รบ.อิ๊งค์ไม่มีปฏิวัติ! ทักษิณชิ่งสั่งยึดกองทัพ เหน็บอนุทินชิงหล่อเกิน

"ทักษิณ" โบ้ยไม่รู้ "หัวเขียง" ชงแก้ร่าง กม.จัดระเบียบกลาโหม บอกได้ยินยังตกใจ  เหน็บ "ภูมิใจไทย" รีบหล่อเร็วไปนิด ยันไม่ต้องโทร.เคลียร์ใจ มั่นใจไม่มีรัฐประหารแล้ว "อิ๊งค์"  ยิ้มถูกถามจะเป็นนายกฯ คนแรกของตระกูลชินวัตรที่ไม่ถูกรัฐประหารอีก ย้ำจุดยืนรัฐบาลไม่มีเจตนาแทรกแซงกองทัพ "ภูมิธรรม" ปัดตอบร่างกลาโหมคงอำนาจนายกฯ สกัดรัฐประหารไว้หรือไม่ ขอฟังข้อสังเกตทุกฝ่าย "ประยุทธ์" ชี้ถอนร่างฯ ไปแก้ไข 10 จุด ก่อนเสนอใหม่ "ปชน." เย้ย  "พท." ไม่ต้านรัฐประหารแล้วหาเสียงไว้ทำไม

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม  (ฉบับที่...) พ.ศ..... ว่า พรรค พท.จะคุยกันวันที่ 12 ธ.ค. ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของบางคน โดยไม่ผ่านการกลั่นกรอง แต่ถ้าผ่านแล้วต้องรู้ว่าอะไรควร-ไม่ควร แต่การที่มีคนบอกว่านายใหญ่สั่งมา  ตนไม่รู้เรื่อง ได้ยินยังตกใจ จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย แก้แค่ระเบียบก็พอ จะทำงานให้คล่องตัวมากขึ้น

"น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ตกใจ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เข้ากระบวนการของพรรคเพื่อไทย" นายทักษิณกล่าว 

ถามว่า พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกตัวไม่สนับสนุนการแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าว นายทักษิณกล่าวว่า พรรค ภท.อาจจะพูดเร็วไปหน่อย ยังไม่ได้ถามว่าเป็นมติของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ภูมิใจไทยรีบหล่อเร็วไปนิด ขอให้หล่อช้าๆ หน่อย ยืนยันไม่ต้องมีอะไรต้องอธิบาย เพราะพรรคร่วมรัฐบาลต้องฝึกการทำงานร่วมกัน

"ไม่จำเป็นต้องโทร.ไปหาคนหล่อ แค่คนที่หล่อเร็วขอให้หล่อช้านิดนึง" นายทักษิณกล่าว     

ซักว่าการแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับนี้จะป้องกันรัฐประหารได้หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า มันไม่เกี่ยวเลย ตนยังไม่เห็นเนื้อเลยด้วยซ้ำ เขาไปยกร่างแล้วเขาก็ออกมาพูดโดยพรรคยังไม่รู้ มันต้องเข้าสู่กระบวนการของพรรคก่อน

เมื่อถามว่า วันสัมมนาพรรค พท.จะคุยพูดเรื่องนี้หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า วันที่ 13 ธ.ค. จะไปบรรยายให้พรรค พท.ฟัง เรื่องสถานการณ์โลกและสถานการณ์การเมืองประเทศไทย ตนเองในฐานะผู้เก่าแก่ในวงการการเมืองไทย คงจะสอนน้องว่าอะไรควร-ไม่ควร

"รับรองรัฐประหารไม่มีแล้ว เพราะมีวิธีการเปลี่ยนรัฐบาลหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐประหาร รัฐประหารแล้วมันช้ำ 9-10 ปีที่ผ่านมา ช้ำมาก ช้ำหนักมาก ประเทศช้ำ และทำให้การแก้ปัญหาต่างๆ มันยากขึ้น" นายทักษิณระบุ

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายประยุทธ์จะขอพรรคถอนร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหมว่า  เรื่องนี้มีความคิดเห็นต่างกันอยู่แล้ว ก็ต้องรับฟังทุกฝ่าย ในรัฐธรรมนูญจริงๆ ก็มีเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เราต้องแสดงจุดยืนนิดหนึ่งว่าจุดยืนในวันนี้ พ.ศ.นี้ เราต้องคุยกันว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาแทรกแซงงานของกองทัพ อันนี้คือเรื่องหนึ่งก่อน แต่ว่าอะไรที่ทำแล้วเกิดประโยชน์กับประเทศก็ต้องร่วมมือกันคิด ร่วมมือกันทำ นั่นคือสิ่งที่ในวันนี้ ในปีนี้  ในรัฐบาลนี้ ต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน

ถามว่า การออกกฎหมายป้องกันปฏิวัติเท่ากับสุมเชื้อไฟให้เกิดขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่มีความตั้งใจเช่นนั้นเลย เพราะความจริงเท่าที่พูดคุยกับกองทัพทั้งหมดก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย และ รมว.กลาโหมอยู่ตรงนี้ ก็คิดว่าการทำงานของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมเอง เวลาทำอะไรก็รวบรวมความคิดเห็นอยู่แล้ว ไม่มีการทำอะไรโดยไม่ปรึกษากัน เราเน้นว่าทำอย่างไรให้ประเทศเราสงบสุข ประชาชนอยู่ได้อย่างมีความสุข ไม่ใช่หาทุกมุมมองเพื่อหาความขัดแย้ง อันนั้นก็จะไม่เกิดประโยชน์กับใครเลย

ปัดถอนร่างฯ ไม่เกี่ยวยอม ภท.

ถามอีกว่า น.ส.แพทองธารจะเป็นนายกฯ คนแรกในตระกูลชินวัตรที่จะไม่ถูกรัฐประหารใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารยิ้มก่อนกล่าวย้อนคำถามผู้สื่อข่าวว่า "เมื่อกี้นักข่าวถามว่านายกฯ อุ๊งอิ๊งจะเป็นคนแรกในตระกูลชินวัตรหรือเปล่าที่ไม่ถูกปฏิวัติ  ทวนคำถามให้เผื่อไม่ได้ยิน ก็ไม่ทราบค่ะ อันนี้สื่อช่วยตอบด้วยแล้วกัน แต่คิดว่าจริงๆ ในตอนนี้ทางออกของประเทศคือการช่วยกันทำให้เศรษฐกิจดี ให้ประชาชนมีกินมีใช้ ถูกไหมคะ อันนี้คือสิ่งที่รัฐบาลเน้นย้ำในการประชุม ทุกอย่างเป็นเรื่องของเศรษฐกิจแทบจะ 100% เพราะฉะนั้นอันนี้แหละมันไม่มีเวลาของความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นของระดับประชาชน ข้าราชการ รัฐมนตรี มันไม่ควรจะเกิดความขัดแย้ง เพราะมันจะหยุดประเทศไว้ไปต่อไม่ได้"

"ในวันนี้ที่ตัวดิฉันอยู่ตรงนี้ ก็พยายามทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เรามีรัฐมนตรีและทีมงานเก่งๆ อีกมากมายที่จะช่วยกันผลักดันประเทศไปข้างหน้า ก็ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายรักษาความสงบเอาไว้เพื่อให้ประเทศไปต่อ ทุกคนอยากมาลงทุน เรายังแก้ปัญหาจากโควิดไม่หมดเลย เพราะฉะนั้นเรื่องความขัดแย้งบางเรื่องต้องมองข้ามไป เพื่อประเทศและประโยชน์ของประชาชน" น.ส.แพทองธารกล่าว

เมื่อถามว่า การที่ สส.เพื่อไทยถอยแบบนี้ เป็นเพราะไม่อยากสุมเชื้อไฟหลังกระแสสังคมตีกลับหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มันเป็นสิทธิ์ของ สส.ในการยื่นกฎหมาย แต่ไม่ใช่มติของพรรค

ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสตีกลับการถอนร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เพราะพรรค พท.ยอมพรรค ภท.หรือไม่ ว่าร่างที่ถอนออกไปเป็นร่างส่วนตัวของนายประยุทธ์ที่ถอนไปปรับ ต้องดูว่าจะปรับอย่างไร จึงไม่เกี่ยวกับพรรค พท. และเรื่องนี้ไม่ได้เข้าที่ประชุม สส. รวมถึงที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค แต่ถือเป็นเรื่องที่ดีที่นายประยุทธ์รับฟังเสียงแล้วนำไปปรับแก้

ถามว่า ล่าสุดได้เห็นร่างของกระทรวงกลาโหมเรื่องเค้าโครงการให้อำนาจนายกฯ สกัดการปฏิวัติโดยให้อำนาจ รมว.กลาโหมพิจารณาว่าจะเอาหรือไม่เอาหรือยัง นายภูมิธรรมกล่าวว่า   เห็นร่างแล้ว แต่เป็นร่างที่นายสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม ได้เสนอไว้ในช่วงที่ผ่านมา

"ผมได้ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งเป็นคณะความมั่นคงและกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมาย ก็มีความเห็นจากหลายส่วนอยากให้ปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม ซึ่ง รมช.กลาโหมก็ได้รับเรื่องกลับไปทบทวน ผมก็ได้บอกว่าให้นำกลับเข้ามาเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ประกบร่างกับของฝ่ายค้านที่ได้ยื่นไว้แล้ว ทุกอย่างให้รอความเหมาะสม" นายภูมิธรรมกล่าว

ซักว่าส่วนตัวเห็นด้วยหรือไม่กับการให้อำนาจนายกฯ สกัดการรัฐประหาร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขอเอาข้อสังเกตของทุกฝ่ายไปดูเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดดีกว่า

เมื่อถามว่า การป้องกันรัฐประหารใช้แค่กฎหมายเพียงพอหรือไม่ หรือต้องพัฒนาวัฒนธรรมการเมืองของไทย นายภูมิธรรมกล่าวว่า ที่จริงกฎหมายการป้องกันรัฐประหารมีอยู่แล้วมากกว่ากฎหมายสภากลาโหมอีก เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ได้บอกไปแล้วว่าการทำรัฐประหารเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และเป็นกบฏ แต่ในความเหมาะสมและความเป็นจริงควรเป็นเรื่องที่ให้ทุกฝ่ายเห็นว่าอะไรเป็นสิ่งที่จะช่วยระงับการรัฐประหาร เช่น การสร้างวัฒนธรรมในการยอมรับระบอบประชาธิปไตย

"ส่วนตัวก็เห็นว่าประชาธิปไตยไทยก็พัฒนามาอย่างต่อเนื่องแล้ว ทุกส่วนจึงน่าจะใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยในการพูดคุยกัน และบรรยากาศขณะนี้ทุกฝ่ายคุยกันได้หมดไม่มีปัญหาอะไร กับพรรคร่วมก็ไม่มีปัญหา คิดว่าเรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องที่มีการตัดสินใจอะไร และยังไม่ใช่เรื่องที่มีความขัดแย้งจนเป็นปัญหา เพียงแต่เป็นความเห็น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค้างคาในสังคมมานานแล้ว" นายภูมิธรรมกล่าว

'หัวเขียง' แก้ 10 จุดเสนอใหม่

  ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ  และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า มั่นใจพรรค พท.จะไม่โดนรัฐประหารเป็นครั้งที่ 3  เพราะถ้าวันนี้ทุกฝ่ายเข้าใจสังคมโลกเปลี่ยนไปหมดแล้ว เรื่องการปฏิวัติรัฐประหารไม่ควรเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม

"วันนี้ประเทศบอบช้ำมามากจากหลายๆ  เรื่อง เพราะฉะนั้นถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก ก็อยากให้ทุกฝ่ายตระหนักและใช้สติในการทำเรื่องต่างๆ" นายประเสริฐกล่าว

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า สมาชิกหลายท่านก็มีความเห็นว่าอาจจะให้ท่านถอนมาปรับปรุง มีหลายข้อ ก็ปรับปรุงบางข้อ เป็นเรื่องปกติในการเสนอกฎหมาย ไม่ได้มีปัญหาอะไร  เสนอเข้าไปมีคนติงเยอะก็จะมีปัญหาในทางปฏิบัติ หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือถอยออกมานิดหนึ่งก็ไม่เป็นไร

ถามว่า การถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ได้เป็นเพราะพรรคร่วมรัฐบาลขย่มพรรค พท.ใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า พรรคการเมืองจะให้พูดเป็นเสียงเดียวกันทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ ในระบอบประชาธิปไตยเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่ในพรรค พท.เอง บางทีที่ประชุมเราพูดก็มีคนเห็นต่าง แต่ที่สุดท้ายมติพรรคเป็นอย่างไรเราก็เอาแบบนั้น อาจจะมีบางท่านไม่สบายใจ ก็ไม่เป็นไร  เราจะไปบังคับให้พรรคอื่นเห็นด้วยทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ ก็มีบางอย่างที่เห็นตรงกัน แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง เราพร้อมที่จะทำ

ซักว่ามีบางคนไปขุดเรื่องการหาเสียงของพรรค พท. ที่เคยรณรงค์ต่อต้านรัฐประหาร นายวิสุทธิ์ย้อนทันทีว่า พรรคการเมืองไหนก็ต่อต้านรัฐประหาร ไม่มีใครเอาด้วย ไม่มีใครอยากให้มีรัฐประหาร วันนี้ก็เป็นนโยบายของนักการเมืองทั้งหลาย บ้านเมืองมันไปไกลแล้ว เราจะกลับมาอยู่แบบ 20 ปีก่อนก็คงไม่ใช่ และใครก็อย่าสร้างปัญหาให้ประเทศชาติ เกิดชุมนุมทางการเมืองใหญ่โต สร้างความเดือดร้อนบาดเจ็บล้มตาย ไม่อย่างนั้นทหารก็คงต้องออกมา

ด้านนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยืนยันอีกครั้งว่า ในวันที่ 12 ธ.ค. ตนจะแจ้งเรื่องต่อที่ประชุมพรรค พท. เพื่อขอถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่เสนอไปยังสภาผู้แทนราษฎร กลับมาปรับปรุงแก้ไขใหม่ ซึ่งการถอนร่างครั้งนี้เพื่อป้องกันความสับสนของสมาชิกพรรค ยืนยันได้ไม่มีผู้ใหญ่ บ้านใหญ่ ไม่มีหนู ไม่มีราชสีห์มาขอร้องหรือบีบบังคับ ไม่มีใครมาขอได้

"ขณะนี้สภายังไม่ได้บรรจุเป็นวาระ จึงสามารถถอนมาปรับปรุงแก้ไขได้ เบื้องต้นคงแก้ประมาณ 10 กว่าจุด ทั้งในส่วนการปรับถ้อยคำ และการปรับปรุงเนื้อหาที่จะต้องรอฟังความเห็นประชาชนตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญต่อร่างกฎหมายดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อนในวันที่ 1 ม.ค.2568 แต่จะแก้ไขส่วนใดบ้าง ก็ต้องรอดูความเห็นประชาชนตามมาตรา 77 ก่อน หากปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาเสร็จแล้ว จะเสนอกลับไปยังสภาอีกรอบ หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะเสนอเข้าไปใหม่ ร่างกฎหมายที่ผมเสนอเป็นบวกมากกว่าที่กองทัพจะได้รับผลกระทบ เป็นการปฏิรูป พัฒนากองทัพ ใครจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ไม่ว่ากัน” นายประยุทธ์กล่าว

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช. กล่าวว่า มติพรรค รทสช.มีจุดยืนชัดเจน ไม่เห็นด้วยที่จะให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงกระทรวงกลาโหม เพราะหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ทั้งทหารและตำรวจ ควรปราศจากการเมืองเข้าไปล้วงลูกทุกกระบวนการ ซึ่งเหตุผลที่จะแก้ไขเพื่อป้องกันรัฐประหารนั้น ตนมองว่าหากรัฐบาลหรือใครก็ตาม ทั้งทหาร ตำรวจ กระทำความผิด ก็ไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้ การแก้กฎหมายจึงป้องกันการรัฐประหารไม่ได้ 

"การที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาพูดให้ประชาชนเกิดความสับสนเข้าใจผิด เชื่อมโยงไปถึงชนชั้นนำ เป็นการเบี่ยงประเด็นเพื่อโจมตีทุกฝ่ายให้เกิดความแตกแยก เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ขอพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อวาทกรรม" นายธนกรกล่าว

เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย  โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ยืนยันชัดเจนจะดำเนินการคัดค้านการแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะการแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการทหารชั้นนายพล

"พ.ร.บ.ฉบับเดิมดีอยู่แล้ว มีหน่วยงานสำคัญอีก 2 หน่วยงานคือ กรมราชองครักษ์ และหน่วยบัญชาการรักษาความปลอดภัยในพระองค์ ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานนี้อยู่ภายใต้การดูแลและเป็นพระราชอำนาจ การที่การเมืองเข้าไปแทรกแซงเป็นการมิสมควรอย่างยิ่ง" โฆษกพรรค พปชร.กล่าว

เย้ยถอยแล้วหาเสียงทำไม

อย่างไรก็ตาม นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะรักษาการประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ระบุร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบกองทัพโอกาสสำเร็จยากว่า หากไม่สามารถแก้ได้จริง แล้วพรรค พท.จะหาเสียงเรื่องนี้ไว้ทำไม รวมถึงที่บอกว่าสำเร็จยากนั้น นายณัฐวุฒิประเมินจากอะไร เพราะสภามี 500 คน ซึ่งพรรค พท.กับพรรค ปชน.ที่ยื่นร่างนี้ไปแล้วเสียงของทั้ง 2 พรรคก็ผ่านแน่นอน หรือที่ประเมินว่าผ่านได้ยากนั้น เพราะมีอำนาจอื่นๆ  หรือพรรคอื่นๆ คอยกดพรรค พท.อยู่ก็บอกมาตามตรง

ถามว่าหากพรรค พท.ถอนร่างดังกล่าว พรรค ปชน.จะแก้เกมอย่างไร นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า อย่างไรวาระนี้ก็ต้องเข้าสู่สภาอยู่แเล้ว  เพราะเป็นร่างที่ยื่นตั้งแต่พรรคก้าวไกล และจะถูกบรรจุเป็นเรื่องด่วนในสภาอยู่แล้ว ซึ่งในวันที่ 18 ธ.ค. หากไม่มีกฎหมายใดที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว หรือมีไม่มาก  เรื่องนี้ก็จะอยู่ในเรื่องด่วน และเป็นไปได้ว่าจะเข้าที่ประชุมสภาในสัปดาห์หน้า และเราก็โหวตรับหลักการอยู่แล้ว

 "ก่อนที่จะเข้าสภา เราก็คงต้องสื่อสารประเด็นที่เราอยากจะแก้ให้ทหารอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนอย่างชัดเจนมากขึ้น และการป้องกันการรัฐประหารอาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่สามารถไปแก้ที่จุดอื่นได้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปกองทัพตามที่หลายพรรคการเมืองได้หาเสียงไว้มากกว่า" นายปกรณ์วุฒิกล่าว

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ความคิดของนักการเมืองที่เชื่อว่ากฎหมายไม่สามารถป้องกันรัฐประหารได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า นักการเมืองไม่จำเป็นต้องตรากฎหมายเพื่อป้องกันรัฐประหาร ต่อให้พวกเขาไม่เชื่อ แต่การตรากฎหมายเช่นนี้ ก็ไม่เห็นเสียหายตรงไหน หรือทำให้นักการเมืองเสียประโยชน์อย่างไร หรือประเทศชาติเสียหายอย่างไร

"ณ วันนี้ เราไม่มีทางพิสูจน์หรอกว่ากฎหมายป้องกันรัฐประหารได้หรือไม่ เพราะเรายังไม่เคยมีกฎหมายเหล่านั้นแบบครบวงจรสมบูรณ์ แต่หากตรากฎหมายเหล่านี้ขึ้น อย่างน้อย วันไหนเกิดมีความพยายามก่อรัฐประหาร ก็จะได้พิสูจน์ และมีโอกาสใช้มาตรการทางกฎหมายต่อต้านป้องกัน" นายปิยบุตรระบุ

นอกจากนี้ นายปิยบุตรยังได้โพสต์ระบุว่า ให้ลองดูมั้ย ในหลายเรื่อง อาทิ เขียนใน รธน.ให้ข้าราชการทหารและพลเรือนมีหน้าที่ในการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้ไปร่วมรัฐประหาร หรือเขียนใน รธน. ห้ามมิให้ผู้พิพากษา ตุลาการ ทุกศาล รับรองรัฐประหาร หรือเขียนใน รธน. หากระบบปกติกลับมาเมื่อไร ให้ดำเนินคดีคนทำรัฐประหารโดยไม่มีอายุความ เป็นต้น

"ที่แน่ๆ ถ้านักการเมืองไม่ทำอะไร แล้วอ้างแต่เป็นไปไม่ได้ ไม่จำเป็น ไม่สำเร็จ นั่นแหละ ที่จะไม่มีวันสำเร็จแน่นอน" นายปิยบุตรระบุตอนท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง