พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี

"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ  สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล สัญญาจะปรับปรุงแบ่งเวลาให้ "สส.-สภา" เพิ่มขึ้น "ทักษิณ" ชี้ปี 68 ปีแห่งโอกาส ฉุน  รมต.ไม่เข้าประชุม ครม.ถก พ.ร.ก.ภาษีระหว่างประเทศ กร้าวใครไม่อยากร่วมรัฐบาลต่อบอกมาได้ ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก 17 ปี ลั่นไม่หมูแล้ว เตรียมเช็กบิลนักร้องทั้งหมด "เทพไท" จับสัญญาณ "แม้ว" ส่อหวนคืนเก้าอี้นายกฯ "ปชน."  ตามขยี้แถลงผลงาน 3 เดือนรัฐบาล

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 เวลา 07.00 น.  พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พท.  ได้ลาราชการ 1 วัน นัดรวมตัวสมาชิกพรรคที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อขึ้นรถไฟขบวนพิเศษไปสัมมนาที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามโครงการเสริมศักยภาพ สส.และบุคลากรทางการเมือง ระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. โดยมีรัฐมนตรี  สส. และสมาชิกพรรค ร่วมเดินทางอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะรัฐมนตรี อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข, นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง, นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง, น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ได้ลาราชการเดินทางไปด้วย

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมขบวนรถไฟดังกล่าว  โดยทันทีที่เดินทางมาถึงได้กล่าวทักทายสมาชิกพรรค และสมาชิกต่างเข้ามาทักทายและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งขอถ่ายภาพด้วย ส่วน น.ส.แพทองธาร พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี นายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว และหลานๆ ทั้ง 7 คน เดินทางมาถึงในเวลา 08.00 น.

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า นี่น่าจะเป็นครั้งแรกในรอบประมาณ 20 กว่าปีที่ตนได้กลับมานั่งรถไฟอีก วันนี้ดีใจที่ได้มากับพรรค พท.อีกครั้ง และพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว ขอบคุณนายสุริยะที่จัดการทุกอย่าง และบอกถึงอนาคตว่าการคมนาคมของประเทศเราจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะมองเห็นอนาคตที่สดใสแน่นอน วันนี้เราจะประเดิมก่อน และทำให้ประชาชนได้เห็นว่ารถไฟดีอย่างไรบ้าง เห็นจากรูปก็รู้สึกตื่นเต้น

จากนั้น น.ส.แพทองธารและคณะได้ถ่ายภาพร่วมกัน ก่อนขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ 913 ROYAL BLOSSOM ทั้งหมด 5 โบกี้ ออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงในเวลา 08.30 น. เพื่อไปรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ที่สถานีบางบำหรุ

ทั้งนี้ บริเวณสถานีรถไฟบางบำหรุ นายทักษิณได้มารอขึ้นรถไฟขบวนพิเศษดังกล่าว เพื่อเดินทางไปเป็นวิทยากรในงานสัมมนาโครงการเสริมศักยภาพ สส.และบุคลากรทางการเมือง ของพรรค พท. ซึ่งระหว่างยืนรถรถไฟ ได้มีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูปเซลฟีและนำบัตรสมาชิกพรรคไทยรักไทยมาให้นายทักษิณได้เซ็นชื่อ รวมถึงนำภาพถ่ายของนายทักษิณ มาขอถ่ายรูป

นายทักษิณให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งระบุว่า ในช่วงสิ้นเดือน ธ.ค.จะลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แต่นายกฯ จะไปด้วยหรือไม่ก็ไม่ทราบ รวมทั้งจะลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษและเชียงรายด้วย ส่วนช่วงปีใหม่จะอยู่กรุงเทพฯ เพราะไม่อยากรบกวนใคร

อิ๊งค์สัญญาแบ่งเวลาให้ สส.-สภา

ต่อมาเวลา 09.20 น. ขบวนรถไฟ น.ส.แพทองธารและคณะได้เคลื่อนขบวนมาถึงสถานีบางบำหรุ ทันทีที่นายทักษิณขึ้นขบวนรถไฟ น.ส.แพทองธารและนายเศรษฐาได้มายืนรอรับ โดยนายทักษิณได้จับมือทักทายนายเศรษฐา และเข้าไปกอด น.ส.แพทองธาร พร้อมกับหอมแก้มลูกสาว และ น.ส.แพทองธารก็ได้หอมแก้มพ่อกลับเช่นกัน พร้อมกล่าวทักทายพ่อว่า "Hello" นายเศรษฐาได้ถามนายทักษิณว่ารอรถไฟนานหรือไม่ นายทักษิณตอบกลับว่า "นานอยู่"  จากนั้นได้ถ่ายภาพร่วมกัน 3 คน ในฐานะ 3 นายกฯ

จากนั้นนายทักษิณได้เดินไปทักทายสมาชิกพรรค พท.ตามโบกี้ต่างๆ โดยบรรดา สส.ต่างดีใจและเข้ามาทักทายนายทักษิณ ซึ่งนายทักษิณก็ได้เข้าไปพูดคุยโอบไหล่อย่างเป็นกันเอง ช่วงหนึ่งน.ส.แพทองธารได้แซวนายทักษิณว่า "วันนี้เดินเป็นกระเป๋ารถเมล์เลย" จากนั้นนายทักษิณได้เดินไปทักทายลูกๆ และหลานๆ ทั้ง 7 คน

ผู้สื่อข่าวสอบถามนายทักษิณว่านั่งรถไฟไปสัมมนากันครั้งนี้เปรียบเหมือนการร่วมขบวนทำงานไปด้วยกันใช่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ความหมายง่ายนิดเดียว อยากอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นในระยะเวลาที่เราพบปะกัน 3 ชั่วโมง อยู่ใกล้กัน เราไม่อยากให้ใครพลาดขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษ แต่ไม่ใช่ Last Train to London

อย่างไรก็ตาม ช่วงหนึ่งมีสมาชิกพรรค พท.คนหนึ่งแนะนำว่ามาจาก จ.พะเยา นายทักษิณจึงแซวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ไม่มาด้วยหรือ

ต่อมาเวลา 12.30 น. น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางถึงโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  และเริ่มกิจกรรมสัมมนาภายใต้โครงการ เสริมศักยภาพ สส.และบุคลากรทางการเมือง โดย น.ส.แพทองธารกล่าวเปิดงานสัมมนาว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีที่มาเจอกัน ถือเป็นโอกาสพิเศษมากๆ ที่มีนายกฯ 3 ท่านมารวมตัวกัน ตนขอยึดตำแหน่งหัวหน้าพรรคไว้ก่อน

"ดีใจที่ได้มารวมตัวกันครั้งนี้ ซึ่งจากนี้จะขอปรับปรุงตัว แบ่งเวลาให้ดีขึ้น จะได้คุยกันให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพรรคหรือการประชุมสภา จะได้เจอกันบ่อยขึ้น ขอสัญญาไว้เลย" น.ส.แพทองธารกล่าว

กระทั่งเวลา 14.40 น. นายทักษิณ ในฐานะวิทยากรพิเศษ บรรยายพิเศษหัวข้อ สถานการณ์ทิศทางโลกและการปรับตัว ตอนหนึ่งระบุว่า วันนี้ได้กลับมาเมืองไทย คิดว่าคงจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองไม่มากก็น้อย เพราะเวลาเหลือไม่นานแล้ว ตอนนี้ 75 ปีแล้ว ตนเป็นคนคิดบวก พูดเล่นบ้างอะไรบ้างก็อย่าแปลกใจ ที่บอกขออีก 40 ปี ก็จะเจรจากับพระเจ้าในประเทศไทยว่าขอเวลาอีก 17 ปีที่หายไป และตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากลับมา มีคนบอกว่าสหรัฐอเมริกาจะจัดการกับเรา เนื่องจากเราได้เปรียบดุลการค้าจากเขา เราต้องระวังเรื่องการขึ้นภาษี รวมถึงกรณีที่นายโดนัลด์จะใช้หนี้อเมริกาจากบิตคอยน์ ที่พูดไม่ใช่จะให้ซื้อ แต่เทรนด์เป็นเช่นนั้น มีเงินคริปโตฯ หลายสกุลออกมาแล้วก็มีคนบอกว่าอีกหน่อยเราจะมีสกุลเงินมากกว่าจำนวนประเทศ วันนี้คนไทยต้องคิดจะรู้ทันมันให้ได้

นายทักษิณกล่าวว่า นายกฯ อาจจะมอบให้ทางกระทรวงการคลังไปศึกษาเพื่อรับบิตคอยน์ได้หรือไม่ ใช้แซนด์บ็อกซ์ เช่น จ.ภูเก็ต ใช้บิตคอยน์ เพื่อให้คนถือบิตคอยน์มาใช้เงิน อีกเรื่องที่น่าติดตามคือเหรียญที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งนายกฯ อาจจะให้กระทรวงการคลังศึกษาด้วยการออกคอยน์ โดยมีบอนด์ของรัฐบาลค้ำประกัน เพื่อทำให้เงินไหลเวียนในเศรษฐกิจ ถ้าทำแบบนี้เชื่อว่าจีดีพีปีหน้า 3.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่น่าจะมีปัญหา และในปี 2569 หากจีดีพีจะโต 4.0 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

