รุมตบปากพ่อนายกฯ สว.จี้ขอโทษเหยียดสีผิว/อดีตกกต.แนะอบรมมารยาทหาเสียง

รัฐมนตรีเพื่อไทยดาหน้าป้องนายใหญ่ บอกหาเสียง อบจ.เชียงรายปกติ ไม่มีระเบียบว่าพูดได้แค่ไหน พท.จัดคิว “ทักษิณ” ลงช่วยเลือกตั้งนายก อบจ.แน่น 4 สัปดาห์ ทยอยลงพื้นที่อีสานก่อนปิดจ๊อบที่บ้านเกิด “อังคณา” จี้ขอโทษพูดเรื่องเชื้อชาติสีผิว บอกกระทบไทยในเวทียูเอ็น “เทพไท” บอกเลิกเหนียมตั้งเป็นนายกฯ อาวุโสเหมือนสิงคโปร์เลย “นิพิฏฐ์” ย้ำอย่าลืมรวย 4 หมื่นล้านเพราะทุจริต "สมชัย" จี้กกต.อบรมความรู้ มารยาทผู้ช่วยหาเสียงให้มีมาตรฐาน ไม่เป็นที่น่าสมเพช

เมื่อวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568 ยังคงมีควันหลงจากการเป็นผู้ช่วยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) เชียงราย ที่ใช้ถ้อยคำรุนแรง โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการปราศรัยด้วยถ้อยคำที่รุนแรงจะทำให้การเมืองร้อนขึ้นอีกหรือไม่ว่า ไม่มีอะไรเลย ที่วิจารณ์กันขอให้วิจารณ์กันให้เต็มที่ เพราะระบอบประชาธิปไตยสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ถ้าถามคนในรัฐบาลทุกคนจะบอกว่าไม่มีอะไรเลย ยังไม่รู้สึกอะไรเลย และยังแปลกใจกับข่าวที่เอาไปเล่นกันจนเป็นประเด็นมากมาย คิดว่าเราควรให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงและแหล่งข่าวให้มากขึ้น

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้ชี้ไปที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ พร้อมกล่าวว่า นี่ก็ผู้ช่วยหาเสียงอุบลราชธานี ไม่มีระเบียบอะไรว่าพูดอะไรได้แค่ไหน หาเสียงก็ต้องแจ้งว่าพรรคจะทำอะไร ผู้สมัครจะทำอะไร  อันไหนที่เป็นประโยชน์ก็ต้องพูดกัน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า รอบนี้นายทักษิณดุดันขึ้น นายชูศักดิ์ยิ้มก่อนตอบว่า ไม่ได้ดุดันอะไร เป็นเรื่องปกติธรรมดาของการหาเสียง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลฯ กล่าวว่า ทุกสนามที่นายทักษิณไปช่วยผู้สมัครก็ชนะมาทุกสนาม ซึ่งการเลือกตั้งแต่ละแห่งพรรคเพื่อไทยก็มียุทธศาสตร์แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นชัยชนะที่ได้มาแต่ละครั้ง เกิดจากหลายเรื่องด้วยกัน พรรคมองว่าเรื่องท้องถิ่นสำคัญ  และท้องถิ่นจะช่วยผลักดันการทำงานในอนาคตได้หลายอย่าง ดังนั้นเราให้ความสำคัญกับทุกสนามที่ส่ง

เมื่อถามว่า นายทักษิณต้องไปช่วยหาเสียงทุกที่ที่พรรคส่งใช่หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่ทราบเป็นเรื่องของพรรคดำเนินการ ซึ่งการเมืองระดับท้องถิ่นโดยเฉพาะ อบจ.เป็นเรื่องสำคัญ หากทำงานสอดคล้องกับการเมืองระดับประเทศได้ ก็จะทำให้ประเทศเดินหน้าและการขับเคลื่อนในหลายมิติสอดคล้องกัน

เมื่อถามว่า นายทักษิณตั้งเป้าว่าการเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้าพรรค พท.จะได้อันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว นายประเสริฐกล่าวว่า พท.เป็นพรรคใหญ่ การได้ สส.อันดับ 1 เป็นไปได้ ในอดีตเคยทำได้แล้ว โดยเรามุ่งหวังว่านโยบายหลายอย่างที่ออกมาจะตรงใจประชาชน และมั่นใจว่าจะนำชัยชนะในอนาคตมาได้

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวว่า ไม่ได้ฟังว่าท่านทักษิณปราศรัยว่าอย่างไร แต่คิดว่าสามารถทำได้ในขอบเขตที่ กกต.อนุมัติให้ทำในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ก็เป็นสิทธิของท่านที่จะไปพูดอะไร ไปทั้งทีก็ไปช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียงอยู่แล้ว

 “ไปแล้วไม่พูดหาเสียงแล้วจะไปทำไมครับ เป็นผู้ช่วยหาเสียงก็ต้องไปหาเสียงครับ ไม่มีอะไรแปลกหรอก ท่านไปมาหลายจังหวัดแล้วผมไม่ได้ฟัง แต่เชื่อว่าจากที่ท่านไม่ได้ไปเยี่ยมพี่น้องประชาชนมานาน ท่านอาจดีใจ พี่น้องประชาชนก็ไปต้อนรับท่าน ก็เป็นเรื่องปกติ คนไทยทั้งประเทศรอพบท่านอยู่ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ไปพบกันได้เจรจา ได้พูดให้ความหวังกับพี่น้องประชาชนเห็นว่าอนาคตของประเทศชาติจะเป็นอย่างไร”

ทักษิณเดินสายหาเสียง

เมื่อถามว่า คนวิจารณ์ว่านายทักษิณเลือกปฏิบัติ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ก็ต้องเลือกปฏิบัติหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว จะไปหาเสียงให้พรรคอื่นได้อย่างไร ท่านเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร อบจ.พรรคเพื่อไทย จะไปหาเสียงให้พรรคอื่นได้อย่างไร

ด้านนายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษของพรรค พท. กล่าวว่า ได้ประสานเป็นการภายในกับทีมงานของพรรคแล้ว เบื้องต้นนายทักษิณจะเดินทางมาช่วยหาเสียงให้ที่ จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 24 ม.ค. แต่ต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทีมงานอยากให้นายทักษิณมาช่วยขึ้นเวทีหาเสียงปราศรัยให้อย่างน้อย 3 จุดแบบที่ จ.เชียงรายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

มีรายงานว่า นายทักษิณมีคิวเดินสายหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อีกหลายจังหวัด เพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคในนามพรรค 14 จังหวัด และลงในนามสมาชิกพรรค 2 จังหวัด รวม 16 จังหวัด ให้มากที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออีก 4 สัปดาห์ ก่อนวันเลือกตั้ง 1 ก.พ. 2568 โดยวันที่ 12 ม.ค.นี้จะบินไป จ.ลำปาง เพื่อช่วย น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง โดยต้องการไปหาเสียงเพื่อดึงคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยกลับคืนมา หลังพรรคแพ้การเลือกตั้ง สส.ที่ จ.ลำปางให้พรรคก้าวไกล ทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ แม้ว่าพรรคประชาชนจะไม่ได้ส่งคนลงสมัครนายก อบจ.ลำปางก็ตาม

จากนั้นวันที่ 18 ม.ค. นายทักษิณจะเดินทางไปช่วยนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม เด็กปั้นของนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่า นายทักษิณจะเดินสายอีกหลายจังหวัดในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง โดยเฉพาะภาคอีสานฐานเสียงใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ที่ช่วงหลังถูกพรรคภูมิใจไทยเข้ามาแย่งพื้นที่ เช่นวันที่ 19 ม.ค.ไปช่วยนายภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ผู้สมัคร นายก อบจ.บึงกาฬ และวันเดียวกันจะไปช่วยนายวุฒิไกร  ช่างเหล็ก ผู้สมัครนายก อบจ.หนองคาย

มีรายงานว่า ในวันที่ 20 ม.ค. นายทักษิณมีคิวไปช่วยหาเสียงให้นายบุญฐิณ ประทุมลี ผู้สมัครนายก อบจ.มุกดาหาร และปิดท้ายการเดินสายหาเสียงในภาคอีสานวันที่ 24 ม.ค.ที่ จ.ศรีษะเกษ รวมทั้งคาดว่าสัปดาห์สุดท้ายก่อนเลือกตั้ง นายทักษิณจะไปหาเสียงในจังหวัดสำคัญๆ อีกหลายจังหวัดปิดท้ายเช่นที่ จ.เชียงใหม่บ้านเกิด เป็นต้น

ส่วนนางอังคณา นีละไพจิตร สว. กล่าวถึงการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ ซึ่งได้พูดพาดพิงคนแอฟริกันว่า นายทักษิณเองก็เคยเป็นนายกฯ รวมถึงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหรือสนับสนุนพรรคใหญ่ และมีลูกสาวเป็นนายกฯ การที่พูดในลักษณะที่เป็นการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ สีผิว ถือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกติการะหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีอยู่

จี้ขอโทษเหยียดสีผิว

 “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในทางสิทธิมนุษยชน การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งสีผิวหรือเชื้อชาติถือเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญมาก อยากให้คุณทักษิณออกมาขอโทษในสิ่งที่ได้พูดไป ในบ้านเราเองก็ไม่ได้มีคนที่มีสีผิวเหมือนกันหมด ตรงนี้เป็นหลักการขั้นพื้นฐานมากๆ หวังว่าท่านนายกฯ จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก เพราะรัฐบาลไทยไปสมัครเป็นสมาชิกมนตรีสิทธิมนุษชนแห่งสหประชาชาติ ได้ให้คำมั่นไว้เยอะมากโดยเฉพาะเรื่องของธรรมาภิบาลของสิทธิมนุษยชน เรื่องของการขจัดการเลือกปฏิบัติ"

เมื่อถามว่า เรื่องนี้สะท้อนอะไรไปยังนายทักษิณ นางอังคณากล่าวว่า นายทักษิณคงคิดว่าจะพูดอะไรก็พูดได้ และก็ไม่ระมัดระวังปาก วันนี้ก็ยังไม่ทราบเลยว่าตำแหน่งของนายทักษิณจริงๆ แล้วเกี่ยวข้องยังไงกับนายกฯ แต่ที่แน่ๆ นายทักษิณเป็นผู้มีอิทธิพลในพรรคเพื่อไทยอยู่ ดังนั้นก็ยึดโยงกันโดยที่ไม่สามารถปฏิเสธได้

 “ในทางพฤตินัยเราก็ได้ยินคำว่าพ่อคิดลูกทำ และเราก็เห็นวิธีปฏิบัติที่นายทักษิณมีอิทธิพลต่อพรรคเพื่อไทย ถึงแม้ในทางกฎหมายจะปฏิเสธว่าไม่มีตำแหน่งใดๆ แต่ในทางพฤตินัยไม่สามารถปฏิเสธได้เลย ว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทและมีอิทธิพลอย่างมากในพรรคเพื่อไทย นายทักษิณพูดหาเสียงเป็นสิทธิ แต่ไม่สามารถพูดอย่างไรก็ได้ เนื่องจากต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ด้อยค่าหรือลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แม้กรณีดังกล่าวอาจไม่ทำให้เกิดข้อขัดแย้ง เป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้ แต่เพื่อเป็นการป้องกันนายทักษิณควรออกมาขอโทษ” นางอังคณากล่าว

นายราเมศ รัตนะเชวง อดีต สส.ในฐานะเลขานุการนายชวน หลีกภัย ได้กล่าวโต้ตอบกรณีนายทักษิณที่พูดปราศรัยพาดพิงนายชวน โดยยกผลการเลือกตั้งว่าที่นายชวนแค้น เพราะแพ้การเลือกตั้งนายทักษิณ แก่แล้วยังลงเลือกตั้งอยู่ ว่าตนเคยบอกบ่อยครั้งว่าที่นายชวนได้ต่อสู้มาตลอดเวลา ไม่ใช่เพราะความแค้นส่วนตัวกับนายทักษิณ แต่เป็นการต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ที่นายทักษิณได้เข้ามาในทางการเมืองอ้างประชาธิปไตย เพียงเพื่อเข้ามามีอำนาจ แล้วใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบ ความจริงประจักษ์ด้วยคำพิพากษาที่ถึงที่สุดแล้ว

 “นายทักษิณบอกว่าไม่อยากอะไรแล้ว แต่ที่ปราศรัยออกมาคือความอยากทั้งสิ้น อยากชนะ อบจ. อยากให้สมัยหน้ามี สส.เพื่อไทยยกจังหวัด ที่เคลื่อนไหวทุกคนรู้ว่าอยากเป็นนายกฯ ตัวจริง มีความไม่อยากเรื่องเดียวคือไม่อยากติดคุกแม้แต่วันเดียว และเรื่องนี้ก็จะเป็นความไม่อยากที่จะทำให้นายทักษิณไม่อยากอีกครั้ง คือไม่อยากหนีไปต่างประเทศอีกรอบ” นายราเมศกล่าว

แนะตั้งเป็นนายกฯ อาวุโส

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ถ้าใครได้ติดตามการปราศรัยหาเสียงนายกอบจ.เชียงรายของนายทักษิณ จะเห็นว่าการปราศรัยเต็มไปด้วยความมั่นใจ และเชื่อมั่นในตัวเองมาก เปรียบเหมือนกับเป็นนายกฯ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารประเทศ ในนามรัฐบาลได้อย่างละเอียด ในหลายประเด็น จึงไม่จำเป็นต้องเหนียมอายอะไรอีกแล้ว ถ้าจะรับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ อย่างเป็นทางการ ก็ให้ น.ส.แพทองธารแต่งตั้งขึ้นมา  หรือจะเอาแบบอย่างประเทศสิงคโปร์ ที่มีตำแหน่งรัฐมนตรีอาวุโส แต่ถ้าเพื่อให้สมศักดิ์ศรี ก็ตั้งตำแหน่งใหม่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอาวุโสเสียเลย"

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ระยะหลังคุณทักษิณปราศรัยดุเดือด ทั้งหมา ทั้งควาย พรั่งพรูออกมาจากปากคุณทักษิณเป็นฝูงๆ ส่วนที่บอกรวยตั้งแต่ปี 35-36 แล้วไม่มีใครเถียง แต่จะทวนความจำคนไทยว่า ตอนท่านเป็นนายกฯ รวยหนักเข้าไปอีก 47,373 ล้านบาท แต่ถูกศาลฎีกายึดเป็นของแผ่นดินเพราะเป็นการร่ำรวยผิดปกติ และเป็นการกระทำที่ขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม ถ้าจะพูดแบบภาษาชาวบ้านคือ ตอนเป็นนายกฯ ท่านรวยเพราะการทุจริตอีก 47,373 ล้านบาท"

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า "สิ่งที่ผู้ช่วยหาเสียงควรรู้ในการหาเสียง 1.ค่าแรงที่ผู้สมัครต้องจ่าย คือ อย่างน้อยต้องเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ เช่น จ.เชียงราย ค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 คือ 352 บาท 2.ใครที่ถูกเอาเปรียบ เช่น ไปประกาศบนเวทีว่าได้แค่วันละ 300 บาท แปลว่าอาจถูกเอาเปรียบจากผู้สมัคร สามารถร้องเอาผิดผู้สมัครว่าทำผิดระเบียบการหาเสียงได้ 3.ผู้ช่วยหาเสียง พึงศึกษาระเบียบว่าด้วยการหาเสียงของ กกต.ที่มีอยู่หลายฉบับ ถึงสิ่งที่ทำได้และทำไม่ได้ เช่น การห้ามหาเสียงด้วยถ้อยคำที่รุนแรง การใส่ร้ายด้วยข้อความที่เป็นเท็จ การนำนโยบายที่ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของผู้บริหารท้องถิ่นมาหาเสียง และ 4.กกต.ควรมีโครงการอบรมความรู้และมารยาทในการหาเสียงให้แก่ผู้ช่วยหาเสียง เพื่อป้องกันมิให้เกิดการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และยกระดับมาตรฐานการหาเสียงของประเทศไทย ไม่ให้เป็นที่น่าสมเพช".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชำแหละ 'ทักษิณ' คุยโม้ ลดค่าไฟฟ้า 3.70 บ. ทำหุ้นตก มือดีฉวยโอกาสช้อนซื้อทำกำไร

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งปราศรัยและพูดมากเท่าใด ยิ่งไม่อยู่กับร่องกับรอยสะท้อนอาการน่าเป็นห่วงมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งสำคัญแสดงพฤติกรรมและทัศนะเหยียดมนุษย์ให้เห็นอย่างเด่นชัด