ดักคอล้วงภาษีอุ้มค่าไฟ ‘ดีอี’เร่งกาสิโนขึ้นบนดิน

"ภูมิธรรม" ขำข่าวปรับ ครม.เขี่ย รทสช. บอกอย่าฟังคนปล่อยข่าว ขอให้ฟังนายกฯ คนเดียว การันตีพรรคร่วมยังปึ้ก "พีระพันธุ์” ตอบกระทู้ สว.รับการผูกขาดพลังงานมีข้อผูกพันทาง กม. ลั่นต้องทำให้ ปชช.พึ่งตนเองในการมีไฟฟ้าใช้ "หมอวรงค์" ดักคอ "ทักษิณ" ลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.70 บาท อย่าเอาภาษีไปอุ้ม "รมว.ดีอี" เด้งรับ "นายใหญ่" ศึกษายกพนัน​ออนไลน์​ขึ้นบนดิน เชื่อเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ​ มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 เสร็จทัน มี.ค.นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 มกราคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุจะไม่มีการปรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นการทำเกินอำนาจในการแต่งตั้งรัฐมนตรีหรือไม่ว่า ตนไม่ทราบว่านายทักษิณมีข้อมูลอะไร หรือพูดในสถานะไหน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องตลกมาก มันไม่มีความรู้สึกในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลหรือ ครม.ที่จู่ๆ จะปรับคนนู้นปรับคนนี้  สื่อต้องเลือกฟังแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเราจะกลายเป็นเครื่องมือให้เขาปั่นประเด็นต่างๆ ไปมากมาย

"ขอยืนยันได้เลยว่าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้นๆ และยังไม่มีประเด็นที่จะไปคุยกัน ซึ่งอำนาจในการปรับ ครม.ทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ถ้านายกฯ บอกว่าโอเคก็โอเค แต่ถ้านายกฯ บอกว่ายังไม่ทราบก็ยังไม่ทราบ ไม่ว่าใครจะมา ซึ่งต้นข่าวก็ทำนายผิดมาตลอด ยังจะไปให้เครดิตอะไรเขา"

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำให้เกิดการระวังตัวในรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ต้องระวังเพราะเราคุยกันแบบตลก ทุกคนที่ถูกเอ่ยชื่อก็มานั่งคุยกันว่ามันตลกดี ว่าไปเอาข่าวมาจากไหน เมื่อรู้แหล่งข่าวก็รู้สึกตลกใหญ่ อย่าไปฟังเขามาก ทายมาหลายครั้งก็ผิดมาหลายครั้ง

เมื่อถามว่า วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลกลมเกลียวกันดีใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า "โอเคดี ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย” เมื่อถามอีกว่า จะมีการนัดกินข้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อไหร่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เมื่อถึงเวลาก็ต้องทำ  ก็แล้วแต่ส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะบางทีไม่ต้องตรงเวลาเสียทีเดียว เนื่องจากมีภารกิจและมีงาน

เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมรัฐบาลจะมีการนัดพูดคุยหารือกันหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ฝ่ายค้านก็มีหน้าที่และก็เห็นพูดมา ยังไม่เห็นมีการตัดสินใจจริงๆ บางทีพูดไปอย่างออกมาอีกอย่าง ก็รอดูเขาตัดสินใจให้ชัดเจน ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้ ในเมื่อทำงานร่วมกันได้อย่างดี และยังประสานงานกันได้ดี ไม่มีอะไรที่น่ากังวล รัฐบาลก็เดินหน้าเต็มที่ เป็นไปตามวิถีทางของประชาธิปไตย อยากอภิปรายก็ได้ถ้ามีข้อมูลก็มา เพราะเรามั่นใจว่าเราไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา

 วันเดียวกัน ในการประชุมวุฒิสภา มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณาตั้งกระทู้ถามทั่วไปของนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร  สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ถามนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เรื่องมาตรการสนับสนุนตลาดพลังงานสะอาดผ่านโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ว่า ปัจจุบันเรามีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงกว่าความต้องการหรือหลักการสำรองไฟฟ้าอยู่แล้ว โดยเป็นการเพิ่มภาระค่าไฟให้ประชาชนทั่วประเทศ มีโรงงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ผลิตเลย แต่ยังได้เงินจากประชาชนผ่านค่า FT ที่สำคัญการรับซื้อนั้นไม่มีการประมูล เห็นด้วยกับความกล้าหาญของนายพีระพันธุ์ ที่ไม่เห็นด้วยกับการรับซื้อไฟฟ้าและให้ชะลอการรับซื้อออกไป แต่ยังต้องติดตามว่าจะกลับมาดำเนินการต่อหรือไม่ 

ผูกขาดพลังงานผูกพัน กม.

 “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผู้มีบารมีนอกรัฐบาลที่ไปถ่ายรูปในสนามกอล์ฟใช่หรือไม่ ผมก็ไม่ทราบ และท่านมองเห็นถึงโครงสร้างการรับซื้อพลังงานสะอาดหรือไม่ เช่น โซลาร์รูฟท็อป จะมีการขยายการรับซื้อจากภาคประชาชนเหมือนกับกลุ่มทุนหรือไม่ รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ ที่ทำให้การขออนุญาตใช้เวลานาน ท่านจะทำอย่างไร จะมีมาตรการจูงใจภาคครัวเรือนเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้น และจะมีวิธีลดภาระอย่างไร” นายนรเศรษฐ์ตั้งคำถาม

ด้านนายพีระพันธุ์ชี้แจงว่า ส่วนตัวไม่ทราบมาก่อนว่ามีการผูกขาดพลังงาน เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง จึงยังไม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ในทันที ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน แต่ยอมรับว่าตนหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังมีข้อผูกพันทางกฎหมาย ไม่ใช่ทันใจที่เราอยากทำ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมามีความชัดเจนอยู่แล้ว ว่าจะต้องลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ส่วนตัวไม่ชอบเรื่องความไม่โปร่งใส ไม่ถูกต้องและไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นนโยบายเรื่องนี้ เรามีความคิดตรงกันอยู่แล้วที่จะดำเนินการ สำหรับประเด็นเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน เห็นด้วย แต่ตนคิดอีกแบบ ความมั่นคงทางพลังงานไม่ใช่เพียงแค่การทำให้มีพลังงานในปริมาณที่มากขึ้น แต่ความมั่นคงทางพลังงานที่แท้จริงต้องทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองในการมีไฟฟ้าใช้ได้           โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ทั้งจากพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานน้ำ ประเทศเราที่เหมาะสมที่สุดคือแสงอาทิตย์ จึงควรคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความมั่นคงทางด้านพลังงาน อย่าพูดถึงขายเลย เอาแค่ไม่ต้องจ่ายค่าไฟ ไม่ต้องพะวงว่าอีก 4 เดือนค่าไฟจะปรับเท่าไหร่  ปัจจุบันที่ต้องปรับราคาเพราะไฟฟ้าผลิตจากแก๊ส เราเจอภาวะราคาตลาดโลก ทำให้กำหนดราคาคงที่ไม่ได้ ผมก็พยายามศึกษาเพราะเป็นสัญญาที่ทำข้อตกลงไว้แล้ว” นายพีระพันธุ์กล่าวและว่า อยากจะหาทางแก้ปัญหา แต่ทั้งหมดนี้ สว.และ สส.เป็นผู้บัญญัติกฎหมาย รู้หรือไม่ว่ากฎหมายไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีมาตั้งแต่ปี 2511 ดังนั้นควรมีการปรับแก้

 “ท่านนายกฯ แพทองธารก็กำชับผมด้วยซ้ำไป ผมไม่อยากให้เข้าใจผิด ตั้งแต่ท่านนายกฯ เศรษฐามาถึงนายกฯแพทองธาร ได้กำชับผมมาโดยตลอดให้ช่วยแก้ปัญหา" นายพีระพันธุ์กล่าว

นายพีระพันธุ์กล่าวด้วยว่า เวลาประชาชนจะขอติดแผงโซลาร์ต้องขออนุญาตถึง 5 หน่วยงาน ซึ่งซ้ำซ้อนและยุ่งยากมาก รวมถึงต้องรอเป็นปี ตนได้สั่งการแก้ระเบียบไปแล้ว ทั้งนี้ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับนายทุน เพราะตนไม่ใช่นายทุน แต่วันนี้มันเกิดกับพี่น้องประชาชน ตนต้องแก้ไข ขอทำตรงนี้ทำให้ดีที่สุด

ดีอีเด้งรับดันกาสิโน

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 3 บาท 70 สตางค์ ประเด็นที่น่าสนใจ ที่นายทักษิณประกาศแนวทางการทุบค่าไฟให้เหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย ซึ่งนายทักษิณกล่าวว่าตนเองไปดูมาแล้ว มันสามารถรีดไขมันจากค่าไฟได้อยู่จำนวนหนึ่ง ผมสนับสนุนนะ อะไรที่ประชาชนได้ประโยชน์ คิดว่าถ้าคุณรีดไขมันได้ ไม่เห็นจะต้องรออะไร ตอนนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน เงินหมื่นที่แจกไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้าวของแพง เศรษฐกิจแย่ คุณก็น่าประกาศ 1 ก.พ.นี้ไปเลยว่า ค่าไฟฟ้าจะเหลือหน่วยละ 3.70 บาท"

"ที่สำคัญคุณอย่าลด เหมือนลดราคาน้ำมันสมัยยิ่งลักษณ์นะ ประกาศลดลิตรละ 6-7 บาท แต่ลดแค่สามเดือน เอาเงินภาษีไปอุ้ม หลังจากนั้นราคาน้ำมันก็กลับมาปกติ ขอย้ำเรื่องลดไฟฟ้าเหลือ 3.70 บาท ถ้าคุณไม่ได้โม้ โฆษณาชวนเชื่อ ให้คุณรีบทำ รีบลดราคาเลย แต่ต้องลดตลอดไป และห้ามเอาภาษีมาอุ้ม ให้รีดไขมันอย่างที่คุณพูด ถ้าคุณลดไม่กี่เดือน ด้วยการเอาภาษีมาอุ้มหรือให้กฟผ.เป็นหนี้ไปก่อน แบบนี้ใครก็ทำได้" นพ.วรงค์ระบุ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณปรารภจะยกพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดินว่า วันนี้เราทราบดีว่าเรื่องพนันออนไลน์เป็นปัญหาสังคม เยาวชนและประชาชนเล่นกันอย่างแพร่หลาย เพราะฉะนั้นการเอาใต้ดินขึ้นมาบนดินเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และจะเป็นการป้องกันหลายๆ เรื่อง เพราะเรื่องพนันออนไลน์มันไปเชื่อมโยงกับบัญชีม้า ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอาจรวมไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย หากนำขึ้นมาไว้บนดินกฎหมายก็จะเข้าไปกำกับดูแลได้ จำนวนเงินที่อยู่ใต้ดินมีจำนวนมาก หากนำขึ้นมาอยู่บนดินก็จะเป็นเรื่องดีต่อระบบเศรษฐกิจ อย่างเรื่องของการเก็บภาษีอากรตามกฎหมาย

นายประเสริฐยอมรับว่า หากจะทำเรื่องนี้จะต้องมีการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งกระทรวงดีอีกำลังรวบรวมว่าจะต้องมีกระบวนการอย่างไรเพื่อเป็นข้อเสนอแนะ ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ยังตอบไม่ได้ แต่เนื่องจากมีคนเล่นจำนวนมากและ เซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศ จึงเป็นเรื่องที่เรากังวล เรื่องนี้ เป็นต้นตอของอาชญากรรม ในกระทรวงมีวงประชุมหลายวง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ จึงต้องมีการรับฟังความเห็นจากหลายหน่วยงาน ว่าเรื่องนี้ควรมีทางออกอย่างไร ยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุด

นายประเสริฐยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำระบบดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 หลังจากที่วานนี้นายทักษิณ  ประกาศว่าจะเสร็จช่วงเดือนมีนาคมว่า จะเสร็จประมาณช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งในเรื่องตัวของระบบดังกล่าวไม่มีปัญหา เพราะขณะนี้ได้ตัวผู้มาดำเนินการจัดทำระบบแล้ว  แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อตัวบริษัทได้ มั่นใจว่าหลังจากได้ผู้ทำระบบแล้ว และขณะนี้ใกล้เสร็จแล้ว ทั้งนี้จะมีการทดลองระบบประมาณ 1 เดือน คาดว่า 3 เดือนจะแล้วเสร็จ น่าจะประมาณช่วงเดือนมีนาคม สามารถรองรับการใช้งานผู้ที่ลงทะเบียนกว่า 30 ล้านคนได้  

"ขณะนี้ตอนนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการดิจิทัล เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาเรื่องวันเวลาที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์" นายประเสริฐกล่าว.