ฟุ้งปีใหม่โอกาสดีทุกคน มั่นใจ‘แม้ว-หนู’ไร้ปัญหา

นายกฯ อิ๊งค์อวยพรปีใหม่ ให้ทุกคนมีจิตใจเบิกบานยันปี 68 จะทำเต็มที่ให้เป็นโอกาสที่ดีของคนไทยทุกคน ย้ำพรรคร่วมไม่มีปัญหาหลัง “ทักษิณ-อนุทิน" ออกรอบตีกอล์ฟด้วยกัน พ่อนายกฯ บอกไม่มีปัญหาแล้ว "อิ๊งค์-เสี่ยหนู" ทำงานร่วมกันได้ "อนุทิน" โวการกระทำดังกว่าคำพูด ปธ.วิปรัฐบาลโต้ ปชน.ตั้ง ส.ส.ร.แก้ รธน.คู่ขนานไม่ได้ รับไม่ทันเลือกตั้งปี 70 "เลขาฯ กกต." แจงดำเนินคดี "ชวาล" ทำตาม กม.และพยานหลักฐาน ขอให้ไปว่ากันในชั้นศาล

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 23 ธันวาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรประชาชนในเทศกาลปีใหม่ว่า ส่งท้ายปีอยากให้ทุกท่านมีจิตใจที่สดใสเบิกบาน พยายามมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ เรื่องง่ายๆ ใกล้ๆ ตัว สมมุตว่าเรามีกระดาษแผ่นหนึ่ง ถ้าจิ้มจุดดำไว้แล้วมองที่จุดดำจุดเดียว ก็จะกลายเป็นจุดที่ใหญ่มาก ถ้าทุกคนเอาไปปรับใช้กับชีวิต บางทีมีพื้นที่อีกเยอะที่เป็นเรื่องดีๆ อยากให้ทุกคนมีพลังงานที่ดีต้อนรับปีใหม่

"แน่นอนปีหน้าที่รัฐบาลประกาศจะเป็นปีแห่งโอกาส รัฐบาลก็จะทำเต็มที่ให้เป็นโอกาสที่ดีของคนไทยทุกคน ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ไปไหนมาไหนเดินทางปลอดภัย สนุกสนานให้เต็มที่ในช่วงวันหยุด แล้วกลับมาทำงานต่อ จะได้มีพลังกายพลังใจเยอะๆ" น.ส.แพทองธาร กล่าว

จากนั้น น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกรอบตีกอล์ฟกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถือเป็นการเคลียร์ใจอะไรกันหรือไม่ว่า นายทักษิณและนายอนุทินรู้จักกันมากว่า 20 ปีแล้ว การไปร้องเพลงตนไม่ได้ทราบว่าจะไปด้วยกัน จะปลายปีแล้วทุกคนได้พักผ่อนได้สนุกสนานก็เป็นเรื่องดี ไม่ได้คิดอะไร และความจริงแล้วตนและนายอนุทินก็คุยกันอยู่แล้ว ถึงจะมีปัญหาอะไรก็คุยกันเคลียร์กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ถึงเวลาถ้ามีอะไรก็คุย เพราะตนเป็นคนคุยอยู่แล้วไม่ได้ปล่อย

เมื่อถามย้ำว่า ดูแล้วเหมือนเป็นการสยบข่าวลือหรือไม่ เพราะมีกระแสว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่ได้อยู่ร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธารตอบว่า แล้วพอสยบได้หรือไม่ ก็ไม่ได้มีอะไร

ที่ จ.เชียงใหม่ นายทักษิณให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปรากฏภาพตีกอล์ฟร่วมกับนายอนุทิน และนายสารัชถ์  รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (มหาชน) เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า สนุกดี แต่ตนไม่ค่อยได้ตี ก็จะตีโดนบ้างไม่โดนบ้าง จริงๆ นายสารัชถ์เป็นคนเชิญไป ไม่มีนักการเมือง แต่นายอนุทินเป็นเพื่อนนายสารัชถ์มากว่า 20 ปี จึงชวนนายอนุทินไปในฐานะเพื่อน ปรากฏว่าไม่มีนักการเมือง แต่มีประเด็นการเมืองเยอะ เพราะเมื่อมีการส่งรูปออกไปก็มีสื่อนำไปตีเป็นประเด็นการเมือง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีอะไร

เมื่อถามว่า นายสารัชถ์เป็นคนกลางสมชื่อเลยหรือไม่  (ชื่อเล่นว่ากลาง) นายทักษิณกล่าวว่า “ไม่รู้ เขาซ้ายขวาหรือไม่” เมื่อถามว่าเคลียร์ใจกับนายอนุทินอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ กติกาง่ายนิดเดียว  คนเราเมื่ออยู่ร่วมกันก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน จบ

ถามย้ำว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการตีความว่าระหว่างพรรค ภท.กับพรรค พท.อาจจะมีเรื่องที่ไม่ลงรอยกันหลายเรื่อง นายทักษิณกล่าวว่า เท่าที่ดูไม่น่ามีอะไรมาก  เป็นเรื่องธรรมดา ลิ้นกับฟันบางครั้งก็กัดโดนกันบ้างเป็นธรรมดา จึงไม่น่าจะมีอะไร เพราะนายอนุทินกับ น.ส.แพทองธารก็ทำงานด้วยกันได้

ด้านนายอนุทินกล่าวเช่นกันว่า ไม่มีอะไร ปีหนึ่งก๊วนก็นัดกันครั้งสองครั้ง และไม่มีการพูดคุยสถานการณ์การเมืองกับนายทักษิณ ดูแต่วง ช่วยกันจับ และคุยกันเรื่องในอดีตและสิ่งที่ต้องการจะเห็น คือเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน ความร่วมมือจะทำให้เป็นรูปธรรมสำเร็จด้วยความรวดเร็ว ซึ่งเราปฏิบัติต่อกันด้วยดีมาโดยตลอด

 เมื่อถามว่า ได้สอบถามนายทักษิณประเด็นอีแอบหรือไม่ว่าหมายถึงใคร นายอนุทินกล่าวว่า ทำไมต้องไปถาม  คนเราต้อง Actions speak louder than words (การกระทำดังกว่าคำพูด) เมื่อถามว่าได้สอบถามประเด็นที่นายทักษิณระบุว่าหล่อเร็วไปหน่อยหรือไม่ หลังออกมาคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.กลาโหม นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้คุยและไม่คุยเรื่องเก่า ท่านไม่ได้หมายถึงตนชัดเจนอยู่แล้ว

ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่ทีมกฎหมายของประธานรัฐสภารับข้อเสนอให้ทำประชามติ 2 ครั้งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การทำประชามติ 2 ครั้งก็ดีอยู่แล้ว เพราะทำครั้งหนึ่งต้องใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท ถ้าทำ 3 ครั้งก็ต้องเสียงบประมาณ 9 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายเพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน แต่การจะแก้ไข รธน.ได้หรือไม่ คิดว่าต้องไปรอให้ผ่านระยะเวลา 180 วันไปก่อน หลังจากนั้นค่อยไปตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แล้วว่ากันใหม่อีกครั้ง

  เมื่อถามว่า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน เสนอว่าสามารถพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติกับการแก้ไข รธน.คู่ขนานกันไปได้ช่วงระหว่างรอพักร่าง 180 วัน นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ทำไม่ได้  หลายท่านบอกให้ตั้ง ส.ส.ร.เลยก็ตั้งไม่ได้ ตนได้ถามฝ่ายกฎหมายของสภาแล้ว แม้กระทั่งถามนายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานรัฐสภา ก็เห็นเช่นเดียวกัน แล้วเมื่อผ่านระยะเวลาพักร่าง พ.ร.บ.ประชามติ 180 วันแล้ว ถึงจะมาเลือกตั้ง ส.ส.ร.อย่างไร การแก้ไข รธน.ก็ไม่ทันการเลือกตั้งปี 2570 ซึ่งก็ไม่เป็นไร เราทำเต็มที่แล้วทุกคนก็เห็น เพราะติดขัดตรงวุฒิสมาชิก ก็ไม่เป็นไร ขอให้มี ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ก็พอ

เมื่อถามว่า มองว่าการที่ สว.โหวตไม่เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ประชามติ ไม่ได้เป็นการปิดประตูตั้ง ส.ส.ร.เพื่อแก้ไข รธน.หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า เมื่อถึงตอนนั้นเราคิดว่าเราตั้ง ส.ส.ร.ได้ ขอให้ผ่าน 180 วัน เพราะเราต้องตั้งส.ส.ร.ก่อน ซึ่งต้องทำให้ได้ น่าจะต้องมีการเจรจากับ สว.และ สส. รวมทั้งฝ่ายต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกัน แม้แต่พรรคภูมิใจไทย ในอนาคตเวลามันเปลี่ยนใจคนได้ “น้ำใสเปลี่ยนใจปลา เวลาเปลี่ยนใจคน”

​ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณี กกต.มีมติดำเนินคดีอาญากับนายชวาล พลเมืองดี สส.ชลบุรี พรรคประชาชน จากกรณีแจ้งค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งปี 2566 ไม่ครบถ้วนถูกต้องตามความเป็นจริงว่า เมื่อวานที่ผ่านมาที่ประชุม กกต.ได้มีมติและเผยแพร่ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกต. ซึ่งจากนี้ กกต.ก็จะส่งเรื่องไปยังศาลอุทธรณ์ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ส่วนกรณีที่นายชวาลระบุพร้อมต่อสู้คดี และอ้างเป็นการพลั้งเผลอหลงลืมนั้น นายแสวงกล่าวว่า กกต.ได้พิจารณาโดยดูกฎหมายและพยานหลักฐาน แต่การต่อสู้ก็เป็นสิทธิของผู้ได้รับผลกระทบ ทุกครั้งทุกเรื่องก็มีสิทธิอยู่แล้ว หากเป็นไปตามที่กล่าวอ้างก็ไปว่ากันในชั้นศาล

ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า หากดูในรายละเอียดเนื้อหาพบว่า เป็นเพียงการไม่ได้ยื่นใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งในโซเชียลมีเดียหลักไม่กี่พันบาท เรื่องนี้ต้องปล่อยให้เป็นกระบวนการที่ กกต.ดำเนินการ เชื่อว่าสังคมมองอยู่ว่า ข้อหาเล็กน้อยแบบนี้จะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ ทุกอย่างต้องรอฟังผล เพราะพรรคประชาชนเตรียมทีมกฎหมายไว้แล้ว.