"ในหลวง" โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ผู้ประสบภัย นายกฯ ชูแม่สายโมเดลแก้น้ำท่วมใต้ฟื้นฟู 3 ระยะ จ่อดัน คกก.ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติเข้า ครม.รับมือสถานการณ์ครบวงจรไม่ใช่แค่เรื่องน้ำ สั่งประสานกรมบัญชีกลางเพิ่มงบทดรองจ่ายของ ผวจ.จาก 20 ล้านเป็น 50 ล้าน “จตุพร” สะกิดทีมที่ปรึกษาลูกสาวทักษิณพลิกตำราตอบสยบสื่อ กองทัพส่งเครื่องบินขนคน ยุทโธปกรณ์ อาหาร ช่วยเหลือพื้นที่ท่วมหนักชายแดนใต้ ยอมรับกว้างกว่าภาคเหนือ ขณะที่ "ยะลา-ปัตตานี" อ่วมขาดไฟฟ้า น้ำ อาหาร
เมื่อวันจันทร์ เวลา 09.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,000 ชุด และสิ่งของพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน 150 ชุด ณ ศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
โอกาสนี้ นายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กล่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและพี่น้องผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ต่อประชาชนทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อน และเชิญสิ่งของพระราชทาน และสิ่งของพระราชทานสำหรับเด็ก มอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อมอบแก่ประชาชนผู้ประสบภัย
จากนั้นองคมนตรีและคณะได้เดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัย เพื่อมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จำนวน 5 ชุดด้วย
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาในช่วงเช้าติดตามความคืบหน้าการทำงานตามนโยบายรัฐบาล และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ก่อนที่เวลา 10.30 น. นายกฯ จะเรียกประชุมทีมโฆษกประจำสำนักนายกฯ เพื่อมอบนโยบาย ประกอบด้วย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ และ 3 รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้แก่ นายคารม พลพรกลาง, น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ และนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์
นายจิรายุกล่าวว่า น.ส.แพทองธารพูดคุยมอบนโยบาย โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ ซึ่งนายกฯ ได้ย้ำว่าให้อธิบายกับประชาชนถึงเรื่องนโยบายต่างๆ ที่เราได้ทำกันมา โดยใช้แม่สายโมเดล ไม่ว่าจะเป็นการเรื่องฟื้นฟูระยะแรก ระยะกลางและระยะยาว เช่นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายก็ได้มีการอนุมัติงบประมาณ ทั้งระยะกลางและสั้น ประมาณเกือบ 2 หมื่นล้านบาท
นายจิรายุระบุว่า ในส่วนของภาคใต้นั้นนายกฯ ระบุว่า จะต้องเข้าสู่เฟสสองภายหลังการฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งจะใช้โมเดลที่ไม่น้อยไปกว่าที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและภาคอื่นๆ เพื่อให้เกิดความสมดุลในการแก้ไขปัญหา
“นอกจากนี้นายกฯ ยังมีข้อดำริในการจัดตั้งคณะกรรมศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ ที่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องน้ำท่วมอย่างเดียว แต่นับจากนี้ไปประเทศไทยในรอบสิบปีก็จะวนกันอยู่อย่างนี้ ทั้งภัยหนาว ภัยแล้ง และน้ำท่วม โดยการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (3 ธ.ค.) จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ทั้งปัญหาดินน้ำลมไฟ รัฐบาลก็จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างฉับพลัน ก็อาจจะมีการลงพื้นที่ของนายกฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบ้าง แต่ทั้งนี้จะต้องมีการสั่งการอย่างชัดเจน โดยใช้โมเดลแม่สาย” นายจิรายุระบุ
เพิ่มงบ ผวจ.เร่งเงินเยียวยา
เมื่อถามว่า นายกฯ จะลงพื้นที่ภาคใต้ที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมขณะนี้หรือไม่ นายจิรายุกล่าวว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ นั้นจะมีการพูดคุยกันในการประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ก่อน เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์น้ำลดแล้ว ซึ่งการลงไปนั้นก็มีทั้งบวกและลบ ทั้งนี้การที่จะลงหรือไม่ลงพื้นที่นั้น การสั่งการถือเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งนายกฯมีการสั่งการตลอดเวลาถึงแม้จะลงหรือไม่
"ขณะเดียวกันได้มีข้อสั่งการให้ประสานกรมบัญชีกลาง เพิ่มงบทดรองจ่ายของผู้ว่าราชการจังหวัดจาก 20 ล้านเป็น 50 ล้าน และ ปภ.เร่งจัดสรรสรรพกำลัง อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ โดยเฉพาะพาหนะทางน้ำตามที่ได้รับการร้องขอจากพื้นที่ทันที รวมทั้งทุกหน่วยงานอพยพผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางไปยังจุดปลอดภัย พร้อมให้กระทรวงสาธารณสุขระดมแพทย์และบุคลากรทั้งหมดในพื้นที่ขนย้ายผู้ป่วยออกจากพื้นที่วิกฤต และจัดตั้งศูนย์พักพิงให้ความช่วยเหลือและอยู่อาศัยได้จนเข้าสู่ภาวะปกติ" นายจิรายุระบุ
นายจิรายุระบุด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเมื่อคืนที่ผ่านมา ให้ทุกหน่วยงานเร่งสำรวจโดยเฉพาะพื้นที่ที่น้ำลดว่ามีความเสียหายรูปแบบใด และให้กำหนดแนวทางเยียวยานำเสนอต่อที่ประชุม ครม.ต่อไป โดยผ่านกลไก ศปช.ซึ่งมีการทำงานต่อเนื่องตั้งแต่อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และสามารถเตรียมความพร้อมรับมือเหตุการณ์ในภาคใต้ได้อย่างทันท่วงที
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เดินทางมาประชุมการนำเสนอเงินเยียวยาสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ร่วมกับนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยระบุว่า ขณะนี้ผ่านกระทรวงมหาดไทยแล้ว กําลังส่งต่อไปยังคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน ศปช.น่าจะเร่งประชุม คงไม่ทัน แต่ต้องส่งก่อน
พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ระบุว่า ตอนนี้ทั้ง 3 เหล่าทัพลงไปช่วยอย่างเต็มที่ ซึ่งพื้นที่น้ำท่วมส่วนใหญ่จะอยู่ที่ จ.นราธิวาสและปัตตานี แม้ว่าสถานการณ์น้ำจะเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ในส่วนของกองทัพคงจะต้องอยู่ต่อเนื่อง พื้นที่ไหนที่น้ำลดแล้วจะปรับกำลังไปช่วยในการฟื้นฟูเหมือนกับทางภาคเหนือที่เคยทำมา
'เท้ง' สอนสั่งงานเป็นระบบ
“สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้จะกว้างกว่าภาคเหนือ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ไปเป็นตัวหลักในการดำเนินการช่วยเหลือตอนนี้ มีการเสริมเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ลงไปในพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเครื่องบิน C-130 ที่บินทุกวัน ทั้งการขนคน ยุทโธปกรณ์และอาหาร” ผบ.ทสส.ระบุ
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานในกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน เร่งดูแลช่วยเหลือประชาชน พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเรื่องการขาดแคลนน้ำมันและก๊าซ ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ประสานงานให้ ปตท.และโออาร์ ซึ่งรับผิดชอบงานในส่วนนี้เข้าไปประสานงานให้ความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง
“ในวันที่ 3 ธันวาคม กระทรวงพลังงานกับกระทรวงอุตสาหกรรมจะร่วมกันดำเนินการจัดตั้ง ศูนย์ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมเขต 7 ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้” นายพีระพันธุ์ ระบุ
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินขานรับนโยบายรัฐ เร่งช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ มอบมาตรการบรรเทาความเดือดร้อน พักหนี้-ไม่คิดดอกเบี้ยถึง มี.ค. 2568 ปล่อยกู้ฉุกเฉินดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน พร้อมช่วยเหลือเฉพาะหน้าและหลังน้ำลด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GSB Contact Center โทร.1115 และที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ตอบคำถามที่ว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ช้าไปหรือไม่ว่า เข้าใจว่าท่านคงมีภารกิจ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการสั่งงานอย่างเป็นระบบ นายกรัฐมนตรีอาจจะไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทุกที่ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ มีตัวแทนที่เข้าไปบริหารจัดการสถานการณ์ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"จากข้อมูลที่ผมได้รับมาล่าสุด อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ช่วงจังหวะนี้รัฐบาลส่งเครื่องไม้เครื่องมือได้ อย่าทำให้เกิดเหตุซ้ำรอย ไม่เช่นนั้นสถานการณ์จะกลับมาเลวร้ายเหมือนเดิม และถ้าไม่มีการรับมือเตรียมพร้อมให้ดียิ่งขึ้น ก็จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบโดยขาดการช่วยเหลือ" นายณัฐพงษ์กล่าว
ตู่สะกิดทีมที่ปรึกษา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ตอนหนึ่งว่า การจะมาเป็นนายกฯ เป็นนักการเมืองหมายเลขหนึ่ง ดังนั้นวิสัยทัศน์หรือวิชันต้องรู้ได้ว่าเกิดอะไร ต้องไปที่ไหน และทำอะไรก่อนและหลัง ไม่ใช่น้ำท่วมเหนือยังอภิปรายอยู่ในสภาที่กรุงเทพฯ พอน้ำท่วมใต้ก็อยู่เหนือ แล้วตอบโต้เสียงครหาว่า ถ้าละเลยคนใต้ก็ไม่แต่งงานกับคนใต้
“อธิบายแบบนี้ได้ด้วยหรือ เมื่อเป็นแบบนี้ทีมที่ปรึกษาก็ช่วยกันคิดกันต่อไปเถอะ ถือเป็นวาทศิลป์ คำคม คนฟังคงตื้นตันใจกันทั่วหน้า แต่ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นเอกฉันท์กันด้วยซ้ำ” นายจตุพรระบุ
ที่ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่เร่งช่วยหมู่บ้านจะรังตาดง ตำบลท่าธง อำเภอรามัน มีชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะถูกตัดขาด ระดับน้ำสูง ถูกโอบล้อมด้วยแม่น้ำสายบุรี โดยต้องใช้เรือเดินทาง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจึงถึง ซึ่งพบว่ามีชาวบ้านรอรับการช่วยเหลืออยู่กว่า 2 พันคน กว่า 400 หลังคาเรือน ซึ่งได้มอบข้าวสารอาหารแห้งเพื่อช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนในเบื้องต้น
ที่ จ.ปัตตานี เขื่อนบางลางได้มีการปล่อยน้ำ 2 ช่วงเวลา คือ 01.00 น. ปริมาณ 12 ล้าน ลบ.ม. และเวลา 12.00 น. ปริมาณ 14 ล้าน ลบ.ม. และจะปล่อยอีกครั้งในวันที่ 2 ธ.ค. ปริมาณ 16 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกรงว่าเขื่อนจะได้รับผลกระทบต่อความมั่นคง ทำให้จังหวัดปัตตานีกำชับไปยังประชาชนให้เฝ้าระวังน้ำอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่แรกๆ ที่ถูกน้ำท่วม ขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมสูง ผู้นำชุมชนต้องจัดหาเรือดูแลประชาชน ทำให้ขณะนี้ขาดแคลนน้ำมันเป็นอย่างมาก เพราะต้องใช้จ่ายน้ำมันดูแลชาวบ้าน 2,000 บาทต่อวัน ในการซื้อน้ำมันแจกจ่าย ซึ่งเรือถือว่าเป็นยานพาหนะสำคัญในการขนเสบียงและขนคนเข้าออกหมู่บ้าน ทำให้ผู้ขับเรือต้องควักเงินเองจนเกลี้ยง จึงออกมาวอนให้รัฐเข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านยือโม๊ะ ต.ปะกาฮารัง เปิดเผยว่า ตอนนี้ไฟฟ้าดับมา 4 วันแล้ว น้ำประปาก็เหมือนกัน ส่วนน้ำดื่มตอนนี้ที่บ้านไม่มีเลย ต้องออกไปหาซื้อ 2-3 วันนั่งเรือออกไปหาซื้อของที เดือดร้อนมาก จำเป็นต้องไปหาซื้อน้ำเพราะน้ำที่เขาแจกไม่พอ ซึ่งตอนนี้มีความต้องการน้ำดื่มเป็นอย่างมาก
ที่ จ.สงขลา มีความคืบหน้าดรามาเหตุการณ์ ดร.ถูกไฟชอร์ตดับขณะลงมาปิดประตูรั้วบ้านตอนเกิดน้ำท่วม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอหงส์เตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภรรยาผู้เสียชีวิต เจ้าของโครงการ การไฟฟ้าฯ วิศวกรควบคุมงาน มาสอบสวนอย่างละเอียดว่าเกิดจากความประมาทของใคร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับเบอร์พรรคมีโห่ไล่ ‘อนุทิน’37เด็ดตรงหนู
จับเบอร์ผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทยโชคดีได้เลข 9 เบอร์เก่า
ว่าที่นายกฯ73คน! 34พรรคส่งแคนดิเดต/ดีเด่นดังแห่สมัครสส.ปาร์ตี้ลิสต์
"กกต." รับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อราบรื่น ส่ง 52 พรรค เสนอแคนดิเดตนายกฯ 34
ผู้อพยพกลับบ้านวัดใจเขมร
กองทัพภาคที่ 2 แจ้งประชาชนตามแนวชายแดนไทย-เขมร
‘พรรคส้ม’ไร้เพื่อน คุยลั่นมาตรฐานสูง
เห็นโฉมหน้ารัฐบาลต่อไปรำไร "อนุทิน" ย้ำห้ามแตะนิรโทษกรรม ม.112
หยุดยิงเขมรกระอัก ลงนาม16ข้อยึดตรงไหน‘ทหารไทย’ปักหลักตรงนั้น!
ไทย-เขมรเห็นพ้องหยุดยิงทันทีเที่ยงวัน 27 ธ.ค. ยึดปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เปิดแถลงการณ์ร่วมยาวเหยียด 16 ข้อ เขมรกระอักเลือด พื้นที่ไทยยึดได้ยึดเลย การวางกำลังทหารในปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม
‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล
กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี

