‘ทวีไอพี’ปัดขังนอกคุกเอื้อปู

ยธ.ประเดิมใช้ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ หลัง ม.ค.68 อัตราโทษไม่เกิน 4 ปี ปัดปูทาง "ยิ่งลักษณ์" ไม่เข้าเงื่อนไข โทษสูงเกินกำหนด  อธิบดีราชทัณฑ์แจงอยู่ระหว่างสำรวจ ต้องเข้าเกณฑ์ 4 กลุ่ม ชี้อยู่บ้านต้องติดวงจรปิด

ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เขตจตุจักร กรุงเทพฯ   เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าหลักเกณฑ์คุมขังนอกเรือนจำว่า ขณะนี้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเสร็จแล้ว โดยประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ดังกล่าว อาจไม่มีการแก้ไขอะไร ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนมาก บางที่เราอาจต้องให้เขาออกไปอยู่ข้างนอก โดยอาจเป็นที่คุมขังอื่น แต่จะอยู่ได้แค่ในที่นั้น เพียงไม่ให้เกิดความแออัดในเรือนจำ เช่น คนเป็นโรคไตวาย จะไว้ในเรือนจำไม่ได้ อีกทั้งโรงพยาบาลทัณฑสถานเองเล็ก คาดว่าจะได้ใช้ระเบียบดังกล่าวแล้ว

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เดิมคิดน่าจะแล้วเสร็จก่อนช่วงปีใหม่ หลังทำประชาพิจารณ์เสร็จ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 เนื่องจากระเบียบดังกล่าวมีขั้นตอนเยอะ มีคณะกรรมการระดับกรม ผบ.เรือนจำ องค์กรที่เข้ามาช่วยดู และที่สำคัญผู้ที่ออกไปคุมขังอื่นต้องติดกล้องเพื่อให้ดูได้ บางส่วนอาจติดกำไลอีเอ็ม รวมถึงมีการจำกัดพื้นที่ คาดว่าบังคับใช้หลังเดือน ม.ค. โดยโทษส่วนใหญ่จะเป็นโทษเล็กน้อย ตั้งแต่ 4 ปีลงมา หากเรือนจำไหนพร้อมจะทำ โดยจะต้องดูเรื่องของสุขภาพและมีความผิดน้อยก่อน

เมื่อถามว่า จะเตรียมรับมืออย่างไร เนื่องจากหลายคนมองว่าระเบียบดังกล่าวทำเพื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ และมีโทษสูงกว่าที่กำหนด

ด้านนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการสำรวจ เพราะที่กำหนดไว้มีทั้งหมด 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับการจำแนก, กลุ่มที่ต้องได้รับการพิจารณาพฤตินิสัย, กลุ่มเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย และกลุ่มผู้ต้องขังเจ็บป่วย ดังนั้น หากสำรวจแล้วเสร็จจึงจะมีการพิจารณาถึงสถานที่ที่จะใช้ในการคุมขังและระบบการดูแล แต่คงยังประกาศไม่ได้ว่าจะเป็นกลุ่มใดก่อน แต่เป็นไปได้อยากทำทุกกลุ่มพร้อมกัน เมื่อหลักเกณฑ์ประกาศใช้ ราชทัณฑ์จะมอบหมายให้แต่ละเรือนจำทั่วประเทศรับไปดำเนินการ และให้พิจารณาว่าผู้ต้องขังรายใดมีคุณสมบัติ และสถานที่สำหรับคุมขังอื่นต้องรองรับด้วย เช่น ถ้าเป็นสถานที่สำหรับติดกล้องวงจรปิด ต้องเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อยทุกด้าน

ทั้งนี้ หากสถานที่คุมขังอื่นดังกล่าวเป็นบ้านพัก ต้องมีการติดกล้องวงจรปิด ส่วนการติดกำไลอีเอ็มหรือไม่นั้น จะเป็นการพิจารณาของคณะกรรมการฯ  โดยไม่ต้องเสนอต่อศาล เพราะเป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์ อยากให้เข้าใจว่า หากเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด จะเป็นอำนาจการบริหารของกรมราชทัณฑ์ และยืนยันว่าผู้ต้องขังที่ไปคุมขังยังสถานที่อื่นยังต้องโทษอยู่ แค่เปลี่ยนจากเรือนจำเป็นสถานที่คุมขังอื่นเท่านั้น

เมื่อถามว่า คดีประเภทความมั่นคง และความผิดต่อร่างกาย จิตใจ และเพศ จะเข้าเกณฑ์ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำหรือไม่ นายสหการณ์กล่าวว่า   ในส่วนของผู้ต้องขังในคดีพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง หรือกฎหมาย JSOC จะไม่เข้าเงื่อนไขแน่นอน รวมทั้งคดีการก่อการร้าย คดีการจำหน่ายยาเสพติดในปริมาณมาก หรือผู้ค้ารายใหญ่ ทั้งนี้ คำว่าคดีความมั่นคงนั้นค่อนข้างกว้าง ส่วนผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 ที่มีจำนวนมากในเรือนจำ จะได้รับการพิจารณาเข้าเกณฑ์หรือไม่นั้น จะต้องนำมาพิจารณาทั้งหมด เพราะในการพิจารณาจะมีกรรมการตั้งแต่ชั้นเรือนจำ จนมาถึงกรรมการชั้นกรมราชทัณฑ์ ที่มีรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นประธาน และก็ต้องมีการเสนออธิบดีกรมราชทัณฑ์พิจารณาอีกครั้ง

ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 157  นั้น นายสหการณ์กล่าวว่า ความผิดมาตรา 157 ไม่อยู่ในข้อยกเว้น แต่ประเด็นดังกล่าวจะถูกนำมาพิจารณาทั้งในชั้นกรรมการเรือนจำและกรรมการระดับกรมราชทัณฑ์

เมื่อถามว่า หากดูข้อมูลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เหลืออัตราโทษจำคุก 5 ปี หากมีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายแล้วอาจเหลือโทษน้อยลง หรือได้รับการลดโทษ จะเข้าเงื่อนไขโทษต่ำ 4 ปี สำหรับระเบียบคุมขังนอกเรือนจำหรือไม่ นายสหการณ์กล่าวว่า เงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้คือมีอัตราโทษไม่เกิน 4 ปี หรือมีคำพิพากษาจากศาลไม่เกิน 4 ปี ก็จะเข้าเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้มีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายเข้ามาที่กรมราชทัณฑ์ เนื่องด้วยเจ้าตัวยังไม่ได้เข้ามาอยู่ที่เรือนจำ แต่หากเข้ามาที่เรือนจำเมื่อใดจึงจะยื่นขออภัยโทษได้.