นายกฯส่งตัวแทนลงใต้ เตือน7-11ธ.ค.ฝนถล่ม!

รัฐบาลเตือน 7-11 ธ.ค. ใต้ฝนหนัก “ประเสริฐ-ธีรรัตน์” ตัวแทนนายกฯ ลงยะลา เดินหน้าใช้ GIS ป้องกันน้ำท่วมในอนาคต ‘ปชป.’ ทวงจ่ายเยียวยา จี้ต้องช่วยเกษตรกรให้ครบทุกกลุ่ม อย่าให้ถูกมองเลือกปฏิบัติ

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากรายงานสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ตั้งแต่วันที่ 7-11 ธ.ค. ภาคใต้ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไปจะมีฝนตกหนักขึ้น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติจึงได้ออกประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม ต้องเฝ้าระวังบริเวณพื้นที่เสี่ยง จ.ชุมพร พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำ และเตรียมพร้อมอพยพหากมีการแจ้งเตือน

ส่วนที่ จ.ยะลา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดย น.ส.ธีรรัตน์กล่าวถึงแนวคิดการนำเทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) มาสร้างฐานข้อมูลพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและข้อมูลประชากรที่ได้รับผลกระทบว่า GIS ช่วยให้เราวิเคราะห์และวางแผนได้อย่างแม่นยำ ทั้งในด้านการระบุพื้นที่เสี่ยง การจัดการโครงสร้างพื้นฐาน และการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า เราต้องใช้โอกาสนี้พัฒนาระบบข้อมูล เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากน้ำท่วมในอนาคต ขณะที่นายกฯ ได้ฝากกำลังใจถึงพี่น้องชาวยะลาทุกคน

วันเดียวกัน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.สงขลาและพัทลุง เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์และช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย

นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ จะเป็นตัวกลางในการเปิดรับบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยารักษาโรค เพื่อส่งต่อแก่ผู้ประสบภัย โดยข้อมูลถึงวันที่ 6 ธ.ค. มีผู้บริจาคเงิน จำนวนทั้งสิ้น 934,888.39 บาท จาก 33 หน่วยงาน แบ่งเป็นภาครัฐ 20 หน่วยงาน และภาคเอกชน 13 หน่วยงาน ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งนำสิ่งของและปัจจัยส่งต่อไปยังผู้ประสบภัยทันที พร้อมบูรณาการสำรวจความเสียหายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเร่งฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมให้เกษตรกรทุกคนสามารถประกอบอาชีพได้อย่างเร่งด่วน

ด้าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่เทศบาลเมืองสะเดา อ.สะเดา และคลองหอยโข่ง จ.สงขลา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วม พร้อมกับกล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ประสบอุทกภัยจนปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เข้าไปช่วยเหลือและเร่งสำรวจความเสียหายแล้ว

นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพิ่มเติม โดยมีหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินให้กับกรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ให้ได้รับเงินเยียวยา ครัวเรือนละ 9,000 บาท และมีการตั้งเกณฑ์และเงื่อนไขการเยียวยาปศุสัตว์ที่ประสบอุทกภัยอีก 13 รายการนั้น ความช่วยเหลือเหล่านี้ยังไม่ครอบคลุมถึงเกษตรกรทุกกลุ่ม เพราะภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกยางพารา ปาล์ม และยังมีไม้ผล ไม้ยืนต้นอื่นๆ ด้วย ที่สำคัญ ภาคใต้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำหลายชนิด มีพื้นที่ทำประมงหลายแห่งได้รับความเสียหาย รวมถึงได้รับผลกระทบจากน้ำเสีย และอากาศ ทำให้กลุ่มประมงได้รับความเสียหาย

นายพิทักษ์เดชกล่าวว่า เมื่อเกิดภัยพิบัติและอุทกภัย จะทำให้พื้นที่ทำการเพาะปลูกมีพืชตายหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมได้อีก ขณะที่บ่อปลาและบ่อกุ้ง เมื่อถูกน้ำท่วมสูง สัตว์น้ำที่เพาะเลี้ยงไว้ก็หายวับไปกับตา ขณะที่รัฐยังไม่มีการดูแลเยียวยาในส่วนนี้ ดังนั้นตนขอให้รัฐบาลเร่งพิจารณาการจ่ายเงินเยียวยาให้ครบทุกกลุ่ม อย่าปล่อยให้ชาวบ้านตราหน้าว่าเลือกปฏิบัติ และรัฐบาลจำเป็นจะต้องหาทางช่วยเหลือเกษตรกรให้ครบทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 3 ลมหนาวระลอกใหม่ อุณหภูมิลดฮวบ 4-6 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 3 (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 12 - 16 ธันวาคม 2567)