10วันอันตราย 27ธค.-5มค.68 ลุ้นลดเจ็บ-ตาย

คกก.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เคาะเพิ่ม 10 วันอันตราย 27 ธ.ค.67-5 ม.ค.68 เผยรัฐบาลตั้งใจให้สถิติช่วงปีใหม่ 68 ลดลง กำชับตั้งด่านชุมชนเพิ่ม หากตรวจพบผู้ขับขี่แอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนด ตร.ต้องสอบสวนขยายผลทุกกรณี ขณะที่การรถไฟฯ จัด 4 มาตรการพิเศษ ส่งประชาชนกลับบ้านปลอดภัยช่วงปีใหม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 19 ธันวาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 4/2567 ว่า เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงปีใหม่ 2568 ซึ่งจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาในปี 2567 มีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด มีอุบัติเหตุ 2,288 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2,307 คน และเสียชีวิต 284 คน รัฐบาลจึงตั้งใจให้สถิติในช่วงปีใหม่ 2568 ลดลง

นายประเสริฐกล่าวว่า ที่ประชุมจึงได้มีมติขยาย 7 วันเฝ้าระวังความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากเดิม 27 ธันวาคม 67-2 มกราคม 68 เพิ่มเป็น 10 วัน คือตั้งแต่ 27 ธันวาคม 67-5 มกราคม 68 เพราะการเดินทางกลับของประชาชนมีความสำคัญ ซึ่งเป็นความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรี

ที่ประชุมจึงมีแนวทางออกมา ดังนี้ 1.การรณรงค์งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ภายใต้สโลแกน 'ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ' และขอความร่วมมือแพลตฟอร์มต่างๆ ในการรณรงค์

2.การตั้งด่านชุมชน ด่านครอบครัว เพิ่มเติม จากการตั้งด่านของกำนันผู้ใหญ่บ้านในชุมชนที่มีอยู่แล้ว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ที่มีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะขยายฐานชุมชนให้มากขึ้น

3.เข้มงวดผู้ขับขี่ทุกราย จะต้องมีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ หากพบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนด ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนขยายผลทุกกรณี โดยกำชับผ่านกรุงเทพมหานคร และศูนย์ความปลอดภัยทางถนนทุกจังหวัด

นายประเสริฐกล่าวว่า เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงความสุขของพี่น้องประชาชน   อยากให้ประชาชนดื่มอยู่กับบ้าน เพื่อลดอุบัติเหตุ

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม จัดเพิ่มขบวนรถและเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่มีวันหยุดยาว 5 วัน ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวด้วยระบบขนส่งสาธารณะจำนวนมาก โดยแบ่งออกเป็น 4 มาตรการ ประกอบด้วย

1.การเพิ่มเที่ยวขบวนรถพิเศษ เส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ ไป-กลับ อีกจำนวน 18 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มเติมได้อีก 12,000 คน ผู้โดยสารสามารถติดต่อจองตั๋วโดยสารของขบวนรถพิเศษผ่านระบบออนไลน์ D-Ticket หรือสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ

2.มาตรการอำนวยความสะดวกพ่วงตู้โดยสารเพิ่มเต็มหน่วยลากจูง การรถไฟฯ ได้ทำการพ่วงตู้โดยสารของขบวนรถธรรมดา ขบวนรถชานเมือง ให้เต็มหน่วยลากจูงในทุกเส้นทางทั่วประเทศ สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้มากกว่า 100,000 คนต่อวัน เพื่อลดปัญหาผู้โดยสารตกค้าง

3.เพิ่มมาตรการความปลอดภัย กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดการดูแลผู้โดยสาร ทั้งภายในขบวนรถและสถานีรถไฟ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ ตลอดจนมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติดของพนักงานทุกคนต้องเป็นศูนย์ก่อนปฏิบัติหน้าที่ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด CCTV ตามสถานีและบนขบวนรถทั่วประเทศ

4.กิจกรรมส่งความสุข กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ จัดกิจกรรมส่งความสุขให้ผู้ใช้บริการโดยมอบของขวัญ เช่น กระติกน้ำเก็บความสุข 2.8 ลิตร จำนวน 5,000 ใบ และแจกเจลอาบน้ำ จำนวน 100,000 ขวด ให้แก่ผู้โดยสารที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสถานีสำคัญทั่วภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567

ส่วนมาตรการเพิ่มเติม การรถไฟฯ ได้จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยทั่วประเทศเพื่อรับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประสานกับตำรวจและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อดูแลความเรียบร้อยและป้องกันอุบัติเหตุบริเวณทางผ่านเสมอระดับรถไฟ-รถยนต์ รวมถึงในชุมชนต่างๆ ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งใจส่งมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนเดินทางอย่างสะดวก ปลอดภัย  และอุ่นใจตลอดเส้นทาง

"นอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยทั่วประเทศ เพื่อดูแลและรับแจ้งเหตุต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 รวมทั้งขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาทิ อบต.  เทศบาล จัดอาสาสมัครเฝ้าระวังทางผ่านเสมอระดับรถไฟ-รถยนต์ หรือบริเวณชุมชน เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุต่างๆ และได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถไฟทุกขบวน  ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งใจส่งมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างสะดวก  ปลอดภัย และอุ่นใจตลอดเส้นทาง” น.ส.ศศิกานต์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง