พ่อนายกฯเคลียร์MOUสยบม็อบ

อิ๊งค์พร้อม! จัดชุดใหญ่แถลงผลงานรัฐบาล  ลั่นรอจังหวะไปตอบกระทู้ ขณะที่ลูกหาบโดดป้องนายกฯ ไม่ได้หนีสภา แจงยิบติดงานสำคัญ ไม่ติดภารกิจมาแน่ ขณะที่ฝ่ายค้านง้างมีดสับเก้อ หวังดัน "เท้ง" ขึ้นสับผู้นำโชว์ กังขาหนักชนงานแถลง แฉยับก่อนหน้าวิปรัฐบาลต่อสายมาถาม ด้าน "ทักษิณ" ตัดไฟม็อบสนธิ ทำเองตอบเองให้จบปม MOU 44 หยันลงถนนอย่างเดิมไม่จำเป็นต้องได้เหมือนเดิม โวลั่นคว้าเก้าอี้นายกฯ อบจ.อุบล พร้อมคืน สส.เพื่อไทยสร้างความสุขให้คนไทยหลังโดนขโมยไป 17 ปี “กกต.” จ่อรับรองผล อบจ. 5 จังหวัด

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าวถามถึงการสัมมนาของพรรคเพื่อไทย (พท.) ภายใต้กิจกรรม “โครงการเสริมศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง”ระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายกฯ จะเดินทางไปด้วย นายกฯ กล่าวว่า ใช่ค่ะ ลางานไป

น.ส.แพทองธารระบุถึงกรณี นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือคัดค้าน MOU 44 ว่า เห็นแล้ว เราได้ดูเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องให้มั่นใจนิดนึงเรื่องประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ อยากให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ กันนิดหนึ่ง มันไม่มีการบิดเบือนอะไรไปนอกจากนี้เลย

เมื่อถามว่า ที่นายกฯ เคยบอกว่าจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจะเป็นอย่างไร จะเป็นเวทีสาธารณะอย่างที่มีการเรียกร้องหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆ แล้วเรามีหน่วยงานรับฟังความคิดเห็นอยู่แล้วก็ผ่านมาได้ เหมือนอย่างที่นายสนธิมายื่นหนังสือก็ถือเป็นการรับฟังความคิดเห็นเช่นกัน ทุกอย่างที่เราได้มาเรารับพิจารณา เพราะเราทราบดีว่าทุกเรื่องที่ยื่นมามีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ได้จะเปิดเวทีสาธารณะหรืออะไร

เมื่อถามอีกว่า หากเป็นเช่นนั้นยืนยันจะเดินหน้า MOU 44 ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เรากำลังดูเรื่องรายละเอียดอยู่ว่ามีผลกระทบอะไรอย่างไรบ้าง อันนี้ไม่ได้คิดว่าจะเดินหน้าอะไร แต่กำลังพิจารณาในสิ่งที่มีการนำเสนอมาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามว่า การตั้งคณะกรรมการด้านเทคนิค หรือ JTC มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มีความคืบหน้า แต่ยังไม่เสร็จสิ้น  มีการตามเรื่องการตั้งคณะกรรมการ แต่ยังมีในเรื่องรายละเอียดที่อ่อนไหวพอสมควร ฉะนั้นจะตั้งหรือจะเคาะกรรมการ เราอยากให้การตั้งขึ้นมาไม่ติดขัดในเรื่องของอะไรเพิ่มเติม แต่เร่งอยู่ไม่ได้ปล่อยเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลถึงการจัดแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้ชื่อ "2568 โอกาสไทย ทำได้จริง" ของ น.ส.แพทองธาร ในวันที่ 12 ธ.ค. ที่นายกฯ เลือกจัดที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ โดยรูปแบบการจัดงานจะแตกต่างจากรัฐบาลอื่นๆ ที่จัดแถลงผลงานที่ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ เลือกจัดที่ห้องสตูดิโอ NBT ที่มีความพร้อมทั้งแสงสีเสียงแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งนายกฯ จะขึ้นพูดคนเดียวบนเวที ที่จัดเป็นสีแดง มีทางเดินตรงยาวไปกลางเวทีที่มีลักษณะกลม อยู่กลางห้อง มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีนั่งฟังรายล้อมรอบเวที และมีส่วนราชการนั่งอยู่ด้านหลัง มีจอแอลซีดีขนาดใหญ่โชว์กราฟฟิกผลงานรัฐบาล และนายกฯ จะเดินอธิบายผลงานต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นภาพ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และวันที่ 11 ธ.ค. เวลา 15.10 น. นายกฯ ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ ไปยัง NBT เพื่อซักซ้อมก่อนการแถลง

อิงค์รอจังหวะตอบ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเรียกร้องให้ไปตอบกระทู้ในสภาฯ  ว่า ตนเองมีแพลนที่จะไปตอบอยู่แล้ว จริงๆ อยากไป อย่างการทำงานของตนเองที่เป็นนายกฯ ก็กระจายหน้าที่ให้รองนายกฯ ช่วยกันทำ เพราะฉะนั้นการตอบกระทู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรองนายกฯ หรือ รมว.ในส่วนที่รับผิดชอบโดยตรง การไปตอบกระทู้น่าจะตรงและให้รายละเอียดในเชิงลึกได้มากกว่า แต่แน่นอนตนต้องเข้าไปอยู่แล้ว ไม่ได้ละเลยงานของสภาฯ อยู่แล้ว

เมื่อถามอีกว่า ต้องเป็นกระทู้ลักษณะอะไร นายกฯ ถึงจะไปตอบเอง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ต้องลองดูอนาคตว่ามีเรื่องอะไรที่ไปได้และเวลาที่เหมาะสม อย่างวันที่ 12 ธ.ค.ก็ไม่เหมาะสมในเรื่องของเวลา เพราะวันดังกล่าวเราวางแผนที่จะแถลงผลงานรัฐบาลมานานมากแล้ว มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่จะมาฟังจำนวนมาก

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงม็อบนายสนธิประเมินว่าจุดติดหรือไม่ว่า ตนเองไม่หมิ่นประมาทการจัดม็อบ ถือเป็นสิทธิ์ของประชาชน ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ขอเพียงอย่างเดียวคือทำให้เหมาะสม วันนี้ก็รับม็อบมาตลอดตั้งแต่ทำงาน รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ยังทำงานไม่ครบ 100 วัน ก็มากันเยอะแล้ว ก็เสนอได้ ก็รับฟัง ขออย่างเดียวต้องพูดให้ตรงกับข้อเท็จจริง และเป็นความเห็นต่างได้

เมื่อถามว่า หนึ่งในข้อเรียกร้องของนายสนธิ ขอให้ตั้งเวทีสาธารณะนั้น นายภูมิธรรมระบุว่า นายสนธิเป็นแค่หนึ่งเสียงในหนึ่งกลุ่มคนที่รู้สึก ซึ่งคิดว่ายังมีคนเห็นต่างแบบนี้อีกเยอะ การบริหารประเทศไม่ควรโฟกัสแค่คนคนเดียว หรือส่วนเดียว

ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ระบุว่า วันนี้ในการประชุมวิปรัฐบาลได้มีการเน้นย้ำวิปของทุกพรรคถึงเรื่ององค์ประชุมว่า เป็นเรื่องสำคัญและให้รักษาองค์ประชุมไว้ในวันพุธและวันพฤหัสบดี ในสัปดาห์ถัดไปอาจจะมีการประชุมเพิ่มวันศุกร์ด้วย จะเป็นการประชุมร่วมระหว่าง 2 สภา

เมื่อถามว่า การตั้งกระทู้ถามในวันที่ 12 ธ.ค. ฝ่ายค้านจะประเดิมถาม น.ส.แพทองธาร ทางรัฐบาลได้มีการเตรียมการไว้อย่างไร นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ตนเองขอชี้แจงกับประชาชนว่า การจะยื่นกระทู้ถามสดนั้นจะเกิดขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค.ในช่วงเช้า และจะพิจารณาส่งต่อให้นายกรัฐมนตรี โดยจะมีเวลาพิจารณา 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียมตัวมาตอบ ไม่ใช่ไปประกาศว่าวันที่ 12 ธ.ค. นายกรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ ไม่เป็นความจริง และไม่ใช่บอกแล้วจะมาได้ทันที อย่างที่ทราบอยู่แล้วว่าวันที่ 12 ธ.ค. นายกรัฐมนตรีจะมีการแถลงผลงานรัฐบาล แต่ย้ำว่ารัฐมนตรีคนอื่นที่ไม่ติดแถลงนั้นเราก็มีการขอความร่วมมือให้มาตอบกระทู้ ตามที่ฝ่ายค้านตั้งใจจะถาม

 “ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจ ไม่ใช่ไปพูดว่านายกฯ หนี ก็ยังไม่ได้ถามจะไปรู้หรือว่าถามใคร เรื่องราวที่จะถามก็ยังไม่รู้ ถ้าจะถามพรรคประชาธิปัตย์เขาก็พร้อม รัฐมนตรีพร้อมหมด แต่นายกฯ เขาก็นัดหมายมาเป็นเดือนแล้วว่าจะแถลงผลงาน ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์อย่างหนึ่ง” นายวิสุทธิ์กล่าว

