7 ผู้ต้องหาคดียิง "สจ.โต้ง" คอตกเข้าคุกเรียบร้อย ศาลไม่ให้ประกัน “บิ๊กอ้อ” บินสางคดี มั่นใจหลักฐานเพียงพอแม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย ตร.เตรียมพิจารณาโอนคดี "สจ.โต้ง" ให้กองปราบฯ หลังภรรยา “สจ.โต้ง” ร้องขอคุ้มครองพยาน ยันยังไม่เผาศพเพื่อรอความยุติธรรม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2567 ตำรวจปราจีนบุรีได้นำตัว 3 ใน 7 ผู้ต้องหา ที่มีส่วนร่วมในคดียิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง เสียชีวิตในบ้านพักของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ที่พักอาศัยอยู่กับนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ “โกทร” นายก อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่บนถนนโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ ก่อนนำตัวฝากขังศาลจังหวัดปราจีนบุรี ประกอบด้วย นายสิทธิชัย อายุ 41 ปี, นายธนภัทร อายุ 18 ปี ซึ่งทำหน้าที่ผู้ติดตาม “โกทร” และนายอภิสิทธิ์ อายุ 34 ปี ซึ่งทั้ง 3 คนทำหน้าที่ผู้ติดตาม
โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้แถลงสรุปสภาพเหตุการณ์หลังตำรวจเข้าคลี่คลายสถานการณ์ภายในบ้านหลังเกิดเหตุว่า พบชายฉกรรจ์ 6 คน และนายสุนทร วิลาวัลย์ รวมทั้งสมาชิกในครอบครัวอยู่ในบ้าน ส่วนศพ สจ.โต้ง อยู่บริเวณชั้น 1 และมีการใช้อาวุธปืนยิงลงมาจากชั้น 2
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงพิจารณาคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เนื่องจากกลุ่มบุคคลทั้งหมดถือเป็นผู้มีอิทธิพล และหลังควบคุมตัวครบ 48 ชั่วโมง จะนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี
ภายหลังพนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรีเเล้ว ศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาผู้ต้องหาที่ 3-7 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ส่วนผู้ต้องหาที่ 1-2 ไม่ยื่น ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เเล้วไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาที่ 3-7 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 7 คนไปควบคุมในเรือนจำต่อไป
สำหรับแนวทางการสืบสวนเพื่อติดตามคดี เจ้าหน้าที่มุ่งไว้ที่ 3 ประเด็นคือ 1.เรื่องการทะเลาะกันมาแต่เดิม 2.การเลือกตั้งท้องถิ่น ที่กลุ่มผู้ต้องหาและผู้ก่อเหตุไม่ลงรอยกัน และ 3.เรื่องเหตุซึ่งหน้า ที่อาจมีการขู่ทำร้ายกันจนทำให้ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย และหลังจากนี้ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี และ สภ.เมืองปราจีนบุรี จะเร่งรัดปราบปรามเรื่องของอาวุธสงครามและวัตถุระเบิด
คดีนี้นายสุนทรยังยืนยันไม่รู้ไม่เห็นเหตุการณ์ เพราะเข้าห้องนอนไปแล้ว ได้ยินแค่เสียงปืน และไม่กล้าออกมาดู ไม่รู้เป็นเสียงปืนจากฝั่งไหน หรือของใคร รวมถึงไม่ได้เรียก สจ.โต้งไปสั่งตาย เพราะคืนเกิดเหตุเคลียร์เรื่องการลงสมัครเลือกตั้งกับ สจ.โต้งลงตัว และก่อนหน้านี้ก็ประกาศมาตลอดว่าจะไม่ลงเลือกตั้ง และจะสนับสนุนให้ภรรยาของ สจ.โต้งลงแทน ไม่มีการแข่งขันกันเอง เพราะเป็นพ่อลูกกัน นอกจากยังได้สวมกอด และ สจ.โต้งได้ก้มกราบเท้าขอบคุณและขอโทษที่ก้าวร้าว ก่อนขึ้นชั้น 2 ไปส่งโกทรเข้าห้องนอน
ส่วน 2 มือปืน ผบ.ตร.ให้ข้อมูลว่า ทั้งคู่เปิดปากสารภาพ ในขณะที่ สจ.โต้งเข้าไปคุยกับโกทรในบ้าน มีลูกน้องตามไปด้วย แต่รออยู่ข้างนอก ช่วงแรกเข้าไปได้ 5 นาที สจ.โต้งกลับออกมาและเข้าไปอีก และจังหวะเดินลงมาจากชั้น 2 สจ.โต้งได้มีปากเสียงกับกอล์ฟและตูนอย่างรุนแรง ทำให้ทั้งคู่ใช้ปืนขนาด 9 มม.และลูกซองยิง สจ.โต้ง ร่วงตกจากชั้น 2 มาเสียชีวิตบันไดชั้น 1 โดยหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบร่องรอยกระสุนถูกยิงออกไปหลายนัด และการตรวจค้นภายในบ้านยังพบอาวุธปืนอีกจำนวนมาก
สอดคล้องกับผลชันสูตร สจ.โต้ง ที่เบื้องต้นมีรายงานว่า พบกระสุนลูกปรายจากปืนลูกซองเข้าที่ลำตัว 17 นัด กระสุนลูกโดดเข้าที่ใบหน้า 2 นัด เข้าที่หลังอีก 1 นัด ที่ก้นอีก 2 นัด รวมทั้งหมด 22 นัด และสาเหตุการเสียชีวิตคือกระสุนทะลุเข้าปอด และทำลายอวัยวะช่องท้อง ส่วนประวัติของ 1 ในมือปืนคือตูน เรียกว่าโชกโชน เพราะมีทั้งเรื่องยาเสพติด พกอาวุธปืน และลักทรัพย์ ในพื้นที่ สภ.เมืองปราจีนบุรีหลายครั้ง
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยัง สภ.เมืองปราจีนบุรี ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี เปิดเผยว่า ประเด็นเบื้องต้นที่ทราบอยู่แล้วคือเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น ซึ่งผู้ตายและกลุ่มผู้ก่อเหตุก็เป็นกลุ่มเดียวกันมาก่อน พอในระยะหลังที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามากวาดล้างและสลายกลุ่มไป กลุ่มก็แตกแยกออกไป ทำให้ยังมีเรื่องคาใจหลายเรื่องในการช่วย-ไม่ช่วยของการสนับสนุน จนมาถึงการแข่งขันการเมืองท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ และสุดท้ายจะต้องมาดูเรื่องประเด็นอื่นอีกหรือไม่ และมีใครเกี่ยวข้องอีก โดยจะประชุมกันอีกครั้ง
ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยต่อว่า สำหรับประเด็นเรื่องของกล้องวงจรปิดที่พบว่าเสีย และบ้านของผู้ก่อเหตุไม่มีภาพนั้น ไม่ว่ากล้องจะเสียหายหรือไม่เสียหาย ตำรวจก็จะส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ แต่ไม่ได้เป็นการตัดตอนในการค้นหารวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งตอนนี้ตำรวจมีพยานหลักฐานมากพอสมควรแล้ว พร้อมยืนยันว่ากล้องวงจรปิดเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของสำนวน แต่คดีหลายคดีไม่มีกล้องวงจรปิดก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งฟ้องได้
ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยกรณี น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง เข้าร้องตำรวจสอบสวนกลางให้โอนคดีมาให้กองปราบฯ ทำว่า คดีนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะต้องดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และเด็ดขาดยุติธรรม คาดว่าจะมีการพิจารณาในเรื่องที่ร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว
โดยคดีนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐยังได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี รรท.รอง ผบ.ตร. เข้าไปดูเรื่องคดี เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในทุกมิติ และสั่งการให้ผู้บัญชาการภาคต่างๆ และผู้บังคับการตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเด็ดขาดกับผู้มีอิทธิพล หรือมีการกวาดล้างอาวุธ เพื่อไม่ให้เกิดความไม่สงบในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่อาจจะมีการเลือกตั้งต่างๆ ท้องถิ่น จึงขอให้ประชาชนได้มั่นใจว่าตำรวจดำรงตนอยู่ในความยุติธรรม และบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกมิติเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดทุกกรณี
โฆษก ตร.กล่าวย้ำว่า แม้คดีนี้จะเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลและการเมืองท้องถิ่น แต่ยืนยันว่าตำรวจจะดำเนินการด้วยความยุติธรรม โดยไม่สนใจว่าเป็นใคร หรือเป็นมาอย่างไร แต่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีตำรวจในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้องและเป็นลูกน้องของ สจ.โต้งนั้น ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการตรวจสอบให้ครบถ้วนทุกมิติ ว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องในด้านไหนบ้าง แม้จะไม่มีส่วนร่วมในการกระทำผิด แต่หากพบมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ก็จะต้องดำเนินการทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ นอกจากฝั่ง น.ส.ณภาภัชและทีมทนายความขอให้โอนคดีแล้ว ยังร้องขอให้คุ้มครองพยาน ทั้ง สจ.จอยและลูกชาย รวมถึงพยานที่จะนำมาให้ตำรวจ บก.ป. เป็นผู้สอบปากคำเท่านั้น และจะมีการเปลี่ยนกำหนดการฌาปนกิจของ สจ.โต้ง จากเดิมวันที่ 17 ธ.ค. ไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปชน.กระทุ้งกต. ปรับท่าทีเชิงรุก เร่งช่วย4ลูกเรือ
กต.นัดถกเมียนมา 19 ธ.ค.นี้ ช่วยลูกเรือไทย 4 คน “โรม” ผิดหวังคำตอบทางการ
แม้วยันเกาะกูดของไทย ไม่ใช่‘ควาย’ยกให้เพื่อน
“ทักษิณ” ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์เกาะกูดเป็นของไทย ใครจะบ้ายกให้
กกต.ย้ำ1ก.พ.เลือก47อบจ. พท.จ่อเคาะชื่อเก้าอี้โคราช
กกต.ย้ำเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด 1 ก.พ.2568
พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี
"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล
เปิดพฤติการณ์สังหารโหด 'สจ.โต้ง' ชนวนเหตุเลือกตั้ง อบจ. ศาลไม่ให้ประกัน
ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี พนักงานสอบสวน สภ.อ.ปราจีนบุรี ได้นำตัวนายธนศรัณย์ เตชะธนัตถโชติ อายุ 32 ปี (กอล์ฟ) มือยิง ,นายศักดิ์สิทธิ์ ชินวงษ์ อายุ 34 ปี ( ตูน ) มือยิง,
'เพื่อไทย' พร้อมหนุนภรรยา 'สจ.โต้ง' หากต้องการลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความชัดเจนในการส่งผู้สมัครนายก อบจ. ปราจีนบุรี