‘แพทองโพย’ขาลง!

"นิด้าโพล-ดุสิตโพล" สะท้อนตรงกัน   "นายกฯ อิ๊งค์" ขาลง! คะแนนนิยมลด สวนทางผลงานรัฐบาลเพิ่ม "เท้ง" พุ่งแซงหน้า ปชช.หนุนอยากให้เป็นนายกฯ "หัวหน้า ปชน." เขินบอกผลโพลมีขึ้นมีลงเสมอ ขอมุ่งมั่นทำงานหนักในปี 68 "อนุทิน"  ปัดวิจารณ์ ยันรัฐบาลแพทองธารสามัคคีทำงานได้ดี "จุรินทร์" แนะ รบ.อยู่นานแค่ไหนขึ้นกับ 4 ปัจจัยสำคัญ "พท." รุมซัด "โรม" วิจารณ์ "ทักษิณ" พบ  "นายกฯ มาเลย์"

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง  “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส  ครั้งที่ 4/2567” ระหว่างวันที่ 19-24 ธ.ค.2567  จำนวน 2,000 ตัวอย่าง พบว่า บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อันดับ 1   ร้อยละ 29.85 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ พรรคประชาชน เพราะมีความมุ่งมั่นในการสานต่ออุดมการณ์ของพรรคและมีบทบาทที่เข้ากับคนรุ่นใหม่, อันดับ 2 ร้อยละ 28.80 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย เพราะมีประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจ เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีพลังและมุมมองทันสมัยในด้านการเมือง, อันดับ 3 ร้อยละ 14.40 ระบุยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้, อันดับ 4  ร้อยละ 10.25 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และมีภาพลักษณ์ของผู้นำที่เข้าถึงง่าย และอันดับ 5 ร้อยละ 6.45 นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย เพราะมีความสามารถในการบริหารงาน และมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศ

ถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 37.30 พรรคประชาชน, อันดับ 2 ร้อยละ 27.70 พรรคเพื่อไทย, อันดับ 3 ร้อยละ 10.60 พรรครวมไทยสร้างชาติ, อันดับ 4 ร้อยละ 8.20 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้, อันดับ 5 ร้อยละ 5.15 พรรคภูมิใจไทย,   อันดับ 6 ร้อยละ 3.40 พรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 7 ร้อยละ 3.05 พรรคพลังประชารัฐ, อันดับ 8 ร้อยละ 2.50 พรรคไทยสร้างไทย, อันดับ 9 ร้อยละ 1.00 พรรคประชาชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3/2567 ของนิด้าโพล ระหว่างวันที่ 16-23 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า อันดับ 1 ร้อยละ 31.35 น.ส.แพทองธาร ส่วนอันดับ 2 ร้อยละ 23.50 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ และอันดับ 3 ร้อยละ 22.90 นายณัฐพงษ์ 

ขณะที่ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต  เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือน ธ.ค.2567” กลุ่มตัวอย่าง 2,154 คน สำรวจระหว่างวันที่ 16-25 ธ.ค. พบว่า ดัชนีการเมืองไทย เดือน ธ.ค. อยู่ที่ 4.97 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนน เพิ่มจากเดือน พ.ย. ซึ่งอยู่ที่ 4.92 คะแนน จำแนกเป็นการมีส่วนร่วมของประชาชน ลดจาก 5.39 คะแนน เหลือ 5.37  คะแนน ผลงานรัฐบาลเพิ่มจาก 5.18 คะแนน เป็น 5.33 คะแนน แต่ผลงานนายกรัฐมนตรี กลับลดจาก 5.25 คะแนน เหลือ 5.23 คะแนน ส่วนผลงานฝ่ายค้าน เพิ่มจาก 5.24 คะแนน เป็น 5.25 คะแนน

ถามถึงนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทโดดเด่นในเดือน ธ.ค. แบ่งเป็น ฝ่ายรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ร้อยละ 51.25, นายอนุทิน ร้อยละ 26.36, นายภูมิธรรม เวชยชัย ร้อยละ 22.39 ส่วนฝ่ายค้าน นายณัฐพงษ์ ร้อยละ 45.78, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ร้อยละ 33.13 และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ร้อยละ 21.09

เมื่อถามถึงผลงานของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบในเดือน ธ.ค. แบ่งเป็น ผลงานรัฐบาล คือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม 9,000  บาท ร้อยละ 40.05, เงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ร้อยละ 34.80 และเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ร้อยละ 25.15 ส่วนฝ่ายค้านคือ การตรวจสอบรัฐบาลเพื่อความโปร่งใส ร้อยละ 42.72, ติดตาม 4 ลูกเรือไทยในเมียนมา ร้อยละ 30.02 และคัดค้านนโยบายรัฐที่ไม่ชัดเจน ร้อยละ 27.26

'เท้ง'ปลื้มผลโพลนำ'อิ๊งค์'

น.ส.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล กล่าวว่า ดัชนีการเมืองไทยปิดท้ายปีด้วยการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการเร่งสร้างผลงาน ด้านคะแนนนายกฯ ที่ลดลง ก็สะท้อนถึงความคาดหวังที่ยังตอบสนองได้ไม่ดีพอ การสร้างความเชื่อมั่นในปีใหม่จึงขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนได้มากน้อยเพียงใด ดัชนีการเมืองเดือนสุดท้ายของปีจึงเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลนั้นเร่งเกม มีผลงานเพิ่ม แต่เศรษฐกิจยังเป็นจุดอ่อน

รศ.ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์ คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต  อธิบายเพิ่มเติมว่า แม้ภาพรวมดัชนีการเมืองไทยเดือน ธ.ค. จะมีค่าคะแนนอยู่ที่ 4.97 ซึ่งสูงกว่าเดือน พ.ย. ก็ยังถือว่ารัฐบาลยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อกลุ่มตัวอย่างกว่า 2,000 คน หากพิจารณาตัวแปรต่างๆ ที่สะท้อนความไม่เชื่อมั่นและทำให้คะแนนลดลง จะพบว่า ค่าครองชีพ เงินเดือน และสวัสดิการนั้น มีคะแนนลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 4.85 ซึ่งมีความสอดคล้องกับสภาวการณ์และความตกต่ำทางเศรษฐกิจและย้อนแย้งกับวาทกรรมทางการเมืองที่ว่า “คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”

"ผลงานของนายกฯ ก็ยังมีค่าคะแนนที่ไม่สูงมากนัก ดังนั้นรัฐบาลและฝ่ายค้านไม่ควรปฏิเสธผลสำรวจนี้ และควรนำข้อมูลดังกล่าวไปศึกษาหาวิธีการแก้ไข เพื่อพัฒนาและสร้างความเชื่อมั่นในทางการเมืองการบริหารของรัฐบาลต่อไป" รศ.ดร.ธนภัทรกล่าว

ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีนิด้าโพลระบุได้รับคะแนนนิยมเป็นอันดับหนึ่งว่า ขอขอบคุณประชาชนที่สะท้อนเสียงคะแนนนิยมออกมาผ่านผลโพล อย่างไรก็ตาม ผลโพลมีขึ้นมีลงเสมอ ขึ้นเมื่อใดต้องไม่หลง ลงเมื่อใดต้องไม่ท้อ ก่อนหน้านี้แม้ผลโพลจะสะท้อนออกมาว่าพรรคประชาชนยังไม่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง แต่เราก็ไม่เสียสมาธิ ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจทำงานและผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การแก้ปัญหาค่าไฟแพง ที่ล่าสุดส่งผลให้เกิดการชะลอการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคประชาชนได้รับคะแนนนิยมเพิ่มมากขึ้น

"เพื่อยืนยันว่าเราไม่ได้หลงกับผลโพลที่เพิ่มขึ้น พรรคประชาชนจะมุ่งมั่นทำงานต่อไปอย่างหนัก โดยมีการตั้งปณิธานประชาชน 2568 (New Year’s Resolutions) จำนวน 9 ข้อ ที่จะมุ่งมั่นผลักดันให้สำเร็จในปี 2568 เพื่อร่วมกันเปลี่ยนประเทศไทยผ่านกลไกรัฐสภา จึงขอฝากให้พี่น้องประชาชนสนับสนุนพรรคประชาชน และเรายืนยันจะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนต่อไป" นายณัฐพงษ์กล่าว

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ปฏิเสธจะแสดงความเห็นกรณีโพลประเมิน น.ส.แพทองธารมีอะไรต้องปรับปรุงว่า ตนเป็นรองนายกฯ ผู้บังคับบัญชาคือนายกฯ แต่ถ้าหากถามว่ารัฐบาลทำงานด้วยกันได้หรือไม่ คำตอบก็ว่าทำได้

"นายกฯ มีภาวะผู้นำสูง และรัฐมนตรีคนอื่นๆ  รวมทั้งผมก็พร้อมรับคำแนะนำแนวปฏิบัติตามนโยบายของนายกฯ รวมถึงหากไม่ใช่นโยบายหลักของรัฐบาลก็ทำมาโดยตลอด และดำเนินการอย่างรวดเร็วด้วย รวมถึงความสามัคคีของ ครม.เห็นได้ชัดก็มีรูปหมู่รวมกับนายกฯ และเนกไทที่ใช้อยู่​นายกฯ ก็มอบให้ โดยมีตราทำเนียบรัฐบาลหราเต็มไปหมด ฉะนั้นหากเราไม่ชอบกันผมคงไม่ใส่เนกไทนี้" นายอนุทินกล่าว

ถามว่า ถึงเวลาที่จะต้องมีการปรับ ครม.แล้วหรือไม่ และพรรค ภท.ยังพอใจในบทบาทกระทรวงเดิมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า อะไรที่ไม่มีปัญหาก็อย่าให้มันมีปัญหา ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. เป็นอำนาจนายกฯ หากมีการปรับเมื่อไหร่ก็จะแจ้งมายังพรรคร่วมรัฐบาล พรรค ภท.ยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ขออยู่ที่เดิม

พท.จวก 'โรม' วิจารณ์แม้ว

ส่วนนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "เดินหน้าทำงาน" ระบุว่า วันนี้เมื่อเทียบเวลาเดียวกันกับปลายปีที่แล้ว คะแนนนิยม วัดโดยนิด้าโพล เพิ่มขึ้นของหัวหน้าพี จาก 2.4% เป็น 10.25% ของพรรครวมไทยสร้างชาติ จาก 3.2% เป็น 10.6% ล่าสุดทะลุ 10% ทั้งคู่แล้ว

"ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนพวกเรา  คอยช่วยสื่อสารประชาสัมพันธ์ผลงานของพรรคและหัวหน้า เราจะเดินหน้าทุ่มเททำงาน แก้ปัญหา พัฒนาประเทศ ด้วยจุดยืนที่มั่นคง ตามแบบ DNA ลุงตู่" นายเอกนัฏระบุ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงเสถียรภาพรัฐบาลในปี 68 ว่า รัฐบาลยังอยู่ได้  ถ้าดูจากปริมาณเสียงในสภาอย่างเดียว เพราะรัฐบาลนี้มีเสียงข้างมากแบบเบ็ดเสร็จถึงกว่า 300 เสียง และแม้ว่าจะมีความเห็นที่ไม่ลงรอยกันหลายเรื่องหลายกรณีในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน แต่เมื่อถึงเวลาต้องลงมติเกี่ยวกับความเป็นความตายของรัฐบาล ยังเชื่อว่าพรรคร่วมส่วนใหญ่ยังอยากเป็นรัฐบาล

"แต่เสถียรภาพของรัฐบาลไม่ได้ขึ้นกับปริมาณเสียงอย่างเดียว ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของรัฐบาลด้วย ตั้งแต่ผู้นำรัฐบาล ไปจนถึงรัฐมนตรีและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ รวมถึงบุคคลแวดล้อม ซึ่งต้องระวัง 4 ปัจจัย ที่จะเป็นตัวบั่นทอนเสถียรภาพ นั่นคือการเหลิงอำนาจ การทุจริต การกระทำผิดกฎหมาย และการทำลายกระบวนการยุติธรรมหรือการทำลายหลักนิติธรรมซ้ำซาก ที่มีการบังคับใช้กฎหมายแบบหลายมาตรฐาน จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็นนิติรัฐไร้ที่พึ่ง ซึ่งทั้ง 4 ปัจจัยนี้รัฐบาลต้องตระหนักให้มาก หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่ต้องไปโทษใคร" นายจุรินทร์กล่าว

วันเดียวกัน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย   (พท.) กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.)  พาดพิงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบหารือกับนายดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียว่า งงกับนายรังสิมันต์ที่ตั้งคำถามเหมือนคนไม่ตามข่าวสารว่านายกฯ ซึ่งกำลังรับตำแหน่งเป็นประธานอาเซียนในปี 2568 แต่งตั้งอดีตนายกฯ ทักษิณเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ไม่ใช่เพราะนายทักษิณเป็นล็อบบี้ยิสต์ หรือเป็นเสมือนนายกฯ อย่างที่นายรังสิมันต์ยัดเยียด

 “มัวแต่จ้องจับผิด จนลามถึงผู้นำต่างประเทศ ที่เขาแต่งตั้งอดีตนายกฯ ทักษิณเป็นที่ปรึกษา นับว่า สส.รังสิมันต์ตั้งคำถามแบบไม่มีมารยาท สุ่มเสี่ยงยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยที่พรรคประชาชนไม่เคยรับผิดชอบ” รองเลขาฯ พรรค พท.ระบุ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค พท.  กล่าวกรณีนายรังสิมันต์เช่นกันว่า นายรังสิมันต์เป็นแค่เด็กเมื่อวานซืน ไม่เคยมีผลงานในด้านบริหารมาก่อนจึงไม่เข้าใจ วันนี้ควรจะมองถึงโอกาสมากกว่าปัญหา อาเซียนมีประชากรเกือบ 700 ล้านคน จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ประเทศได้อย่างไร อย่ามัวแต่คิดเรื่องไร้สาระ ด้อยค่าภาวะผู้นำอดีตนายกฯ ทักษิณ หรือคิดแต่แง่ลบคิดว่าจะมีเรื่องอะไรเสียหาย เพราะมันสะท้อนวุฒิภาวะและศีลธรรม เป็นคนรุ่นใหม่ควรยึดหลักสร้างสรรค์ จะคัดค้านอะไรขอให้มุ่งไปที่คอนเทนต์เนื้อหา อย่าเอาแต่ดรามากะโหลกกะลาหาแสง

 “รีบออกมาแซะแบบน่าจะอิจฉาริษยาอดีตนายกฯ ทักษิณและรัฐบาลที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะมีผลงานล้ำหน้า ถือเป็นการทำงานฝ่ายค้านที่มีผลงานสอบตกในปี 67 ค้านไร้สาระแบบนี้คะแนนเต็ม 10 ผมให้แค่ 4 เท่านั้น” นายพร้อมพงศ์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุยสอบนายกฯตัวจริง

"นายกรัฐมนตรี" อวยพรปีใหม่ 2568 ขอให้ปชช.มีความสุข ปราศจากอุปสรรค และเป็นปีแห่งโอกาสของทุกคน