ทักษิณซัด รมต.ชิ่งหนี พรก.ภาษี

นายทักษิณกล่าวด้วยว่า วันนี้เม็ดเงินในเศรษฐกิจเราถูกดูดออกหมด เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่ออกกู้ เราต้องหาเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาของประเทศ วันนี้หนี้สาธารณะเราเยอะมาก ฉะนั้นเราต้องทำให้จีดีพีเติบโต และลดการขาดดุล เพื่อทำให้หนี้สาธารณะลดลง ปีหน้าจะเป็นปีแห่งโอกาสของคนไทย วันนี้งบประมาณปีหน้าเป็นปีที่เราจะต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ต้องลดหนี้สาธารณะลงให้ได้ และต้องให้รัฐวิสาหกิจที่มีหนี้เยอะออกพ้นจากรัฐวิสาหกิจ เอาเอกชนมาลงทุนแทนรัฐ เช่น การลงทุนป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ เราก็ต้องหาทางทำ แต่จะทำอย่างไรถ้ารัฐไม่มีเงิน งบลงทุนมันต่ำ ก็ต้องให้เอกชนมาลงทุน วันนี้เราพูดเรื่องการผูกขาด เรื่องไฟฟ้า เรามีหน่วยงานของรัฐ แต่ทุกคนต้องมีสวัสดิการของตัวเอง ทำให้ค่าไฟฟ้าของเรามีราคาแพง เราไม่ควรเห็นเลข 4 บาท เลข 3 บาทปลายก็ไม่ควรเห็น ต้องอยู่ 3 บาทกลางๆ เพราะประชาชนอยู่ไม่ได้

"เมื่อ 2 วันก่อนมีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปรากฏว่ามีพรรคร่วมบางพรรคหลบ ป่วย อย่างนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณนี่หว่า ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องด้วยกันสิ วันหลังไม่อยากอยู่ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ห้ามหนี ต่อไปใครหนีก็บอกว่าถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี ผมเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมาง่ายๆ อยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน ในเมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลร่วมกัน แถลงนโยบายคุณยกมือเห็นด้วย พอได้เก้าอี้ รัฐมนตรีค่อยๆ หลบมือออก ไม่ได้ ต้องตรงไปตรงมา” นายทักษิณกล่าว

พ่อนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนไม่ได้ครอบงำนายกรัฐมนตรี ใครมีลูกสาวจะรู้ว่าพ่อกับลูกสาวคนเล็กมันแพ้ทางกันอยู่ ตนต่างหากที่ถูกใช้ นายกรัฐมนตรีบอกว่าพ่อทำโน่นทำนี่ให้หน่อย  เงินเดือน 700 บาท เป็นผู้ช่วยหาเสียงได้วันละ 300 บาท แต่ช่วงนี้งานชุกหน่อย จ.ศรีสะเกษก็เตรียมตัวไว้ จ.เชียงใหม่ มีเงินหรือไม่ ช่วงเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด อาจจะรวยหน่อย

"บังเอิญผมไปนครปฐม หมูมันเปลี่ยนเสียงเรียก มันเรียกผมพี่ๆ แต่เมื่อก่อนผมไปนครปฐม หมูไม่เปลี่ยนเสียงเรียก มันไม่เรียกพี่ มันร้องอู๊ดๆ  แสดงว่าผมไม่หมูแล้วนะ ขนาดหมูมันยังรู้ว่าผมไม่หมูแล้ว เพราะฉะนั้นไอ้คนที่ร้องผม ร้องพรรค​  ร้องไม่สำเร็จ​ ก็เตรียมถูกเช็กบิลด้วยละกันนะ​" นายทักษิณกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีคณะรัฐมนตรีแจ้งลาประชุม 7 ราย ประกอบด้วย 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย 2.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน 3.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ 4.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย 5.นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ 6.นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาฯ  และ 7.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง จับสัญญาณ ทักษิณ หวนคืนอำนาจรัฐ ถ้าใครได้ฟังนายทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยที่จังหวัดอุบลราชธานี ตอนหนึ่งว่า  "ขั้นต่อไปเอา สส.คืนให้เพื่อไทยซะ แล้วเพื่อไทยจะเอานโยบายมาชุบชีวิตให้ประชาชนมีความสุข มีความเจริญ" และบอกว่า "วันนี้ผม 75 ปี มีเงิน มีเวลา ยังพอมีแรง เพราะฉะนั้น ก็ยังต้องรับใช้พี่น้องคนไทยต่อไป ไม่มีตำแหน่ง แต่ก็รับใช้ได้" แสดงให้เห็นจิตใต้สำนึกของนายทักษิณ ยังต้องการจะกลับมาเป็นผู้บริหารประเทศอีกครั้งหนึ่ง

