ระวังไม่มีแผ่นดินอยู่ ชวนย้อนคำเตือนแม้ว18ปี ชี้สส.แก่สุดในเพื่อไทย2คน

"ชวน" สวนกลับ “ทักษิณ” สส.แก่สุดอยู่ในพรรคเพื่อไทย 2 คน สะบัดมีดโกนกรีด  เข้าการเมืองไม่ใช่ปกป้องธุรกิจครอบครัว ยันไม่เคยแค้น “แม้ว” ย้อนคำพูดเมื่อ 17-18 ปีที่แล้ว  ถ้าทำประเทศเหมือนธุรกิจตัวเอง ทำอะไรไม่ถูกต้อง ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น "นรินท์พงศ์" โดดป้อง "ทักษิณ" ปราศรัยหาเสียงนโยบายบริหารรัฐบาลทำได้โดยชอบตาม รธน. อ้างเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น  "ธนกร” เห็นด้วยวิป 3 ฝ่ายเลื่อนถกแก้ รธน.ออกไป 1 เดือน ชี้ควรพิจารณาเทียบเคียงคำสั่งศาลให้รอบคอบ เหตุสุ่มเสี่ยงขัด กม.

ที่รัฐสภา วันที่ 9 มกราคม นายชวน หลีกภัย  สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.  พาดพิงถึงคนสูงวัยแต่ยังสมัครเป็น สส. ว่าตนสมัครผู้แทนราษฎรเมื่ออายุครบ เป็นผู้แทนฯ อายุน้อย สมัยนั้นมีตนและนายอุทัย พิมพ์ใจชน ตนสมัครและได้เป็นผู้แทนฯ พร้อมกับบิดาของนายทักษิณ และเป็นต่อเนื่องมาทุกสมัยจนถึงปัจจุบัน  ตนไม่ได้เข้ามาเพื่อธุรกิจ สมัยที่ตัดสินใจเลือกมาเป็นผู้แทนฯ ตนมีทางเลือกว่าจะเป็นผู้พิพากษาหรืออัยการหรือไม่ ซึ่งในเพื่อนรุ่นเดียวกันเกือบทั้งหมดเป็นผู้พิพากษา อัยการ ประธานศาล  องคมนตรี มีตนเพียงคนเดียวที่ตั้งใจเป็นนักการเมือง เพื่อจะได้ทำงานเป็นปากเสียงให้ประชาชน  ดังนั้นการเข้าการเมืองจึงไม่ได้หวังผลเพื่อดูแลธุรกิจ เพราะไม่ได้มีธุรกิจที่จะต้องปกป้องหรือเอาประโยชน์ให้ครอบครัว

 “เมื่อผมเป็นผู้แทนฯ มาต่อเนื่อง ความคิดว่าอายุมากแล้วให้เลิก ไม่ได้คิด คิดแค่ว่ายังทำงานได้อยู่ ถ้าผมทำธุรกิจแล้วได้กำไรแล้วเลิกนั้นก็เรื่องหนึ่ง แต่นี่อายุมากแล้วยังทำงานได้อยู่ และในสภานี้คนที่อายุมากที่สุดไม่ใช่ผม คนที่อายุมากที่สุดคือ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และรองมาคือนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพทั้งคู่ ท่านอาจไม่ได้ทำงานเท่าผม แต่เป็นผู้ใหญ่ที่อายุมากแล้วยังสมัครอยู่ ผมก็อยากจะบอกว่ามีคนอีกสองคนซึ่งอยู่ในพรรคของท่านอายุมากกว่าผม แต่คนเหล่านั้นก็ทำประโยชน์ให้บ้านเมือง” นายชวนระบุ

นายชวนกล่าวอีกว่า ตนอยู่เป็นผู้แทนฯ ก็มีประโยชน์ตรงที่บางเรื่องคนรุ่นใหม่ไม่ทราบ นายทักษิณก็บอกว่าเขาคือนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ตนเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง ไม่ซื้อเสียง ยึดมั่นหลักระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และระบบรัฐสภา ซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือหลักกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างที่ให้สัมภาษณ์ไป ไม่เคยอามาตแค้นนายทักษิณ เคยพูดครั้งหนึ่งว่าถ้านายทักษิณทำประเทศเหมือนธุรกิจตัวเอง ทำอะไรไม่ถูกต้อง ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ เคยพูดเมื่อ 17-18 ปีที่แล้ว ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แน่นอนที่สุดใครก็ตามทำอะไรไม่ถูกต้องกับบ้านเมืองจะมีปัญหา

