‘อิ๊งค์’ลุยภูเก็ต หนุนท่องเที่ยว กลุ่ม‘ลักซ์ชูรี’

"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานแสดงเรือนานาชาติ หนุนท่องเที่ยวลักซ์ชูรีไลฟ์สไตล์ ลั่นพร้อมช่วยภาคเอกชนลดขั้นตอนยุ่งยาก ดัน "ภูเก็ต" ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก สั่งตำรวจปราบมาเฟียให้พื้นที่ปลอดภัย แวะชมพะยูน "บุญลอด" ก่อนเยี่ยม “อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ” ผลงานสมัย “ทักษิณ” เร่งศึกษาขยายแหล่งเก็บน้ำ

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6)  ดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 มกราคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา  ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต โดยระหว่างอยู่บนเครื่องบิน น.ส.แพทองธารและคณะได้หารือเตรียมข้อมูลก่อนลงพื้นที่

จากนั้นเวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต นายกฯ เป็นประธานการประชุมบูรณาการการแก้ปัญหาพื้นที่ภูเก็ต  รองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว แนวทางการแก้ปัญหาด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน และการผลักดันภูเก็ตเป็น Premium Destination และการรองรับกิจกรรมขนาดใหญ่ โดยนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รายงานว่า จะนำระบบเอไอมาควบคุมไฟจราจรทั้งจังหวัด  และอยากให้มีการศึกษารถไฟฟ้ารางเบา เพื่อแก้ปัญหาจราจร รวมถึงเสนอแนวทางให้ใช้น้ำจากเขื่อนรัชชประภาแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ นอกจากนี้ยังเสนอแนวทางการบำบัดน้ำเสียและการกำจัดขยะในพื้นที่ภูเก็ต รวมทั้งพัฒนาแผนการดูแลนักท่องเที่ยว แนวทางป้องกันเหตุภัยพิบัติและเรื่องการดูแลสุขภาพด้วย

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มาติดตามงาน ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย 35 ล้านคน ก่อนช่วงโควิดมีนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคน ถือว่าใกล้เคียงแล้ว และ 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวต่างมาที่ภูเก็ต จึงขอให้โฟกัสเรื่องพรีเมียมการท่องเที่ยว อยากสนับสนุนชาวบ้านที่ค้าขายหรือมีธุรกิจส่วนตัว อย่างโบลท์แท็กซี่ หากเอกชนเข้ามาช่วยและรัฐบาลสนับสนุนจะเกิดธุรกิจขนาดใหญ่กลายเป็นธุรกิจหลักได้ สำหรับการเดินทางในพื้นที่ภูเก็ต กระทรวงคมนาคมมีแผนงานและอนุมัติงบประมาณไปแล้ว ขอสั่งการให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ รวมถึงโครงการบริหารจัดการน้ำ พร้อมฝากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาการนำน้ำมาจากเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี และโครงการอ่างเก็บน้ำลำรูใหญ่ จ.พังงา มาใช้ในภูเก็ตด้วย

สำหรับการท่องเที่ยว ได้เน้นย้ำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของเฟสติวัลขนาดใหญ่ ขอให้มีการประชุมเฉพาะส่วนกันอีกครั้งเพื่อดูว่ามีอะไรที่ส่วนกลางสามารถสนับสนุนเพิ่มเติมได้ เพราะอยากรับฟังความคิดเห็นและรีเซตระบบใหม่ว่าอะไรที่ใช้มาแล้วต้องปรับเปลี่ยนบ้าง อย่างเช่นการพัฒนาบุคลากร และการนำระบบเอไอมาช่วยงานเพิ่มขึ้น เพราะรายได้ของไทยอยู่ที่การท่องเที่ยว และในส่วนของการปราบผู้มีอิทธิพล เรื่องนี้สำคัญมาก สิ่งผิดกฎหมายที่เกิดขึ้น ขอให้ตำรวจโฟกัสอย่างจริงจัง ไม่อยากให้ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัย เน้นย้ำเรื่องกฎหมายให้ใช้อย่างเด็ดขาด ไม่อยากให้ละเว้น

ต่อมาเวลา 11.45 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิธีเปิดงานแสดงเรือนานาชาติแห่งประเทศไทยและลักซ์ชูรีไลฟ์สไตล์ โดยมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน และ Mr.David Hayes ประธานบริษัท เจเอเอ็นดี กรุ๊ป เจ้าภาพจัดงาน กล่าวรายงานที่ท่าเทียบเรือยอชต์ เฮเวน มารีนา ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง

"ขอเน้นย้ำว่ากลุ่มของนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลุ่มลักซ์ชูรีมากขึ้น การจัดงานครั้งนี้ตอบโจทย์ เรามีทั้งคนไทยที่มีความสามารถ เรามีอู่ซ่อมและการบริการต่างๆ ที่เพียบพร้อมให้ชาวต่างชาติและคนที่รักในลักซ์ชูรีสไตล์แบบนี้ได้มาใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดให้มีความสุขที่ภูเก็ตได้ เราเปิดช่องทางหรือประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้รับรู้และอยากเชิญชวนประชาชนมาในเรื่องการใช้เรือท่องเที่ยวทางน้ำเพิ่มมากขึ้น ทุกวันนี้มีเอกชนมากมายที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเดินทาง ทางน้ำ หากมีโอกาสได้คุยกันหลังไมค์ แลกเปลี่ยนความคิดกันได้ว่ารัฐบาลสนับสนุนอะไรเพิ่มเติม ดิฉันเคยอยู่ภาคเอกชนมาก่อน จะทราบว่าบางทีการทำธุรกิจอะไรก็ตามจะมีความยุ่งยากในเรื่องการประสานงานกับทางราชการ ฉะนั้นจึงอยากมาแบ่งเบาความยุ่งยากหลายขั้นตอนตรงนี้ให้กับนักธุรกิจที่ภูเก็ตด้วย ย้ำว่ารัฐบาลสนับสนุนเต็มที่ ผลักดันเรื่องการท่องเที่ยวแบบนี้ให้เติบโตมากขึ้นต่อไป" น.ส.แพทองธารระบุ

จากนั้นในช่วงบ่าย นายกฯ และคณะได้แวะติดตามศูนย์เฝ้าระวังพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก ที่หาดบางขวัญ ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ซึ่งในพื้นที่นี้ยังมีพะยูนอยู่ มีชื่อว่า "บุญลอด" โดย น.ส.แพทองธารได้รับฟังการรายงานจำนวนพะยูนในพื้นที่ และสอบถามเจ้าหน้าที่ว่ามีการตั้งชื่อให้ด้วย สามารถจำแนกได้อย่างไรว่าตัวไหนเป็นตัวไหน เจ้าหน้าที่จึงรายงานว่าใช้การจำแนกผ่านโลโก้ไอดี ซึ่งเป็นการถ่ายภาพเพื่อจำแนกอัตลักษณ์ของพะยูน และตั้งชื่อ ทั้งนี้ นายกฯ ยังให้ความสนใจการปลูกวอเตอร์เครส หรือสลัดน้ำ ซึ่งเป็นพืชทดแทนที่ใช้เป็นอาหารสำหรับพะยูนด้วย รวมถึงสั่งการให้เร่งขยายพันธุ์หญ้าทะเล เพื่อความอุดมสมบูรณ์และเพื่อรักษาระบบนิเวศ และหวังว่าพะยูนจะอิ่ม

ก่อนเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจติดตามการแก้ปัญหาแหล่งกักเก็บน้ำ ป้องกันการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ และแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยทันทีที่มาถึงได้มีประชาชนในพื้นที่มารอต้อนรับ มอบดอกกุหลาบ และขอถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง

นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดีกรมชลประทาน บรรยายสรุปว่า อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ก่อสร้างระหว่างปี 2546- 2551 ในยุคนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาเนื่องจากน้ำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไม่เพียงพอต่อการใช้อุปโภคบริโภค และปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ปริมาณน้ำดิบที่จะนำมาใช้ในการผลิตน้ำประปาจากอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทานมีปริมาณไม่เพียงพอที่จะรองรับการใช้น้ำของจังหวัดภูเก็ตได้ จังหวัดจึงเล็งเห็นการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน โดยการขุดลอกตะกอนดินอ่างเก็บน้ำบางวาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกักน้ำ ซึ่งในระยะที่ 1 จะเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกัก 150,000 ลูกบาศก์เมตร โดยจะช่วยเป็นแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง และจัดหาแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับผลิตประปาเพื่ออุปโภคบริโภค ซึ่งการดำเนินการขุดลอกจะดำเนินการในช่วงที่น้ำในอ่างน้อย คือช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ปี

หลังจากนั้น นายกฯ ได้ชมอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ พร้อมถามว่า ที่ผ่านมาขยายอ่างเก็บน้ำไม่ได้เป็นเพราะอะไร ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าไม่สามารถสร้างได้เพราะอยู่ที่วิธีการทำ ไม่มีพื้นที่ด้านข้าง ส่วนพื้นที่คลองโตนด หากสามารถสร้างได้แล้วเสร็จจะช่วยให้ผันน้ำมายังคลองบางเหนียวดำได้ และขณะนี้ติดอยู่ที่เรื่องปัญหาการเวนคืนที่ดิน 50 ไร่ เนื่องจากแปลงตรงนั้นมีมูลค่าที่สูงมาก ซึ่งนายกฯ ได้เสนอว่า ไม่จำเป็นต้องทำเป็นก้อน ขอให้ไปคุยกับกรมชลประทาน และมาเสนอดูว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง เพราะหากเป็นสิ่งที่จำเป็นแล้วมัวแต่ยึกยัก ไม่ได้ทำ เวลาผ่านไปทุกอย่างแพงขึ้น ซึ่งต้องยึดความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง.