"อนุทิน" ย้ำจุดยืนตลอดกาลแก้ รธน.ไม่แตะหมวด 1-2 ท่าที สส.ภูมิใจไทยไม่เกี่ยว สว. "ไอติม" พร้อมพูดคุยทุกฝ่ายทำความเข้าใจร่างฉบับ "พรรคประชาชน" ยกเคสร่าง "เพื่อไทย" ปี 63 ได้รับเสียงหนุนจาก สว.คสช.ผ่าน พร้อมเรียกร้อง พท.-ครม.ยื่นร่างมาประกบ "สว.พันธุ์ใหม่" หนุนร่าง ปชน.ลดอำนาจ สว. มั่นใจแก้ รธน.ทั้งฉบับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองไม่ได้ เหตุมี ม.255 ล็อกไว้
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่่ 7 มกราคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงสัญญาณการแก้รัฐธรรมนูญในส่วนพรรค ภท. ว่าตนนั้นยังไม่ได้ศึกษา แต่พรรค ภท.มีบุคลากรศึกษาเรื่องนี้อยู่ ซึ่งจุดยืนตลอดกาลคือไม่แก้ หมวด 1 และหมวด 2 เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์
เมื่อถามว่า ขณะนี้ สว.หลายคนส่งสัญญาณจะไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้มีขั้นตอนอยู่แล้ว และ สส.ก็ไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับ สว.ได้ เราก็ต้องดูท่าทีทุกอย่าง แต่ทั้งหลายทั้งปวงโดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องใช้เสียง สว.จำนวน 1 ใน 3 ซึ่งต้องติดตามว่าท่าทีของเขาเป็นอย่างไร ซึ่ง สส.ภท.ก็จะทำตามหน้าที่ของเรา
ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 256 ที่มีการพูดถึงกันว่า เป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรค ปชน.เสนอเข้าไปที่มีเนื้อหาสาระสำคัญอยู่ 2 เรื่องคือ 1.การเพิ่มหมวด 15/1 ที่ให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2.การแก้ไขเกี่ยวกับเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมาถึงวันนี้เราก็รอดูว่าจะมีร่างอื่นยื่นเข้ามาประกบหรือไม่ เพราะมีสมาชิกรัฐสภาบางส่วนเห็นต่างในเชิงรายละเอียดอยู่บ้าง ซึ่งร่างที่คิดว่าจะมีการยื่นประกบเข้ามาคือร่างของพรรคเพื่อไทย (พท.) และคาดหวังว่าร่างดังกล่าวจะไม่ต่างไปจากร่างที่พรรค พท.เคยยื่นเมื่อปี 2567
นายพริษฐ์กล่าวว่า ส่วนอีกร่างที่ตนยังไม่มีเห็นว่าจะมีการสื่อสารออกมา แต่คิดว่าควรจะมีการยื่นเข้ามาประกบคือร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะเรื่องการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นนโยบายที่รัฐบาลได้เคยประกาศต่อรัฐสภาและสัญญากับประชาชนแล้ว เหตุใด ครม.จึงไม่ยื่นร่างประกบเข้ามา
"จากการฟังสมาชิกรัฐสภาบางส่วน และแสดงอาการคัดค้านต่อร่างของพรรค ปชน. ก็เป็นการหยิบยกเอามาเพียงรายละเอียดปลีกย่อยที่ค่อนข้างชวนให้น่าสงสัยเช่นกัน แต่ไม่ควรเป็นเหตุที่จะทำให้เราไม่สามารถเดินหน้าในการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้"
นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า ประเด็นหนึ่งที่มีการหยิบยกขึ้นมาเพื่อที่จะบอกว่าไม่เห็นด้วยกับร่างของพรรค ปชน. คือการที่เราจะไปแก้มาตรา 256 ที่ไปตัดเงื่อนไข 1 ใน 3 ของเสียง สว.ออก และหากย้อนไปในสภาชุดที่แล้ว พรรค พท.ก็เคยยื่นร่างแก้ไขมาตรา 256 ตัดเงื่อนไข 1 ใน 3 ของ สว.ออก รัฐสภาขณะนั้นก็โหวตเห็นชอบในหลักการ และมี สว.ชุดที่แต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประมาณกว่า 100 คนโหวตเห็นชอบ เช่นเดียวกับ สส.รัฐบาลในขณะนั้น จึงตั้งข้อสังเกตว่า ร่างที่เคยได้รับการเห็นชอบในปี 63 แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น สว.ชุดใหม่ ทำไมจึงมองว่าการตัดเงื่อนไข 1 ใน 3 ของ สว.ออก ไม่เป็นเหตุเป็นผล ตกลงแล้ว สว.ชุดนี้จะเป็นปฏิปักษ์ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่าชุดที่แล้วหรือไม่
สส.พรรค ปชน.กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในวันไหนนั้น จากที่มีการพูดคุยกับวิป 4 ฝ่าย เราได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นว่า หากร่างเกี่ยวกับ ส.ส.ร.หรือมาตรา 256 บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมเราจะหยิบร่างดังกล่าวมาเป็นร่างหลักในการพูดคุยกัน ในวันที่มีการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 14-15 ม.ค.นี้ และคิดว่าในการประชุมวิป 3 ฝ่ายวันที่ 8 ม.ค. ก็น่าจะเห็นตรงกับที่เคยตกลงกันไว้
ถามว่า กังวลหรือไม่ว่าร่างของ ปชน.อาจจะไม่ผ่าน นายพริษฐ์กล่าวว่า หวังว่าทุกฝ่ายจะพิจารณาร่างกฎหมายจากประโยชน์ส่วนรวม และระบบการเมืองที่เราคิดว่าจะตอบโจทย์ประเทศไทย ไม่ใช่มากังวลว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะไปลดอำนาจหรือไม่ ซึ่งตนยินดีที่จะไปพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดของร่างพรรค ปชน.
ขณะที่กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว., นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว., นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. แถลงจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย น.ส.นันทนากล่าวว่า กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่เราได้มีมติร่วมกัน พร้อมแสดงจุดยืนว่าเราสนับสนุนร่างฉบับของพรรคประชาชน เรายินดีจะลดอำนาจของ สว.ในการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากฉบับปัจจุบันที่ให้ใช้ สว. 1 ใน 3 ซึ่งเรามองว่า สว.ไม่ได้มาจากประชาชนโดยตรง กระบวนการที่ได้มาไม่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศได้
น.ส.นันทนากล่าวว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของ ส.ส.ร.เราสนับสนุนให้มีผู้แทนที่มาร่างรัฐธรรมนูญจากประชาชนโดยตรง คือการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ และถ้าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ควรจะมีการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปแก้ไขรูปของรัฐ ระบอบการปกครอง
“แต่ที่แก้ทั้งฉบับเพื่อให้ที่มาของรัฐธรรมนูญมาจากประชาชนอย่างแท้จริง และบทบัญญัติทั้งหมดสอดคล้องกันทั้งฉบับ ไม่ใช่เป็นการแก้หมวดใดหมวดหนึ่ง แล้วละเว้นหมวดใดหมวดหนึ่ง เพราะสุดท้ายแล้วเท่ากับมรดกของเผด็จการยังอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ถ้าเราไม่ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ” น.ส.นันทนากล่าว
ด้านนายเทวฤทธิ์กล่าวเสริมว่า เข้าใจว่าประเด็นนี้อาจจะมีการหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อกังวล หรือบางครั้งอาจจะถูกลากไปเป็นเกมการเมือง ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่ได้หมายความว่าจะมีการแก้ไขหมวด 1 และ 2 แต่เป็นการย้ำว่าเป็นการสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และที่สำคัญก็เคยมีการแก้ไขในรัฐธรรมนูญหลายฉบับ เป็นการแก้ถ้อยคำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในหลายมาตรา ซึ่งคนที่แก้มากที่สุดคือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ตนแปลกใจว่าทำไมไม่ไปถามนายมีชัยกันบ้าง
นายเทวฤทธิ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการกำกับไว้ในมาตรา 255 ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไปแก้ในรูปแบบการปกครองหรือรูปแบบของรัฐไม่ได้ อีกทั้งกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญก็ต้องผ่านการทำประชามติอย่างน้อย 2 ครั้ง หมายความว่าหากมีการแก้แล้วกระทบต่อรูปแบบของรัฐ เชื่อว่าหากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยคงโหวตไม่รับ
"เรามีกฎหมายล็อกไว้อยู่แล้ว ในร่างของพรรคประชาชนก็ล็อกว่า มาตรา 255 ว่าจะไม่แก้รูปแบบการปกครอง จึงไม่แน่ใจว่าที่กังวลนั้นเขากังวลจริงๆ หรือกังวลเป็นเงื่อนไขทางการเมือง” นายเทวฤทธิ์กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อิ๊งค์รับนายกฯ2คน! ไม่เกี่ยง‘ทักษิณ’ตัวจริง ปชน.โวซักฟอกน็อกรบ.
“นายกฯ อิ๊งค์” ยันไม่มีแผนปรับ ครม. คุย “พีระพันธุ์” ปกติ เมินกระแสเหน็บนายกฯ
ไฟเขียวงบ69วงเงิน3.78ล้านล.
ครม.เคาะกรอบงบประมาณปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ขาดดุล 8.6 แสนล้านบาท
ค่าไฟ3.7บาทเป้ารัฐบาล หวยพิเศษหาเงินหมื่นล.
"นายกฯ อิ๊งค์" ชี้ลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.70 บาทเป็นเป้าหมายรัฐบาลอยู่แล้ว
10วันปีใหม่เมาขับ7พันคดี ขับรถเร็วตายบนถนนพุ่ง
ปิดศูนย์ 10 วันอันตรายปีใหม่ สังเวย 436 ศพ เจ็บ 2,376 ราย
‘อ้วน’สั่งทบทวน หนทางดับไฟใต้ พูดคุยให้ถูกคน
ยังไร้แววเมียนมาปล่อย 4 คนไทย "ภูมิธรรม" ย้ำต้องรอจบกระบวนการ
ดักคอล้วงภาษีอุ้มค่าไฟ ‘ดีอี’เร่งกาสิโนขึ้นบนดิน
"ภูมิธรรม" ขำข่าวปรับ ครม.เขี่ย รทสช. บอกอย่าฟังคนปล่อยข่าว