นายชวนกล่าวด้วยว่า ขอยืนยันว่าตนยังอยู่ ยังทำหน้าที่ปกติ ยังพอมีความจำอยู่ ยังไม่ถึงขั้นความจำเลอะเลือนหรือจำอดีตไม่ได้ อาจไม่ปราดเปรื่องเหมือนคนรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่รู้ในอดีตยังจำได้ เช่น เรื่องภาคใต้ บางเรื่องกองทัพไม่มีข้อมูล ถ้าอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายใช้วิธีจัดการให้ได้เดือนละ 10 คน ก็ให้ไปถาม พล.ท.เรวัตร รัตนผ่องใส อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นคนเดียวที่บอกว่าเป็นเรื่องแบ่งแยกดินแดน ทำได้ยาก วันนี้ พล.ท.เรวัตรไม่มีโอกาสได้เป็นแม่ทัพภาค ทหารควรยกย่องคนเช่นนี้เป็นวีรบุรุษ เพราะกล้าคัดค้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

วันเดียวกันนี้ จากกรณีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (ปธ.กกต.) กล่าวถึงการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร ที่มีการปราศรัยหาเสียงหยิบยกนโยบายของรัฐบาลไปพูดในเวทีได้หรือไม่ว่าเป็นความก้ำกึ่ง ทุกอย่างอยู่ในการรับรู้ตรวจสอบของสำนักงาน กกต.อยู่แล้วในทุกด้านและทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง หากเป็นคำร้องที่เกี่ยวกับพรรคการเมืองก็เป็นหน้าที่ของเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียน ที่ต้องดูว่าข้อเท็จจริงที่มีขึ้นเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายใดหรือไม่

'นรินท์พงศ์' โดดป้อง 'ทักษิณ'

นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นข้อกฎหมายว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28 บัญญัติห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม ส่วนคณะรัฐมนตรีหรือที่ประชาชนทั่วไปเรียกว่ารัฐบาลไม่ได้เป็นพรรคการเมือง หากแต่เป็นองค์กรทางการเมืองที่เป็นฝ่ายบริหาร ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 35 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 บทบัญญัติตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 จึงไม่อาจนำมาบังคับใช้กับรัฐบาล เพราะไม่ใช่พรรคการเมือง

นอกจากนี้ ในการบริหารราชการแผ่นดิน  รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของตน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 164 วรรคสอง อันเป็นความรับผิดชอบต่อประชาชน เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยตามมาตรา 114 หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ประชาชนหรือปวงชนชาวไทย จึงมีอำนาจที่จะควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ การบริหารราชการแผ่นดินได้ทุกเมื่อ รวมถึงมีสิทธิที่จะชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลกระทำหรืองดเว้นกระทำการใดๆ  อันเป็นการกระทำที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นอำนาจและเป็นสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคแรก และมาตรา 44 วรรคหนึ่ง

"ดังนั้น การที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้แสดงวิสัยทัศน์ในสถานที่ต่างๆ รวมทั้งการปราศรัยหาเสียงเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งแนะนำแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล จึงเป็นเรื่องที่กระทำได้โดยชอบตามรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของปวงชนชาวไทยผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 วรรคหนึ่ง และมาตรา 34 ส่วนรัฐบาลจะรับเอาคำแนะนำดังกล่าวไปดำเนินการหรือไม่ ก็เป็นสิทธิของรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมาย เพราะประเทศไทยไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า การควบคุม  ครอบงำ หรือชี้นำรัฐบาลเป็นความผิด นักร้องทั้งหลายที่จะนำเอาเรื่องนี้ไปร้องพึงระวัง เพราะการนำเอาเรื่องที่ผิดกฎหมายไปกล่าวหาผู้อื่นว่ากระทำผิดกฎหมายจะกลายเป็นจำเลยเสียเอง"   นายนรินท์พงศ์กล่าว

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า 4 ปัญหา:รัฐบาลอุ๊งอิ๊งต้องรับผิดชอบ นับตั้งแต่พรรคเพื่อไทย กระโดดข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาลกับฝ่ายอนุรักษนิยม และมีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกนอกประเทศหลายครั้ง เพื่อสร้างภาพประเทศไทยให้อยู่ในจอเรดาร์ของประชาคมโลก ทำหน้าที่เป็นเซลส์แมนของประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีบทบาทในเวทีโลกอยู่ในระดับหนึ่ง ภายหลังจากนายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกฯ มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร มาเป็นนายกฯ แทน จะเห็นบทบาทผู้นำของประเทศไทยลดน้อยลงในระดับเวทีสากล และถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายประเด็น ตั้งแต่เรื่องการแต่งตัว บุคลิกท่าทาง และความรับผิดชอบต่อเวทีการประชุม จนถึงบัดนี้ภาพลักษณ์ของประเทศ กำลังตกอยู่ในความน่าเชื่อถือ และจะเป็นปัญหาระหว่างประเทศใน 4 เรื่อง คือ

หนุนวิปเลื่อนถกแก้ไข รธน.

1.กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยพาดพิงคนแอฟริกา เหยียดผิว มีสื่อต่างประเทศนำไปเสนอข่าว ขยายผล จะเป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ 2.การที่ สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา นายลิม กิมยา ถูกลอบสังหารกลางกรุงเทพฯ  รัฐบาลต้องรับแสดงความรับผิดชอบ จะมีผลต่อองค์กรระหว่างประเทศ และการเมืองในประเทศกัมพูชา 3.นายซิงซิง ดาราจีน ถูกล่อลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน และเป็นศูนย์กลางแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ จะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ เรื่องความปลอดภัยในการท่องเที่ยว 4.เรื่องคนไทย 4 คน ถูกทหารเรือพม่าจับกุมและถูกคุมขังคุกพม่า ยังไม่มีความคืบหน้า และความชัดเจนในการปล่อยตัว เป็นความล้มเหลวของรัฐบาลในการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เสียศักดิ์ศรีของประเทศ

"ปัญหาทั้งหมดนี้ รัฐบาลจะต้องเอาใจใส่ และรีบเร่งแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด" นายเทพไทระบุ     

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า จากการประชุมของคณะกรรมการประสานงาน (วิป 3 ฝ่าย) มีมติให้เลื่อนการพิจารณา การประชุมร่วมรัฐสภา ในวาระการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่กำหนดจะประชุม 14-15 ม.ค. เป็นวันที่ 13-14 ก.พ.นั้น ตนเห็นด้วย ที่รัฐสภาจะต้องมีการพิจารณาการแก้กฎหมายให้มีความรอบคอบ รอบด้าน เนื่องจากรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ มีผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะประเด็นการเสนอแก้มาตรา 256 และส่วนที่เกี่ยวข้องในการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จะต้องดูในรายละเอียดให้ดี โดยต้องพิจารณายึดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564  เป็นที่ตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดหรือสุ่มเสี่ยงที่รัฐสภาจะขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งการรับฟังเสียงจากทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

นายธนกรกล่าวว่า สิ่งสำคัญในปี 2568 เมื่อเริ่มต้นปีใหม่เข้ามาแล้ว ทั้ง 2 สภาและรัฐบาล ควรต้องเร่งพิจารณากฎหมาย ออกนโยบายสำคัญที่เกี่ยวกับการฟื้นเศรษฐกิจประเทศ แก้ปัญหาหนี้สิน ปัญหาปากท้อง เพื่อเพิ่มรายได้ พัฒนาความเป็นอยู่ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาเป็นอันดับแรก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่า ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควรจะเป็น สภาพคล่องเรื่องหนี้สินของแต่ละครัวเรือนยังมีอยู่มาก จึงควรเร่งแก้ไขในจุดนี้ก่อน อาทิ ร่างกฎหมายสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานจากแสงอาทิตย์ (ระบบโซลาร์รูฟท็อป) ที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เสนอต่อสภาไว้แล้ว จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการลดค่าไฟฟ้าแต่ละครัวเรือนของประชาชน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง