ปิดศูนย์ 10 วันอันตรายปีใหม่ สังเวย 436 ศพ เจ็บ 2,376 ราย เกิดอุบัติเหตุ 2,467 ครั้ง ศปถ.สั่งถอดบทเรียนวิเคราะห์ข้อมูลทุกมิติ ขับเคลื่อนสร้างความปลอดภัยทางถนนตลอดทั้งปี "กรมคุมประพฤติ" สรุป 10 วัน 7,654 คดี คดีขับรถขณะเมาสุรา 7,306 คดี ขับเสพ 342 คดี เร่งแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรม "นิกร” พบยอดดับบนถนนช่วง 10 วันอันตรายพุ่ง 8% ชี้ขับเร็ว หลับใน แนะรัฐนำมาถอดบทเรียน
เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 (ศปถ.) ประจำวันที่ 5 มกราคม 2568 เปิดเผยว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงควบคุมเข้มข้น 10 วัน ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 67 - 5 ม.ค. 68 พบว่าตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุและจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บลดลงเมื่อเทียบกับเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามผู้เสียชีวิตยังมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
ศปถ.จึงสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับส่วนกลางและพื้นที่ดำเนินการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อให้สามารถลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ และลดอัตราผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้จริง และเน้นย้ำให้จังหวัดบูรณาการทุกภาคส่วนทำงานอย่างเต็มกำลังและต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์และวันหยุดเท่านั้น ซึ่งต้องเน้นไปที่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุ และชาวต่างชาติทั้งที่เข้ามาท่องเที่ยวและเข้ามาทำงานในประเทศไทย เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงด้านพฤติกรรมของผู้ขับขี่ อาทิ การขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด การดื่มแล้วขับ การไม่คาดเข็มขัดนิรภัย การไม่สวมหมวกนิรภัย การตัดหน้ากระชั้นชิด และการขับรถย้อนศร
ด้านนายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ศปถ. กล่าวว่า ขอให้จังหวัดขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยใช้กลไกของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนในทุกระดับ ควบคู่ไปกับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และให้ความรู้หลักการใช้พาหนะอย่างปลอดภัย และการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือเพียง 12 คนต่อแสนประชากรได้จริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดต้องถอดบทเรียนการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 โดยให้วิเคราะห์ข้อมูลในทุกมิติ เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งด้านพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ด้านความปลอดภัยของยานพาหนะ ด้านถนน และด้านสภาพแวดล้อม ให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ขณะที่นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดี ปภ. ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการ ศปถ. กล่าวว่า ฝ่ายเลขานุการได้สรุปข้อสังเกตจากการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ศปถ.เพื่อให้อนุกรรมการทั้ง 8 คณะได้นำไปพิจารณากลั่นกรอง ก่อนจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
สำหรับข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ประจำวันที่ 5 ม.ค. 68 ซึ่งเป็นวันที่ 10 ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 139 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 128 คน ผู้เสียชีวิต 29 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.53 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 24.46 และทัศนวิสัยไม่ดี ร้อยละ 20.86
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 10 วัน เกิดอุบัติเหตุรวม 2,467 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,376 คน ผู้เสียชีวิตรวม 436 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (89 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (100 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (26 ราย) และจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) 3 จังหวัด ได้แก่ ตราด ยะลา และสมุทรสงคราม
ทั้งนี้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยสถิติคดีคุมประพฤติช่วงปีใหม่ 2568 สรุปยอดสะสม 10 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2567 - 5 ม.ค. 2568 มีคดีคุมประพฤติรวม 7,654 คดี ยอดติด EM สะสม 44 ราย ดังนี้ คดีขับรถขณะเมาสุรา 7,306 คดี (ร้อยละ 95.45) ติด EM 41 ราย, คดีขับเสพ 342 คดี (ร้อยละ 4.47) ติด EM 3 ราย, คดีขับรถประมาท 4 คดี (ร้อยละ 0.05), คดีขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2 คดี (ร้อยละ 0.03) จังหวัดที่มียอดสะสมคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (605 คดี) เชียงใหม่ (441 คดี) และนนทบุรี (395 คดี) สำนักงานคุมประพฤติในหลายจังหวัดได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลติดอุปกรณ์ EM ให้ผู้กระทำผิดในคดีขับรถขณะเมาสุราและคดีขับเสพ ซึ่งจากนี้พนักงานคุมประพฤติจะเร่งตรวจประวัติ และบังคับใช้กฎหมายนำเข้าโปรแกรมแก้ไขฟื้นฟูที่เหมาะสม เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ถูกคุมความประพฤติ ให้ตระหนักถึงผลของการกระทำความผิดและเกิดสำนักรับผิดชอบต่อสังคม
ด้านนายนิกร จำนง ที่ปรึกษาคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภา และประธานคณะอนุกรรมการด้านประสานงาน บริหารจัดการ รณรงค์ และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า พบตัวเลขจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ระบุตัวเลขปีที่แล้วเสียชีวิตทั้งหมด 404 ราย ในปีนี้รวม 436 ราย เท่ากับว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ทำให้เห็นว่าภาครัฐพยายามควบคุมอย่างเต็มที่ ไม่ได้ละเลย เอาจริงเอาจังมาก ในปีนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ามีการเสียชีวิต โดยเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเองซึ่งไม่ได้ชนกับใครนั้นเยอะมาก และพบตัวเลขที่ออกนอกทางไปแล้วพบว่าเสียชีวิตจำนวนมากขึ้นเช่นกัน เท่ากับว่าเกิดขึ้นจากการหลับในนอกด่านจำนวนเยอะขึ้น
นายนิกรกล่าวว่า จะมีการสรุปในวันที่ 22 มกราคม โดยคณะกรรมการศึกษาเรื่องความปลอดภัยทางถนนของรัฐสภา ที่ตนจะไปเสนอในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯ ในปีนี้ทั้งหมด 10 วัน ประเด็นสำคัญคือขับรถเร็วมาก กรณีที่ชนแรงๆ เกิดจากการหลับใน อีกทั้งสภาพถนนพบว่าหลายชีวิตที่เสียไปเกิดจากการชนต้นไม้ข้างทางเยอะมาก บางครั้งเราอาจจะต้องคิดกันใหม่ว่า การปลูกต้นไม้ริมถนนอาจจะดูสวยงามแต่อันตราย เวลารถหลุดออกไปชนต้นไม้เสียชีวิตจำนวนมากในทุกครั้ง ปีนี้อาจจะต้องสรุปเพื่อถอดบทเรียนแล้วนำมาปรับปรุง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อิ๊งค์รับนายกฯ2คน! ไม่เกี่ยง‘ทักษิณ’ตัวจริง ปชน.โวซักฟอกน็อกรบ.
“นายกฯ อิ๊งค์” ยันไม่มีแผนปรับ ครม. คุย “พีระพันธุ์” ปกติ เมินกระแสเหน็บนายกฯ
ค่าไฟ3.7บาทเป้ารัฐบาล หวยพิเศษหาเงินหมื่นล.
"นายกฯ อิ๊งค์" ชี้ลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.70 บาทเป็นเป้าหมายรัฐบาลอยู่แล้ว
ไฟเขียวงบ69วงเงิน3.78ล้านล.
ครม.เคาะกรอบงบประมาณปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ขาดดุล 8.6 แสนล้านบาท
‘สว.พันธุ์ใหม่’หนุนแก้รธน.ฉบับส้ม
"อนุทิน" ย้ำจุดยืนตลอดกาลแก้ รธน.ไม่แตะหมวด 1-2 ท่าที สส.ภูมิใจไทยไม่เกี่ยว สว. "ไอติม" พร้อมพูดคุยทุกฝ่ายทำความเข้าใจร่างฉบับ
‘อ้วน’สั่งทบทวน หนทางดับไฟใต้ พูดคุยให้ถูกคน
ยังไร้แววเมียนมาปล่อย 4 คนไทย "ภูมิธรรม" ย้ำต้องรอจบกระบวนการ
ดักคอล้วงภาษีอุ้มค่าไฟ ‘ดีอี’เร่งกาสิโนขึ้นบนดิน
"ภูมิธรรม" ขำข่าวปรับ ครม.เขี่ย รทสช. บอกอย่าฟังคนปล่อยข่าว