สมัครอบจ.คึกคักพท.เกทับปชน.

เปิดรับสมัครนายกและสมาชิก อบจ.วันแรกทั่วไทยสุดคึกคัก “แสวง” มั่นใจไร้ปัญหา เชื่อมีแต่การแข่งขันเข้มข้นไม่รุนแรง “แพทองแพด” ยังกั๊กเรื่องลงพื้นที่ช่วยหาเสียง แต่ “พ่อนายกฯ” ขึ้นเชียงใหม่ ฟุ้งกลับมาแล้วเชื่อคนเชียงใหม่จะเทใจให้เพื่อไทย “เท้ง” ลั่นมั่นใจ 100% กวาดเก้าอี้เมืองนนท์ บอกเป็นฐานที่มั่นของพรรค “ธนาธร” ไม่ท้อ ยันแพ้หลายสนามแต่ได้ขยายความคิด

เมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2567 ถือเป็นวันแรกที่ได้เปิดให้มีการสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) จำนวน 47 จังหวัด และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) 76 จังหวัด โดยจะเลือกตั้งพร้อมกันในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2568

โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงภาพรวมการรับสมัครว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นถือเป็นรากฐานของการพัฒนาการเมืองระดับประเทศ ถ้าท้องถิ่นดีระดับชาติก็จะดีไปด้วย เพราะการปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นประชาธิปไตยที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ซึ่งในการเลือกนายก อบจ.และ ส.อบจ.ในวันที่ 1 ก.พ. 68 จะมี อบจ. 5 ขนาด คือจังหวัดที่มี 24 เขตเลือกตั้ง จำนวน 23 จังหวัด, จังหวัดที่มี 30 เขตเลือกตั้ง จำนวน 33 จังหวัด, จังหวัดที่มี 36 เขตเลือกตั้ง จำนวน 12 จังหวัด, จังหวัดที่มี 42 เขตเลือกตั้ง จำนวน 7 จังหวัด และจังหวัดที่มี 48 เขตเลือกตั้ง มีจังหวัดเดียวคือนครราชสีมา

นายแสวงกล่าวอีกว่า ขอให้ผู้สมัครตรวจสอบคุณสมบัติของตัวเองให้ดีและดูคุณสมบัติต้องห้าม ส่วนประชาชนก็ควรตรวจสอบดูสิทธิของตัวเองว่าชื่อตกหล่นในทะเบียนบ้านหรือไม่ อีกทั้งสามารถช่วยสอดส่องให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตได้ โดยสำนักงาน กกต.มีประกาศเกี่ยวกับการให้รางวัลผู้แจ้งเบาะแสการกระทำอันไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง โดยมีเงินรางวัลตั้งแต่ 1 แสนบาทแต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท

 “ฝากถึงผู้ไปสมัครหรือผู้ที่จะไปให้กำลังใจผู้สมัครสามารถทำได้ แต่ตอนกลับเมื่อได้หมายเลขแล้วอย่าไปแห่กระทำในลักษณะรื่นเริงอย่างตีกลอง เพราะจะเป็นการรื่นเริง ซึ่งศาลอุทธรณ์เคยมีคำพิพากษามาแล้ว”

เมื่อถามถึงพื้นที่ปราจีนบุรีและพื้นที่อื่นๆ ที่เคยมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นนั้นจะกำชับอย่างไร นายแสวงกล่าวว่า ต้องดูว่าเหตุรุนแรงมาจากอะไร แต่เรื่องร้องเรียนการเลือกตั้งที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นเรื่องการพูด จากเมื่อก่อนเป็นการร้องเรียนการซื้อสิทธิขายเสียง การใช้อำนาจที่ไม่ชอบ การใช้กลไกเจ้าหน้าที่รัฐในการช่วย แต่ตั้งแต่ปี 2566 ไม่เห็นคำร้องลักษณะอย่างนี้ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ส่วนมากเป็นคำร้องการใช้เสรีภาพ หากใช้เกินก็ผิดกฎหมาย ซึ่งเข้าข่ายหลอกลวงหรือใส่ร้าย จากนี้จะเริ่มหาเสียงซึ่งจะมี 2 อย่าง คือความเข้มข้นของการหาเสียง เช่นกรณีมีบุคคลสำคัญของพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครเอง ซึ่งเราไม่ได้เรียกว่าเป็นการแข่งขันรุนแรง แต่เป็นการแข่งขันเข้มข้น ส่วนเรื่องความรุนแรงในความหมายของ กกต. คือการกระทำที่ตรงข้ามกับประชาธิปไตย สิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจต้องดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งก็มีอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ได้รับรายงานการข่าวหรือไม่ว่ามีพื้นที่ใดเสี่ยงเกิดความรุนแรง นายแสวงกล่าวว่า จากการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนที่คนจะไปสมัครนั้น เราจะทราบพอสมควรว่าใครจะไปสมัครบ้าง ภาพรวมดูแล้วก็ยังสงบดี ส่วนการจับตาการหาเสียง กรณีคนของพรรคการเมืองไปช่วยหาเสียงนั้นไม่กังวล เพราะจะถูกจับตามองจากฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว อีกทั้งเขาก็ต้องดูแลตัวเองด้วย ดังนั้นไม่กังวลว่าพรรคการเมืองหรือผู้สมัครจะไปทำอะไรเกินเลย

 “พอเป็นคนการเมืองและอยู่ในช่วงใกล้จะมีการเลือกตั้งพอดี กกต.ก็ใส่ใจ โดยในสัปดาห์หน้ากรรมการการเลือกตั้งและผมก็จะลงพื้นที่ นำผู้สมัครเข้าร่วมโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์ ไม่ได้รู้สึกกังวล คิดว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีกจนถึงวันเลือกตั้ง ไม่ว่าในจังหวัดใดก็ตาม ทั้งนี้ในมุมของความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เขาเรียกว่าเหตุความรุนแรง ซึ่งไม่ได้เกิดในระหว่างของการเลือกตั้ง เมื่อเกิดเหตุ กกต.มองเป็นเรื่องของความไม่สงบเรียบร้อย ตามกฎหมายบ้านเมืองจะมีเจ้าหน้าที่ดูแล  อย่างไรก็ตามเมื่อมีการเลือกตั้ง กกต.ต้องเข้าไปดูแลในเรื่องของการหาเสียง ขณะที่ความสงบเรียบร้อยก็เป็นของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผมคิดว่าบรรยากาศไม่ได้เป็นเช่นนั้น  คล้ายเป็นอุบัติเหตุเฉพาะที่ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน กกต.ก็ไม่ทราบ” นายแสวงกล่าว

อิ๊งค์ยังกั๊กช่วยหาเสียง

ในขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายกานต์ กัลป์ตินันท์ ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี ว่าต้องขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทย เราทำกันเต็มที่จริงๆ อย่างพื้นที่อุบลราชธานี เราก็เห็นมาตลอดว่าเขาทุ่มเทและอยากทำให้ประชาชนจริงๆ ขอให้รอดูผลงานของเขา และเสียงของประชาชนที่เราได้มาจากทุกจังหวัดต้องไม่ทำให้เสียเปล่า

เมื่อถามว่า วันที่ 24 ธ.ค. ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.อีก 6 จังหวัด เมื่อถึงเวลาจะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอดูเรื่องตารางการทำงานก่อน เพราะมีหลายหน้าที่ที่ต้องทำ ถ้ามีโอกาสก็คงไป

ส่วนที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลังเดินทางมาถึงก็ได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านลิ้มเหล่าโหงว ซึ่งได้มิชลิน 7 ปีซ้อน ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ใช้รถเลกซัสสีดำ ป้ายทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร

นายทักษิณในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายก อบจ. ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ว่า ดูแล้วน่าจะชนะ  อย่างน้อยคนเชียงใหม่จะสนับสนุนเพราะตนกลับมาแล้ว ซึ่งคนเชียงใหม่ก็คงคิดว่าจะใช้งานตนแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่าสมัยพรรคก้าวไกลได้ สส.เชียงใหม่ถึง 7 ที่นั่ง นายทักษิณกล่าวว่า การเลือกตั้งหน้าพรรค พท.น่าจะได้ สส. 10 ที่นั่ง มั่นใจว่าความนิยมของคนเชียงใหม่เปลี่ยนแล้ว เปลี่ยนมาพรรค พท.หมดแล้ว  ขอขิงแข่งกันบ้าง

เมื่อถามว่า การกลับมาเชียงใหม่ครั้งนี้เพื่อกอบกู้เอกราชให้พรรค พท.ใช่หรือไม่ นายทักษิณหัวเราะก่อนกล่าวว่า อยู่ที่พี่น้องชาวเชียงใหม่ ซึ่งเชื่อว่าคนเชียงใหม่จะคืน สส.ให้เรา และจะให้เป็นนายก อบจ.อีกหนึ่งสมัยได้ทำงานเต็มที่

ถามต่อว่า จะไปช่วยหาเสียงทุกที่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตรงไหนที่เขาจ้างวันละ 300 บาทก็ไป ถือเป็นการหารายได้พิเศษ

ส่วนที่สนามกีฬาจังหวัดนนทบุรี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เดินทางมาให้กำลังใจนายเลิศมงคล วราเวณุชย์ ผู้สมัครนายก อบจ.นนทบุรี และผู้สมัคร ส.อบจ. โดยนายณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคมั่นใจ 100% เพราะนนทบุรีถือเป็นพื้นที่ที่ชนะ สส.เขตทั้ง 8 เขตยกจังหวัด

ถามถึงผลการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานีที่แพ้การเลือกตั้ง นายณัฐพงษ์ระบุว่า หากดูผลการเลือกตั้งสัดส่วนคะแนนเสียงของพรรค ปชน.เพิ่มขึ้น เพราะหากดูผลการเลือกตั้ง อบจ.อุบลราชธานีเมื่อปี 2563 คณะก้าวหน้าได้คะแนนอยู่ที่ 12% จากผู้ที่ออกมาใช้สิทธิทั้งหมด แต่คะแนนครั้งนี้เพิ่มมาถึง 16% ก็เป็นแบบนี้ในทุกสนามที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นสิ่งที่พรรคจะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานต่อไป ก็เชื่อว่าในทุกสนามของทุกการเลือกตั้งเป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลง และเราก็ได้คะแนนเสียงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

พ่อฟ้าฟุ้งได้ขยายแนวคิด

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์หลังมาให้กำลังใจผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรปราการ โดยระบุว่าไม่หนักใจ เราแข่งขันกับตัวเอง ว่าเราจะสามารถเอาชนะจิตเอาชนะใจประชาชนได้หรือไม่ ดังนั้นจึงขอเชิญชวนทุกคนมาลงแข่งเลือกตั้งกัน มาทำงานการเมืองให้สนุกสนาน บอกเล่านโยบายความตั้งใจให้แก่ประชาชน หากประชาชนมั่นใจคนไหนก็เลือกคนนั้น พวกเราต่อสู้กับพวกเราเอง ต่อสู้กับผลการเลือกตั้งครั้งที่แล้วของพวกเราเอง ต้องทำให้ดีกว่าเดิม นั่นคือความตั้งใจของพวกเรา

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมาพรรค ปชน.ยังไม่สามารถเอาชนะได้ จะมีการนำจุดไหนมาพัฒนาต่อเพื่อให้ได้รับชัยชนะบ้างนั้น นายธนาธรกล่าวว่า เราเติบโตขึ้นตลอด หากดูจากทั้งราชบุรี อุดรธานี และอุบลราชธานี ผลการเลือกตั้งของพวกเราเติบโตขึ้นตลอด ประชาชนให้ความไว้วางใจเรา ถึงแม้แพ้แต่ก็ได้เติบโต ได้สร้างทีม ได้ขยายแนวความคิด สำหรับพวกเรา เราสร้างพรรคอย่างนี้

 “เรามีความคาดหมายว่าต้องชนะที่จังหวัดสมุทรปราการให้ได้ พวกเราไม่ตั้งเป้าหมายอะไรที่น้อยกว่านั้น เชื่อในการทำงานของ ส.อบจ.ของพวกเรา ที่ทำงานอย่างหนักแน่นในการเดินลงพื้นที่ เชื่อมั่นในการทำงานของ สส.ของเรา ว่าด้วยสถานะ ตำแหน่ง และอำนาจที่มีอยู่จะทำงานรับใช้ประชาชน ยืนยันว่าสนามนี้สู้เต็มที่”

สำหรับบรรยากาศการรับสมัครนายก อบจ.และ ส.อบจ.ในพื้นที่ต่างๆ นั้น ที่ จ.สมุทรสาคร บรรยากาศคึกคัก  โดยมีผู้เดินทางมาสมัครนายก อบจ. 2 ราย ได้แก่ นายเชาวริน ชาญสายชล พรรคประชาชน นำทีมโดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ พร้อมผู้สมัคร ส.อบจ.ครบ 30 คน  และนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายก อบจ.

ส่วนที่ จ.ตราด อาคารอเนกประสงค์ อบจ.ตราด ในการเปิดรับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ.มีผู้สมัครมาลงชื่อก่อนเวลาทั้งนายวิเชียร ทรัพย์เจริญ อดีตนายก อบจ.ตราด, นายเจริญ ชลาลัย และนายชลธี นุ่มหนู จากพรรคประชาชน ก่อนจะมีการจับหมายเลขหลังตกลงกันไม่ได้

ด้านความเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคเหนือก็คึกคักไม่แพ้กัน โดยที่อาคารสำนักงาน อบจ.เชียงใหม่ มีผู้สมัครพร้อมกองเชียร์มารอตั้งแต่ก่อนเปิดรับสมัคร โดยเฉพาะผู้สมัครนายก อบจ. 2 รายที่ถูกจับตาเป็นคู่แข่งสำคัญคือ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร เจ้าของเก้าอี้เดิมจากพรรคเพื่อไทย ส่งลงสมัครพร้อมกับผู้สมัคร ส.อบจ.ทั้ง 42 เขต และนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ จากพรรคประชาชน ที่มาพร้อม สส.ในพื้นที่และกองเชียร์ ซึ่งผลการจับสลากนายพันธุ์อาจได้เบอร์ 1 และนายพิชัยได้เบอร์ 2

ที่ศาลาประชาคมจังหวัดเลย มีการรับสมัคร ส.อบจ.อย่างเดียว ให้ สส.ในพื้นที่ทั้งพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยต่างมารวมพลให้กำลังใจและเชียร์กลุ่มพัฒนา ซึ่งได้ส่ง ส.อบจ. 14 อำเภอ ไม่ต่างจากบรรยากาศที่ อบจ.พิษณุโลก ซึ่งมีผู้สมัครทั้งแบบเป็นกลุ่มคณะและผู้สมัครอิสระ ในขณะที่กองเชียร์มาให้กำลังใจเนืองแน่น

ที่สนามฟุตซอล ภายในสนามกีฬาจังหวัดพิจิตรของ อบจ.พิจิตร มีการเปิดรับสมัครนายก อบจ. โดยผู้สมัครทั้ง 2 ทีม คือทีมของ พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ อดีตนายก อบจ. และทีมนายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา ซึ่งเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งในทีมบ้านเขียว มาแสดงตนในคูหารับสมัครก่อนเวลา 08.30 น. จึงต้องจับสลาก ในขณะที่นายประชา โพธิ์ศรี  ซึ่งเป็นผู้สมัครอิสระ แต่สวมเสื้อพรรคประชาชน มาสมัครทีหลังได้เบอร์ 3 ไป

สำหรับบรรยากาศสมัครนายก อบจ.และ ส.อบจ.ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ที่อาคารชาติชายฮอลล์ อ.เมืองนครราชสีมา บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักตั้งแต่เช้า มีว่าที่ผู้สมัครทั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.ทยอยเดินทางมารอยื่นใบสมัครอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลุ่มการเมืองประกาศตัวรับสมัครทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มพรรคเพื่อไทย, กลุ่มพรรคชาติพัฒนา, กลุ่มพรรคประชาชน และกลุ่มอิสระ โดยมีผู้สมัครนายก อบจ.ทั้งหมด 3 ราย มีนางยลดา  หวังศุภกิจโกศล จาก พท., นายมารุต ชุ่มขุนทด อิสระ และนายทักษิณ เขื่อนโคกสูง อิสระเช่นกัน

อีสานสมัครคึกคัก

ที่ห้องประชุม อบจ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่ กกต.ขอนแก่นใช้เป็นสถานที่รับสมัคร ส.อบจ.ก็คึกคักเช่นกัน  โดยมีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.อบจ.เป็น 42 เขต ใน 26 อำเภอ โดยมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 1.4 ล้านคน ส่วนที่อาคารดลเมธา อบจ.อำนาจเจริญ มีการเปิดรับสมัครนายก อบจ.และ ส.อบจ. โดยมีผู้สนใจสมัครนายก อบจ.ถึง 6 คน  รวมทั้งสมัคร ส.อบจ.อย่างคึกคัก

ที่ จ.นครพนม ซึ่งเปิดรับสมัครสมาชิกและนายก อบจ. บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลา 08.00 น. โดยวันแรกก็มีผู้สมัครนายก อบจ.คึกคักทั้ง นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีต รมว.แรงงาน และ น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ อดีตนายก อบจ. ส่วนนายอนุชิต หงษาดี จากพรรคเพื่อไทยยังไม่มา โดยคาดว่าจะถือฤกษ์สมัครในวันที่ 24 ธ.ค.  

ขณะที่บรรยากาศการรับสมัคร อบจ.บุรีรัมย์ ผู้สมัครบางตา พรรคประชาชนส่งผู้สมัครทั้งหมด 9 คน เดินทางมาสมัคร ส.อบจ.พร้อมกันทั้งหมด แต่ไม่มีการส่งผู้สมัครนายก อบจ. โดยล่าสุดมีเพียงนายการุณ ใสงาม อดีต สส.และ สว.มาสมัครเพียงรายเดียว ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษบรรยากาศคึกคัก พรรค พท.ส่งอดีต สส.ที่เคยเป็นรองนายก อบจ.ปี 2543 มาลงเข่งขันกับนายวิชิต ไตรสรณกุล เจ้าของเก้าอี้ 6 สมัย

สำหรับบรรยากาศในพื้นที่ภาคใต้นั้น ที่โรงละครองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช สนามหน้าเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นการรับสมัคร ส.อบจ.อย่างเดียว บรรยายกาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้สมัครจาก 2 ทีม คือนครเข้มแข็งของ น.ส.วาริน ชิณวงศ์ ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งนายก อบจ. และทีมพลังเมืองนครของนางกนกพร เดชเดโช อดีตนายก อบจ.ซึ่งส่งลงครบทุกเขต

ที่อาคารศรีเกียรติพัฒน์ อบจ.สงขลา อ.เมืองสงขลา  แม้บรรยากาศช่วงเช้าไม่คึกคัก แต่ก็มีผู้สมัครมาทั้งอิสระและตัวแทนพรรคการเมือง โดยนายก อบจ.สงขลามีผู้ยื่นใบสมัคร 5 ราย ส่วนโรงยิมเนเซียม สนามกีฬาทุ่งแจ้ง บรรยากาศเต็มไปด้วยบรรดากองเชียร์ โดยนายทวี สุระบาล สส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ และนายถนอมพงศ์ หลีกภัย สส.ตรัง พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาให้กำลังใจนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ อดีตนายก อบจ.ลงสมัคร

ที่หอประชุมจังหวัดพัทลุง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักท่ามกลางฝนตกโปรยปรายมาอย่างต่อเนื่อง  โดยมีผู้สมัครนายก อบจ.และ ส.อบจ.จำนวนมาก ส่วนการเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.กระบี่ และ ส.อบจ.ที่ห้องประชุมช้างเผือก บรรยากาศคึกคัก โดยนายก อบจ.นั้นมีเพียงนายสมศักดิ์  กิตติธรกุล อดีตนายก อบจ.กระบี่ที่มาก่อนเวลา จึงได้เบอร์  1 โดยอัตโนมัติ ในขณะที่ จ.พังงานั้นมีผู้สมัครนายก อบจ. 3 ราย ที่ได้เดินทางมาลงชื่อก่อนเวลา 08.30 น. ซึ่งก็ได้ตกลงกันเรียบร้อยใช้หมายเลขเดิม เพราะทั้ง 3 รายเป็นผู้สมัครนายก อบจ.สมัยที่ผ่านมา เช่นเดียวกับที่ จ.ภูเก็ต ที่วันแรกมีทีมใหญ่ลงสมัครแล้ว 2 ทีม และผู้สมัครอิสระอีกจำนวนหนึ่ง และเมื่อสิ้นสุดในวันที่ 27 ธ.ค. คาดว่าจะมีผู้สมัครประมาณ  60-70 คน

ที่หอประชุม อบจ.ปัตตานี ในช่วงเช้ามีผู้สมัคร 2 คน  คือ 1.นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี อดีตนายก อบจ.หลายสมัย  และ 2.นายอับดุลบาซิม อาบู อดีต สส.ปัตตานี พรรคภูมิใจไทย เช่นเดียวกับที่ จ.ยะลา ซึ่งมีทั้งผู้สมัครรายเก่าและรายใหม่ลงสมัครกันอย่างคึกคัก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘กกต.’ ไม่หวั่นการเมืองหนุนผู้สมัคร อบจ. ชี้ทำบรรยากาศเข้มข้น ไร้สัญญาณรุนแรง

การเลือกตั้งท้องถิ่นถือเป็นรากฐาน ของการพัฒนาการเมืองระดับประเทศ ถ้าท้องถิ่นดีระดับชาติก็จะดีไปด้วย การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นประชาธิปไตยที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด

'หัวหน้าปชน.' โต้ กกต. ฟัน สส.ชลบุรี ข้อหาเล็กน้อย สั่งทีม กม. สู้คดี

'ณัฐพงษ์' แจง กกต. สั่งดำเนินคดี 'สส.ชลบุรี' ยื่นบัญชีรายจ่ายเลือกตั้งเท็จ ชี้ ปชน. เตรียมทีมกฎหมายไว้แล้ว เชื่อ สังคมมองออก ข้อหาเล็กน้อย กลั่นแกล้งการเมืองหรือไม่