ประชานิยมภาค2 ‘อิ๊งค์’โชว์เดี่ยวขายฝันปี68แจกแหลก ปชน.ฟันฉับ!สอบตกแค่ฝากงานรมต.

"นายกฯ อิ๊งค์" ร่ายยาวผลงานรัฐบาล 90 วัน เปิดอนาคตปี 68 แจกเงินหมื่นเฟส 2-3 สานฝันเด็กจบใหม่ จัดบ้านเพื่อคนไทย  ผ่อน 4 พันไม่ต้องดาวน์ ล้วงเงินหวยส่งเด็กไทยเรียนเมืองนอก คืนชีพโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน  "ศิริกัญญา" เย้ยไม่ใช่แถลงผลงาน แค่ฝากงาน รมต. เหมือนแถลงนโยบายภาคสอง "เท้ง" ไม่ขอตัดเกรด ฟันฉับสอบตกไม่ผ่านเกณฑ์ "สมชัย" ชี้แค่ขายฝันแถลงไม่ตรงปกอย่างยิ่ง "สภา" เดือด!  "สส.เพื่อไทย" ฉุน "ปชน." ตั้งกระทู้ปลาหมอคางดำหลอกด่านายกฯ เบี้ยวตอบกระทู้ตั้งวันแรกเปิดสภา

ที่สตูดิโอ 4 อาคารศูนย์ปฏิบัติการแพร่ภาพออกอากาศการกระจายเสียงวิทยุและการให้บริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) วันที่ 12 ธันวาคม 2567   เวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”  พร้อมมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี ใช้เวลาประมาณ 45 นาที มีคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ข้าราชการฝ่ายการเมือง  หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมหรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  โฆษกกระทรวง หัวหน้ารัฐวิสาหกิจ และผู้บริหารองค์การมหาชน เข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีนายปิฎก  สุขสวัสดิ์ สามีนายกรัฐมนตรี มาร่วมงานด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงแรกของการแถลงผลงานรัฐบาลครั้งนี้ เริ่มต้นโดยการเปิดคลิปวิดีโอการลงพื้นที่ทั่วประเทศตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี

จากนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า คลิปวิดีโอที่ได้รับชมเป็นผลงานตั้งแต่สมัยของนายเศรษฐา  ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งไม้ต่อมาถึงรัฐบาลปัจจุบัน เวลา 90 วัน ตั้งแต่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นช่วงเวลาของการปรับตัวระหว่างตัวดิฉัน คณะรัฐมนตรี และเพื่อนข้าราชการทุกท่าน  เพื่อหาแนวทางกันว่าการทำงานแบบไหนที่เราจะสามารถทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ซึ่งภาพของประเทศไทยในปี 2568 เป็นปีของโอกาสที่จับต้องได้ รัฐบาลจะสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เมื่อตนเข้ารับตำแหน่งเจอปัญหาของน้ำท่วมอย่างหนักมากในพื้นที่ของภาคเหนือ และมีดินโคลนถล่ม ซึ่งเราสามารถเยียวยาได้รวดเร็ว รวมถึงยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสานและพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจากนี้ต้องร่วมกันแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ รวมถึงจะมีการแก้กฎหมายให้ประชาชนขุดลอกคูคลองเอาดินไปขาย เป็นโครงการใหม่ที่เราจะศึกษาในรายละเอียดต่อไป และมากไปกว่าการสร้างฟลัดเวย์ที่เป็นโครงการใหญ่จะแก้ปัญหาน้ำแล้ง มอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ไปหาข้อกฎหมายและเทคโนโลยีในการสร้างฟลัดเวย์เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว สำหรับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ปีนี้พื้นที่ภาคเหนือสามารถลดการเผาไหม้ลงได้ 50% แต่การจะให้หมดไปเลยต้องใช้เวลาอีกนาน ซึ่งเรามีนโยบายไม่รับซื้อผลิตภัณฑ์ที่มาจากการเผาไหม้จากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อคืนสุขภาพดีๆ ให้ประชาชน  โดยมอบหมายนายประเสริฐช่วยดำเนินการต่อ

ส่วนปัญหายาเสพติด ตนทำในแพลตฟอร์มสำหรับให้ประชาชนแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มถึงนายกฯ และจะปกปิดข้อมูลส่วนตัวของผู้แจ้งเพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้ให้ข้อมูล รวมทั้งรัฐบาลจะปลดล็อกเรื่องนี้ และลดขั้นตอนลงให้เอสเอ็มอีค้าข้าวมีโอกาสส่งออกข้าวไปขายด้วยตัวเองได้ ธุรกิจนอกระบบหรือใต้ดิน เราต้องนำเข้าสู่ระบบและเสียภาษีตามหลักให้ได้

แจกหมื่นเฟส 2-3 เด็กจบใหม่เฮ

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ในปี 2568 จะนำนโยบายที่เคยใช้ในอดีตกลับมาใช้ เช่น นโยบายแรกคือนโยบายหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOS) เพื่อส่งเด็กเรียนเก่งเรียนดีได้ไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ   ใช้เงินจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล,  โครงการที่สอง หนึ่งอำเภอหนึ่งซัมเมอร์แคมป์ ส่งเด็กไทยไปเรียนซัมเมอร์แคมป์ที่ต่างประเทศ เพื่อให้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ, โครงการที่ 3 นำเงินกองสลากฯ มาพัฒนาโรงเรียนประจำอำเภอ โครงการ SML EMPOWERING THAIS กระจายอำนาจสู่ชุมชน ส่งเงินถึงมือประชาชนโดยตรงในทุกหมู่บ้าน ให้คนในพื้นที่เลือกประกอบอาชีพ รวมทั้งโครงการบ้านเพื่อคนไทยให้คนไทย โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่ไม่เคยมีบ้าน ได้มีที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง เดินทางสะดวก โดยจะใช้พื้นที่ของรัฐที่ไม่ได้ทำประโยชน์ ทำเลดีใกล้รถไฟฟ้า โดยเริ่มที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในกรุงเทพฯ เป็นทั้งบ้านและคอนโดฯ ดีๆ เริ่มต้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร มีเฟอร์นิเจอร์ให้ ไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์ จ่ายในระบบของค่าเช่าเดือนละ 4,000 บาท ผ่อนได้ยาว 30 ปี มีสิทธิ์อยู่ถึง 99 ปี

เช่นเดียวกับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะเกิดขึ้นในปี 68 แน่นอน และโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ 4 ล้านคน จะได้ในวันตรุษจีนปี 68 และเฟส 3 บุคคลทั่วไป จะให้ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อให้รัฐใกล้ชิดประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยจะสำเร็จในปี 68

 “วันนี้ทีมรัฐมนตรีและทีมข้าราชการเราคือทีมเดียวกัน เราทุกคนต่างมีหัวใจเดียวกัน คือหัวใจที่รักประเทศไทยและประชาชนคนไทย เราจะมีการลดอำนาจรัฐลง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น ประชาชนคนไทยมี 66 ล้านคน ข้าราชการมีประมาณ 3 ล้านคน ขอเทียบกันจริงๆ เลขมันดูห่างกันมาก แต่ 3 ล้านกว่าคนคือกลไกที่สำคัญอย่างมาก ในการผลักดันประเทศ วางทางที่เข้มแข็งไว้ให้ลูกหลานเราในอนาคต อีก 10 ปี 20 ปี เราได้สร้างรากฐานมั่นคงให้กับประเทศไทยนี้ไว้" น.ส.แพทองธารกล่าว (รายละเอียดหน้า 2)

ต่อมา นายกฯ ถ่ายภาพร่วมกับรองนายกฯ คณะรัฐมนตรี และผู้บริหารส่วนราชการต่างๆ  ก่อนพบปะพูดคุยกับรัฐมนตรี ตามที่ได้แบ่งกลุ่มตามเขตตรวจราชการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายกฯ เดินทางกลับ ได้มีชาวบ้านประมาณ 4 คน มาถือป้ายเรียกร้องให้แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ซึ่งไปมาหลายหน่วยงานแล้วแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ โดยชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวได้พยายามตะโกนเสียงดังและเรียกร้องให้นายกฯ มาพูดคุย โดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนมาเจรจาและรับเรื่อง

ขณะที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมเดินหน้านโยบายที่นายกฯ ได้แถลง โดยเฉพาะการเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย  เพื่อลดภาระค่าครองชีพและค่าเดินทางในทุกสี ทุกเส้นทางในปี 2568 ซึ่งปัจจุบันดำเนินการสำเร็จแล้วในรถไฟฟ้า 2 สาย คือ โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงสายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์-ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

นอกจากนี้ ได้ให้ รฟท.ดำเนินโครงการบ้านเพื่อคนไทย ด้วยการให้พัฒนาที่อยู่อาศัยของที่ดิน รฟท. สามารถผ่อนได้นานถึง 30 ปี อยู่อาศัยได้ 99 ปี โดยมีรูปแบบคอนโดมิเนียม พื้นที่ 30 ตารางเมตร (ตร.ม.) พร้อมเฟอร์นิเจอร์ คาดว่าจะได้เห็นรูปแบบตัวอย่างบ้านภายในปี 2568 ซึ่งจะทำให้คนไทยที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน สามารถมีบ้านที่มีคุณภาพสูงด้วยราคาประหยัด มีสาธารณูปโภคและการรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน

'ปชน.' ชี้ 3 เดือนรบ.อิ๊งค์สอบตก

ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงผลงานรัฐบาลของนายกฯ

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า รัฐบาลมีการจัดงานแถลงผลงาน 90 วันขึ้นมา ทำให้ประชาชนคาดหวังว่านี่จะเป็นการพูดเรื่องผลงานของรัฐบาล แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับมีปัญหาใน 2 เรื่อง  1.ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลไม่ได้เพิ่งมาเพียงแค่ 90 วัน แต่รัฐบาลนี้ได้ดำเนินการบริหารราชการมารวมแล้ว 1 ปี 4 เดือน แต่การจะบอกว่ามาแถลงผลงานแค่ 90 วัน ตนคิดว่าอาจจะเป็นผลงานเฉพาะของนายกฯ คนใหม่หรือไม่ เพราะทั้ง ครม.มีหน้าเดิมเกินครึ่ง ดังนั้นจึงควรสรุปผลงานที่ทำมาได้เกือบครึ่งทางของรัฐบาล ไม่ใช่กรอบ 90 วันของอายุรัฐบาลแพทองธาร

ในส่วนที่ 2 แม้จะใช้ชื่อว่าเป็นการแถลงผลงาน แต่สิ่งที่เราได้ยินจากนายกฯ คือการมาฝากงานให้กับรองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างๆ ไปศึกษา โดยมีการผู้ฝากงานรวม 11 ครั้ง และไม่ได้ทำการสรุปผลงานที่ผ่านมาเลยว่าได้ทำอะไรไปบ้าง หรือทำอะไรสำเร็จไปแล้ว ได้ทำนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนหรือไม่ มีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นอย่างไร ต้องยอมรับว่า รัฐบาลนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีผลงาน แต่กลับไม่มีการออกมาพูดแถลงเรื่องผลงานจริงจัง มีเพียงบางตัวที่อาจจะเป็นผลงานได้

"สิ่งที่นายกฯ พูดวันนี้คือการพูดโดยที่ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนัก ลักษณะเป็นการแถลงนโยบายภาคสอง แค่เป็นการพูดลงรายละเอียดเพิ่มขึ้นจากตอนแถลงนโยบายเมื่อ 3 เดือนก่อนนิดเดียว พูดแค่หัวข้อ โดยที่ไม่ได้ลงรายละเอียด และเรียกได้ว่าอาจจะยังคิดไม่ครบทั้งระบบ ซึ่งปัญหาที่เราทราบใหญ่เท่าภูเขา แต่วิธีการแก้เล็กเท่าขนนก เรายังเห็นว่ามีหลายเรื่องที่เราเห็นด้วย และพร้อมสนับสนุน ทั้งการทลายทุนผูกขาด การปรับโครงสร้างหนี้ บ้านเพื่อคนไทย หรือการลดค่าไฟ แต่ปัญหาอยู่ที่ไม่ได้มีการลงรายละเอียดอะไรมากมาย" น.ส.ศิริกัญญากล่าว

สส.พรรค ปชน.รายนี้ระบุว่า โครงการซอฟต์พาวเวอร์ นายกฯ พูดแตะนิดหน่อยว่าจะทำต่อ แต่ต้องขอทวงถามว่าโครงการที่ผ่านมาแล้วตั้งแต่สมัยที่นั่งเป็นประธานอยู่นั้น ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร แม้กระทั่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็มีการบอกแค่ว่าปีหน้าแจกแน่ แต่ไม่ได้บอกว่าแจกเมื่อไหร่ รวมถึงเงินที่จะแจกผู้สูงอายุปีหน้าก็ยังไม่มีการนำเข้าที่ประชุม ครม. หลังจากที่ถอนเรื่องไป

ขณะที่นายณัฐพงษ์กล่าวว่า การแถลงผลงานครั้งนี้ เป็นการแถลงฝากงานที่นายกรัฐมนตรีพูดไม่ครบ คิดไม่จบ สิ่งที่เราอยากเรียกร้องคือการทำหน้าที่ของรัฐบาล ข้อแรกคืออยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น การมาตอบกระทู้ถามของท่านนายกรัฐมนตรีในสภา ในรายละเอียดของนโยบายหลายๆ ข้อ ในวันนี้ที่ตนมาให้ความเห็น เพราะตนเชื่อว่าจะได้รับรายละเอียดมากกว่านี้ หากนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาตอบในสภาด้วยตัวเอง

ถามว่า ให้คะแนนการแถลงผลงานของนายกฯ วันนี้เท่าไหร่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คงไม่ได้ให้เกรด แต่ไม่ผ่านเกณฑ์ที่พี่น้องประชาชนให้ ก็คือผิดความคาดหวัง รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ทำงานมาแล้วเกือบครึ่งเทอม หากมองจากกรอบการทำงาน 1 ปี 4 เดือน ตนเชื่อว่าเป็นการทำงานที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์

ส่วนนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์ถึงการแถลงผลงานของนายกฯ ในเรื่องต่างๆ โดยตอนหนึ่งระบุว่า ไม่ใช่แถลงผลงาน 90 วัน ไม่ใช่มอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ แต่เป็นขายฝันให้ประชาชนรอคอยอีกรอบเท่านั้น หนึ่งชั่วโมงของแพทองธาร ชินวัตร ที่โปรยไว้ว่าจะเป็นการแถลงผลงาน และมอบนโยบายให้หัวหน้าส่วนราชการ จึงไม่ตรงปกอย่างยิ่ง

"บุคลิกในช่วงต้นที่แฝงความไม่มั่นใจ สายตาต้องเหลือบดูบทในจอมอนิเตอร์ข้างหน้าอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ยิ่งนึกถึง นศ.ป.โท ที่ต้องมานำเสนองานวิจัยที่ตนไม่เชี่ยวชาญหรือไม่รู้จริง ครึ่งหลังดูผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อกล่าวถึงฝันในปี 2568 ว่าจะเกิดอะไรกับคนไทย แต่สาระยังดูจูงใจ และสร้างความเชื่อมั่นไม่ได้" นายสมชัยระบุ

เดือดซัด 'นายกฯ' เบี้ยวสภา

ที่รัฐสภา เวลา 10.35 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม  นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ สอบถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่นายกฯ ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาตอบแทน แต่ รมว.เกษตรฯ ก็ติดภารกิจเช่นกัน จึงต้องเลื่อนการตอบกระทู้ถามสดออกไป ทำให้นายณัฐชาไม่พอใจ กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันเสียงดังว่า เรื่องปลาหมอคางดำคาบเกี่ยวหลายกระทรวง แต่ไม่มีความคืบหน้า ต้องถามนายกฯ จะเอาอย่างไรกันแน่

"จะต้องเป็นคนประเภทไหนที่บอกวันทำงานวันแรกไม่เหมาะกับการทำงาน ความเดือดร้อนประชาชนรออยู่ ก็แค่มาตอบ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ไม่มาตอบ ไปจัดคิวเรื่องอื่นให้ชนกัน แล้วบอกไม่ว่าง อย่าบอกเตรียมการล่วงหน้านานแล้ว แต่เราสื่อสารถึงรัฐบาลแล้ววันแรกการประชุมจะถามเรื่องใด แบบนี้จะบริหารได้อย่างไร" นายณัฐชากล่าว

ทั้งนี้ นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ประท้วงทันทีด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเช่นกันว่า อย่าใส่อารมณ์ตั้งคำถาม การพูดว่าคนประเภทไหนถือว่าไม่เหมาะสม จะมาด่านายกฯ ลอยๆ แบบนี้ไม่ได้ ทำให้นายภราดรที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมปิดไมค์ไม่ให้พูดต่อ เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย และขอให้นายณัฐชาใจเย็นๆ ใช้คำสุภาพ ก่อนที่จะให้นายณัฐชาพูดต่อไป

ต่อมา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า แปลกใจทำไมถึงกำหนดวันแถลงผลงานรัฐบาลตรงกับวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภา ทราบอยู่แล้วทุกวันพฤหัสบดีจะมีการตอบคำถามกระทู้ด้วยวาจา อีกทั้งการเปิดประชุมสภาวันที่ 12 ธ.ค.2567 ได้กำหนดตั้งแต่เดือน ก.ค.2566 มีเวลาปีกว่าที่ทุกคนรู้อยู่ว่าจะเปิดประชุม จึงต้องตั้งคำถามว่า เหตุใดจงใจกำหนดวันแถลงนโยบายรัฐบาลเป็นวันนี้  การมอบหมายรัฐมนตรีคนอื่นมาตอบแทน ก็ทราบว่ามีรัฐมนตรีหลายคนไปร่วมงานแถลงนโยบายเช่นกัน สรุปว่าจงใจหนีตอบกระทู้เกือบทั้ง ครม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นโยบายที่“อิ๊งค์”ไม่กล้าพูด เรื่องสำคัญกว่าผลงาน90วัน

บรรดากองเชียร์รัฐบาลเพื่อไทยอาจจะชื่นชม หลัง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เล่นใหญ่ เปิดสตูดิโอ 4 ของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ยืนเดี่ยวไมโครโฟน