แดงปะทะนํ้าเงินชิงนายกอบจ.

ตัวพ่อลุยเอง "ทักษิณ" บุกเหนือ-อีสาน เชียงราย-นครพนม ขอยึดเก้าอี้นายก อบจ.เรียบ ศึกแดงปะทะน้ำเงิน แท็กทีม "อุ๊งอิ๊ง" ช่วยเด็ก รมช.คมนาคมชนลูกสาวบิ๊ก ภท.คนสนิทเนวิน ขนทัพใหญ่บุกเจียงฮายอาทิตย์นี้ หวังดัน "เมียยงยุทธ" ชนะบ้านใหญ่คู่แค้นเก่า พท.  

การหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) หลายจังหวัดเริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 1 ก.พ. ที่จะมีการเลือกนายก อบจ. 47  จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.) 76 จังหวัดทั่วประเทศ

โดยหนึ่งในจังหวัดที่ถูกจับตามองว่ามีการแข่งขันที่ค่อนข้างเข้มข้นคือจังหวัดเชียงราย มีรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า วันอาทิตย์ที่ 5 ม.ค.  นายทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางไปจังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.เชียงราย  ที่ลงในนามพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ

 สำหรับนางสลักจฤฎดิ์ คืออดีตนายก อบจ.เชียงราย ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา นักการเมืองภาคเหนือคนสนิทนายทักษิณ ชินวัตร และเป็นมารดาของ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช หรือโฮม สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย

รายงานข่าวแจ้งว่า นายทักษิณจะเดินทางไปถึงสนามบินเชียงรายเวลา 09.00 น. โดยไปแบบเช้ากลับเย็น ซึ่งจะลงพื้นที่ในหลายจุด แต่มีคิวหาเสียงที่ทีมงานวางไว้ คือนายทักษิณจะขึ้นเวทีหาเสียง 3 อำเภอสำคัญ ประกอบด้วย อำเภอเทิง,แม่จัน และเชียงของ 

ทั้งนี้ นางสลักจฤฎดิ์ลงสมัครแข่งขันกับนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.เชียงราย สมัยที่ผ่านมา ที่ลงในนามอิสระ แม้จะถูกมองว่ามีเครือข่ายสีน้ำเงินคอยหนุนหลัง เนื่องจากการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 คนในบ้านใหญ่ตระกูลวันไชยธนวงศ์ ซึ่งมีฐานที่มั่นใหญ่อยู่ที่อำเภอเทิงบางส่วนคือ นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ อดีต สส.เชียงราย 2 สมัย ย้ายจากพรรคเพื่อไทยไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยอย่างมาก จนสุดท้ายดันให้นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย ที่ถือว่าโนเนมทางการเมือง พลิกเอาชนะนายรังสรรค์ อดีต สส.เชียงราย 2 สมัยจากบ้านใหญ่ตระกูล วันไชยธนวงศ์ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนางอทิตาธรไปได้ ซึ่งปัจจุบันนายรังสรรค์เป็นรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง (อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย)

 ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงรายเมื่อปี 2563 พรรคเพื่อไทยส่ง น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ แต่ก็แพ้ น.ส.อทิตาธรแบบพลิกล็อก แม้นายทักษิณจะเขียนจดหมายจากแดนไกลมาช่วยหาเสียงให้ก็ตาม ขณะเดียวกันการเลือกตั้ง สส.เชียงรายเมื่อปี 2566 ปรากฏว่าเชียงรายที่มี สส.เขต 7  ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยจากเดิมที่เคยชนะยกจังหวัดมาหลายสมัย แต่เลือกตั้งที่ผ่านมาได้มา 4 ที่นั่ง ส่วนอีก 3 ที่นั่งเป็นของพรรคก้าวไกล ส่วนคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ทั้งจังหวัด พรรคเพื่อไทยได้ 285,544 คะแนน ขณะที่พรรคก้าวไกลได้มาอันดับสอง 276,139 คะแนน เรียกว่าห่างไกลไม่ถึง 1 หมื่นคะแนน แต่ปรากฏว่าพรรคประชาชนไม่ได้ส่งคนลงสมัครนายก อบจ.เชียงรายแต่อย่างใด

และด้วยการที่พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณต้องการแก้มือหลังแพ้เลือกตั้งนายก อบจ.เชียงรายปี 2563 และต้องการวัดกระแสคนเชียงรายที่มีต่อพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล ทำให้การที่นายทักษิณจะไปช่วยหาเสียงให้นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จึงถูกมองว่าทำให้สนามเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงรายรอบนี้ จากที่เข้มข้นอยู่แล้ว ก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น และมีรายงานด้วยว่าการไปเชียงรายของนายทักษิณในครั้งนี้ อาจจะมีแกนนำพรรคเพื่อไทยและรัฐมนตรีบางคนร่วมคณะไปช่วยหาเสียงให้ด้วย เพราะเป็นวันหยุดราชการ

ทักษิณจับมือลูกสาวชนสีน้ำเงิน

ส่วนที่จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในภาคอีสานที่พรรคเพื่อไทยต้องการกวาดเก้าอี้นายก อบจ.และ สจ. โดยเป็นจังหวัดที่มีนางมนพร เจริญศรี เป็น สส.อยู่ และปัจจุบันเป็น รมช.คมนาคม นักการเมืองหญิงคนสนิทของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

มีรายงานว่า วันที่ 12 มกราคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ จ.นครพนม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อหาเสียงช่วยนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับการสนับสนุนจากนางมนพร รมช.คมนาคม ให้ลงสมัครนายก อบจ.นครพนมในครั้งนี้ และจากนั้นอีก 6 วัน นายทักษิณก็จะมาหาเสียงสำทับในวันที่ 18 มกราคม ซึ่งถือเป็นการยกทัพหลวงของเพื่อไทยสองทัพเข้ามาช่วยเต็มที่ เพื่อต้องการชนะให้ได้ โดยจะมีการใช้สนามกีฬาโรงเรียนนครพนมวิทยาคม เขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นเวทีในการหาเสียงช่วยนายอนุชิต

สำหรับคู่แข่งขันสำคัญของเพื่อไทยคือ น้องขวัญ-น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ อดีตนายก อบจ.นครพนมสมัยที่ผ่านมา บุตรสาวนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาฯ และแกนนำพรรคโซนอีสานใต้ของพรรคภูมิใจไทย หนึ่งในนักการเมืองคนสนิทนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย 

นอกจากนี้ก็ยังมี นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์  อดีต สส.นครพนมหลายสมัย ตั้งแต่ยุค พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ก็ลงสมัครนายก อบจ.นครพนมครั้งนี้เช่นกัน

โดย นพ.ประสงค์กล่าวว่า การหาเสียงเป็นไปตามกำลังทรัพย์ เพราะไม่มีพรรคใหญ่สนับสนุน แต่ยืนยันหากนายทักษิณเดินทางมาหาเสียงที่นครพนม จะไปรอรับที่สนามบิน เพราะมีความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวตั้งแต่สมัยเป็นพรรคไทยรักไทยเป็นต้นมา

 ด้านความคืบหน้าคดีนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค.67 ก่อนมีการโอนสำนวนคดีจาก สภ.เมืองปราจีนบุรีไปอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม และต่อมา น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ที่ปัจจุบันเปิดตัวลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี พรรคเพื่อไทย

โดยมีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีว่า น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย พร้อมด้วยนายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของ สจ.จอย ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ในฐานะภรรยา เพื่อให้เป็นผู้กล่าวหาแทนผู้เสียชีวิต โดยมีการสอบในเรื่องก่อนเกิดเหตุว่า ระหว่างที่มีการนั่งรถไปด้วยกันในวันเกิดเหตุ สจ.จอยมีการพูดคุยอะไรกับ สจ.โต้ง รวมถึงมีใครโทรศัพท์เข้ามาหา สจ.โต้งจนทำให้ สจ.โต้งตัดสินใจขับรถวนกลับไปเพื่อส่ง สจ.จอยที่บ้านก่อนที่ สจ.โต้งจะขับรถเข้าไปที่บ้านของนายสุนทร จนทำให้ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านของนายสุนทร ส่วนลูกน้องคนสนิทของ สจ.จอยและ สจ.โต้ง ที่อยู่ในวันเกิดเหตุนั้น ได้มีการสอบปากคำไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่อาจจะมีการเรียกกลับมาสอบปากคำเพิ่มเติมบางคน

