ฟันแก๊งอุ้มพ่อนายกฯ ปปช.มีมติคุ้ยป่วยทิพย์/รทสช.ผวาเช็กบิลรีบปัด!

ชั้น 14 พ่นพิษแล้ว ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ไต่สวนแก๊งอุ้ม “พ่อนายกฯ” นอนตีพุง รพ.ตำรวจ ข้าราชการ-เจ้าหน้าที่ 12 รายถูกหวยเต็มๆ “อุ๊งอิ๊ง” ย้ำรัฐบาลแน่นปึ้ก “รทสช.” ร้อนรีบแจงยกมือหนุน พ.ร.ก. 2 ฉบับ “ภูมิธรรม” โอดเวลา 3 เดือนน้อยไปที่จะเห็นผลงานต้องรอดูปีหน้า “สว.” ฉุนนายกฯ เบี้ยวตอบกระทู้ ขู่เตรียมยื่นอภิปรายแบบไม่ลงมติ “พริษฐ์” ไม่แปลกใจ “ลุงป้อม” โดดดินเนอร์พรรคฝ่ายค้าน

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ในวันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาคดีกรณีกล่าวหานายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์  อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์  นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กรณีส่งตัวผู้ต้องขังรายนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรักษาที่ รพ.ตำรวจโดยมิชอบ และให้นายทักษิณอยู่รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจจนกระทั่งครบ 180 วัน ทั้งที่ไม่เจ็บป่วยจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ

นายสาโรจน์กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณารายงานการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอ จึงมีมติรับเรื่องไว้พิจารณาและดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะเป็นองค์คณะไต่สวน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 51 โดยให้ดำเนินการไต่สวนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดกรมราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 12 คน ทั้งนี้ หากในชั้นไต่สวนพบว่ามีบุคคลอื่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ให้ดำเนินการไต่สวนกับบุคคลดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ 12 รายที่จะถูกดำเนินการไต่สวนกรณีนี้ ประกอบด้วย 1.นายสหการณ์ 2.นายสิทธิ สุธีวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ 3.นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ 4.นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 5.พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งเป็นนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ 6.พล.ต.ท.ทวีศิลป์ 7.พ.ต.อ.ชนะ  จงโชคดี นายแพทย์ (สบ 5) รพ.ตำรวจ แพทย์เจ้าของไข้ และผู้ออกใบความเห็นแพทย์ 8.พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ  แพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้ออกใบความเห็นแพทย์ 9.นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 10.แพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ผู้ตรวจร่างกายขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ 11.นายสัญญา วงค์หินกอง พัศดีเวร เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และ 12. นายธัญพิสิษฐ์ ขบวน พยาบาลเวร เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

วันเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางกลับจากการไปเยือนประเทศมาเลเซีย ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงความเหนียวแน่นของพรรคร่วมรัฐบาลว่าเป็นอย่างไร โดยนายกฯ หันมาทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พร้อมหัวเราะและกล่าวว่า “ยังแน่นแฟ้นไหม” ทำให้นายอนุทินที่เดินตามหลังมาหัวเราะและตอบว่า “แน่นแฟ้น” ก่อนที่นายกฯ จะผายมือหันไปถามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม และนางนฤมล ภิญโญวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่เดินตามมาด้วย  โดยทุกคนยิ้มและพร้อมกันตอบว่า "แน่นแฟ้น"

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณระบุถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีรัฐมนตรีบางคนไม่เข้าร่วม ทำให้การทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาหรือไม่ว่า หากฟังทั้งหมดนายทักษิณเล่าให้ฟัง บวกกับเรื่องในอดีตที่มีประสบการณ์การเป็นนายกฯ มา ประเด็นไม่ได้เจาะจงว่า พรรคใดพรรคหนึ่ง หรือรัฐมนตรีคนไหนที่ขาดประชุม แต่ท่านพูดว่าขึ้นรถไฟลำเดียวกันก็ต้องไปด้วยกัน ยืนยันว่าการร่วมงานของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปได้ด้วยดี ให้ทุกมิติการพัฒนานโยบายของรัฐบาลไปสู่เป้าหมายเพื่อประชาชน

รทสช.ร้อนรีบแจง

เมื่อถามถึงกรณีที่นักวิชาการหลายท่านมองว่าจะมีการยุบสภาในปี 2568 นายวิสุทธิ์กล่าวว่า นักวิชาการไม่ได้อยู่กับเราทั้งหมด อาจจะดูแค่ข่าวบางช่วง มีบางตอนที่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลนี้ทำงานอย่างเข้มแข็ง ทุกพรรคทำงานร่วมกันได้อย่างดี ไม่มีปัญหา อย่ากังวล

ขณะที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ  (รทสช.) กล่าวเรื่องนี้ว่า ไม่ทราบ ส่วนที่นายทักษิณพูดแบบนั้นจะส่งผลให้พรรคร่วมรัฐบาลหวาดระแวงหรือไม่นั้น หากถามในฐานะเลขาธิการพรรค รทสช.ไม่เคยหวั่นไหวอะไรอยู่แล้ว เพราะขณะนี้มีโจทย์มีภารกิจที่สำคัญที่ต้องทำ บางเรื่องที่เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ปล่อยไป ต้องทำแข่งกับเวลา ทางที่ดีต้องจับมือกันทำงานให้ดีที่สุด

นายเอกนัฏยังชี้แจงต่อว่า ในที่ประชุม ครม.วันดังกล่าวอยู่ในที่ประชุม และเป็นผู้ที่ยกมือสนับสนุนพระราชกำหนด 2 ฉบับ เพราะรอช้าไม่ได้ และได้พูดในที่ประชุมว่าสนับสนุน และเป็นข้อสังเกตส่วนตัวด้วยในฐานะที่เป็น  รมว.อุตสาหกรรม ขอว่าการใช้เงินกองทุนเพิ่มขีดความสามารถใช้สิทธิประโยชน์ ซึ่งจะเป็นอาวุธอีก 1 ตัวในการนำเงินก้อนนี้ไปดึงนักลงทุนใหม่ๆ มาได้ แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อดึงมาแล้วประเทศไทยต้องได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร และก็อยากทำงานเต็มที่อยู่

 “พรรคร่วมรัฐบาลยังทำงานขับเคลื่อนไปด้วยกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ตัวเองจะให้คุยกับใครทำประโยชน์อะไรเพื่อส่วนรวม ผมก็ทำหมด”นายเอกนัฏกล่าว

วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงผลสำรวจของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตเรื่อง 3 เดือน รัฐบาลแพทองธาร พบว่า 54.99%  ประชาชนไม่เชื่อมั่นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่าต้องดูผลโพลทั้งระบบ ซึ่งจริงๆ หากดูทุกข้อเป็นบวกมากกว่าเป็นลบ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลเพิ่งทำงาน 3 เดือน  สภาพการทำงานที่ยังมีเวลาน้อยไป บางที 3 เดือนยังไม่ทันทำอะไรที่เป็นผลงานออกมา ทำได้เพียงเริ่มต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำต่อไป คิดว่าเวลาน้อยไปที่จะถามคำถามนี้

“ปีหน้าขอให้ประชาชนรอดูผลงาน ซึ่งจะมีผลงานดีๆออกมาอีกมาก เชื่อว่าปีหน้าจะเป็นปีในการเริ่มต้นสร้างโอกาสตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเอาไว้”

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวเรื่องนี้ว่า รัฐบาลยินดีพร้อมรับฟังและน้อมรับเสียงสะท้อนจากประชาชนทุกมิติ แต่ความจริงถ้าไปดูในรายละเอียดจะพบว่า แม้มีประชาชน 54.99% ยังไม่เชื่อมั่น แต่ก็มีประชาชนที่เชื่อมั่นถึง 45.01% ถือว่าไม่ห่างกันมากนักกับระยะเวลาที่รัฐบาลแพทองธารเพิ่งเข้ามาทำงานได้ 3 เดือน

อนุสรณ์บอกมาถูกทาง

“รัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงานได้ 3 เดือน ทำได้ขนาดนี้ถือว่ามาถูกทาง เชื่อว่าเมื่อรัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายเรือธงสำคัญ นโยบายและผลงานทั้งหมดจะทยอยผลิดอกออกผลในระยะเวลาอันใกล้” นายอนุสรณ์กล่าว

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายภูมิธรรมโต้ผลโพลสวนดุสิตว่า เชื่อว่ารัฐบาลมีแผนว่าจะทำสิ่งใดบ้าง แต่ไม่กล้าสัญญาอะไรสักอย่างกับประชาชน เพราะเสถียรภาพวันนี้ถูกบีบคอจากพรรคร่วม แม้รัฐบาลมีแผนแต่พอรัฐบาลขาดเสถียรภาพ นายกฯ ขาดภาวะผู้นำ นายกฯ จะแถลงอะไรต้องมีรัฐมนตรีอาวุโสยืนเป็นวอลเปเปอร์หันรีหันขวาง รัฐบาลไม่กล้ารับปากอะไรสักอย่าง แตกต่างจากยุคทักษิณอย่างสิ้นเชิง ต้องเรียกว่าลูกไม้มันโอ้โหห่างไกลต้น ห่างไกลแบบไพศาล หลุดวงโคจรของต้นไม้ไปเลย

“ถ้าเอาเงาตะคุ่มๆ ของนายทักษิณออก น.ส.แพทองธารจะได้อันดับ 29 ของโลกหรือเปล่า นายทักษิณยังให้สัมภาษณ์แทนรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ประหนึ่งนายกฯ อยู่เลย  ไม่ใช่หรือ ลองเลิกโดยให้เอาเงาตะคุ่มๆ ของนายทักษิณ ออกสิ” นายวิโรจน์กล่าวถึงกรณีพรรค พท.ตีปี๊บ น.ส.แพทองธารติดอันดับ 29

สำหรับกรณีพรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯ มาตอบกระทู้ในสภานั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ถ้าจะถามก็ต้องดูจังหวะที่นายกฯ อยู่ในพื้นที่จึงจะเป็นไปได้ เมื่อนายกฯ ไม่มาตอบก็มาต่อว่า เช่นนี้ก็ไม่ถูกต้อง พฤติกรรมอย่างนี้มันไม่ใช่ เป็นนักการเมืองต้องใจสะอาด ว่าจะให้มาตอบในช่วงที่เหมาะสม

“ในข้อบังคับนายกฯ สามารถมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมาตอบ ก็จะได้รายละเอียดมากกว่าที่จะให้นายกฯ การเมืองต้องดูเจตนา เราเคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน เราก็รู้กันอยู่ว่าจะถามด้วยเจตนาอันใด” นายวิสุทธิ์กล่าว และพูดถึงกรณีผู้นำฝ่ายค้านประกาศว่าในวัน 19 ธ.ค.นี้ จะตั้งกระทู้ถามนายกฯ หากไม่มาถือว่าหนีว่า คงไม่จำเป็นต้องหนีสภา เพราะนายกฯ เคยพูดว่า หากวันไหนที่ไม่ติดภารกิจสำคัญก็พร้อมมาตอบในสภา ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร ประเด็นการตอบกระทู้ถามสดในสภาต้องให้ความชัดเจน เพราะไม่ทราบคำถามมาก่อน

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีแถลงผลงานรัฐบาล 90 วันว่า รัฐบาลก็อวดสรรพคุณไป แต่ความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น คือเรายังเห็นว่ารัฐบาลละเลยหน้าที่และความรับผิดชอบต่อนิติบัญญัติ  โดยเรียกร้องกลับว่าแทนที่นายกฯ จะแถลงผลงาน 90 วัน อยากให้นายกฯ มาตอบกระทู้ของ สว.สักครั้งหนึ่งที่เป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ท่านแถลงที่นั่นที่นี่ได้ เพราะไม่มีใครซักถามและไม่มีข้อมูลจากฝ่ายนิติบัญญัติที่แหลมคมเพียงพอ ท่านพูดฝ่ายเดียว และไม่อยากให้นายกฯ ติดนิสัยพูดฝ่ายเดียว จะดูไอแพดหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่สำคัญคือท่านต้องมีวุฒิภาวะในการตอบโต้คำถามหรือชี้แจง

 สว.ขู่เปิดอภิปราย

เมื่อถามว่า หากนายกฯ ยังหลีกเลี่ยงไม่มาตอบกระทู้ สว.จะมีกระบวนการอย่างไร นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า เราคงต้องหารือว่าหากไม่มาตอบ เราอาจเสนอให้เข้าชื่อเพื่อขออภิปรายรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติ ทั้งนี้ ยังไม่มีการหารือกัน

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีผู้นำฝ่ายค้านในสภานัดแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านรับประทานอาหารเย็นในวันพุธที่ 18 ธ.ค.นี้ว่า พปชร.จะส่งตัวแทนเข้าร่วม แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร.จะไม่เข้าร่วมแน่นอน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวเรื่องนี้ว่า ไม่แปลกใจที่ พล.อ.ประวิตรไม่เข้าร่วม เพราะเวลาประชุมสภาก็แทบไม่มาอยู่แล้ว เมื่อประชาชนเห็นชื่อพรรคก็คงทราบอยู่แล้วว่า จุดยืนและนโยบายแตกต่างจากพรรคประชาชน แต่การทำงานธุรการก็อยากให้ราบรื่น

สำหรับความเคลื่อนไหวของ 20 สส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ภายหลังถูกขับออกจากพรรค พปชร.ที่เตรียมสมัครเข้าสังกัดพรรคกล้าธรรม และจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ก่อนจะมีการประชุมปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยนางนฤมลจะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคตามเดิม ขณะที่ตำแหน่งสำคัญอื่นๆ อาทิ ประธานที่ปรึกษาพรรค ร.อ.ธรรมนัสจะดำรงตำแหน่งดังกล่าว เลขาธิการพรรคมีชื่อของนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ส่วนตำแหน่งเหรัญญิกพรรคมีชื่อนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ทั้งนี้ คาดว่า 20 สส.จะเปิดตัวและประชุมปรับโครงสร้างพรรคแล้วเสร็จในช่วงก่อนปีใหม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง