ผกก.สน.ชนะสงครามยันออกหมายจับมือยิง “ลิม กิมยา” แค่ 2 คน “เมียอดีต สส.ฝ่ายค้าน” ให้การล่วงหน้า ชี้ไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นมาก่อน โอดถูกยิงแต่ไม่มีใครช่วยเหลือ พี่เขยบอกคนชี้เป้าอยู่บนรถเมล์!
เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ม.ค.2568 พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เปิดเผยความคืบหน้าคดีนายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านประเทศกัมพูชา ถูกนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม อดีตทหารเรือยิงเสียชีวิต บริเวณเกาะกลางถนนย่านบางลำพู ว่าได้นัดหมายภรรยาชาวฝรั่งเศสและพี่ชายนายลิมไปพบพนักงานอัยการที่ศาลอาญาเพื่อสอบปากคำล่วงหน้า เนื่องจากทั้ง 2 คนต้องเดินทางกลับประเทศต้นทาง ส่วนน้องสาวของจ่าเอ็มพร้อมกับสามี พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไปแล้ว ในกรณีที่เป็นผู้รับกระเป๋าที่มีอาวุธปืนของจ่าเอ็มภายหลังก่อเหตุยิงนายลิมจนเสียชีวิต โดยทั้งสองคนให้การเป็นประโยชน์ และขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ตั้งข้อหา และปล่อยตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ม.ค.
“ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุเพียง 2 คนคือ นายเอกลักษณ์ และ MR.PICH KIMSRIN อายุ 24 ปี สัญชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นคนชี้เป้า” พ.ต.อ.สนองกล่าว
ต่อมาที่ศาลอาญา พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา 7 ได้ยื่นคำร้องขอสืบพยานบุคคลก่อนฟ้องในคดีนายเอกลักษณ์ยิงนายลิมเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 7 ม.ค. โดยคำร้องระบุว่า สน.ชนะสงครามขอให้สืบพยานไว้ก่อนฟ้องคดี เนื่องจากพยานเป็นชาวต่างชาติ และจะเดินทางกลับประเทศในวันที่ 11 ม.ค.2568
ภรรยาของนายลิมให้การว่า นายลิมประกอบอาชีพเป็นวิศวกรด้านการเงิน และเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และยืนยันว่าสามีไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองหรือกระทบกระทั่งกับผู้ใดมาก่อน โดยในวันเกิดเหตุเดินทางเข้ามายังประเทศไทยพร้อมกับนายลิมและพี่เขยเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ไปพักผ่อนยังเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเป็นเวลา 4 วัน ก่อนเดินทางมายังกัมพูชาและผ่านเข้ามาไทยผ่านเส้นทางบริเวณชายแดนปอยเปต
ภรรยานายลิมให้การอีกว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเองและนายลิมเดินทางมาถึงยังจุดเกิดเหตุบริเวณใกล้กับวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นบริเวณที่มีจราจรติดขัด ก่อนที่ตนเอง พี่เขยและนายลิมจะนำสัมภาระลงจากรถบัสและเดินไปข้ามถนนยังด้านหลังเพื่อไปยังฟุตปาธกลางถนน ปรากฏว่าหลังจากนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายกับเสียงประทัดดังขึ้นประมาณ 2 ครั้งจากบริเวณข้างหน้า จึงหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่าพบเห็นชายคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อยืด หันหน้ามาทางตน แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเป็นชาวบ้านทั่วไปที่เดินผ่านไปมาบริเวณนั้น หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วขี่หนีไป
ต่อมาทนายความได้นำรูปของนายเอกลักษณ์มาให้ภรรยาของนายลิมดู เพื่อให้เทียบว่าใช่คนเดียวกับผู้ก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งภรรยาของนายลิมมั่นใจว่าใช่คนเดียวกัน ภรรยาของนายลิมให้การต่อว่า ภายหลังจากที่เกิดเสียงดังคล้ายประทัดดังขึ้นแล้ว พี่เขยได้ตะโกนขึ้นมาว่านายลิมถูกยิง ซึ่งในขณะนั้นนายลิมยังไม่เสียชีวิต แต่ไม่มีสติแล้ว โดยพบว่าสามีถูกยิงตรงบริเวณด้านหลัง 2 นัด จึงพยายามช่วยชีวิตด้วยวิธีการซีพีอาร์ แต่ปรากฏว่าสามีของอาการแย่ลงเรื่อยๆ มีเลือดออกจำนวนมาก จึงขอความช่วยเหลือจากประชาชนรอบข้าง แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วย ผ่านไปสักพักจึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งพร้อมแพทย์เข้ามาทำการช่วยเหลือ แต่ในเวลานั้นหลังจากที่จับชีพจรของสามีปรากฏว่าชีพจรไม่เต้น จึงทำให้มั่นใจว่าสามีได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยพี่เขยก็เห็นคนชี้เป้าอยู่บนรถโดยสารประจำทาง
ภรรยาของนายลิมให้การอีกว่า เวลาที่สามีถูกยิงคาดว่าเป็นเวลาประมาณ 17.30-17.45 น. และหลังจากนั้นได้ไปให้ปากคำที่ สน.ชนะสงคราม โดยยืนยันว่าไม่มีการบังคับขู่เข็ญในชั้นสอบสวน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กฤษฎีกายี้กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
จับตา ครม.ถกร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 13 ม.ค.นี้
กสม.ตบปากทักษิณ ซัดปราศรัยเหยียดเชื้อชาติ/‘พท.’ชง‘ลูกอิ๊งค์’คุยพ่อลดดีกรี
"ประธาน กกต." ลั่นพร้อมดูแลเลือกตั้งนายก อบจ. 1 ก.พ.แล้ว
ชทพ.ย้ำห้ามแตะสถาบัน สว.ค้านหั่นเสียง‘สภาสูง’
ชาติไทยพัฒนายันแก้รัฐธรรมนูญห้ามแตะต้องหมวด 1 และ 2 เด็ดขาด “สว.” ย้ำไม่เอาแน่หากเสนอตัดเสียงสภาสูงออก
นายกฯสั่งดูแล คนไทยในสหรัฐ เหตุไฟป่า‘L.A.’
“แพทองธาร” บอกเช็กแล้วไม่มีคนไทยในสหรัฐบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากไฟป่า
คึกคักจัดงานวันเด็กแห่งชาติ
หลายจังหวัดคึกคัก จัดงานวันเด็กแห่งชาติ เหล่าทัพจัดเต็มแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์
‘อิ๊งค์’ลุยภูเก็ต หนุนท่องเที่ยว กลุ่ม‘ลักซ์ชูรี’
"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานแสดงเรือนานาชาติ หนุนท่องเที่ยวลักซ์ชูรีไลฟ์สไตล์