ด้านทนายนิติศักดิ์กล่าวว่า หลังจากที่กองบังคับการปราบปรามรับโอนสำนวนคดีมาแล้ว คาดว่าน่าจะมีการตรวจสำนวนคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และน่าจะพบว่ามีประเด็นไหนบ้างที่จะสอบปากคำเพิ่มเติม จึงได้มีการเรียกตัว สจ.จอยเข้ามาสอบปากคำ เพราะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ สจ.โต้ง เนื่องจากเป็นภรรยา จึงน่าจะรู้รายละเอียดในคดีมากกว่าคนอื่น ส่วนประเด็นการสอบปากคำยังไม่ได้คุยรายละเอียด แต่น่าจะเป็นประเด็นทั้งหมดของรูปคดีว่ามีแรงจูงใจในการก่อเหตุหรือไม่ ตำรวจยังติดใจในประเด็นใดบ้าง ซึ่งต้องรอตำรวจสรุปคดีให้ชัดเจนก่อน

 “จากการที่ได้พูดคุยกับ สจ.จอย ทราบว่าหลังกองบังคับการปราบปรามรับโอนสำนวนคดีมาแล้วก็คลายความกังวลใจ เพียงแต่อยากได้รับความเป็นธรรม และอยากให้บุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับโทษทางกฎหมาย ส่วนเรื่องความปลอดภัยเชื่อว่า สจ.จอยไม่ได้มีความกังวลใจ โดยยังลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรีตามปกติ  เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาดูแลความปลอดภัยระหว่างที่ดำเนินคดีอยู่ และระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีการข่มขู่มาถึงตัว สจ.จอยแต่อย่างใด” นายนิติศักดิ์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่กลัวทุนผูกขาด! ‘พีระพันธ์ุ’ ลุยลดราคาพลังงานซัดขบวนการใส่ร้าย

“พีระพันธุ์” สุดทน โพสต์ร่ายผลงานปี 2567 พร้อมยกแผนปี 2568 โชว์ บอกทำงานสายตัวแทบขาดแต่ถูกกลุ่มเสียประโยชน์ปั้นข่าวใส่ร้าย เสี้ยมพรรคเพื่อไทย-นายกฯ

แม้วเดินสายโชว์บารมี อิ๊งค์ปราศรัยนครพนม

"ทักษิณ" ลุยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ. จ่อขึ้นเวทีเชียงราย 3 เวที "เทิง-เชียงของ-แม่จัน" ปราศรัยช่วย "สลักจฤฎดิ์-เมียยงยุทธ" ก่อนเดินสายลำปาง-นครพนม-บึงกาฬ-หนองคาย-มหาสารคาม-ศรีสะเกษ

‘แพทองธาร’ เข้าพบ ‘สุรยุทธ์’

นายกฯ เผย สมเด็จพระสังฆราชประทานพรให้แข็งแรง ดูแลบ้านเมืองให้สงบ พร้อมเข้าขอพรปีใหม่ประธานองคมนตรี สักการะพระแก้วมรกต-ศาลหลักเมือง

นายกฯรวยหมื่นล้าน อิ๊งค์แจงบัญชีทรัพย์สิน ใช้จ่ายส่วนตัวปีละ45ล.

“ป.ป.ช.” เปิดทรัพย์สิน “นายกฯ อิ๊งค์” รวยมโหฬารกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท แบกหนี้กู้เงินญาติพี่น้อง 4.4 พันล้าน สะสมนาฬิกา 75 เรือน มูลค่า 162 ล้านบาท มีกระเป๋า 217 ใบ