เมื่อถามต่อว่า อาจจะมีการขอเลื่อนเวลาเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้เข้ามาตอบกระทู้ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ มีการกำหนดเวลาที่จะแถลงผลงานรัฐบาลแล้ว จะให้เลื่อนเป็น 15.00 น. แล้วมาสภาฯ ก่อน มันไม่ใช่ เอาไว้สัปดาห์ถัดไปก็มาถามได้ ไม่ต้องกังวล

เมื่อถามว่า ในสมัยนี้จะได้เห็นนายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ตนเองเชื่อว่าวันไหนที่ไม่ติดภารกิจท่านมาแน่นอน มั่นใจและคุยกันอยู่ตลอดว่าท่านตอบได้ในสภาฯ ไม่จำเป็นต้องหลบไปไหน แต่ต้องดูวันเวลาที่เหมาะสมด้วยถึงจะมาได้

ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ระบุว่า ฝ่ายค้านได้เตรียมกระทู้สดที่จะถามนายกฯ ไว้แล้ว โดยให้นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เป็นผู้ถาม เราทราบดีว่า ในวันที่ 12 ธ.ค. นายกฯ จะมีการแถลงผลงาน ซึ่งตรงกับวันเปิดสมัยประชุมพอดี หากนายกฯ เห็นความสำคัญของสภาฯ ที่มาจากประชาชน และเป็นสภาฯ ที่เสียงส่วนมากเลือกท่านมาเป็นนายกฯ​ ถ้าท่านเห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร

"มีเรื่องหนึ่งที่ผมแปลกใจเหมือนกันว่าเมื่อช่วงต้นเดือนมีวิป ครม.ได้ทักมาส่วนตัว ถามว่าจะมีกระทู้ถามนายกฯ หรือไม่ ผมก็แจ้งไปแล้วว่ามี แต่อยู่ๆ ก็จะแถลงผลงานในวันเดียวกัน ผมก็งงๆ เหมือนกันว่า แล้วถามทำไม" นายปกรณ์วุฒิกล่าว

ขโมยความสุข 17 ปี

ที่ จ.อุบลราชธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้ นายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี  ระบุช่วงหนึ่งว่า จังหวัดอุบลราชธานีเราเคยได้ สส.มาเกือบทั้งหมด แต่ครั้งนี้เหลือน้อยไปหน่อย จึงอยากจะขอพี่น้องชาวอุบลฯ เลือกนายกานต์ และขั้นต่อไปก็เอา สส.คืนให้กับพรรคเพื่อไทย และขั้นต่อไปพรรคเพื่อไทยจะได้เอานโยบายมาชุบชีวิตชาวอุบลฯ ให้มีความสุข

 “และวันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลก็จริงอยู่ แต่มี สส.น้อย มีโควตารัฐมนตรีน้อยไปหน่อย ทำให้ทำงานยากกว่าเดิม คราวหน้าผมมั่นใจว่าพี่น้องคงจะคืน สส.ให้พรรคเพื่อไทยเหมือนตอนพรรคไทยรักไทย เมื่อได้คืนมาแล้วเราจะช่วยกันทำงานให้กับพี่น้องได้อย่างเต็มที่ วันนี้ทำไปก็มีปัญหาอุปสรรคพอสมควร แต่ก็ไม่ยอมแพ้ และจะเดินหน้า” นายทักษิณระบุ 

นายทักษิณกล่าวต่อว่า วันที่ 12 ธ.ค. ขอให้ฟังนายกฯ อิ๊งค์พูดถึงผลงานและแนวทางที่จะทำข้างหน้า เป็นความตั้งใจที่นายกฯ อิ๊งค์อยากจะทำให้บ้านเมืองอีกเยอะ ก็หวังว่าชาวอุบลฯ เริ่มต้นจะเอานายก อบจ.ให้เพื่อไทย และเอา สส.คืนมาอีกรอบ แล้วเราจะคืนความสุข ความมั่งคั่งให้กับคนไทยทั้งประเทศ ระหว่างที่ตนไม่อยู่ 17 ปี พี่น้องถูกขโมยความสุข วันนี้ตนเองกลับมาแล้ว กลับมาอยู่กับพี่น้อง กลับมาถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท

นายทักษิณกล่าวอีกว่า วันที่ 13 ธ.ค. ตนเองจะไปบรรยายให้กับ สส.ในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย จะพูดเรื่องสถานการณ์โลกปัจจุบันว่าน่าเป็นห่วงหรือน่ากังวลอย่างไร รวมถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่ดูยุ่งๆ แต่ก็ไม่ยุ่งอะไรมาก ซึ่งตนเป็นคนแก่มากที่สุดคนหนึ่ง ที่อยู่วงการการเมืองไทยมานาน สร้างประวัติศาสตร์การเมืองก็เยอะ เจ็บปวดกับการเมืองมาเยอะ ประสบความสำเร็จเพราะพี่น้องประชาชนเมตตาก็เยอะ ฉะนั้นวันที่ 13 ธ.ค.ก็จะไปเล่าสู่กันฟัง

ทั้งนี้ นายทักษิณให้สัมภาษณ์กรณีนายสนธิประกาศจะลงถนนหากรัฐบาลเดินหน้าเรื่อง MOU 44 ว่า ไม่เป็นอะไร อธิบายกันได้ และวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ในฐานะที่ MOU 44 เกิดขึ้นในสมัยตนเอง ตนจะได้อธิบายให้ฟัง

"ไม่มีอะไรและที่จริงพูดกันรู้เรื่อง ต้องรับฟังซึ่งกันและกัน ระบบการเมืองตลอด 9 ปีที่ผ่านมา สื่อเองรวมไปถึงโซเชียลมีเดีย ยอมรับความเป็นรัฐบาลของทหาร พอวันนี้ทหารไปและทุกคนยอมรับว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยก็เลยซัดกันเต็มที่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ทุกฝ่ายพูดคุยกัน และหาข้อยุติร่วมกัน

เมื่อถามว่า คุยกับนายสนธิได้ใช่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า คุยทุกคนได้หมด คนไทยถ้าพูดภาษาไทยได้ก็คุยรู้เรื่องได้หมด แต่อย่าเอาเสือมาพูดกับตน เพราะกลัวมันกิน

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า กังวลหรือไม่กับการประกาศลงถนนของนายสนธิ นายทักษิณกล่าวว่า "การทำอย่างเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิมนะครับ"

รับรอง 5 นายก อบจ.

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เปิดเผยถึงแผนเตรียมการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น อบจ. ที่จะครบวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ โดยยืนยันที่จะจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 เนื่องจากเป็นกรอบเวลาตามกฎหมาย และมีความเหมาะสม จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งการเลือกครั้งนี้จะเป็นการเลือกนายก อบจ.จำนวน 47 จังหวัด เนื่องจากมีการเลือกไปแล้ว จากเหตุลาออกก่อนครบวาระ 29 จังหวัด   ส่วนการเลือกสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) จะเลือกพร้อมกันทั่วประเทศ 76 จังหวัด

จากจำนวน 29 จังหวัดที่นายก อบจ.ลาออกก่อนครบวาระ และมีการจัดเลือกตั้งไปแล้ว 25 จังหวัด ในจำนวนนี้มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว 20 จังหวัด อีก 5 จังหวัด กกต.จะพิจารณาประกาศรับรองในวันจันทร์ที่ 16 ธ.ค.นี้ คือจังหวัดอุดรธานี สุรินทร์ เพชรบุรี นครศรีธรรมราช กำแพงเพชร    

เลขาธิการ กกต.ระบุการเตรียมการเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง ซึ่งบัตรเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้มี 2 ใบ แต่ 29 จังหวัดที่มีการเลือกนายก อบจ.ไปแล้ว ในวันที่ 1 ก.พ.68 จะเลือกเพียง ส.อบจ. ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งก็จะได้รับบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว ส่วนอีก 47 จังหวัดจะรับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ สำหรับบัตรเลือกตั้งนายก อบจ.กับ ส.อบจ. โดยในแต่ละภูมิภาคสีบัตรเลือกตั้งจะแตกต่างกัน 1 ภูมิภาคจะมี 2 สีที่ต่างกัน ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้บัตรเลือกตั้งจะมี 8 สี

 นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รมว.แรงงาน ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย​ ดูแลพื้นที่ภาคใต้​ กล่าว​ว่า ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ส่งผู้สมัคร ส่วนสนามเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา เป็นเรื่องของอดีตผู้สมัคร สส.​ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย หากเขาจะลงเราก็ไม่มีสิทธิ์ห้าม เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้มีการพูดคุยกันบ้าง เนื่องจากเป็นเพื่อนกัน      

ด้าน ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ในวันที่ 21 ธ.ค. พรรคประชารัฐจะลงพื้นที่จังหวัดตราด เพื่อไปเยี่ยมพี่น้องประชาชนและรับฟังปัญหาเกี่ยวกับเอ็มโอยู 2544 ว่ามีผลกับประชาชนอย่างไร และมีความห่วงใยในที่ซับซ้อนนี้ เพราะพื้นที่ทะเลตราดต้องเป็นของคนตราด ไม่ใช่ของกัมพูชา.