ยุครมต.จามขรก.น้ำมูกไหล

ประธานวิปรัฐบาลเหน็บฝ่ายค้าน  จะซักฟอกก่อนหรืออภิปรายเรื่อง MOU 44 ก่อนเอาให้แน่ ท้าพร้อมตอบทุกเรื่อง “ธนกร” แนะรอรัฐบาลทำงานครบ 6 เดือน-1 ปีก่อนค่อยอภิปรายไม่ไว้วางใจ "นิพิฏฐ์" ชี้ยุครัฐมนตรีจาม  ข้าราชการน้ำมูกไหล คุกรอเพียบ!

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายรัฐบาลช่วงต้นปี 2568 ว่า ยังไม่ทราบว่าอภิปรายอะไรก่อนแน่ เพราะมีข่าวทั้งจะให้เปิดสภาพูดเรื่อง MOU 44 เขากระโดง หรืออะไรต่างๆ เขามีสิทธิ์จะทำ แต่ต้องมาเจรจากันกับวิปรัฐบาลว่าจะพูดอะไรอย่างไร ตอนแรกบอกจะพูดเรื่องเอ็มโอยู และอีกสองอาทิตย์เรื่องอภิปรายรัฐบาลอีก ไม่รู้จะอภิปรายอะไรก่อนกันแน่ ตอนนี้ยังไม่มีการเจรจาว่าจะพูดอะไรก่อนแน่  ทุกเรื่องรัฐบาลพร้อม ไม่มีอะไรเป็นข้อกังวล แต่ต้องทราบก่อนว่าจะขอเปิดอภิปรายอะไร หลังเปิดสภาวันที่ 12 ธ.ค. น่าจะได้เจอแล้วพูดกันอย่างเป็นทางการ ยืนยันเราพร้อมรับทุกเรื่อง รัฐบาลตอบได้หมด แต่การจะพูดอะไรไปถึงประเทศเพื่อนบ้านก็อยากให้ระมัดระวังสิ่งที่พูดว่าจะกระทบความสัมพันธ์หรือไม่ เรื่องอื่นไม่มีปัญหา รัฐบาลพร้อมตอบทุกเรื่อง ส่วนจะเร็วไปหรือไม่นั้น เราไม่ไปคิดแทนเขา เพราะรัฐบาลพร้อมตลอดเวลา ไม่มีอะไรน่ากังวล

ส่วนกรณีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เตรียมเรียกประชุมวิป 3 ฝ่ายหารือถึงการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 17 ฉบับนั้น ประธานวิปรัฐบาลเผยว่า วันที่ 9 ธ.ค.นี้ตนและนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะไปพบนายวันมูหะมัดนอร์ เพื่อขอเลื่อนการประชุมวิป 3 ฝ่าย มาเป็นวันที่ 12 ธ.ค. ที่เป็นวันเปิดสมัยประชุมสภาเลย เนื่องจากวันที่ 13 ธ.ค. พรรคเพื่อไทยมีกำหนดการสัมมนาพรรค ซึ่งกำหนดมาก่อนหน้านี้แล้ว  เพราะถึงอย่างไรวันที่ 12 ธ.ค. ทุกคนอยู่สภาอยู่แล้ว สำหรับแนวทางการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไรนั้น เห็นด้วยกับที่ประธานรัฐสภาให้ความเห็นว่าต้องเอาแต่ละเรื่องมาดูกันก่อนว่าจะพิจารณาเรื่องใดบ้าง เราไม่ขัดข้อง แต่ต้องดูรายละเอียดก่อนว่าเรื่องไหนพอเป็นไปได้ ไม่ใช่จะแก้แบบสุดโต่งก็จะทำไม่ได้ จึงขอดูรายละเอียดก่อน

นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล  อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ยกเลิก MOU 44 ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ว่านายสนธิคือคนที่ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาส จากการปลุกระดมชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ  จนนำไปสู่การยึดอำนาจ 2549 เศรษฐกิจถดถอย สังคมเกิดปัญหา พี่น้องประชาชนทราบดีว่าในอดีตนายสนธิได้ทำอะไรไว้ ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่อนาคต เศรษฐกิจกำลังเติบโต จนกลายเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของคนไทย การที่คุณสนธิกับพวกกลับมาปลุกระดมเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ จึงเป็นคำถามสำคัญว่ามีเป้าหมายอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่

"เรื่อง MOU 44 ที่คุณสนธิเรียกร้องให้ยกเลิกนั้น คุณสนธิทราบบ้างไหมว่าอาจเป็นการทำให้เข้าทางกัมพูชาในท้ายที่สุด เพราะทั้งกัมพูชาและไทยต่างอ้างสิทธิครอบครองพื้นที่ 200 ไมล์ทะเลเหมือนกัน ซึ่งการอ้างสิทธิของแต่ละประเทศจึงมีบางส่วนทับซ้อนซึ่งกันและกัน และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเกาะกูดเลย เพราะเกาะกูดเป็นของไทย 100% แต่เป็นเรื่องที่จงใจเอามาปลุกปั่นให้เข้าใจผิดเท่านั้น" นายวรชัยกล่าว

ขอครึ่งปีค่อยยื่นซักฟอก

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ถือเป็นสิทธิ์ที่ผู้นำฝ่ายค้านจะหารือพรรคร่วมฝ่ายค้านว่ามีประเด็นใดที่การทำงานของรัฐบาลไม่ชัดเจน สามารถสอบถามและเชิญให้รัฐบาลมาชี้แจงเหตุผล ข้อมูลข้อเท็จจริงได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลก็จะได้ชี้แจงประชาชนผ่านสภาว่าได้ทำงานอะไรไปแล้วบ้าง ส่วนจะเป็นการยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ หรือจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็สามารถทำได้ ตนมองว่าหากเป็นช่วงต้นปี 2568 รัฐบาลได้ทำงานมาประมาณ 5-6 เดือนแล้วก็ถือว่าเหมาะสม แต่ถ้าจะให้ดีกว่า มองว่ารัฐบาลทำงานผ่านไป 1 ปี นโยบายและโครงการต่างๆ ที่ได้แถลงต่อรัฐสภาไว้ ทั้งเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาหนี้สิน การลดภาระค่าครองชีพต่างๆ เชื่อว่าจะค่อนข้างเห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น ก็จะเหมาะสมกว่า

“เมื่อรัฐบาลทำงานได้ 6 เดือนถึง 1 ปี ก็เหมาะสมที่ฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายทั่วไป หรือจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เพื่อให้เวลารัฐบาลทำงานให้เห็นผลเป็นรูปธรรมก่อน เพื่อจะมีข้อมูล ข้อบกพร่อง หรือข้อสงสัยที่ฝ่ายค้านสามารถยื่นญัตติขอคำตอบจากนายกฯ และรัฐบาลให้ชี้แจงได้ แต่ขอให้ใช้เวทีสภาอย่างสร้างสรรค์ คุ้มค่า และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน ควรจะให้ความสำคัญกับการพิจารณาออกกฎหมายที่จะลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหารายได้ ช่วยเหลือเรื่องความเป็นอยู่ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนก่อน ไม่ควรใช้เวลาในการอภิปราย จ้องแต่โจมตีรัฐบาลหรือหวังจะใช้ช่วงชิงจังหวะเล่นเกมการเมืองเท่านั้น”  นายธนกรย้ำ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง ถึงยุค “รัฐมนตรีจาม ข้าราชการน้ำมูกไหล” ระบุว่า บรรยากาศประเทศตอนนี้คล้ายๆ กับบรรยากาศตอนคุณทักษิณมีอำนาจ ยุคนั้น มีการใช้อำนาจนอกระบบ และทำผิดกฎหมายเยอะ ทำให้ข้าราชการและคนปฏิบัติตามคำสั่งติดคุกกันเยอะ รวมทั้งมีการแทรกแซงองค์กรอิสระ จนองค์การอิสระตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง

เราเรียกยุคนั้นกันว่า “รัฐมนตรีจาม ปลัดกระทรวงน้ำมูกไหล” เพื่อเป็นการสนองตอบการจามของรัฐมนตรี มาถึงยุคนี้ บรรยากาศเริ่มเข้าไปแบบนั้นทุกที เช่น

1.คุณทักษิณถูกศาลจำคุก 8 ปี ไม่อยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของโลก

2.ป.ป.ช. ที่เป็นองค์กรอิสระ ยื้อเวชระเบียนจากโรงพยบาลตำรวจมาไม่ได้ แม้ ป.ป.ช.จะมีอำนาจล้นฟ้า คล้ายกับ ผอ.รพ.ตำรวจ มีอำนาจเหนือ ป.ป.ช.ทั้งคณะ

3.คุณยิ่งลักษณ์กำลังจะกลับมา ในขณะที่กรมราชทัณฑ์กำลังรับฟังความเห็นการคุมขังนอกเรือนจำ หมายถึงเธอ “อาจจะ” ได้รับสิทธิไม่ต้องนอนเรือนจำแม้แต่วันเดียวเหมือนพี่ชาย

4.การทยอยปล่อยตัวนักโทษคดีทุจริตจำนำข้าว จนเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงอดีตข้าราชการกรมการค้าต่างประเทศอยู่เพียงคนสองคน

5.ที่ดินรัฐที่เขากระโดงก็ยังยื้อกันอยู่ ทั้งที่มีคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วว่าเป็นที่ดินของการรถไฟฯ

6.การแบ่งผลประโยชน์ใต้ทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา คิดว่าเรื่องนี้ต้องจบก่อนรัฐบาลสิ้นอำนาจ

มีอีกหลายเรื่องที่บรรยากาศประเทศคล้ายๆ  กับเกือบ 20 ปีที่แล้วที่คุณทักษิณมีอำนาจ ข้าราชการเริ่มใช้อำนาจแข็งตัวตอบสนองการเมืองแบบ “รัฐราชการ” วันนี้ ลองให้รัฐมนตรีจามเบาๆ  เราอาจเห็นปลัดกระทรวง, อธิบดี, ผู้ว่าฯ, เอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำมูกเบาๆ ให้รัฐมนตรีได้เห็นเป็นสัญญาณการสนองนโยบาย

เห็นทีจะลำบาก

ขณะที่ นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิจารณ์นโยบายรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผ่านเฟซบุ๊กว่า ติดตามนโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ยังไม่เห็นมีอะไรที่จะทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืน เห็นมีแต่นโยบายแจกเงิน วางแผนขึ้นภาษี ถ้าเป็นอยู่เช่นนี้ เห็นทีจะลำบาก

ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า รักษาการประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยอมรับอนุฯ ไต่สวนป่วยทิพย์ชั้น 14 ทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้น สำนวนใบบัวปิดไม่มิดจึงปกปิดมติไต่สวนที่เสนอให้ดำเนินคดีการปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติ ตาม ม.157 กับนักการเมืองและข้าราชการระดับสูงหลายคนไม่ได้เช่นกัน

“นายไพศาล พืชมงคล เปิดโปงว่าคณะอนุฯ ไต่สวนได้ทำหน้าที่เสร็จแล้ว แต่ระดับนำขององค์กรปฏิเสธว่าไม่จริง กระทั่งรักษาการประธาน ป.ป.ช.ยอมรับเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างกลั่นกรองเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.สัปดาห์หน้า ดังนั้น เรื่องนี้แสดงว่าการจะปกปิดผลไต่สวนจึงทำยาก และการทำหน้าที่ถ่วงรั้งไว้ ยิ่งทำให้ประชาชนมึนงง แล้วประเทศนี้จะไม่เหลือองค์กรทำหน้าที่ด้วยความถูกต้องไว้เลย”

พร้อมทั้งกล่าวถึงกรณีประชาชนเกาหลีใต้ชุมนุมคัดค้านประธานาธิบดีประกาศกฎอัยการศึกว่า เป็นการสำแดงพลังของประชาชนที่ยกระดับแล้วกดดันให้การเมืองยกระดับตามไปด้วย  ซึ่งสะท้อนถึงการสร้างมาตรฐานประเทศให้มีความมั่นคงทางการเมืองมากยิ่งขึ้น จนเป็นหลักในการพัฒนาประเทศในขณะนี้

ส่วนไทย เมื่อมีการยึดอำนาจ นักการเมืองไทยเอาแต่หนีไปไกลจากคณะยึดอำนาจให้มากที่สุด ไม่มีความพยายามเข้าสภาเพื่อปกป้องประชาธิปไตยเหมือนเกาหลีใต้ อีกทั้งไม่ใส่ใจสิทธิเสียง เสรีภาพของประชาชน ดังนั้นอย่าฝันหวานว่านักการเมืองไทยจะเป็นอย่างเกาหลีใต้

นายจตุพรกล่าวอีกว่า เกาหลีใต้พัฒนาประเทศก้าวรุดไปไกลแทบทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และการกีฬา สิ่งสำคัญเริ่มจากสำนึกประชาชนพัฒนา จึงทำให้การเมืองพัฒนา แล้วเกิดยุติธรรมเป็นหลักของประเทศ ถึงขั้นเอาอดีตประธานาธิบดีที่หมกมุ่นอำนาจแล้วทุจริตต้องติดคุกถึง 2 คน แต่นายกฯ ไทยกลับหนีคดีทุจริตคอร์รัปชันถึง 2 คน พี่ชายกลับมาแล้ว โดยไม่ติดคุกสักวัน และส่วนน้องสาวกำลังจะกลับมาในสงกรานต์ปี 68 ส่วนประชาชนได้แต่เงียบสนิท

"คุณภาพของประชาชนจะเป็นเครื่องสะท้อนคุณภาพผู้ปกครอง เมื่อประชาชนมาตรฐานแกว่ง  ไม่คงเส้นคงวา จึงได้ผู้นำที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาปกครอง กฎหมายก็เอื้อมไปไม่ถึง หรือเอื้อมถึงก็จับขังคุกไม่ได้ ส่วนประชาชนได้แต่เอือมแบบเงียบสนิท".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม. แจกเค้กลูกหลานนักการเมืองเพื่อไทยล็อตใหญ่ นั่งข้าราชการการเมือง

นายคารม​ พลพร​กลาง​ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้ง ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยแต่งตั้งนายประสพ​ เรียงเงิน  อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง

นายกฯอิ๊งค์ ยืนยันจุดยืนรัฐบาล ไม่มีเจตนาแทรกแซงกองทัพ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ว่า เรื่องนี้มีความคิดเห็นต่างกันอยู่แล้วก็ต้องรับฟังทุก

'แพทองธาร' บอกชัด 12 ธ.ค. เวลาไม่เหมาะสมตอบกระทู้สภาฯ ติดแถลงผลงานรัฐบาล

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเรียกร้องให้ไปตอบกระทู้ในสภาฯ มีแผนจะไปตอบบ้างหรือไม่ ว่าตนมีแพลนที่จะไปตอบอยู่แล้ว จริงๆอยากไป

วิสุทธิ์พลิ้ว! ปมกฎหมายยึดอำนาจกองทัพ

'วิสุทธิ์' ลั่นพรรคไหนก็ไม่เอาด้วยทั้งนั้น 'รัฐประหาร' ยอมรับ ร่าง กม.'ประยุทธ์' จัดระเบียบกลาโหม หลายคนติงให้ถอนมาปรับปรุง ชี้บางพรรคยังไม่เห็นของ 'เพื่อไทย' เลยไม่สบายใจ แต่ต้องคุยกัน