พิชัยบี้ส่งท้ายปี กนง.ควรหั่นดบ. ลดลงอีก0.25%

เดอะโต้งรอต่อไป “พิชัย” ยันประชุม 17 ธ.ค.นี้ยังไม่ชงชื่อ บี้แบงก์ชาติส่งท้ายปี บอกอยากเห็น กนง.หั่นดอกเบี้ยลงอีก 0.25% รีบปัดล้วงทุนสำรอง รับของขวัญปีใหม่อาจได้ภายหลัง

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 17 ธ.ค.ว่า ยังไม่มีการเสนอชื่อผู้ที่จะได้รับตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ ครม.พิจารณา เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสอบถามความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดซึ่งยังไม่ครบถ้วน โดยตามกำหนดถือว่ายังมีเวลาดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้ถึงกลางเดือน ม.ค. 2568 ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่มีปัญหาอะไร เช่นเดียวกับการเสนอกรอบเงินเฟ้อปี 2568 ที่จะยังไม่มีการนำเสนอให้ ครม.พิจารณาในสัปดาห์นี้เช่นกัน แต่คาดว่าจะเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ภายในปีนี้

 “17 ธ.ค.นี้จะยังไม่มีการเสนอให้พิจารณาโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป เพราะต้องพิจารณารายละเอียดต่างๆ ให้รอบคอบและเรียบร้อยก่อน แต่ยืนยันว่าประชาชนที่มีสิทธิ์ทุกคนจะได้รับเงินก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2568 แน่นอน รวมทั้งจะมีมาตรการของขวัญปีใหม่แน่นอน แต่ไม่จำเป็นต้องประกาศภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ เพราะหลังปีใหม่ก็ให้เป็นของขวัญปีใหม่ได้”

นายพิชัยยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นการประชุมนัดสุดท้ายของปีนี้ว่า อยากเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยของโลก

 “การพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยเป็นการตัดสินใจของ กนง. โดยที่ผ่านมาได้หารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าฯ ธปท.หลายครั้งแล้ว ซึ่งเชื่อว่า ธปท.ได้รับรู้ถึงข้อกังวลและความห่วงใยของกระทรวงการคลังหมดแล้ว เพราะในมุมของเราถ้าลดดอกเบี้ยลงได้ก็ดี อยากดูเรื่องนี้ให้สอดคล้องกับเงินเฟ้อที่ตอนนี้ยังต่ำอยู่ แต่จะลดลงเมื่อไรก็อยากให้ กนง.เขาดูตัดสินใจกันเอง” นายพิชัยกล่าว

ขณะที่ความคืบหน้าการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการคุณสู้ เราช่วย ในการแก้ไขปัญหาหนี้นั้น นายพิชัยระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการมากน้อยเพียงใด เพราะสามารถลงทะเบียนได้ถึง 28 ก.พ. 2568 และไม่ได้คาดหวังว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยให้หนี้เสียในระบบลดได้รวดเร็วทันที แต่จะช่วยให้หนี้เสียนิ่งลงได้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลเตรียมดึงทุนสำรองมาใช้อัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจอีก 1 ล้านล้านบาทนั้น ยืนยันว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด

 “คลังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางเพื่อเพิ่มทุนหมุนเวียนของสำนักงานประกันสังคม เช่น แนวทางเพิ่มเงินสมทบหรือขยายเวลาอายุเกษียณ หลังไทยเผชิญกับสถานการณ์จำนวนแรงงานไทยลดลง ส่งผลให้รัฐต้องจ่ายเงินเพื่อดูแลแรงงานเกษียณอายุเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนรายละเอียดยังอยู่ระหว่างการศึกษา” นายพิชัยระบุ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวถึงกระแสดึงทุนสำรองของประเทศมาใช้ปล่อยสินเชื่อ 1 ล้านล้านบาทว่า หลังหารือกับนายพิชัยแล้วยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้ และน่าจะเป็นความเข้าใจผิดจากการสื่อสาร โดยปัจจุบันระบบธนาคารพาณิชย์มีสภาพคล่อง 3-4 ล้านล้านบาท ขณะที่ ธปท.เองก็มีสภาพคล่องจำนวนมาก ดังนั้นด้วยกลไกที่รัฐบาลมีและกำลังสร้างขึ้น เพื่อเอื้อในการดึงเม็ดเงินสภาพคล่องเหล่านี้ออกมาหมุนเวียนเข้าระบบเศรษฐกิจ จะช่วยให้คนที่ประกอบอาชีพสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะไปทำอะไรกับทุนสำรองของประเทศ ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟันแก๊งอุ้มพ่อนายกฯ ปปช.มีมติคุ้ยป่วยทิพย์/รทสช.ผวาเช็กบิลรีบปัด!

ชั้น 14 พ่นพิษแล้ว ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ไต่สวนแก๊งอุ้ม “พ่อนายกฯ” นอนตีพุง รพ.ตำรวจ ข้าราชการ-เจ้าหน้าที่ 12 รายถูกหวยเต็มๆ