้ใหญ่คอยอยู่ข้างๆ คอยแนะนำและบอกเล่าประสบการณ์ที่ผู้ใหญ่เจอมาเพื่อให้เด็กมีความรู้ มีข้อมูลที่มากพอ พร้อมที่จะตัดสินใจ และทำไมคำขวัญปีนี้ถึงพูดว่า ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง

ซึ่งทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคต เราสามารถเรียนรู้ได้ทุกรุ่น ทุกวัย ไม่จำเป็นว่าผู้ใหญ่โตแล้วไม่ต้องเรียนรู้ ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ ทุกคนหันหน้าเข้าหากัน เปิดใจ พร้อมเรียนรู้พร้อมรับฟังซึ่งกันและกัน นั่นคือโอกาสแห่งการเรียนรู้ นี่คือที่มาของคำขวัญวันเด็กในปีนี้ และแน่นอนว่าอยากให้น้องๆ ได้รู้ว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว วันนี้เทคโนโลยีเข้ามามาก แต่ทุกคนต้องพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับโลกและยุคสมัย ให้เรารู้คุณค่าของตัวเรา พร้อมที่จะปรับตัวสู่อนาคต

จากนั้นนายกฯ เดินทักทายเด็กๆ เยาวชน และเยี่ยมชมบูธภาครัฐและเอกชนภายในกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้เยี่ยมบูธของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ถ่ายภาพเซลฟีกับเด็กๆ พร้อมแจกลายเซ็นข้อความว่า “เป็นกำลังใจให้น้องต้องตา” นายกฯ ยังได้อุ้มเด็กน้อยซึ่งเด็กได้ร้องไห้หลังนายกฯ อุ้ม จากนั้นนายกฯ เดินมายังซุ้มของคิงเพาเวอร์เพื่อแจกลูกบอลให้กับเด็กๆ และได้ถ่ายภาพร่วมกับลูกเสือเนตรนารี

ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีเด็กๆ และผู้ปกครองสนใจขอถ่ายภาพร่วมกับนายกฯ เป็นจำนวนมาก

สู่อนาคตที่เลือกเอง

ต่อมาเวลา 09.20 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำเด็กนักเรียนและเยาวชนที่มีความสามารถและเป็นเยาวชนผู้ด้อยโอกาสจากบ้านเฟื่องฟ้า มานั่งเก้าอี้นายกฯ พร้อมถ่ายภาพร่วมกับ น.ส.แพทองธาร และรับของที่ระลึก จำนวน 10 คน ประกอบด้วย 1.เด็กชายภูผา มะเปลี่ยนสี 2.เด็กหญิงศันสนีย์ ดวงบุตร 3.เด็กชายธวัฒชัย นาคส่องแสง 4.เด็กชายนพดล ประชุม 5.เด็กหญิงฉัตรสุดา พุ่มดอกไม้ 6.นางสาวภัทรานิษฐ์ จัยวัฒน์ 7.นางสาวพิมพาพร กว้านสกุล 8.นายภากร ตีนทอง 9.เด็กหญิงนิธิศา สุขบินทรีย์ และ 10.เด็กชายนนทกร ท่านำ

               จากนั้นเวลา 10.00 น. นายกฯ เดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรี โดยมีขบวนกลองยาวจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) นำขบวนนายกฯ ทันทีที่นายกฯ ถึงตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ได้ชมการแสดงฟ้อนบายศรีหลวงจากเด็กและเยาวชนจากบ้านเฟื่องฟ้า บ้านนนทภูมิ บ้านราชาวดีหญิง และบ้านราชาวดีชาย และการแสดงชุด Under The sea จินตลีลาประกอบเพลงโดยสมาคมเยาวชนจิตอาสาพัฒนา และบทเพลง Part of Your World ขับร้องโดย ด.ญ.อัยย์ ธรรมวาริน

เสร็จแล้วนายกฯ ให้โอวาทว่า วันนี้เป็นปีแรกของตนในฐานะนายกฯ ที่ได้มีโอกาสมาเปิดงานวันเด็ก คำขวัญวันเด็กปีนี้คือ “ทุกโอกาสคือการเรียนรู้  พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ตนเป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย จริงๆ แล้วทุกโอกาสถ้าเราสามารถเรียนรู้ได้จากเหตุการณ์ต่างๆ คนต่างๆ ที่มีหลายอาชีพหลายประสบการณ์ โอกาสเหล่านั้นจะสามารถเพิ่มความรู้ให้เราได้ อันนั้นเป็นกำไรกับชีวิต เราสามารถหาความรู้ได้จากทุกภาคส่วน การที่เราเป็นคนที่รับฟัง เปิดกว้าง เราสามารถเรียนรู้ได้จากทุกคน โลกที่ปรับตัวอย่างรวดเร็วเราต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน การที่เรารู้ตัวและพร้อมปรับตัวเสมออันนั้นคือสิ่งดี  อยากให้น้องๆ มีสิทธิเลือกอนาคตของตัวเอง ชอบอะไร อยากทำอะไรเพื่อสังคมเพื่ออนาคตของตัวเอง ก็ขอให้มีสิทธิเลือก แต่ก็อยากมีผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ คอยให้คำปรึกษาอยู่ข้างๆ เราก็จะดำเนินชีวิตได้อย่างมีสติ มีข้อมูล และเลือกอนาคตที่เราชอบได้

เป็นแม่ที่ดีแล้วหรือยัง

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า "เด็กทุกคนมีวัยเด็กที่แตกต่างกันไป อย่างพี่เองก็มีวัยเด็กที่แตกต่างจากน้องๆ สมัยก่อนไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ ก็ไม่มี เรามีเทคโนโลยีแล้วก็จริง แต่อยากให้ใช้เวลากับคนที่อยู่ข้างหน้าด้วย จะได้เรียนรู้ความแตกต่างของเพื่อนๆ ได้ นั่นคือสิ่งสำคัญของวัยเด็ก สำหรับผู้ปกครองที่อยู่ในที่นี้ มีคำพูดที่ว่าการเป็นพ่อแม่ที่ดีเป็นอย่างไร พี่มีลูกสองคน ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นแม่ที่ดีแล้วหรือยัง เราให้เวลาลูกน้อยไปหรือเปล่า เราสอนลูกถูกไหม เราตามใจไปหรือเปล่า  คุณพ่อคุณแม่อาจมีคำถามเหล่านั้นในใจ เข้าใจได้ แต่ได้ยินมาคำหนึ่งแล้วรู้สึกชอบ เป็นกำลังใจให้คนเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นคำว่า “พ่อแม่ที่ดีคือพ่อแม่ที่มีความสุข” มั่นใจว่าพ่อแม่ในห้องนี้เป็นพ่อแม่ที่มีความสุข ซึ่งจะสะท้อนมาถึงลูก และเราเป็นพ่อเป็นแม่ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง แต่พ่อแม่ที่มีความสุขที่ซัพพอร์ตและให้กำลังใจลูกอยู่เสมอ นั้นคือพ่อแม่ที่ลูกของเราต้องการ ขอให้กำลังใจพ่อแม่ทุกท่านเลี้ยงลูกให้เป็นความสุขของเขาและเป็นความภูมิใจที่เราได้เห็นพวกเขาเติบโตขึ้นทุกวันอย่างสมวัย และเป็นกำลังของประเทศชาติต่อไปในอนาคต”

จากนั้นเวลา 10.40 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) น.ส.แพทองธารนั่งล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนเด็กและเยาวชนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จากกรุงเทพมหานคร นครปฐม และสมุทรปราการ จำนวน 40 คน และผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จำนวน 6 คน จากภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ประกอบด้วย โรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี, โรงเรียนนารีนุกูลอุบลราชธานี, โรงเรียนสมาคมพยาบาลไทยจังหวัดน่าน และโรงเรียนมัธยมพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน

นายกฯ กล่าวว่า พี่จบจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย เป็นโรงเรียนหญิงล้วน จบแล้วไปต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 1 ถึงปี 4 และเรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ เรียนจบสาขาโรงแรมเพราะว่าที่บ้านทำธุรกิจโรงแรมก็เลยอยากทำต่อ  สรุปมาทำการเมืองแทน ความจริงอะไรที่เราแพลนไว้ไม่ได้ตามที่เราแพลนทุกอย่าง คำขวัญวันเด็กถึงได้พูดว่าพร้อมปรับตัวสู่อนาคต วันนี้น้องๆ มีคำถามอะไรถามได้เลย

บ่นถูกบูลลี่การแต่งตัว

โดยนักเรียนจากโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ถามนายกฯ ว่าเหนื่อยหรือเปล่ากับการทำงานในตำแหน่งนายกฯ ซึ่งนายกฯ ตอบว่า คิดว่าทุกตำแหน่งเหนื่อยคนละแบบ ความจริงเป็นนายกฯ เหนื่อย แต่เหนื่อยปกติ อาจจะมีวันหยุดน้อยหน่อย เพราะเราหยุดอาจจะโดนว่าก็เลยทำให้ไม่ได้หยุด เป็นนายกฯ หยุดอาจจะผิดเล็กน้อย แต่ความจริงไม่เหนื่อย เพราะมีกำลังใจที่ดี เวลาผลงานที่ทำออกไปแล้วเราทำด้วยความตั้งใจ เพราะเราตั้งใจทำ บางคนบอกว่าได้รับประโยชน์มันอิ่มใจ ใจมันฟู สิ่งที่พี่กำลังจะทำเรื่องของทุนการศึกษา ถ้ามีใครได้มีโอกาสในการศึกษาเพิ่มขึ้นจากรัฐบาลนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้หายเหนื่อย เพราะฉะนั้นต้องตั้งใจทำงานให้นโยบายออกเยอะๆ ประชาชนได้ประโยชน์เยอะก็จะหายเหนื่อย

จากนั้นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนหอวัง เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ถามว่าเป็นผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดคิดว่ามันยากหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ทุกอายุมีความสามารถ การเป็นนายกฯ อายุน้อยที่สุดสร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทย ความจริงแล้วคิดว่าเนื้องานของการทำงานไม่ได้ต่างกับผู้ชาย แน่นอนมันก็ยังมีในเรื่องของความบูลลี่นิดนึงในความที่เราเป็นผู้หญิง อันนี้ถ้าสังคมเปิดกว้างขึ้น โลกเปิดกว้าง มีการพัฒนาตรงนี้มากขึ้นและเข้าใจมากขึ้นคิดว่าตรงนี้จะน้อยลง

น.ส.แพทองธารบอกว่า เคยอ่านหนังสือเขาบอกว่านักการเมืองหญิงทั่วโลกจะถูกบูลลี่ในเรื่องต่างๆ สมมุติว่าเป็นผู้หญิงทำไมใส่ชุดนี้ ชุดนั้น แต่ผู้ชายใส่ชุดสูทชุดเดียวจบ ก็เลยไม่มีใครสนใจ สิ่งที่ยากคือตรงนี้ เพราะเราเป็นผู้หญิงโดนบูลลี่ในเรื่องนี้ ถามว่าทำอย่างไร เราต้องรู้คุณค่าของตัวเราก่อน ต้องรู้ว่าเรามาทำตรงนี้เพื่ออะไร มีความตั้งใจอย่างไร เรามีดีอะไรบ้าง เราอยากทำเรื่องดีๆ ให้ใครบ้าง อันนี้คือสิ่งที่เราตั้งใจ และต้องมีสติเยอะๆ คำว่าสติสอนกันมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ว่าให้มีสติ เราฟังผ่านๆ  แต่เมื่อโตขึ้น เมื่อชีวิตมีเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น เราก็จะคิดว่าคำนี้มันสำคัญ พี่ขอบอกไว้ก่อน เผื่อโตขึ้นไปจะรู้สึกว่าคำนี้สำคัญมากคือคำว่าสติ

ภูมิใจ 30 บาทรักษาทุกโรค

ต่อมาเด็กนักเรียนจากโรงเรียนราชวินิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ ถามนายกฯ ว่าอะไรคือแรงบันดาลใจของนายกฯ โดยนายกฯ ตอบว่า แรงบันดาลใจมีหลายอย่าง แรงบันดาลใจที่หนึ่งคือคุณพ่อพี่เคยเป็นนายกฯ เคยทำนโยบายไว้ให้ประเทศชาติ จนถึงทุกวันนี้คือนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนฝั่ง นโยบายนี้ยังอยู่ ยังได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ ทำให้พี่รู้สึกว่าพี่อยากทำนโยบายนี้ ไม่ว่าตัวพี่ไปอยู่ที่ไหน แต่ประโยชน์นี้ยังอยู่ที่ประชาชนอยู่ ถ้าทำได้พี่จะรู้สึกมีความภูมิใจ และรู้สึกว่าเรื่องดีๆ ยังตกอยู่ที่ประชาชนไม่ว่ามันจะเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม อันนี้คือแรงบันดาลใจแรก ส่วนแรงบันดาลใจที่สอง พี่คิดว่าจากที่เห็นประเทศชาติวุ่นวายแล้วเรามีโอกาสมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ทำเรื่องต่างๆ ให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ และแรงบันดาลใจที่สามคือลูกๆ อย่างน้อยๆ ในเทอมที่เป็นนายกฯ พี่ได้สร้างสิ่งดีๆ ไว้ให้กับประเทศ นั่นก็เป็นการเตรียมพร้อมอนาคตส่วนหนึ่งให้กับลูกๆ ด้วย

จากนั้นเด็กจากโรงเรียนสมาคมพยาบาลไทยจังหวัดน่าน ถามนายกฯ ว่าได้เห็นพี่อิ๊งค์ทำกับข้าวให้ลูกๆ กิน คิดว่าพี่อิ๊งค์เป็นแม่ที่ใจดี และมีเมนูอาหารที่จะมาแนะนำพวกหนูหรือไม่ โดยนายกฯ ยิ้มเขินก่อนตอบว่า พี่ตอบเสร็จแล้วไม่ต้องเชิญพี่ไปออกรายการทำอาหารที่ไหน สมัยตอนที่พี่มีลูกคนแรกลูกสาว 4 ขวบตอนนั้นเป็นช่วงโควิด-19 ทำอาหารให้ลูกทานได้ 3 มื้อ เพราะว่าเราอยู่บ้าน ไปซูเปอร์มาร์เก็ตเอง ซื้ออาหารทำเอง แต่ว่าลูกยังพูดไม่ได้ก็เลยไม่มีคอมเมนต์ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ แต่พอทานได้อยู่ และเมนูโปรดที่ทำกับลูกคือทำอะไรที่เด็กๆ ชอบทาน

"ที่บ้านปลูกผักปลอดสารพิษให้น้องๆ ไปเก็บผักและนำมาทอดกรอบ เราเรียกกันง่ายๆ ในบ้านว่า “บุ้งกรอบ” มันทำง่ายๆ ก็แค่ผสมแป้งสำเร็จรูปและชุบให้เด็กๆ ทอด ซึ่งคนถามว่าไม่กลัวร้อนเหรอ ซึ่งเด็กประมาณ 3-4 ขวบ เราบอกเขาได้ อย่าไปห้าม ไปตัดโอกาสเขาทุกอย่าง เขาบอกว่าเด็กอย่าไปตัด แต่ให้เติม ทั้งนี้ ที่ทำเมนูบุ้งกรอบเพราะเด็กๆ ชอบทานผักบุ้งทอดกรอบ เมื่อเขาทำเองจะได้มีความภูมิใจในการทอดทีละอัน และอีกเมนูหนึ่งที่ทำง่ายๆ คือให้ฝึกทอดไข่เจียว ให้เลือกรสชาติที่ชอบ แต่แม่คอยย้ำว่าอย่าเค็มเกินไป แต่จะให้ทำเมนูที่ยากมากกว่านี้คงต้องไปเรียน อย่างแกงพะแนงและแกงเขียวหวานแม่ทำไม่เป็น"

ต่อจากนั้นนายกฯ ถ่ายภาพกับนักเรียน Thailand Zero Dropout นักเรียนนอกระบบการศึกษาที่ได้รับการนำกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง และกลุ่มเยาวชนที่ชนะการแข่งขันกีฬาประเภทจักรยานทรงตัวในรายการแข่ง RSR Runbike Championship in Songkhla ทั้งนี้ ตัวแทนนักเรียนได้มอบตุ๊กตาทำมือให้กับนายกฯ ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!

"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย

‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา

กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ

‘บิ๊กอ้วน’ เอาใจทอ. เคาะซื้อ ‘กริพเพน’

ปิดจ๊อบภายในปีนี้! "บิ๊กอ้วน" ไฟเขียว ทอ.เลือก "กริพเพน" มั่นใจคนใช้เป็นคนเลือก รออนุมัติแบบหลังทีมเจรจาออฟเซตกับสวีเดนจบ แจงทูตสหรัฐแล้ว ไทยยันไม่มีนโยบายกู้เงินซื้ออาวุธตามข้อเสนอขายเอฟ

'เลโก้' ยกทัพศิลปินฉลองวันเด็กยิ่งใหญ่

เลโก้ ผนึกกำลัง สยามพารากอน จัดงาน SIAM PARAGON WORLD PLAYGROUND 2025 ฉลองวันเด็กสุดยิ่งใหญ่ เนรมิตทั่วทุกพื้นที่สร้างเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมส่งมอบรอยยิ้มแห่งความสุขให้กับคุณหนูๆ ต่อเนื่องตลอด 4 วันเต็ม คิกออฟกับงาน Siam Paragon X LEGO KIDS DAY 2025 : KIDSTOPIA ชวนคุณหนูๆ มาร่วมสร้างมหานครในฝันที่มาพร้อมกับทัพกิจกรรมและของขวัญสุดพิเศษกว่า 2,000 ชิ้น ตั้งแต่วันนี้ ถึง 12 มกราคม 2568 ณ แฟชั่นฮอลล์ และแฟชั่น แกลเลอรี่ ชั้น 1 สยามพารากอน

'พี่อิ๊งค์' ล้อมวงเปิดอก ตอบคำถามเด็กๆ นายกฯอาจเหนื่อยเพราะวันหยุดน้อย

ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนเด็กและเยาวชนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จากก

'มาดามหยก' ส่ง 'ก้าวอิสระ' ร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ

วันเด็กแห่งชาติ หลายพื้นที่ทั้งส่วนราชการ และภาคเอกชน ต่างพากันจัดงาน และกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติกันอย่างคึกคัก ซึ่งในส่วนของภาคการเมือง ไ