มอบแต่ต้นปี “แพทองธาร” ให้ “พิชัย” นั่งหัวโต๊ะแทนประชุมกรอบงบประมาณปี 69 เน้น ศก.เติบโต-การเงินเข้มแข็ง ขณะที่ "สุวัจน์" มอง ศก.ปี 68 จีดีพีทะลุ 3% นทท.พุ่งเกิน 40 ล้านคน แต่อย่าประมาท เตรียมเงินทุนสำรองไว้รับวิกฤตฉุกเฉิน ขณะที่สรรหาประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่หลัง “กิตติรัตน์” ตกคุณสมบัติ มั่นใจทำได้เร็ว
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 2 มกราคม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณปี 2569 ว่า ในวันที่ 3 ม.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ตนเป็นประธานประชุมการจัดทำกรอบงบประมาณปี 2569 ร่วมกับ 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ ได้แก่ กระทรวงการคลัง, ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่สำนักงบประมาณ โดยเมื่อประชุมเสร็จจะรู้ว่าทิศทางปี 2569 เป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปี 2569 ต้องลดการขาดดุลงบประมาณลงหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ต้องคำนึงถึง 2 อย่างคือ 1.ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจเติบโต และ 2.ต้องทำให้โครงสร้างทางการเงินของประเทศเข้มแข็ง
เมื่อถามว่า ในปี 2568 นายกรัฐมนตรีย้ำว่าต้องเป็นปีที่เศรษฐกิจฟื้น และเป็นปีทองของเศรษฐกิจไทย นายพิชัยกล่าวว่า ถ้าความเชื่อมั่นค่อยๆ มา ก็เป็นโอกาสที่สถาบันการเงินต้องมองเห็นภาพเดียวกับเรา ก็คาดว่าการปล่อยสินเชื่อต่างๆ ก็จะมากขึ้น
ถามอีกว่า ในปี 2568 นโยบายการเงินต้องเข้ามาช่วยหรือไม่ ในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น รองนายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ต้องพิจารณาว่าหากคิดว่าถ้าเศรษฐกิจฟื้นช้าก็ต้องลด แต่หากว่าคิดว่าฟื้นตัวได้เร็วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อยู่ที่ท่านวินิจฉัย เพราะ กนง.จะประชุมกันทุก 2 เดือนอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า กระทรวงคลังกับ ธปท.ต้องคุยกันอีกหรือไม่ นายพิชัยกล่าวต่อว่า เที่ยวนี้หลังปีใหม่ เหตุการณ์เปลี่ยน ตนกำลังสรุปภาพทั้งหมด ที่จะมีการพูดคุยกับทุกฝ่ายทั้ง ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่าเศรษฐกิจของเราจะทำอะไร อย่างไรได้บ้าง ก็จะดูงบประมาณอีกทีว่าจะจัดทัพกันอย่างไร
ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.-พ.ย. 67) ว่า รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิอยู่ที่ 385,283 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,365 ล้านบาท หรือ 0.4% แต่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.3% โดยการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ เนื่องจากการนำส่งรายได้บางส่วนเหลื่อมมาจากปีก่อน ประกอบกับการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ส่วนราชการอื่น และกรมสรรพากร สูงกว่าประมาณการ
“กระทรวงการคลังจะบริหารจัดการเพื่อให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิ ในปีงบประมาณ 2568 ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยจะผลักดันการทำงานของหน่วยงานจัดเก็บรายได้ให้มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับบริบทของเศรษฐกิจ ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการขยายตัวของการอุปโภคบริโภค การลงทุน และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ ประกอบกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเพิ่มขึ้น” นายพรชัยกล่าว
อย่างไรก็ดี ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.-พ.ย. 67) พบว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 378,438 ล้านบาท ขณะที่มีการเบิกจ่รายงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 884,086 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน พ.ย.2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 275,806 ล้านบาท
ขณะที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) วิเคราะห์เศรษฐกิจในปี 2568 ว่า เป็นปีที่เศรษฐกิจดีขึ้นจากปี 2567 แม้ภาพรวมจะยังไม่ดี แต่คิดว่ากระเตื้องขึ้น เนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกที่เติบโตมากกว่าร้อยละ 3 ประเทศไทยจึงได้รับอานิสงส์ ประกอบกับนโยบายที่รัฐบาลแจกเงิน 10,000 บาท และการใช้จ่ายงบประมาณปี 2567 การตรึงค่าไฟ ราคาพลังงานที่ไม่สูงจนเกินไป และความสำเร็จในการผลักดันตัวเลขนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้น และการส่งออกปี 2567 ที่ดีขึ้น
นายสุวัจน์คาดการณ์ว่า จีดีพีในปี 2567 อาจไม่เกินร้อยละ 3 แต่ปีหน้าจะได้แรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นถึง 40 ล้านคน จากปีนี้ที่มีจำนวน 35 ล้านคน รวมถึงความร่วมมือจากภาคเอกชน นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ( Soft Power) มาตรการลดหนี้ “คุณสู้ เราช่วย” และมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 50,000 บาท รวมไปถึงการแจกเงิน 10,000 บาทในเฟส 2 และเฟสต่อไป จะทำให้เกิดกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจทั้งภาคบริการ การท่องเที่ยว สินค้าชุมชนมากขึ้น คาดว่าปีหน้าจีดีพีอาจโตมากกว่า 3%
อดีตรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แต่ยังประมาทไม่ได้ เพราะเคยเจอวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว เช่น การระบาดของไวรัสโควิด-19 และยังมีสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจอีกหลายเรื่อง อาทิ เรื่องสงคราม เรื่องภูมิรัฐศาสตร์ เรื่องราคาพลังงาน รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่จะมีการขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศคู่ค้าที่สหรัฐ ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น ย่อมจะทำให้เกิดกำแพงภาษีหรือสงครามการค้าที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ดังนั้น การรักษาวินัยการคลังจึงเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องมีเม็ดเงินสำรองไว้สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน
นอกจากนี้ นายพิชัยยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการสรรหาประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายหลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ ได้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และ รมว.การคลัง มีคุณสมบัติต้องห้ามไม่สามารถดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท.ว่า เรื่องนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างส่งเรื่องกลับไปหารือกับคณะกรรมการสรรหาฯ ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานถึงขั้นตอนที่ต้องดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ มาถึงขั้นตอนนี้ก็คงจะต้องเสนอคนใหม่ต้องถามประธานสรรหาว่าจะต้องทำยังไงต่อไป เพราะว่าเป็นไปตามขั้นตอนที่เป็นระเบียบในการสรรหาว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่า การรักษาการของประธานบอร์ด ธปท.คนปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในช่วงกลางเดือน ม.ค.นี้ จะทำอย่างไรต่อไป นายพิชัยกล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นกับว่ารักษาการคนปัจจุบันจะลาออกหรือไม่ ถ้าท่านไม่ลาออกก็สามารถทำงานต่อได้ ถ้าลาออกไปก็จะทำให้ไม่สามารถประชุมได้ เราก็ต้องรีบดำเนินการสรรหา
เมื่อถามว่า การสรรหาในครั้งนี้จะใช้เวลานานหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า น่าจะทำได้เร็วกว่าเดิม เพราะไม่ต้องเริ่มใหม่ เราเข้าใจแล้วว่าต้องการคนที่มีคุณสมบัติอย่างไร ส่วนจะใช้คนเดิมได้หรือไม่นั้น ต้องดูระเบียบว่าเขาว่าอย่างไร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อ้วน’ ยันปล่อย 4 คนไทยเร็วๆนี้
ครบรอบวันชาติเมียนมา 4 ลูกเรือประมงไทยรอเก้อ ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่อภัยโทษ 151 คนไทยถูกหลอกทำงานคอลเซ็นเตอร์
8 วัน ดับ 363 ศพ กทม.แชมป์ตาย บังคับใช้กม.เข้ม
8 วันอันตราย ตายแล้ว 363 ราย บาดเจ็บ 2,090 คน กทม.เสียชีวิตสูงสุด ศปถ.กำชับทุกภาคส่วนบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด จุดพักรถ
ไม่กลัวทุนผูกขาด! ‘พีระพันธ์ุ’ ลุยลดราคาพลังงานซัดขบวนการใส่ร้าย
“พีระพันธุ์” สุดทน โพสต์ร่ายผลงานปี 2567 พร้อมยกแผนปี 2568 โชว์ บอกทำงานสายตัวแทบขาดแต่ถูกกลุ่มเสียประโยชน์ปั้นข่าวใส่ร้าย เสี้ยมพรรคเพื่อไทย-นายกฯ
แม้วเดินสายโชว์บารมี อิ๊งค์ปราศรัยนครพนม
"ทักษิณ" ลุยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ. จ่อขึ้นเวทีเชียงราย 3 เวที "เทิง-เชียงของ-แม่จัน" ปราศรัยช่วย "สลักจฤฎดิ์-เมียยงยุทธ" ก่อนเดินสายลำปาง-นครพนม-บึงกาฬ-หนองคาย-มหาสารคาม-ศรีสะเกษ
‘แพทองธาร’ เข้าพบ ‘สุรยุทธ์’
นายกฯ เผย สมเด็จพระสังฆราชประทานพรให้แข็งแรง ดูแลบ้านเมืองให้สงบ พร้อมเข้าขอพรปีใหม่ประธานองคมนตรี สักการะพระแก้วมรกต-ศาลหลักเมือง
นายกฯรวยหมื่นล้าน อิ๊งค์แจงบัญชีทรัพย์สิน ใช้จ่ายส่วนตัวปีละ45ล.
“ป.ป.ช.” เปิดทรัพย์สิน “นายกฯ อิ๊งค์” รวยมโหฬารกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท แบกหนี้กู้เงินญาติพี่น้อง 4.4 พันล้าน สะสมนาฬิกา 75 เรือน มูลค่า 162 ล้านบาท มีกระเป๋า 217 ใบ