ล้วงรายได้โปะ ค่าไฟ3.70บาท เอกชนบี้ทำจริง

“พิชัย” รับลูก “ทักษิณ” เร่งศึกษาหาช่องลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย ตอบไม่ได้งัดมาตรการภาษีช่วย แย้มอาจดึงรายได้ที่หาเพิ่มมาโปะ เอกชนประสานเสียงหนุน ขอรัฐบาลทำได้จริงอย่างที่พูดไว้

เมื่อวันที่ 8 มกราคม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดที่จะให้รัฐบาลดำเนินนโยบายปรับลดราคาพลังงาน เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพให้ประชาชน โดยจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.70 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2568 จะอยู่ที่หน่วยละ 4.15 บาทว่า เรื่องนี้มีหน่วยงานที่ดูแลอยู่แล้ว โดยเป็นแนวคิดในการดูแลโครงสร้างราคา ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการในเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องซัพพอร์ตเป็นเงินเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้ ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาในรายละเอียดของประเด็นดังกล่าว ส่วนคำถามว่าจะมีการดำเนินการผ่านมาตรการภาษีเพื่อรองรับนโยบายดังกล่าวหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ เบื้องต้นอาจจะต้องเอารายได้ที่หาได้เพิ่มเติมมาดำเนินการ แต่ท้ายที่สุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องมาพิจารณาร่วมกันว่าจะดำเนินการได้อย่างไรบ้าง

 “ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดทุกส่วน ขณะที่คำถามว่าจะดำเนินการทางภาษีอื่นๆ เพื่อดำเนินนโยบายเรื่องลดค่าไฟฟ้าหรือไม่นั้น ก็ยังตอบไม่ได้  ขอดูในรายละเอียดก่อน” นายพิชัยระบุ

นายพิชัยกล่าวว่า ในส่วนของการพิจารณาแนวคิดในการนำคอยน์มาใช้ในการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้านั้น เบื้องต้นจะทำการทดสอบในวงจำกัด (sandbox) และยืนยันว่าการดำเนินการในส่วนใดๆ หรือเรื่องใดที่ผิดกฎหมายจะไม่ทำอย่างแน่นอน และหากมีการดำเนินการเรื่องนี้จริง ไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายแต่อย่างใด โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีโอกาสได้เห็นการดำเนินการเรื่องนี้ภายในปีนี้อย่างแน่นอน

 “ทุกวันนี้มีความต้องการ มีการแลกเปลี่ยนคอยน์กันเยอะมาก เห็นจากข้อมูลพบว่า ปัจจุบันมี 21 ล้านคอยน์ ไม่ได้บอกว่าคอยน์ชื่ออะไร ซึ่ง 100,000 เหรียญต่อคอยน์ เท่ากับ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่การแลกเปลี่ยนวันนี้หากดูการเคลื่อนไหวไม่ถึง 10 ล้านล้านคอยน์ สะท้อนว่ามีคนที่ลืมโค้ดไปเยอะมาก มันก็จะประมาณได้ 1  ล้านล้านเหรียญฯ ซึ่งเราก็พยายามจะออกแบบว่าจะทำอย่างไร ในการซื้อขาย เช่น นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย เอาคอยน์มาที่ไทยเข้าระบบที่ตรวจสอบได้ เวลาซื้อของก็สามารถจ่ายเป็นคอยน์ได้ และจะมีตัวกลางแลกเปลี่ยน (Exchange) ในการดำเนินการ คนซื้อคนขายไม่รู้ว่ารับเป็นเงินบาท เงินก็จะเข้าไปอยู่ในแอปพลิเคชัน และกลับมาในระบบจัดการ (Clearing) ก็จะสร้างกำลังซื้อได้มากขึ้น” นายพิชัยกล่าว

ทางด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า หากรัฐบาลทำได้จริงตามที่พูดคือ ลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.70 บาทนั้น นอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้กว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มจีดีพีประเทศได้อีก 0.5%

นายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโสสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า   อยากให้สื่อช่วยกระทุ้งรัฐบาลให้สามารถดำเนินการลดค่าไฟฟ้าให้เหลือ 3.70 บาทได้จริง และลดได้ในเร็ววัน เพราะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และยังช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง