กกต.ย้ำ1ก.พ.เลือก47อบจ. พท.จ่อเคาะชื่อเก้าอี้โคราช

กกต.ย้ำเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด 1 ก.พ.2568 หวังประชาชนไปใช้สิทธิ์เกิน  50% เชื่อปม สจ.โต้งไม่กระทบแน่ “เพื่อไทย” รอ สจ.จอยตัดสินใจลงชิงเก้าอี้ อบจ.ปราจีนบุรี ส่วน อบจ.โคราชคาดสัปดาห์หน้าชัดว่าใครลง

เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง (​กกต.) กล่าวในกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)  และนายก อบจ.ว่า การเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด และช่วงนี้ที่มีการลาออกของนายก อบจ.และสมาชิกสภา อบจ. ก็จะไปเลือกตั้งพร้อมกันในวันที่ 1 ก.พ.2568 โดยได้ออกแบบบัตรเลือกตั้งครั้งนี้มีทั้งหมด 8 สี ภูมิภาค 2 สี อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์เพื่อป้องกันการทุจริต กกต.คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะออกไปใช้สิทธิ์น้อย แต่เชื่อว่าจะมากกว่า 50% ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 65-70%

นายแสวงยังกล่าวถึงเหตุยิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรืออดีต สจ.โต้ง ที่ จ.ปราจีนบุรี ว่าน่าจะเป็นเรื่องของการเมืองในพื้นที่ เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งสำนักงาน กกต.ไม่กังวลในเรื่องนี้ โดยความรุนแรงที่เกิดขึ้นคงไม่ส่งผลต่อการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น เพราะเหตุที่เกิดน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว

นายแสวงยังกล่าวอีกว่า ยังมีนายกและสมาชิก  อบจ.ทยอยลาออก ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นผลมาจากกฎหมายที่กำหนดห้ามไม่ให้นายกเป็นสมาชิก อบจ. ไปทำการใดๆ ที่จะเอื้อให้ได้รับเลือกตั้ง ซึ่งเขาก็เกรงว่าอาจไปทำอะไรที่สุ่มเสี่ยง จึงตัดปัญหาด้วยการลาออก ซึ่งแม้กฎหมายกำหนดให้ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน กรณีตำแหน่งว่างลง แต่เมื่อเป็นการลาออกในช่วงเวลาใกล้ครบวาระของสภา อบจ. กกต.ก็จะจัดให้มีการเลือกตั้งในวันเดียวกับที่สภา อบจ.ครบวาระ คือเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.

ด้านนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงการเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้นอีกครั้งว่า ไม่มีอะไร ที่ จ.ปราจีนบุรีเป็นเขตอิทธิพลของนายสุนทร วิลาวัลย์ มานานแล้ว คือการเมืองมีทั้งฮั้ว ถ้าฮั้วไม่ลงตัวก็ฆ่ากัน   เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ตำรวจก็จัดการได้เร็วมาก  ล้อมบ้านและจับกุมได้ทั้งหมด ยอมรับว่าตำรวจจับกุมได้เร็วมาก

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะส่งลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ปราจีนบุรีหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า  ตอนนั้นได้มาคุยกันว่า สส.เพื่อไทยในเขตปราจีนบุรีจะสนับสนุนภรรยาของ สจ.โต้ง ส่วนที่มีการถอนตัวแล้ว เพราะเขาคงไม่กล้าลง เพราะยังมีอิทธิพลที่ยังไม่จบ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ตำรวจต้องกวาดล้างอิทธิพลปราจีนบุรีให้เกลี้ยง ส่วนพรรค พท.จะส่งผู้สมัครหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ทราบ หรืออาจจะไม่ส่งก็ได้

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. กล่าวในเรื่องนี้ว่า ก่อนมีเหตุการณ์เกิดขึ้น นาย​ชัยเมศร์​ สิทธิสนิทพงศ์​ หรือ สจ.โต้ง ได้พา น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ติดต่อเข้ามาว่าสนใจลงในนามพรรค พท. ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น และบอกด้วยว่านายสุนทรยินยอมแล้วว่าจะส่ง สจ.จอยลงสมัคร  แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแบบนี้ ก็ต้องย้อนไปถามผู้สมัครเองว่าประสงค์จะลงอีกหรือไม่ ส่วนทางพรรคถ้ามีความสนใจที่จะลง พรรคก็พร้อมพิจารณา

“ตอนนี้รอทางผู้สมัครมาชัดเจนกับพรรค คงต้องจัดการเรื่องคดีความให้เสร็จก่อน ซึ่งไม่แน่ใจว่า สจ.จอยจะตัดสินใจอย่างไร ขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัคร” นายสรวงศ์กล่าว

เมื่อถามถึงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ จะลงในนามพรรค พท.หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ต้องดู ซึ่งไม่แน่ใจ ยังไม่มีการประชุม ถ้าจะลงในนามพรรคต้องเป็นมติของคณะกรรมการบริหารพรรค  แต่ที่ผ่านมาก็มีหลายจังหวัดที่ขอลงในนามสมาชิกพรรค ซึ่งเป็นมติของพรรค แต่ขอเข้ามาใช้สัญลักษณ์ โลโ ก้หรือเสื้อของพรรคก็มี ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างไร ส่วนที่มีกำหนดการลง จ.เชียงใหม่ของนายทักษิณช่วยหาเสียงนั้น เป็นความปรารถนาของผู้สมัคร เป็นการเชิญโดยส่วนตัวโดยไม่เกี่ยวกับทางพรรค ในขณะที่ จ.นครราชสีมา จะส่งหรือไม่นั้นก็ไม่แน่ใจ ต้องดูว่าผู้สมัครมีความประสงค์หรือไม่ ส่วนที่มีการบอกว่าจะลงในนามส่วนตัวนั้น ก็ไม่เป็นไร ตระกูลหวังศุภกิจโกศล ท่านรัฐมนตรีก็ยังอยู่กับเรา และตัว สส.หลายท่านก็ยังอยู่ ไม่มีอะไร ตระกูลเดียวกันอยู่คนละพรรค ตระกูลเทียนทองก็เป็นเช่นนั้น ความเห็นทางการเมืองแตกต่างกันได้ไม่มีปัญหา

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลฯ ในฐานะแกนนำพรรค พท. กล่าวถึงกรณีนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ที่ลาออก จะลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมาในนามอิสระ ว่านางยลดาคุ้นเคยกับพรรค พท.อยู่แล้ว ก็มีการคุยกันอยู่ ทั้งนี้ การลงในนามอิสระหรือในนามพรรค พท. กำลังอยู่ในกระบวนการของตัวผู้สมัครและพรรค ซึ่งยังมีเวลาอยู่

เมื่อถามว่า หากนางยลดาไม่ลงในนามพรรค พท. มีกระแสว่าจะส่งนายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีนครราชสีมาลงแทน นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่มี แต่สัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน

ที่ จ.นครราชสีมา ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ว่าที่ผู้สมัครนายก  อบจ.นครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องที่ได้ยื่นหนังสือลาออกให้มีผลวันที่ 12 ธ.ค.ว่า ได้ไปกราบขอพรพระอาจารย์มหาต่อ ธรรมรังษี วัดพระนารายณ์มหาราชฯ ซึ่งท่านให้ศีลให้พรบอกว่าเลข 12 เดือน 12 ถือเป็นวันดี วันมงคล ประกอบกับทำงานในตำแหน่งนายก อบจ.ตลอดเกือบ 4 ปีเต็ม ไม่เคยหยุดทำงาน วันหยุด เสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ ก็ไม่เคยหยุดพัก จึงตัดสินใจยื่นขอลาออกจากตำแหน่ง และก็จะใช้ช่วงที่หยุดพักผ่อนเตรียมตัวในการลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อีกสมัยในนามอิสระ.