"นายทักษิณคงรู้ดีว่าการผลักดันให้ น.ส.แพทองธารขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นไม่สามารถบริหารประเทศได้ เพราะยังขาดวัยวุฒิ คุณวุฒิ  และไร้เดียงสาทางการเมือง แม้ว่าจะชักใยอยู่เบื้องหลังแล้วก็ตาม น.ส.แพทองธารก็ไม่สามารถทำได้ทั้งใจที่ต้องการ ซึ่งจำเป็นต้องเปิดหน้าออกมาเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา การที่นายทักษิณเคยประกาศตอนหนีคดีอยู่ต่างประเทศว่า ต้องการกลับมาเลี้ยงหลาน และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกแล้ว เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อต้องการกลับเมืองไทยเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงเห็นๆ กันอยู่ว่า นายทักษิณเป็นผู้บงการทางการเมืองของรัฐบาลชุดนี้ทั้งหมด เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย นายทักษิณไม่ได้กลับมาเลี้ยงหลานตามที่กล่าวอ้าง แต่กลับมาเลี้ยงลูก เป็นพี่เลี้ยงให้ลูก อยู่เบื้องหลังการเป็นนายกรัฐมนตรีของลูกสาวทุกอย่าง" นายเทพไทกล่าว

จับสัญญาณแม้วคืนเก้าอี้

นอกจากนี้ นายเทพไทระบุว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งหมดของนายทักษิณ เป็นการส่งสัญญาณไปถึงชนชั้นฝ่ายอนุรักษนิยมว่าปัญหาบ้านเมืองที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ต้องให้นายทักษิณเท่านั้นเป็นผู้เข้ามาแก้ไข และเป็นผู้นำประเทศ  หวังต้องการให้มีการปลดล็อกหรือพันธนาการทางการเมือง ให้ตัวเองนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ขอให้จับตาดูว่าจะมีปาฏิหาริย์ อภินิหารใด ที่ทำให้นายทักษิณได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือหรือไม่

วันเดียวกัน นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านประเมินการแถลงผลงานรอบ 3 เดือนของรัฐบาลแพทองธารไม่ผ่านเกณฑ์ว่า การที่ฝ่ายค้านจะให้คะแนนรัฐบาลว่าสอบตกหรือสอบผ่านเกณฑ์นั้น ต้องมีหลักเกณฑ์ตัวชี้วัดผลที่เป็นเชิงสถิติตามหลักวิชาการมารองรับด้วย โดยเฉพาะต้องมาจากเสียงของประชาชนโดยตรง การที่ฝ่ายค้านจะประเมินและให้คะแนนรัฐบาลโดยใช้เวลาทำงานแค่ 3 เดือนแล้วด่วนสรุปนั้น มองว่าไม่มีหลักวิชาการรองรับ

 “ทุกนโยบายต้องให้เวลารัฐบาลในการทำงานด้วย การที่ฝ่ายค้านจะประเมินผลงานว่าสอบผ่านหรือสอบตกนั้น ควรอ้างอิงจากตัวชี้วัด คือความพึงพอใจจากประชาชนโดยตรง ฝ่ายค้านควรทำการบ้านตรงนี้ให้มีหลักวิชาการรองรับถึงจะมีความน่าเชื่อถือ ขออย่าใช้แต่วาทกรรม ด้อยค่าโจมตีทางการเมืองเพื่อหวังช่วงชิงคะแนนนิยม กลับกันต้องประเมินการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านด้วยว่าที่ผ่านมาว่าสอบตกหรือไม่" นายธนกรกล่าว

