รุมดีดปาก‘เชิดชัย’ขู่ยุบสภา

"ภูมิธรรม" โบ้ย "หมอเชิดชัย" ให้ไปยุบสภาเอง ยันอำนาจอยู่ที่นายกฯ พรรคร่วมแต่ละคนยังหนักแน่น "อนุทิน" เมิน สส.พท.เสนอยุบสภา ย้ำเป็นอำนาจนายกฯ ลั่นเป็นเรื่องรุ่นใหญ่คุยกัน ไม่เสียเวลาคุยรุ่นเล็ก "หัวหน้าพรรคส้ม" ไม่สนใจ สส.พท.ขู่ “ภท.” ยุบสภา​ โชว์เหนือพร้อมเข้าทุกสนามเลือกตั้งทุกวินาที เปิดผลโพลนักการเมือง "ไม่ควรฟ้องร้องประชาชน" ที่วิจารณ์พรรค

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 2 ธันวาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ขู่ว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะยุบสภาหากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยังงอแงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่า เรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบให้เกิดแรงกระเพื่อมในรัฐบาล ถือเป็นความเห็นของ สส.แต่ละพรรคแต่ละคนที่เป็นอิสระ และถือว่าเป็นทัศนะของนายเชิดชัย ขณะที่การทำงานของรัฐบาลและของแต่ละพรรคก็ไม่มีปัญหาอะไร

 “ไม่กระทบความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะผู้ใหญ่แต่ละคนหนักแน่น ไม่เช่นนั้นฟังทุกวันคงต้องยุบสภากันวันละหลายๆ รอบ" นายภูมิธรรมระบุ

เมื่อถามว่า หากพรรค ภท.งอแงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่ยุบสภาตามที่ นพ.เชิดชัยออกมาขู่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมหัวเราะก่อนกล่าวว่า ก็คงให้ นพ.เชิดชัย ไปยุบ แต่ข้อเท็จจริงไม่ว่าใครจะพูดก็แล้วแต่ อำนาจการยุบสภาเป็นของนายกรัฐมนตรี และที่ผ่านมานายกฯ ไม่เคยมีดำริหรือท่าทีที่จะยุบสภา และการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังดีอยู่ ส่วนความเห็นของแต่ละสภาก็เป็นเรื่องที่ต้องว่ากัน

เมื่อถามว่า เช่นนี้ต่อไป สส.ก็สามารถแสดงความเห็นได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องคำนึงถึงมารยาทของพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เขาแสดงความเห็นในสภาก็แล้วแต่เนื้อหา ส่วนเรื่องเสรีภาพในการแสดงความเห็นเราก็คำนึง แต่หากผู้ใหญ่ของแต่ละพรรคคุยกันรู้เรื่องก็ไม่มีปัญหา

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า คนที่ยุบสภาได้มีคนเดียวคือนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า กรณีที่ นพ.เชิดชัยออกมาพูดเช่นนี้ จะบั่นทอนกำลังใจการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็อย่าไปฟัง เราฟังเฉพาะคนที่มีอำนาจพอแล้ว คนที่ไม่มีอำนาจพูดไปก็เหมือนไม่ได้พูด ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ขณะนี้ก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร  เดี๋ยวก็หารือแล้วก็ว่ากันไป ตอนนี้ควรจะเน้นไปที่การช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมภาคใต้ก่อนดีกว่า

เมื่อถามว่า นพ.เชิดชัยพูดแบบนี้จะเป็นการกดดันพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า "ไม่มี รุ่นใหญ่เขาคุยกัน ไม่ไปคุยกับรุ่นเล็กหรอกเสียเวลา"

ถามต่ออีกว่า เรื่องนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวย้ำว่า "ไม่มี นายภูมิธรรม เวชยชัย ก็พูดแล้วว่าคนพูดไม่มีอำนาจอะไร ท่านนายกฯ เท่านั้นที่ตัดสินใจได้"

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) และผู้นำฝ่ายค้านในสภา กล่าวถึงความขัดแย้งของ สส.พรรคร่วมรัฐบาลที่ นพ.เชิดชัยออกมาพูดขู่พรรคภูมิใจไทย ที่เห็นไม่ตรงกับพรรคเพื่อไทย เรื่องเกณฑ์ผ่านการทำประชามติตามร่างกฎหมายประชามติ ที่อาจทำให้มีการยุบสภาว่า ฝ่ายค้านได้ดำเนินการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ แต่หากฝ่ายรัฐบาลจะเกิดปัญหาการเมืองภายใน หรือจะเกิดการยุบสภาหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องไปเจรจากันต่อไป

เมื่อถามว่า จะมีการแตกหักถึงขั้นยุบสภาจริงหรือไม่นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะเป็นเรื่องการเมืองภายในของพรรคร่วมรัฐบาล แต่เห็นได้จากอดีตว่าหากมีเรื่องที่ต้องลงมติ ทั้งรายงานการนิรโทษกรรมหรือกฎหมายอื่นๆ บางครั้งพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อว่าประชาชนคนไทยก็มีความเป็นห่วง เพราะหากการเมืองขาดเสถียรภาพ ก็จะส่งผลถึงความเชื่อมั่นใจการลงทุน และความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคส่วนต่างๆ ด้วย

เมื่อถามว่า หากมีการยุบสภาจริงๆ พรรคประชาชนพร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งเลยหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคประชาชนมีความพร้อมทุกสนามอยู่แล้ว  และพรรคการเมืองทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคใด ไม่สามารถปฏิเสธการเลือกตั้งได้ และพรรคประชาชนก็มีความพร้อมทุกวินาที และหากจะมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคก็จะมีนโยบายใหม่มานำเสนอต่อประชาชนทุกคน

ผู้นำพรรคฝ่ายค้านกล่าวถึงการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ฝ่ายค้านโดยพรรคประชาชนยังคงยืนยันผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เห็นได้จากดำเนินการโดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคประชาชน เป็นประธาน ซึ่งก็ได้มีการไปหารือกับประธานรัฐสภาและประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้ยืนยันต่อฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วว่า สามารถจัดการออกเสียงประชามติ 2 ครั้งเพื่อตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยประธานรัฐสภา สามารถบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้โดยทันที และยังมีช่องทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่มีการบรรจุระเบียบวาระที่เสนอโดยพรรคประชาชนเข้าสู่ระเบียบวาระไปแล้ว ดังนั้นในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันว่าได้ดำเนินการอย่างเต็มที่

ผศ. ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าศูนย์สำรวจความคิดเห็น นอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 โดยมีจำนวนผู้ให้สำรวจรวม 1,500 ราย จากทั่วทุกภูมิภาค โดยได้สอบถามถึงประเด็น "ความคิดเห็นทางการเมือง"  โดยได้ถามถึงว่ากรณีที่ "ประชาชนวิจารณ์พรรคการเมือง" เห็นว่านักการเมืองควรฟ้องร้องประชาชนหรือไม่ ปรากฏว่าส่วนใหญ่ให้ความคิดเห็นว่า ไม่ควรฟ้องร้อง 55.2% และบางส่วนมองว่าควรฟ้องร้อง 33.8% ขณะที่ยังไม่แน่ใจ 11% 

พร้อมทั้งสอบถามต่อความเห็นที่ว่า "ประชาชนมีสิทธิ์ในการวิจารณ์พรรคการเมืองหรือไม่" ซึ่งผู้ให้สำรวจเห็นด้วยว่า มีสิทธิ์ 45.6% และมองว่าไม่มีสิทธิ์ 37.2% และไม่แน่ใจ 17.2%

ผศ. ดร.สานิตได้สอบถามต่อถึงกรณีที่ "นักการเมืองไล่ฟ้องประชาชนเป็นการกระทำที่สุจริตหรือไม่" โดยได้คำตอบว่า สุจริต 30.6% ไม่สุจริต 50.7% และไม่แน่ใจ 15.7%

นอกจากนั้น ผู้ให้สำรวจยังให้คำตอบในกรณี "ประชาชนออกมาวิจารณ์พรรคการเมืองมีประโยชน์มากเพียงใด" สรุปได้ว่ามีประโยชน์มาก 50.1% มีประโยชน์ 16.4% ไม่มีประโยชน์ 20.8% และไม่มีความคิดเห็น 12.7%. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ย้อนเจ็บ ไม่ปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา เป็นนายกฯและรมว.กลาโหมของไทยหรือกัมพูชา

ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมแชร์คลิปการให้สัมภาษณ์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ว่า