ครม.เบรกพาเหรดยกขบวนของแพง เคาะสินค้าควบคุมปี 65 รวม 5 รายการ เพิ่มไก่และเนื้อไก่ ขณะที่ "บิ๊กตู่" สั่งตรึงราคาดีเซล-ค่าไฟ ลดภาระ ปชช.ให้มากที่สุด ฮึ่ม! ไอ้โม่งหลบหลังก่อวิกฤตหมู สั่งงัดกฎหมายจัดหนักไม่ไว้หน้า ลุยปูพรมสแกนสุกรในห้องเย็นทั่วประเทศ ขณะที่ "ประภัตร" กังขาซุกสต๊อก 14 ล้าน กก. ยังหวังให้ขายก่อนตรุษจีน สุดช็อกชาวบ้านเจอของไหว้แพงสุดในรอบ 60 ปี
เมื่อวันจันทร์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบกำหนดสินค้าควบคุมปี 2565 จำนวน 5 รายการ ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยแบ่งเป็นรายการสินค้าควบคุมเดิมในปี 2564 จำนวน 4 รายการ คือ 1.หน้ากากอนามัย 2.ใยสังเคราะห์ Polypropylene (Spunbond) เพื่อใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย 3.ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ และ 4.เศษกระดาษและกระดาษที่นำกลับมาใช้ได้อีก
โดยเพิ่มเติมรายการสินค้าควบคุมใหม่ 1 รายการ คือ ไก่และเนื้อไก่ เนื่องจากปัจจุบันราคาไก่ปรับตัวสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องกำกับดูแล ติดตาม เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญต่อการบริโภคของประชาชน ให้มีปริมาณเพียงพอและมีราคาที่เหมาะสม ทำให้ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศรายการสินค้าและบริการควบคุมไปแล้ว รวมครั้งนี้จะเป็นจำนวนทั้งสิ้น 56 รายการ (จากเดิม 51 รายการ) เช่น ไข่ไก่, หมูและเนื้อหมู, แชมพู, ผงซักฟอก, ข้าวสาร, กระเทียม, อาหารกึ่งสำเร็จรูป, เครื่องแบบนักเรียน, ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
รองโฆษกฯ กล่าวว่า คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการกำหนดให้ผู้ประกอบการ ผู้ค้า และฟาร์มเลี้ยงไก่ต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ดังนี้ 1.ผู้เลี้ยงไก่ที่มีปริมาณการเลี้ยงตั้งแต่ 100,000 ตัวขึ้นไป และโรงชำแหละไก่ที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 4,000 ตัวต่อวัน ต้องแจ้งปริมาณ สต๊อก และต้นทุนราคาจำหน่ายทุกเดือน 2.โรงงานผลิตอาหารสัตว์ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 55 โรง ต้องแจ้งต้นทุนราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต และสต๊อก และ 3.การปรับราคาสินค้าจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการค้าภายในก่อน
น.ส.รัชดากล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์สินค้าบางตัวที่มีการปรับราคาสูงขึ้น รัฐบาลและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการในการรักษาระดับราคา ในรูปแบบที่สร้างสมดุลระหว่างการให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น เพื่อสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นแก่เกษตรกร แต่ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นนั้นจะต้องไม่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบ เช่นการตรึงราคาสินค้า โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ค้าและสมาคมต่างๆ ตรึงราคาในหลายหมวดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า, ซอสปรุงรส, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และน้ำอัดลม
น.ส.รัชดากล่าวว่า นอกจากนี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้ประกาศตรึงราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มไว้ที่กิโลกรัมละ 110 บาท ไปจนถึงเสร็จสิ้นเทศกาลตรุษจีน และสมาคมผู้เลี้ยงและส่งออกไข่ไก่ พร้อมให้ความร่วมมือตรึงราคาไข่ไก่เบอร์ 3 ไว้ที่ฟองละ 2.90 บาท เป็นต้น
น.ส.รัชดาระบุด้วยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ติดตามตรวจสอบปริมาณสุกรชำแหละในห้องเย็นทั่วประเทศอย่างเข้มงวด โดยเป็นการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง และเจ้าหน้าที่พาณิชย์ ซึ่งตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 23 ม.ค. กรมปศุสัตว์รายงานว่าได้ดำเนินการไปทั้งหมด 539 แห่ง (ตัวเลขสะสมนับตั้งแต่วันที่ 20-23 ม.ค.) พบเนื้อสุกรรวม 13.41 ล้านกิโลกรัม และกรมปศุสัตว์จะเดินหน้าตรวจสอบห้องเย็นที่มีสินค้าปศุสัตว์ที่เหลือให้ครบ ซึ่งมีอีกประมาณห้าร้อยกว่าแห่ง หากตรวจสอบโดยละเอียดพบมีการกักตุน ผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด และเนื้อสุกรจะถูกสั่งให้จำหน่ายตามราคาที่ทางการกำหนดต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุม ครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ช่วงหนึ่ง นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การเลี้ยงหมูในปัจจุบันว่า จากการตรวจสอบผู้เลี้ยงหมูรายย่อย รายกลาง และรายใหญ่ พบว่ามีจำนวนผู้เลี้ยงเพิ่มขึ้น ลดลงเฉพาะรายย่อยเท่านั้น และปริมาณหมูหายไปเพียงแค่ 1 ล้านตัว คิดเป็น 11% ไม่ได้หายไป 5-6 ล้านตัวตามที่มีการนำเสนอข่าว
“อีกทั้งจากการตรวจสต๊อกหมูในประเทศส่วนหนึ่ง พบสต๊อกอยู่ 14 ล้านกิโลกรัม จึงตั้งข้อสงสัยว่าทำไมไม่นำส่วนนี้ออกมาจำหน่ายให้หมด และอยากให้นำออกมาจำหน่ายก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนเพื่อไม่ให้ราคาหมูแพง แต่หากไม่นำออกมาจำหน่ายจะต้องสั่งนำเข้าหมูจากต่างประเทศเฉพาะกิจเพื่อไม่ให้มีการกักตุน” นายประภัตรระบุ
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หากพบคนที่อยู่เบื้องหลังหรือมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด อยากให้แก้ไขปัญหาทั้งระบบและยั่งยืนเช่นเดียวกับเรื่องสินค้าเกษตรอื่นๆ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในช่วงต้นการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการในหลายเรื่อง โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรึงราคาน้ำมันดีเซลอย่าให้เกิน 30 บาทต่อลิตร รวมถึงค่าไฟ โดยให้ตรึงไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.65 เพื่อต้องการให้ประชาชนมีต้นทุนในการใช้ชีวิตต่ำที่สุด
ขณะที่ช่วงหนึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มที่สูงขึ้นในขณะนี้ จนทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำมันปาล์มในตลาดว่า เรื่องนี้หากจำเป็นจะต้องของบประมาณมาแก้ไขปัญหา กระทรวงพาณิชย์ก็จำเป็นต้องมาขออนุมัติงบประมาณอีกครั้ง
ที่ จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ หลังพบว่าราคาจำหน่ายยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อไก่ อาหารทะเล ไข่ไก่ และน้ำมันปาล์ม โดยล่าสุดพบว่าหมูสามชั้นมีการปรับขึ้นราคารับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่ตลาดสดเทศบาล 1 ถ.กลางเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าราคาเนื้อหมูเช้าวันนี้มีการปรับขึ้น โดยเฉพาะหมูสามชั้นต้มที่ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 400 บาท แพงที่สุดในรอบ 60 ปี ทำให้ลูกค้าไม่กล้าซื้อหมูสามชั้นในระยะนี้อย่างเห็นได้ชัด
น.ส.รุ่งรัตน์ สกุลธรรมโรจน์ อายุ 46 ปี เจ้าของร้าน "อรพิน เจ๊อี่ ขอนแก่น" กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยขายหมูสามชั้นต้มแพงขนาดนี้มาก่อน ซึ่งยอมรับว่าปีนี้เป็นปีแรกที่ต้องขายหมูราคาแพง และเป็นราคาสูงที่สุดเท่าที่เคยขายมา โดยที่ร้านเปิดจำหน่ายมาตั้งแต่รุ่นคุณยายหรือกว่า 60 ปี ก็ไม่เคยพบหมูหรือวัตถุดิบต่างๆ ที่แพงขนาดนี้ และไม่เคยขายหมูต้มที่แพงเท่านี้มาก่อน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม
ทักษิณรอดคลุมปี๊บ! ส้มเหลวปักธงอุดรธานี ‘คนคอน’ตบหน้า‘ปชป.’
เลือกตั้ง อบจ. 3 จังหวัด “เพชรบุรี-อุดรธานี-นครศรีธรรมราช” ราบรื่น
ล่า ‘หมอบุญ’ เมียแค้นเอาคืน
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวก 9 คน ร่วมหลอกลวงประชาชนร่วมลงทุนธุรกิจ รพ.ขนาดใหญ่หลายโครงการ เสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท