‘อิ๊งค์’ได้ฤกษ์ลงพื้นที่นํ้าท่วม

นายกฯ พร้อมลุยลงพื้นที่น้ำท่วมใต้แล้ว เล็งเหยียบเบิกฤกษ์ 2 จังหวัด สั่งขอให้ต้อนรับคณะเล็กพอ ขณะที่เมืองคอนวิกฤตอพยพวุ่นทั้งเมือง “ศปช.” หวั่นระดับน้ำสูงกว่าปี 63 “นายหัว ปชป.” สั่งลุยน้ำท่วมโหนกู้คืนคะแนนเสียง “ปภ.” เผยเหยื่อน้ำท่วมใต้ 5 จังหวัดดับ 8 ราย กระทบกว่า 1.2 แสนครัวเรือน หนุนกระจายกำลังช่วยเหลือ ปชช.

เมื่อวันจันทร์ ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 17 ธ.ค.จะเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เร็วขึ้น โดยการประชุม ครม.จะพูดถึงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมด้วย และหลังการประชุมเสร็จสิ้น จะให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุม ส่วนตนจะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ เพราะได้พิจารณาหน้างานแล้วว่าสามารถลงไปได้

"แต่ขอให้การต้อนรับเป็นคณะเล็กมากๆ เพราะไม่อย่างนั้นจะเดินทางลำบากที่ต้องมารอรับ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้ประสานกับพื้นที่และปลัดกระทรวงมหาดไทยแล้ว ส่วนจะลงสถานที่ใดจะคอนเฟิร์มอีกครั้งในวันที่ 17 ธ.ค.ช่วงเช้า เนื่องจากกำลังตรวจสอบว่าจะลงไปตรงไหนได้บ้าง โดยเบื้องต้นจะไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี" น.ส.แพทองธารระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้น้ำได้ท่วมเข้าไปในพื้นที่ราชการ  เช่น โรงพยาบาล น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ทราบข่าวตั้งแต่อยู่ที่มาเลเซีย และคิดว่าเมื่อจบภารกิจที่มาเลเซียตั้งใจจะลงพื้นที่ 2 จังหวัดก่อน

เมื่อถามว่า เบื้องต้นต้องปรับแผนรับมืออย่างไร เพราะสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ดูหนักขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ และได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด โดยเรื่องความช่วยเหลือขณะนี้มีเพียงพอ แต่เมื่อได้รับข่าวจากประชาชนส่งเข้ามา ก็ได้แจ้งผู้ที่รับผิดชอบให้ลงพื้นที่นั้นๆเลย ซึ่งพยายามจะให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

เมื่อถามว่า มีอุปสรรคที่จะลงช่วยเหลืออย่างไรหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มีแน่นอน แต่ไม่เป็นไรเพราะได้เตรียมรถยกสูงที่สามารถจะไปได้ แต่ต้องดูว่าพื้นที่ไหนจะไปได้มากที่สุด แต่เมื่อลงพื้นที่จะไปดูที่หน้างานอีกครั้งว่าจะเพียงพอถึงเมื่อไหร่ เพื่อจะได้ส่งการสนับสนุนต่อเนื่อง

ระดมช่วยเมืองคอน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปช. ได้สั่งทุกหน่วยเกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ที่วันนี้ยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง

นายจิรายุระบุว่า ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช ศปช.ได้สั่งการให้ตรึงกำลัง เครื่องจักรและเครื่องมือเฝ้าระวังเต็มรูปแบบ เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไว้ว่าจะยังมีฝนตกหนัก และคาดว่าจะมีมวลน้ำจากเทือกเขาหลวงไหลหลากเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองนครศรีธรรมราช พื้นที่เศรษฐกิจ 4 โซน จำนวน 20 ชุมชน วันนี้ (16 ธ.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น. และระดับน้ำจะสูงกว่าปี 2563 ประมาณ 40 เซนติเมตร ขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูงและย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

 “ผอ.ศปช.สั่งทุกหน่วยระดมสรรพกำลังรับมือน้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช หลัง สทนช.และกรมชลประทานคาดการณ์ระดับน้ำจะสูงกว่าปี 2563 ประกอบกับเช้านี้กรมทรัพยากรธรณีรายงานว่า ที่บ้านยอดน้ำ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช มีปริมาณฝนสูงสุด 560 มม. ชั้นดินอุ้มน้ำไว้มากอาจส่งผลให้เกิดดินโคลนถล่ม และต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในพื้นที่ 58 ตำบล 18 อำเภอของนครศรีธรรมราช  ที่ อ.พรหมคีรี, ชะอวด, ลานสกา, นาบอน, สิชล, ทุ่งสง, ท่าศาลา, ฉวาง, ขนอม, จุฬาภรณ์, นบพิตำ, ถ้ำพรรณรา, พิปูน, ทุ่งใหญ่, ร่อนพิบูลย์, บางขัน, ช้างกลางและหัวไทร ซึ่งจะมีอาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังเหตุการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญต้องป้องกันโรงพยาบาลและสถานที่ราชการ  เพื่อรองรับดูแลช่วยเหลือประชาชนด้วย” นายจิรายุกล่าว 

ด้านนายภูมิธรรมระบุว่า สั่งทหารช่างให้ไปอยู่ในพื้นที่จ.ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และระนอง ไปตรวจสอบพื้นที่ว่าต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้าง โดยดูตัวอย่างจากภาคเหนือมาปรับใช้ สำหรับงบประมาณที่จะนำไปใช้เยียวยาได้เตรียมไว้แล้ว และยังมีงบกลางสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน

ปชป.โหนกู้คะแนน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว. อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ว่า ตนได้ให้ สส.พรรค รทสช.ออกหน่วยตั้งครัวและทยอยส่งถุงยังชีพให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช.มีกำหนดการลงพื้นที่ใน 1-2 วันนี้ ซึ่งตนจะบินตามไปด้วยและรับช่วงต่อในการฟื้นฟู

"จึงฝากให้ สส.ทุกคนช่วยกันรับมือ ทั้งนี้การช่วยเหลือไม่ได้มีเส้นแบ่งพรรคการเมือง น้ำท่วมที่ไหนก็ช่วยที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของพรรคร่วมรัฐบาลไหน แม้แต่พื้นที่ของพรรคประชาชน (ปชน.) สำหรับตนแล้วสิ่งสุดท้ายที่ควรคิดคือประเด็นการเมือง เพราะความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้แบ่งพรรคการเมือง ทุกคนเดือดร้อนเหมือนกันหมด" นายเอกนัฏระบุ

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สั่งการให้ สส.ของพรรคในพื้นที่ภาคใต้ทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ให้อยู่เกาะติดพื้นที่และเร่งประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่น ทั้งกู้ภัย กรมชลประทาน ทหาร และทุกหน่วยงานที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยให้ได้มากที่สุด

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ สส.ของพรรคร่วมกับสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เปิด “ครัวประชาธิปัตย์” เพื่อปรุงอาหารสุก พร้อมน้ำดื่ม ของใช้จำเป็น กระจายออกช่วยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นวาระเร่งด่วน พร้อมกันนี้ยังสั่งการให้มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ระดมเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นส่งลงไปช่วยพี่น้องชาวใต้ที่กำลังประสบปัญหาจากมวลน้ำครั้งนี้ด้วย

เหยื่อน้ำท่วมใต้พุ่ง

ด้านนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน - 16 ธันวาคม เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร, ระนอง, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, ตรัง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส รวม 107 อำเภอ 702 ตำบล 5,050 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 737,091 ครัวเรือน  ผู้เสียชีวิต 35 ราย

นายภาสกรระบุว่า ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด รวม 47 อำเภอ 274 ตำบล 1,998 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 128,035 ครัวเรือน  มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ได้แก่ ชุมพร เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ปะทิว, อ.เมืองชุมพร, อ.สวี, อ.ทุ่งตะโก, อ.หลังสวน, อ.ละแม, อ.พะโต๊ะ และ อ.ท่าแซะ รวม 62 ตำบล 530 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,200 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองหลังสวนระดับน้ำลดลง ระนอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.กระบุรี, อ.ละอุ่น และ อ.เมืองระนอง รวม 12 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,070 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองญวนระดับน้ำลดลงแล้ว

นายภาสกรระบุว่า สุราษฎร์ธานีเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าชนะ, อ.ไชยา, อ.ท่าฉาง, อ.เมืองสุราษฎร์ธานี, อ.กาญจนดิษฐ์, อ.ดอนสัก, อ.บ้านนาสาร, อ.เกาะพะงัน และ อ.เกาะสมุย รวม 42 ตำบล 240 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,804 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันแม่น้ำตาปีมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น

นายภาสกรกล่าวว่า นครศรีธรรมราชเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 21 อำเภอ ได้แก่ อ.ขนอม, อ.สิชล, อ.นบพิตำ, อ.ท่าศาลา, อ.พิปูน, อ.พรหมคีรี, อ.ฉวาง, อ.เมืองนครศรีธรรมราช, อ.ลานสกา, อ.ช้างกลาง, อ.พระพรหม, อ.ปากพนัง, อ.นาบอน, อ.ร่อนพิบูลย์, อ.เฉลิมพระเกียรติ, อ.ทุ่งสง, อ.เชียรใหญ่, อ.จุฬาภรณ์, อ.หัวไทร, อ.บางขัน และ อ.ชะอวด รวม 130 ตำบล 1,056 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 107,937 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย  ปัจจุบันคลองท่าดีระดับน้ำเพิ่มขึ้น

นายภาสกรกล่าวว่า พัทลุงเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนขนุน, อ.ศรีบรรพต, อ.เมืองพัทลุง, อ.ศรีนครินทร์, อ.เขาชัยสน และ อ.กงหรา รวม 28 ตำบล 130 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,024 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ปัจจุบันคลองนาท่อมระดับน้ำลดลง

เมืองนครวิกฤตหนัก

ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ในเวลา 23.00 น. ตัวเมืองถูกน้ำท่วมอย่างหนัก ถนนหลายสายกลายเป็นเมืองบาดาล บางพื้นที่มีระดับน้ำท่วมสูง 20-30 เซนติเมตร  และสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นกลางดึกสร้างความเดือดร้อนอย่างหนักแก่ประชาชน หลายครอบครัวต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินและข้าวของไปยังที่ปลอดภัย

ขณะเดียวกัน ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช  สถานการณ์ล่าสุดพบว่ายังคงเปิดให้บริการผู้ป่วยตามปกติ  แม้พื้นที่โดยรอบจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยโรงพยาบาลยืนยันว่าพร้อมดูแลผู้ป่วยและให้บริการอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดนครศรีธรรมราชได้เข้าสู่วิกฤต ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 กำแพงเพชร ได้ส่งเรือท้องแบนจำนวน 10 ลำ เพื่อช่วยลำเลียงประชาชนและขนย้ายสิ่งของในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมสูง ขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี ได้จัดส่งรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยจำนวน 4 คัน เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมถึงทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆ กำลังทำงานอย่างเต็มกำลัง

โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และเด็กเล็กไปยังพื้นที่ปลอดภัย ขณะนี้สถานการณ์ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤต

ที่ จ.พัทลุง แหล่งข่าวจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดเปิดเผยว่า ด้วยสภาพฝนที่ตกหนักบริเวณเทือกเขาบรรทัด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ซึ่งปัจจุบันค่อนข้างจะอุ้มน้ำได้ปริมาณที่น้อยมาก เพราะป่าไม้ที่ปกติจะเป็นเสมือนฟองน้ำซับน้ำเอาไว้ได้นั้นมีสภาพที่เสื่อมโทรมไปมาก

ที่ จ.สงขลา วันแรกของการลงทะเบียนรับเงินเยียวยาน้ำท่วม ประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลนครสงขลา ทยอยนำเอกสาร หลักฐาน ภาพถ่ายบ้านเรือน ทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย รวมไปถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องมาลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือเยียวยาอย่างเนืองแน่นท่ามกลางสายฝน ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งมอบเงินเยียวยาให้ประชาชนแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2568.