ปริญญาผวาลุกลาม ชี้ขัดแย้งโยงสถาบัน

“ปริญญา” ชี้ความขัดแย้งรอบใหม่เกี่ยวพันถึง “สถาบันพระมหากษัตริย์” เป็นความเห็นต่างของคนระหว่างรุ่น ซัดรัฐบาลเป็นสาเหตุทำให้ลงสู่ท้องถนน ศาลรัฐธรรมนูญยิ่งมาตอกฝาโลงให้ปัญหาหนักหน่วงขึ้น

เมื่อวันอาทิตย์ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรรมการมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม และอดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ให้สัมภาษณ์ช่องยูทูบสภาที่ 3 ถึงการจัดงาน 30 ปีพฤษภาประชาธรรมปี 2565 ว่าในโอกาสที่ครบ 30 ปี ซึ่งมีญาติวีรชนที่ยังมีชีวิตอยู่จากการสูญเสียดังกล่าว โดยคอนเซ็ปต์ของทุกปีก็จะจัดเพื่อรำลึก เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าว แต่ที่ผ่านมาหลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ก็ยังมีเหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพฤษภา 53 ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถูกสลายการชุมนุม หรือชัตดาวน์แบงค็อกของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กกปส.)

 “ความขัดแย้งรอบใหม่เริ่มมาอีกแล้ว  เป็นความขัดแย้งที่เกี่ยวพันหรือกระทบไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ไม่เคยมีประเด็นแบบนี้มาก่อน ทำอย่างไรให้เราจะกลับสู่ประชาธิปไตยโดยไม่สูญเสีย และท่ามกลางความเห็นต่างในสังคม ทำอย่างไรให้เราไม่ต้องมาเข่นฆ่ากันอีก คือสิ่งที่เราตั้งใจจัดงาน ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราในช่วง 30 ปีของเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 และแน่นอนก็ต้องพูดไปถึงเรื่องของการเห็นต่างกันในขอบเขตของระบอบประชาธิปไตย และเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ทำอย่างไรให้ความเห็นต่างไม่นำไปสู่ความรุนแรงหรือเหตุการณ์นองเลือดอีก การปฏิวัติรัฐประหารต้องหมดไป ผมคิดว่าข้อนี้เป็นข้อที่ต้องควรเรียนรู้กันในวาระ 30 ปี โดยนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้วเป็นอุทาหรณ์” นายปริญญากล่าว

นายปริญญากล่าวอีกว่า เข้าใจว่าเรื่องคนหาย 30 ปีนี้ ก็ต้องพูดกันอย่างจริงจัง ว่าศพอยู่ไหน ส่วนอีกข้อหนึ่ง ปีนี้เป็นปีที่เรามีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยครบ 90 ปี ทั้งนี้ วันที่ 24 มิ.ย.2475 เป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่วันที่เริ่มต้นนับว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย คือวันที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรก ซึ่งประกาศใช้ 3 วันหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองคือ 27 มิ.ย.2475 เป็นฉบับที่บัญญัติไว้ในมาตราหนึ่งว่า อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย นั่นคือการกำเนิดของระบอบประชาธิปไตย และเป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ โดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 “ปีนี้เราจึงคิดว่าเราจะไม่จบแค่ 17 พฤษภาคม แต่เราจะไปจบถึงเดือนมิถุนายน ในวาระ 30 ปีเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 และ 90 ปีประชาธิปไตย ทำอย่างไรประชาธิปไตยที่ล้มลุกคลุกคลาน มีเหตุการณ์นองเลือดมีการปฏิวัติรัฐประหาร รัฐธรรมนูญ 20 ฉบับมันจะผ่านไปสักทีหนึ่ง ทำอย่างไรจะกลับสู่ประชาธิปไตยโดยไม่มีการนองเลือดอีก และไม่ให้ล้มเหลวอีก นั่นคือสิ่งที่เราคุยกันว่าให้วาระ 30 ปีนี้ให้เราเรียนรู้เรื่องพวกนี้”

นายปริญญายังกล่าวถึงเรื่องความปรองดองว่า ไม่ใช่ในแบบเดิมแล้ว ที่ผ่านมาเป็นความขัดแย้งระหว่างคนเสื้อเหลืองเสื้อแดง แต่ความปรองดองตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องนั้น ตอนนี้ตั้งแต่เปิดประเด็นข้อเสนอเรื่องของการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์จากปัญหาของรัฐบาลเอง ทำให้ความขัดแย้งลุกลามไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อมีประเด็นนี้ขึ้นมา จึงกลายเป็นประเด็นที่เป็นความขัดแย้งของคนระหว่างรุ่น คนรุ่นใหม่ ซึ่งมีที่มาที่เราต้องเข้าใจว่าจุดเริ่มต้นเกิดจากการไปยุบพรรคการเมืองซึ่งคนรุ่นใหม่เขาเลือก

นายปริญญากล่าวต่อว่า ความจริงถ้าหากให้ทะเลาะหรือเห็นต่างกันอยู่ในสภาคงไม่ต้องลงถนนกันถึงขนาดนี้ คิดว่ามันเกิดการไปเชื่อมโยงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้เกิดข้อเรียกร้องในเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ความจริงเราเป็นระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญมาตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2475 แล้ว แต่สิ่งนี้คนจำนวนมากในประเทศยังไม่เข้าใจ หลักที่ว่าพระมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ แต่อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง แม้กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญก็ยังไม่เข้าใจ ดูจากคดีล้มล้างการปกครองไปวินิจฉัยและพิพากษาว่าข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นการล้มล้างระบบการปกครอง ตรงนี้แทนที่จะใช้โอกาสนี้ให้คนเข้าใจว่าระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขคือระบอบอะไร เราควรจะขัดแย้งกันในขอบเขตของระบบนี้หรือไม่

 “ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ทำให้คนเข้าใจมากขึ้น ก็เข้าใจว่าศาลรัฐธรรมนูญเองก็คงจะไม่เข้าใจ นี่คือสิ่งที่คิดว่าเราจำเป็นที่จะต้องเข้าใจเรื่องนี้กันให้มากขึ้น ว่าหลักการที่พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญแต่อยู่เหนือการเมืองคือหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” นายปริญญาระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง