ภท.เฮรอดคดียุบพรรค! อิ๊งค์ขอเริ่มทำงาน2ม.ค.

“ภท.” เฮ รอดยุบพรรค กกต.ยุติสอบ  “วันนอร์” ไม่หวั่นถูกเลื่อยขาเก้าอี้ ท้าอยากเปลี่ยนให้เสนอญัตติมา “วิสุทธิ์” จวก ปชน. การเมืองแบบเก่า พร้อมป้อง “อิ๊งค์” ไม่เคยกลัวสภา แต่ติดภารกิจดูแลประชาชน ด้านนายกฯ ลางานปีใหม่ พร้อมมอบคำขวัญวันเด็กปี 68 

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. สำนักงานคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.)​ ได้ออกเอกสารข่าวระบุว่า ตามที่สำนักงาน กกต.ได้รับคำร้องของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายภัทรพงศ์ ศุภักษร, นายศรีสุวรรณ  จรรยา และนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ว่าการกระทำของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด จากนายศุภวัฒน์  เกษมสุทธิ์ บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อาจจะเป็นการรับบริจาคโดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 72 เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) แห่ง พ.ร.ป.ฉบับเดียวกัน

โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองได้พิจารณาคำร้องประกอบความเห็นของคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงตามคำสั่งนายทะเบียนและความเห็นคณะอนุกรรมการ ที่ปรึกษานายทะเบียนพรรคการเมือง เห็นว่า กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น บริจาคเงินให้แก่พรรค ภท. โดยเงินบริจาคซึ่งได้มาจากการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และการขัดกันแห่งประโยชน์ ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า พรรค ภท.ได้รับบริจาคโดยรู้หรือควรรู้ว่าเงินบริจาคได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 72 ชั้นนี้ จึงให้ยุติเรื่อง

ทั้งนี้ หากปรากฏพยานหลักฐานใหม่ภายหลังตามคำพิพากษาของศาลว่าผู้บริจาคกระทำผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ นายทะเบียนพรรคการเมืองจะยกขึ้นพิจารณาใหม่ ส่วนกรณีนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เป็นการบริจาคงานวิจัย และบริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (จำกัด) เป็นการบริจาคเงิน โดยทั้งสองกรณี ไม่ปรากฏหลักฐานว่า พรรค ภท.รับบริจาคโดยรู้หรือควรรู้ว่าเงินหรือทรัพย์สินที่นำมาบริจาคได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 72 จึงให้ยกคำร้อง

วันเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังสื่อมวลชนให้ฉายารูทีนตีนตุ๊กแก กังวลหรือไม่ว่าในปี 2568 จะถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซงเก้าอี้ประธานสภาฯ ว่า เป็นความคิดเห็นที่สมาชิกหรือพรรคการเมืองสามารถแสดงออกได้ แต่ในฐานะตนเองเป็นประธานรัฐสภาในฝ่ายนิติบัญญัติ  จึงคิดว่าตำแหน่งในทางนิติบัญญัติเป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา

“หากสมาชิกส่วนใหญ่ต้องการเปลี่ยนก็สามารถเสนอญัตติเปลี่ยนแปลงได้ เพราะประธานสภาฯ หรือรองประธานสภาฯ มาจากการเลือกตั้งของสมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองมาขอให้เปลี่ยนแปลง จึงอยากให้แยกฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารออกจากกัน ไม่เช่นนั้นสองฝ่ายต้องขึ้นแก่กัน หรือฝ่ายใดต้องฟังอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ซึ่งไม่แทรกแซงกัน นี่เป็นหลักการ ฝ่ายบริหารสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐมนตรีได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาและข้อบังคับ เรื่องนี้จึงไม่มีปัญหา” นายวันมูหะมัดนอร์ระบุ

               นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวอีกว่า อาจจะมีความเข้าใจผิดว่า ประธานสภาฯ  และรองประธานสภาฯ ต้องเสนอชื่อโดยพรรคการเมืองเสียงข้างมากเท่านั้น ซึ่งพรรคการเมืองสามารถเสนอได้ในช่วงแรกที่มีการเลือกประธานสภาฯ หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ โดยสมาชิกเป็นผู้เลือก ส่วนระยะเวลาการดำรงตำแหน่งก็เป็นไปตามวาระ เว้นแต่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ หรือมีข้อบกพร่อง พร้อมย้ำว่าทุกเรื่องเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติเอง

สำหรับรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันเดียวกัน    นายกฯ ได้ส่งหนังสือลากิจ 1 วัน ไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เรียบร้อยแล้ว  โดยมอบหมายภารกิจให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐดิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานในงานประกาศรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2567 (DIGITAL GOVERNMENT AWARDS 2024) แทน ในเวลา 10.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล

ขณะเดียวกัน ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่นี้ นายกฯ จะใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว และจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งในวันที่ 2 ม.ค. เวลา 07.30 น. เป็นประธานในพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2568 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน น.ส.แพทองธารยังได้มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568 ว่า “ทุกโอกาสคือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”

ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ  และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังและไม่อยากเชื่อว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน วันนี้จะทำงานย้อนยุคกลับไปสู่วังวนการเมืองน้ำเน่าสมัยก่อนใช่หรือไม่ เห็นได้จากการใช้วิธีออกมาพูดให้ตนเองดูดี แต่โจมตีคนอื่น ที่สำคัญไม่สามารถบอกประชาชนได้ว่าพรรคตัวเองมีผลงานหรือนโยบายอะไรที่เป็นรูปธรรม แต่มักจะใช้วิธีชี้หน้าด่าคนอื่นแล้วบอกว่าตัวเองเป็นคนดี

นายวิสุทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเตรียมจะไปตอบกระทู้ในสภานั้นว่า เชื่อว่าผู้นำฝ่ายค้านฯ ซึ่งเคยเป็นฝ่ายค้านมาโดยตลอด ก็คงทราบดีว่าช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนเทศกาลปีใหม่ รัฐบาล หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ต้องลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบส่วนราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกและกำชับการปฏิบัติงานเรื่องการเดินทาง การดูแลความปลอดภัยในสวัสดิภาพของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา และการตอบกระทู้ต่างๆ หากนายกฯ ติดภารกิจได้มอบหมายรองนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงในสภา

“ส่วนการตั้งกระทู้สดถามประเด็นต่างๆ นั้น อยากฝากให้ผู้นำฝ่ายค้านฯ ช่วยเร่งแก้ไขข้อบังคับสภาที่เปลี่ยนมาเป็นให้ยื่นอย่างน้อยก่อน 1 วัน ไม่ใช่ให้ยื่น 08.00 น. ให้นายกฯ หรือรัฐมนตรีมาตอบ 10.00 น. ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เนื่องจากเป็นเวลาที่กระชั้นชิด และนายกฯ หรือรัฐมนตรีอาจติดภารกิจ” ประธาน สส.พรรคเพื่อไทยกล่าว และว่า ไม่เห็นจะต้องรีบบังคับให้นายกฯ ไปตอบทันที เพราะบางเรื่องก็สอบถามทางกระทรวงอยู่แล้ว แต่สมาชิกฝ่ายค้านส่วนใหญ่มักนิยมถามพุ่งเป้าไปที่นายกฯ

เขากล่าวอีกว่า นายกฯ ไม่เคยรู้สึกกลัวสภาแต่อย่างใด นายกฯ เป็นทั้งหัวหน้าพรรคการเมืองมา  เคยขึ้นเวทีปราศรัยคนเป็นหมื่นๆ ปราศรัยอธิบายและเคยแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภามา พร้อมฝากว่าหลังปีใหม่หากมีประเด็นที่สอบถามก็ยังมีโอกาสตอบได้ในทุกการประชุมสภาอยู่แล้ว ตนไม่อยากให้สังคมเห็นว่าฉายา เท้งเต้ง ที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ได้มาจะทำให้ตัวเองรู้สึกด้อยค่าหรือไม่ จนทำให้รู้สึกผู้นำฝ่ายค้านฯ เหงา ถึงขนาดต้องเรียกหานายกฯ

“ผมย้ำว่านายกฯ ไม่เคยกลัวหรือคิดหนีสภา แต่เนื่องจากติดภารกิจ ไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งพูดโจมตีใคร แต่หลังปีใหม่ ถ้าฝ่ายค้านมีเรื่องไหนสอบถาม หากไม่ติดภารกิจท่านก็พร้อมเข้ามาตอบในสภา จึงฝากฝ่ายค้านว่า ถ้าช่วงนี้หากเหงามาก เอาเวลาไปดูแลประชาชนช่วงปีใหม่จะมีประโยชน์กว่า” นายวิสุทธิ์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลขาฯกกต. ย้ำเจ้าหน้าที่จัดเลือกตั้งอบจ. ภายใต้กรอบกฎหมาย เป็นธรรม สุจริต

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​ เป็นประธานในพิธีเปิด “กิจกรรมอบรมเสริมสร้างความรู้เท่าทันการกระทำผิดทางการเมืองในการเลือกตั้ง อบจ.” ที่องค์การบริหาร

ธปท.จับตาแจกเงินเฟส2-3

“คลัง” ฟุ้งเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.โตต่อเนื่อง อานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยวหนุนเต็มพิกัด 

ภูมิใจไทย เฮ! รอดคดียุบพรรค

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย พ.ต.ท. ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. , น.ส.โชติกา แก้วผล ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และคณะ ร่วมสังเกตการณ์การรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.ปราจีนบุรีและนายก อบจ.จังหวัดปราจีนบุรี ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี