พักโทษ3สส.ภท. ลุ้นอีก2สัปดาห์ ชี้ขาดป่วยทิพย์

"นายกฯ อิ๊งค์" โพสต์ภาพครอบครัวฉลองวันพ่อ มอบพวงมาลัย "ทักษิณ" บอกรักพ่อที่สุดในโลก "ประธาน ป.ป.ช." คาดอีก 2 สัปดาห์ คดีป่วยทิพย์ชั้น 14 เข้าที่ประชุมชุดใหญ่ “วัชระ”  ยินดีล่วงหน้า "3 สส.ภท." ได้พักโทษ พ้นคุก 8 ธ.ค. ฝากราชทัณฑ์ใช้มาตรฐานเดียวกับคนจน "นาที" แจ้งกรมคุมประพฤติพักบ้านสามี

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าได้โพสต์ข้อความผ่านไอจี  “ingshin21” พร้อมภาพประกอบ ซึ่งเป็นภาพบรรยากาศครอบครัวอบอุ่นและชื่นมื่น มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี นายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี น.ส.พินทองทา ลูกๆ  ของ น.ส.แพทองธาร และหลานๆ นำพวงมาลัยมอบให้นายทักษิณ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5  ธันวาคม 2567 โดยมีข้อความระบุว่า  "Happy Father's Day @ home ขอให้พ่อมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ รักพ่อที่สุดในโลกค่ะ"

ที่ท้องสนามหลวง นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รักษาการประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวฝ่ายตรวจสอบไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. ได้เสนอให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ป่วยทิพย์ชั้น 14 ว่า ตอนนี้เรื่องยังไม่เข้ามายังคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ เพราะอยู่ในชั้นตรวจสอบเบื้องต้น และเมื่อตรวจสอบแล้วจึงค่อยเสนอเข้ามาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะมีการนำเข้าที่ประชุมหรือไม่ เพราะมีกระแสอาจจะมีการสกัดวาระเข้าพิจารณา นายวิทยากล่าวว่า ไม่มี เป็นไปตามระบบราชการ สกัดไม่ได้

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีการเรียกบุคคลใดมาให้ปากคำหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ยังไม่มี คงต้องดูก่อนว่ารายงานการประชุมของคณะกรรมการไต่สวนชุดดังกล่าวตรวจสอบเบื้องต้นเป็นอย่างไร แล้วค่อยเข้าสู่กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ว่าจะมีการพิจารณาอย่างไรต่อ ส่วนจะไต่สวนหรือตรวจสอบบุคคลใดเพิ่มหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งไม่มีกรอบเวลา แต่เราพยายามทำให้เร็วที่สุด แค่ตอนนี้ยังไม่มีการเสนอเข้ามา ก็ยังไม่มีการพิจารณา

นายวิทยากล่าวด้วยว่า เท่าที่ทราบ ในชั้นรายงานเบื้องต้นทำเสร็จแล้ว ตอนนี้อยู่ในชั้นของคณะกลั่นกรอง ให้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งตอนนี้กำลังทำอยู่ คาดว่าเร็วๆ นี้จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้ แต่คงไม่ใช่สัปดาห์หน้า เพราะมีกรรมการหนึ่งคนต้องเดินทางไปต่างประเทศ จึงจะเป็นสัปดาห์ถัดไป

วันเดียวกัน นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 3 อดีต สส.พรรคภูมิใจไทย คือ นางนาที รัชกิจประการ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ, นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และนายภูมิศิษฏ์ คงมี อดีต สส.พัทลุง คนละ 9 เดือน ในคดีเสียบบัตรแทนกัน เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2567 นั้น ขณะนี้ทั้งสามถูกจำคุกครบ 1 ใน 3 แล้ว ได้ข่าวว่าจะได้รับการพักโทษ ซึ่งมีกำหนดจะออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ในวันอาทิตย์ที่ 8 ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ ขอแสดงความยินดีต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นายทุนพรรค และครอบครัวของอดีต สส.พัทลุง ไว้ ณ โอกาสนี้ เพราะเข้าใจหัวอกของนักการเมืองผู้อาสาเป็นผู้แทนของชาวบ้านด้วยกันเป็นอย่างดี แต่อยากจะขอให้กรมราชทัณฑ์ดูแลนักโทษทั่วไป คนยากคนจนทั่วประเทศด้วยมาตรฐานเดียวกันด้วย อย่าสร้างคุกไว้ขังแต่คนจนๆ หรือคนไม่มีเส้นไม่มีสายเท่านั้น  ให้เตรียมไว้จำคุกรัฐมนตรีหรืออธิบดีในอนาคตด้วย เพราะกรมราชทัณฑ์ในยุคของนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ เป็นอธิบดี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็น รมว.ยุติธรรม เละเทะ ไร้มาตรฐานที่สุด หากไม่เชื่อลองไปถามบรรดาผู้คุมเรือนจำทั่วประเทศดูได้เลย
มีรายงานจากกรมราชทัณฑ์ว่า หลังปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ทั้ง 3 คนต้องติดกำไลอีเอ็ม และจะต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติตามที่มีการแจ้งของผู้ดูแล สำหรับนางนาที ได้ประสานเจ้าหน้าที่คุมประพฤติกลับไปพักที่บ้านของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ซึ่งเป็นสามี โดยบ้านพักอยู่กรุงเทพฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปและข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “ทำไมนักโทษบางคน ออกจากคุกเร็ว !!!” ว่า หลังจากนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 48 ปี ในคดีโครงการจำนำข้าว และได้รับการพักโทษตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ทำให้สังคมหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง และเชื่อมโยงไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นักโทษหนีคดี จะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนสงกรานต์ด้วย

โดยหลายคนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจำคุกว่า ทำไมนักโทษบางคนบางคดี ถูกจำคุกได้ไม่นาน ก็ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักโทษคดีโครงการจำนำข้าว เป็นที่จับตาของสังคมเป็นอย่างมาก บางคนตั้งข้อสงสัยว่า ความเสียหายคดีจำนำข้าว รัฐบาลยังชดใช้หนี้โครงการจำนำข้าวยังไม่หมด แต่ผู้กระทำผิดได้รับการปล่อยตัวแล้ว

ซึ่งเรื่องนี้ควรจะแยกออกจากกันระหว่างคำพิพากษาของศาลกับโทษที่ได้รับการลดโทษตามพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ที่ระบุเงื่อนไขในท้ายพระราชกฤษฎีกา ว่ามีหลักเกณฑ์ในการลดโทษให้กับนักโทษอย่างไร กรมราชทัณฑ์จะนำไปคำนวณคิดวันลดโทษให้กับนักโทษทุกคน หากจะปรับปรุงเงื่อนไขและระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ถึงหลักเกณฑ์การลดโทษ ควรจะยกเครื่องทั้งหมด และใช้หลักการในมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่ลักลั่นตามยุคสมัยของรัฐมนตรีบางคน หรืออธิบดีกรมราชทัณฑ์บางคนเท่านั้น

"ผมคนหนึ่งได้รับการปฏิบัติมาแล้วตอนสมัยเป็นนักโทษ โดยปกติเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ นักโทษที่คดีถึงสิ้นสุดและเข้าสู่เรือนจำแล้ว จะได้รับสิทธิลดโทษทันที แต่ในปี 2565 ได้มีมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้นักโทษต้องรับโทษ 1 ใน 3 ของโทษก่อน ถึงจะได้รับสิทธิ์การลดโทษ และเช่นเดียวกับการพักโทษพิเศษ ที่มีการออกประกาศของกรมราชทัณฑ์ ประกาศใช้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2563 ลงนามโดยนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อใช้กับนักโทษบางคนเป็นกรณีพิเศษ เมื่อบังคับใช้เสร็จ ได้ยกเลิกประกาศดังกล่าวไป โดยอ้างเหตุผลว่า ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ต่ออีกแล้ว แสดงให้เห็นว่าเป็นการออกมาเพื่อคนบางคนบางกลุ่มเท่านั้น ไม่มีมาตรฐานในการออกประกาศเลย ถ้าหากประกาศฉบับใดมีปัญหา หรือมีจุดอ่อนในบางจุด ควรปรับปรุงแก้ไขและประกาศใช้ต่อไปไม่ใช่ยกเลิก" นายเทพไทระบุ

เพราะฉะนั้นการที่นักโทษได้รับการลดโทษมากน้อยเพียงใด หรือได้รับการปล่อยตัวเร็วขึ้นอย่างไร ขึ้นอยู่กับระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งอยากจะเรียกร้องให้มีการออกระเบียบเพื่อยึดถือปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่เป็นการออกระเบียบตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจในบางยุคบางสมัยเท่านั้น.