ทักษิณกํ้ากึ่งผิดกม. หาเสียงนโยบายรัฐ‘กกต.’คิกออฟเลือกตั้งอบจ.

"นายกฯ อิ๊งค์" ลงพื้นที่ภูเก็ต 9 ม.ค. ประชุมทุกฝ่ายร่วมดึงศักยภาพท่องเที่ยว พร้อมดูแก้น้ำท่วม-จราจร ใช้นำร่องต้นแบบให้จังหวัดอื่น "ทักษิณ" ส่องานเข้า! "ปธ.กกต." ชี้ปราศรัยช่วย อบจ.หาเสียงยกนโยบายรัฐก้ำกึ่งผิดกฎหมาย บอก "รมต.-สส." ช่วยหาเสียงได้ แต่จะต้องแจ้งเป็นผู้ช่วยหาเสียงก่อน "กกต." จัดคิกออฟเลือกตั้ง อบจ. เปิดตัว "หมูเด้ง" เชิญชวน ปชช.ใช้สิทธิ ตั้งเป้าหหย่อนบัตรไม่น้อยกว่า 65% "ปชน." โวยตำรวจนนทุบรีไล่เช็กชื่อผู้ช่วยหาเสียง "ป.ป.ช."  ปัดข่าวตั้ง คกก.ไต่สวนปมแชตหลุดสอบชั้น 14

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 8 ม.ค.2568  นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 ม.ค.  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  จะลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ รองรับการท่องเที่ยวและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ  รวมถึงการจราจรและกายภาพต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต โดยได้เชิญส่วนราชการทุกภาคส่วน อาทิ ผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย  ผู้แทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  อาทิ กรมชลประทาน และผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมรับนโยบายจากนายกฯ พร้อมรับฟังภาพรวมการท่องเที่ยวในภูเก็ต รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค การกักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และปัญหาจราจร การบริหารจัดการและส่งเสริม Big Event และการผลักดันภูเก็ตเป็น Premium Destination

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานพิธีเปิดงานแสดงเรือนานาชาติแห่งประเทศไทยและลักซ์ซูรีไลฟ์สไตล์ ที่บริเวณท่าเทียบเรือยอชต์ เฮเว่น มารีน่า   อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต และนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ตรวจติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ณ อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

นายจิรายุกล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ นายกฯ ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาในทุกด้านๆ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจากข้อมูลสถานการณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่  2568 นี้ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้าท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต กว่า 230,000 คน มีรายได้เกิดขึ้นในภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท โดยคิดจากค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันต่อคนของนักท่องเที่ยวเพียงที่ 9,000 บาท ทำให้ห้องพักโรงแรมที่มีอยู่กว่า 110,000 ห้อง มีการจองเข้าพักเฉลี่ยกว่าร้อยละ 80 โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักๆ ห้องพักโรงแรมเต็มเกือบทั้งหมด

"การลงพื้นที่ในครั้งนี้รัฐบาลจะนำข้อมูลจากจังหวัดภูเก็ตไปเป็นต้นแบบของการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในทุกๆ จังหวัดของประเทศไทยต่อไป" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ขณะที่ นายอิทธิพร บุญประคอง  ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (ปธ.กกต.)  ให้สัมภาษณ์ถึงการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่มีการปราศรัยหาเสียงหยิบยกนโยบายของรัฐบาลไปพูดในเวทีว่า การหาเสียงจะต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายที่ห้ามฝ่าฝืนกฎหมายและห้ามปราศรัยใส่ร้ายผู้อื่น และไม่เข้าข่ายหลอกลวงหากอยู่บนพื้นฐานดังกล่าวสามารถทำได้

ชี้ทักษิณปราศรัยก้ำกึ่งผิดกม.

ถามว่า สามารถหยิบยกนโยบายของรัฐบาลหาเสียงได้ใช่หรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า เป็นความก้ำกึ่ง เพราะครั้งนี้การเลือกตั้ง อบจ. การพูดที่มีความเกี่ยวข้องอาจจะจำเป็นหรืออาจสามารถรับฟังได้ในบางครั้ง แต่ทุกอย่างอยู่ในการรับรู้ตรวจสอบของสำนักงาน กกต.อยู่แล้วในทุกด้านและทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งปกติมีการมอนิเตอร์การปราศรัยอยู่แล้ว

"เนื่องจากมีรูปแบบการทำงานของสำนักงาน กกต.ทุกจังหวัด ขณะเดียวกันมีการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งไปปฏิบัติหน้าที่แล้ว เพราะฉะนั้นการติดตามการกระทำที่อาจจะเป็นการฝ่าฝืนการเลือกตั้งอยู่ในวิสัยที่เจ้าหน้าที่ต้องทำงานและรายงานตามลำดับชั้น ตอนนี้ยังไม่มีรายงานถึงความผิดปกติใด แต่คาดว่าการหาเสียงจะมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ" นายอิทธิพรกล่าว

ซักว่า สส., รัฐมนตรี สามารถช่วยหาเสียงได้หรือไม่ ประธาน กกต.กล่าวว่า  สามารถทำได้ แต่จะต้องแจ้งให้ กกต.ทราบว่าเป็นผู้ช่วยหาเสียง หากหาเสียงในเวลาราชการก็จะต้องบริหารเวลาให้ดี เพราะอาจจะเข้าข่ายทำไม่ถูกตามระเบียบราชการ

เมื่อถามว่า นายทักษิณไปหาเสียงประกาศค่าไฟจะลดเหลือ 3.70 บาท และต่อมารัฐบาลขานรับจะเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่ ประธาน กกต.กล่าวว่า จะต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ไม่สามารถตอบในขณะนี้ได้ทันที เพราะต้องเป็นกระบวนการที่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการไต่สวนสืบสวน หากเป็นคำร้องที่เกี่ยวกับพรรคการเมืองก็เป็นหน้าที่ของเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียน ที่ต้องดูว่าข้อเท็จจริงที่มีขึ้นเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายใดหรือไม่

"หากเห็นสมควรว่าต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็มีการตั้งคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นกระบวนการปกติ มี 2 ชุด หากเป็นการทำฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งก็จะเป็นคณะกรรมการไต่สวนสืบสวน หากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมืองก็จะเป็นการตั้งคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน" ประธาน กกต.กล่าว

ถามเรื่องรายงานเกี่ยวกับซุ้มมือปืน  นายอิทธิพรกล่าวว่า ซุ้มมือปืนได้ยินมาแต่เด็กๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากตำรวจทุกจังหวัด เพราะเป็นประเด็นที่ให้ความสำคัญเอาใจใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเลือกตั้ง กกต. มีชุดเคลื่อนที่เร็วที่จะทำงานร่วมกับผู้ตรวจการเลือกตั้ง และทีมงานระดับจังหวัด เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ประสานงานโดยปกติในพื้นที่ทุกที่ หากบางแห่งมีความเข้มข้นมากตำรวจในจังหวัดขอความร่วมมือจากตำรวจในจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมีให้เห็นตัวอย่างแล้วในหลายจังหวัด เช่น จ.ชุมพร เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความเคลื่อนไหวใด

ทั้งนี้ นายอิทธิพรยังได้เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม kick off การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด "สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง" ที่โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ ศูนย์​ราชการ​ฯ แจ้งวัฒนะ​ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง ส.อบจ.และนายก อบจ. รวมถึงให้เข้าใจเกี่ยวกับที่มาขั้นตอนและกระบวนการเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนเข้าใจบทบาทความสัมพันธ์ของการเลือก อบจ. จะมีขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.2568 ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. โดยมีผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารสำนักงาน กกต.และสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก 26 จังหวัด  ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก 26 จังหวัด นักศึกษาหลักสูตร พตส. และผู้แทนศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตย เข้าร่วมกิจกรรม

กกต.ตั้งเป้าใช้สิทธิ อบจ.65%

นายอิทธิพรกล่าวว่า กิจกรรม kick off  การเลือกตั้ง อบจ. นับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวที่จะช่วยสร้างความเข้าใจและส่งเสริมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1  ก.พ.2568 เป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นกระบวนการสำคัญ เป็นการเสริมสร้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง  โดยประชาชนในพื้นที่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อพัฒนาท้องถิ่นของตนเองให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

"กกต.ได้ปรับปรุงแอปพลิเคชัน Smart Vote ช่วยให้สามารถศึกษา ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้อย่างครบถ้วน สะดวกและรวดเร็ว เพื่อสร้างความพร้อมให้กับตนเองในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพ และเพื่อทำให้ทุกเสียงได้พัฒนาประเทศไทยให้รุ่งเรืองสืบไป  เหมือนชื่อกิจกรรมในวันนี้สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง" นายอิทธิพรกล่าว

ประธาน กกต.กล่าวว่า อยากให้ประชาชนออกมาเลือกตั้งกันให้มาก ยิ่งตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ผลประโยชน์ก็จะเกิดขึ้นกับตัวผู้มาใช้สิทธิ ท้องถิ่นและประเทศชาติของเรา ซึ่งสำนักงาน กกต.ได้ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 เพราะตัวเลขเฉลี่ยในการเลือกตั้ง อบจ.เมื่อปี 2563 อยู่ที่ 62.86%  ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอาจจะไม่สูง เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งทั่วไป

"แม้วันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.ก็ยังเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิลดลงกว่าเป้า เพราะเราได้มีการเตรียมการประชาสัมพันธ์ ทั้งความพร้อมในการอำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้านที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และขอความร่วมมือ ไปยังนายจ้าง บริษัทห้างร้านต่างๆ  อนุญาตให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อาจต้องทำงานในวันนั้นออกมาใช้สิทธิ เพราะเป็นหน้าที่ของนายจ้างที่ต้องอนุญาต ขณะเดียวกัน ประชาชนที่อาจต้องทำงานในวันนั้น ท่านสามารถขออนุญาตนายจ้างออกมาใช้สิทธิได้" ประธาน กกต.กล่าว

ถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบคลิปเสียงขนเงิน 20 ล้านที่จังหวัดปราจีนบุรี ประธาน กกต.กล่าวว่า อยู่ระหว่างดำเนินการของทีมงาน กกต. ยังไม่ถึงขั้นเสนอเข้าที่ประชุม กกต. คงต้องใช้เวลาอยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และผู้ที่เกี่ยวข้องที่เราจะต้องเชิญมาสอบ จะไปเร่งรัดให้เสร็จก่อนเสร็จหลัง คงไม่เป็นผลดีต่อกระบวนการยุติธรรม

ประธาน กกต.กล่าวถึงเรื่องร้องเรียนว่า ตัวเลขยังไม่ชัดเจน แต่ไม่เยอะ ขณะนี้มีประเด็นว่าเมื่อเราปิดรับสมัคร เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2567 ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2568 ได้มีการประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งมีบางกรณีที่เราไม่ประกาศรายชื่อและมีผู้คัดค้าน

"ในภาพรวมการเลือกตั้ง อบจ.ในครั้งนี้มีผู้สมัคร 7,007 คน เป็นผู้สมัครนายก อบจ. 192 คน ซึ่ง กกต.ไม่ประกาศรายชื่อ 3 คน โดยผู้สมัครร้องคัดค้าน 2 คน และสมาชิก 6,815 คน ไม่ประกาศรายชื่อ 92 คน ร้องคัดค้าน 17 คน โดยในวันที่ 13-14 ม.ค.นี้ ทางสำนักงานก็จะเสนอให้ กกต. วินิจฉัยสิทธิสมัคร ส่วนสาเหตุที่บุคคลเหล่านี้ไม่ได้รับการประกาศชื่อ เพราะว่าถูกจำกัดปิดการสมัคร เนื่องจากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และไม่แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิ ซึ่งก็จะถูกจำกัดสิทธิเป็นระยะเวลา 2 ปี" ประธาน กกต.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กกต.ได้เปิดตัวสื่อประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง อบจ. มาสคอต "หมูเด้ง" รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นอื่นที่จะเกิดขึ้น เพื่อเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มาก

อย่างไรก็ดี ในงานครั้งนี้มีการเสวนาหัวข้อ "ความสำคัญของการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด" โดยมีนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต., นายศรัณย์ศักดิ์ ศรีเครือเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย, นายวุฒิสาร ตันไชย อดีตเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เข้าร่วมกิจกรรมเสวนาแสดงความคิดเห็น

นายแสวงกล่าวตอนหนึ่งในการเสวนา “ความสำคัญของการเลือกตั้ง อบจ." ว่า เรายึดหลังฟรีแอนด์แฟร์ และความโปร่งใส ฟรีคือความอิสระ เราไม่มีเจ้าพ่อในสนามเลือกตั้ง มีแต่ผู้สมัคร และเราเห็นผู้สมัครเท่ากัน แฟร์ คือตัวเราที่ทั้งเที่ยงและตรง ถ้าเห็นว่ากติกาไม่ดีก็อย่ามาโทษคนปฏิบัติ ให้ไปแก้กฎหมายเอง เพราะถ้ากฎหมายยังเป็นแบบเดิมจะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม

"ความโปร่งใสคือเป็นเรื่องของกระบวนการที่โปร่งใส แต่สิ่งที่ถดถอยลงคือความชอบธรรม ซึ่งในที่นี่คือในเชิงปริมาณ คือผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ดังนั้นเราจึงต้องรณรงค์ให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อให้มีผู้มาบริหารประเทศ" เลขาฯ กกต.กล่าว

ปชน.โวยตร.นนท์ไล่เช็กผู้สมัคร

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ โดยนายปรีติ เจริญศิลป์ สส.นนทบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) หารือว่า ช่วงนี้จะมีการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นของ อบจ.ทั่วประเทศ ตนได้รับแจ้งจากผู้สมัครจากพรรค ปชน.ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ว่ามีตำรวจได้โทรศัพท์มาสอบถามรายชื่อผู้ช่วยหาเสียงของ สจ. ซึ่งตนสงสัยว่าไม่ใช้หน้าที่ของตำรวจ ไม่ทราบว่าตำรวจถามไปทำไม ทำห้ผูู้สมัคร สจ.เกิดความกังวลว่าจะมีการนำรายชื่อไปทำอะไรหรือไม่ จึงได้สอบถามไปยัง กกต.ก็บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ

 “ฝากประธานแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้แจ้งตำรวจทุกพื้นที่ให้วางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งด้วย” สส.นนทบุรี พรรค ปชน.รายนี้ระบุ

จ.ภูเก็ต นายกองเอกอดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการปฏิรูปการเมืองสุจริตบนฐานของการเลือกตั้ง กิจกรรมให้ความรู้ที่เท่าทันในการกระทำผิดทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  โดยมี น.ส.อรพิน อาชีวะสุข ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดภูเก็ต, กกต.ประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้สมัครในเรื่องที่ผู้สมัครยังไม่แน่ใจหรือยังสงสัยว่าอะไรทำได้บ้าง ทำไม่ได้บ้างในเรื่องข้อห้ามทำผิด

น.ส.อรพินกล่าวว่า ขณะนี้ภูเก็ตยังไม่มีเรื่องร้องเรียนใดๆ ผู้สมัครหาเสียงกันด้วยความเรียบร้อย และยึดระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว โดยภูเก็ตมีหน่วยเลือกตั้ง 392 หน่วย แยกเป็นอำเภอเมือง 230 หน่วย อำเภอถลาง 106 หน่วย อำเภอกะทู้ 56 หน่วย

จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.นครราชสีมา ว่าเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะคู่แข่งสำคัญระหว่างนางยลดา หวังศุภกิจโกศล หมายเลข 2 สังกัดพรรคเพื่อไทย กับนายมรุต ชุ่มขุนทด สังกัดอิสระ หมาเลข 3

โดยนางยลดาเดินสายลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และจัดขบวนคาราวานรถหาเสียงร่วมกับผู้สมัคร ส.อบจ.ในพื้นที่อำเภอที่ไปแจกแผ่นพับนโยบายและหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ส่วนนายมารุตได้ใช้รถโมบายจอแอลอีดีขนาดใหญ่ วิ่งหาเสียงเลือกตั้งกับชาว อ.เมืองนครราชสีมา เป็นการคิกออฟวันแรก ก่อนที่จะวิ่งไปหาเสียงตามชุมชนต่างๆ ทั่วทั้ง 32 อำเภอ

วันเดียวกัน นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าว ป.ป.ช.เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบไต่สวนชุดใหญ่ ดำเนินการตรวจสอบบางคนกรณีทำแชตไลน์หลุดและนำความลับในสำนวนของ ป.ป.ช.ไปเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก

นายสาโรจน์กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ชี้แจงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่เคยมีมติให้สำนักงาน ป.ป.ช.ตรวจสอบหรือไต่สวนในเรื่องที่เป็นข่าวแต่อย่างใด  พร้อมกันนี้ขอให้ประชาชนรับข่าวสารด้วยการใช้วิจารณญาณ และรับข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงจากการเผยแพร่ของสำนักงาน ป.ป.ช.โดยตรง จากปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการดำเนินงานที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีแชตไลน์หลุดดังกล่าว มีการเชื่อมโยงอ้างถึงความพยายามวิ่งเต้นล้มคดีป่วยทิพย์ชั้น 14 จาก ป.ป.ช.