ด้านนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ รองโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการแถลงผลงาน 3 เดือนของรัฐบาลว่า หากนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับสภา และรับฟังมากกว่านี้ 90 วันที่ผ่านมาไม่มีทางสูญเปล่า เพราะในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ตนได้อภิปรายแนวทางการเตรียมพร้อมรับมือปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 อย่างชัดเจนทุกๆ ด้าน เป็นแผนปฏิบัติการอย่างชัดเจนว่าแต่ละเดือนต้องดำเนินการอะไรบ้าง นำเสนอภาพปัญหาการเผาไหม้ภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในปี 2567 ของพืชที่มีการเผาไหม้หลักๆ 3 ชนิด คือ ข้าว อ้อย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ต้องมีการประกาศมาตรการล่วงหน้าเพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการได้วางแผนปรับตัวได้ทัน แต่รัฐบาลกลับไม่ดำเนินการใดๆ เลย

ส่วน น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรค ปชน. โพสต์เฟซบุ๊กว่า ต้องถามก่อนว่าตกลงเป็นแถลงนโยบาย หรือสรุปผลงาน เพราะสิ่งที่ประชาชนคาดหวังกับการแถลงสรุปผลงานวันนี้ คือผลงาน ทั้งนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนตอนเลือกตั้งและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น ไม่ได้หวังจะเห็นนายกฯ มาฝึกงานและฝากงานให้รัฐมนตรีไปศึกษาและทำเรื่องต่างๆ ถ้าจะมอบหมายงานกันไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียงบประมาณ จัดแจงสถานที่ หอบสังขารกันมาถึงตรงนี้ คุยในที่ประชุม ครม.เอาก็คงได้

"ข้างตัวนายกฯ ก็มีผู้มากประสบการณ์หลายคนคอยอนุบาลให้ แต่เพราะอะไรกัน เพราะรัฐบาลไม่มีผลงานหรือความคืบหน้าในการดำเนินนโยบายที่หาเสียงเอาไว้หรือไม่มีปัญญาหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น เช่น เรื่องรถนักเรียนไฟไหม้ นายกฯ ใช้เป็นคลิปเปิดงาน สรุปว่ามาตรการต่างๆ คืบหน้าไปถึงไหน ได้แก้ทั้งระบบหรือยัง? หรือว่าแค่มีรูปไปหน้างานก็พอแล้ว คุณขัตติยา (น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย) อาจจะเข้าใจนายกฯ เป็นพิเศษ เพราะต่างได้อาศัยบารมีของบุพการี เพื่อมาอยู่ตรงนี้เหมือนๆ กัน" น.ส.รักชนกกล่าว

นอกจากนี้ น.ส.รักชนกเสนอให้นายกฯ มาตอบกระทู้สดในสภา มาแสดงศักยภาพให้ประชาชนได้เห็นว่านายกฯ แพทองธารคือตัวจริงเสียงจริงเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน และพร้อมจะแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง

ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์เฟซบุ๊กถึงการแถลงผลงาน 3 เดือนของรัฐบาลว่า ไม่ใช่แถลงผลงาน 90 วัน ไม่ใช่มอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ แต่เป็นขายฝันให้ประชาชนรอคอยอีกรอบเท่านั้น หนึ่งชั่วโมงของแพทองธาร ชินวัตร ที่โปรยไว้ว่าจะเป็นการแถลงผลงาน และมอบนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการ จึงไม่ตรงปกอย่างยิ่ง ยิ่งบุคลิกในช่วงต้นที่แฝงความไม่มั่นใจ สายตาต้องเหลือบดูบทในจอมอนิเตอร์ข้างหน้าอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

"ที่เป็นรูปธรรม แต่คนทำก็พยักหน้ารับ โดยไม่แน่ใจว่าจะทำได้จริงคือ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทุกสายในปี 2568 ที่ไม่ได้พูดเลยคือ ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท แก้รัฐธรรมนูญไปถึงไหน จะจัดการกับทุจริตคอร์รัปชันอย่างไร MOU 44 จะเดินหน้าต่อหรือไม่ จะแก้ไขปัญหาภาคใต้ และชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร ดูหนังตัวอย่างที่โปรยและสร้างความคาดหวัง แต่พอเสียตังค์มาดูหนังฉายจริง แบบนี้ถ้าเป็นเว็บมะเขือให้ มะเขือเน่า ครับ" นายสมชัยกล่าวตอนหนึ่ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทักษิณ' ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์ 'เกาะกูด' ของไทย ไม่บ้ายกให้กัมพูชา จ่อติวเข้ม สส. แจงปชช.

'ทักษิณ' ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์ 'เกาะกูด' เป็นของไทย โต้เฟกนิวส์ใช้เอไอปล่อยข่าวมั่ว ชี้ใครจะบ้ายกให้ เตรียมติว สส. เพื่อไทย แจงประชาชนถึงที่มา MOU 44

หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี

’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี