แม้วเดินสายโชว์บารมี อิ๊งค์ปราศรัยนครพนม

"ทักษิณ" ลุยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ. จ่อขึ้นเวทีเชียงราย 3 เวที "เทิง-เชียงของ-แม่จัน" ปราศรัยช่วย "สลักจฤฎดิ์-เมียยงยุทธ" ก่อนเดินสายลำปาง-นครพนม-บึงกาฬ-หนองคาย-มหาสารคาม-ศรีสะเกษ โฆษกเพื่อไทยเผย "แพทองธาร" จ่อลงพื้นที่นครพนม 12 ม.ค. รับเป็นโมเดลแรกให้นายกฯ ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง ต้องบาลานซ์ทั้งงานราษฎร์-งานหลวง "เทพไท" อ่านเกม "ทักษิณ" เดินสายช่วยบ้านใหญ่ชนบ้านใหญ่ ใครคือผู้มีบารมีตัวจริง

เมื่อวันที่ 4 มกราคม มีรายงานความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยในวันอาทิตย์ที่ 5 ม.ค. มีกำหนดเดินทางไปปราศรัยหาเสียงช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา นักการเมืองภาคเหนือคนสนิทนายทักษิณ และเป็นมารดาของปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช หรือโฮม สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ได้หมายเลข 2 ในนามพรรคเพื่อไทย และต้องแข่งขันกับนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.เชียงราย ที่ประกาศลงสมัครได้หมายเลข 1 ในนามอิสระ โดยมีกำหนดจะไปปราศรัยถึง 3 เวทีในพื้นที่ 3 อำเภอด้วย

โดยนายทักษิณมีกำหนดจะเดินทางด้วยเครื่องบินจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จากนั้นจะมุ่งตรงไปปราศรัยที่สนามโรงเรียนปล้องวิทยาคม ต.ปล้อง อ.เทิง ซึ่งเป็นฐานเสียงหลักของนางอทิตาธร โดยจะมีแกนนำของพรรคเพื่อไทยและผู้สนับสนุนไปร่วมปราศรัยหลายคน เช่น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

ส่วนเวทีที่ 2 คือสนามโรงเรียนบ้านห้วยซ้อวิทยาคม อ.เชียงของ และเวทีสุดท้ายที่สนามโรงเรียนแม่จันวิทยาคม อ.แม่จัน ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงหัวค่ำ

สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย มีจำนวน 3 คน โดยนอกจากนางอทิตาธรและนางสลักจฤฎดิ์แล้ว ยังมี น.ส.จิราพร หมื่นไชยวงศ์ ได้หมายเลข 3 และเป็นคนใกล้ชิดและอยู่ทางฝ่าย สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ซึ่งการลงสมัครของ น.ส.จิราพร ทำให้เป็นที่น่าแปลกใจในวงการการเมืองท้องถิ่น จ.เชียงราย เพราะไม่ได้เป็นอดีตนายก อบจ.เชียงราย หรือชื่อชั้นเทียบเท่ากับผู้สมัคร 2 คนแรก จึงสงสัยกันว่าอาจจะลงเพื่อตัดคะแนนคู่แข่งทางการเมืองหรือไม่

ทั้งนี้มีรายงานว่า นายทักษิณจะเดินสายหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. เดือน ม.ค.2568 เช่น วันที่ 12 ม.ค.2568 จ.ลำปาง วันที่ 18-20 ม.ค.2568 จ.นครพนม บึงกาฬ หนองคาย มหาสารคาม วันที่ 24-25 ม.ค.2568 จ.ศรีสะเกษ

ด้านนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และโฆษกพรรคเพื่อไทย เผยถึงการลงพื้นที่ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปช่วยนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม หาเสียงวันที่ 12 ม.ค.นี้ ว่า ตอนนี้แจ้งมา จ.นครพนมอย่างเดียว ท่านนายกฯ ขอทำงานก่อน

เมื่อถามว่า จะขอดูฟีดแบ็กก่อนใช่หรือไม่ อาจจะลงพื้นที่อื่นเพิ่ม นายดนุพรเผยว่า ไม่เกี่ยวกับฟีดแบ็ก หากท่านลงพื้นที่ช่วยหาเสียงมากเกินแล้วการทำงานในส่วนหัวหน้ารัฐบาลมีปัญหา ท่านก็จะโดนตำหนิ ดังนั้นจึงต้องบาลานซ์กัน หากเหตุการณ์ทั่วไปเป็นปกติ ไม่มีเรื่องอะไร ตนมั่นใจว่าหากท่านว่าง เสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุด ท่านก็พร้อมจะลงไปช่วย ตอนนี้ขอวางเป็นตุ๊กตาไว้ก่อน ยังไม่กล้าลงหลายที่ เพราะหากลงหลายที่จะทำให้ผู้สมัครมีการเตรียมตัว และไม่ได้ลงไปช่วยหาเสียง ก็จะมีกระแสตีกลับว่านัดไม่มา เบี้ยว จึงขอดูโมเดลนี้ไปก่อนในช่วงนี้

เมื่อถามว่า จะใช้โมเดลนครพนมเป็นที่แรกก่อนใช่หรือไม่ นายดนุพรยอมรับว่า ใช่ ตอนนี้ขอวางเป็นโมเดลเดียวก่อน ต้องขอดูงานท่านนายกฯ ด้วยว่ามีอะไรหรือไม่ เพราะท่านต้องบาลานซ์งานราษฎร์และงานหลวง ท่านจะช่วยหาเสียงได้ก็หลังเลิกงานในวันธรรมดาหรือเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า หลังนายกฯ ช่วยหาเสียงวันที่ 12 ม.ค. นายทักษิณ ชินวัตร ก็จะเดินทางในวันที่ 18 ม.ค. เพื่อมาปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม ในนามพรรคเพื่อไทยเช่นกัน

ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทักษิณเดินสายช่วยบ้านใหญ่ชนบ้านใหญ่" ว่า เห็นตารางการลงพื้นที่หาเสียงนายก อบจ.ของนายทักษิณ ในหลายพื้นที่แล้ว ก็ต้องยอมรับความจริงว่า นายทักษิณ คือแม่เหล็กที่สามารถดึงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทยได้ ถ้าหากไม่ขลังจริงก็คงจะไม่มีผู้สมัครคนใดเรียกร้องให้ไปปราศรัยหาเสียงให้ แม้กระทั่งระดับ น.ส.แพทองธาร หัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี ยังลงพื้นที่หาเสียงน้อยกว่านายทักษิณเสียอีก แค่นี้ก็รู้ว่าใครคือผู้มีบารมีหรืออำนาจทางการเมืองตัวจริง

"การแข่งขันสนามเลือกตั้ง อบจ.ในหลายจังหวัดภาคเหนือและอีสาน เป็นการต่อสู้กันระหว่างบ้านใหญ่กับบ้านใหญ่ จึงทำให้เห็นการแข่งขันระหว่างผู้สมัครบ้านใหญ่ของพรรคเพื่อไทยกับผู้สมัครบ้านใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยในหลายพื้นที่ มีการงัดกลยุทธ์ออกมาต่อสู้กันในทุกรูปแบบ ทั้งการสร้างกระแสและการสาดกระสุน รวมไปถึงการใช้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือในการเลือกตั้ง ตามที่เป็นข่าวอยู่"

นายเทพไทกล่าวว่า สำหรับประเทศไทย การเลือกตั้งในทุกระดับ ทุกสนาม มีปัจจัยการซื้อเสียงเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นปัจจัยชี้ขาดเสมอ แม้ว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ที่ผ่านมาได้สร้างนครฯ โมเดลขึ้นมาในการเลือกตั้ง และมีการนำไปใช้ในหลายจังหวัด โดยการปั่นกระแสสู้กับกระสุน แต่เชื่อว่าอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกับการเลือกตั้งที่ จ.นครศรีธรรมราชก็ได้ เพราะปัจจัยและเงื่อนไขทางการเมืองที่แตกต่างกัน

สำหรับพื้นที่ภาคใต้มีการต่อสู้กันระหว่างบ้านใหญ่กับบ้านใหญ่กันบ้าง แต่หลายจังหวัดเป็นเรื่องของบ้านใหญ่สู้กับกลุ่มอิสระที่รวมตัวกันเพื่อโค่นบ้านใหญ่ ซึ่งผลออกมาจะได้รู้ว่าบ้านใหญ่ยังขลังอยู่หรือไม่ หรือยังเป็นที่หมายปองของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งปี 2570 หรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สว.ส่งสัญญาณเบรกแก้รธน.

แก้ รธน. "เพื่อไทย" ตีกรรเชียงหนี "พรรคส้ม" ปักธงเคาะร่างแก้ รธน. 256 ไม่แตะหมวดกษัตริย์ “ชูศักดิ์” ชี้พุ่งเป้าไปที่ ส.ส.ร.เป็นหลัก

‘แม้ว’ห้าว!ผ่านสนาม อบจ. ท่าทีมั่นใจ‘ความปลอดภัย’

ห้าวทุกเวที! 4 จังหวัด อุดรธานี อุบลราชธานี เชียงใหม่ เชียงราย ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ไปช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.หาเสียง