แห่ขยี้‘หวานใจบิ๊ก’ กมธ.ที่ดินจ่อสอบรีสอร์ตหรู/‘เด็จพี่’เหน็บคนชิดเชื้อพ่นพิษ

หวานใจบิ๊กเนมการเมืองหนาว!  กมธ.ที่ดินฯ ขยับรุกตรวจสอบรีสอร์ตหรูไร่ภูนับดาว ลั่นทำตามเนื้อผ้า ไม่เกี่ยวประเด็นการเมือง  “พร้อมพงศ์” ได้ทีเขย่าบอกก่อนหน้าคนข้างกายเป็นแผล วันนี้คนข้างใจเป็นพิษ “อดุลย์” เตรียมสัมมนาสับเขากระโดง “เรืองไกร” จ่อให้ข้อมูลปมที่ดินอัลไพน์แก่ กกต. 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ธ.ค.2567 นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน  (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะ กมธ. สัปดาห์นี้ จะหยิบยกเรื่องกรณีสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบไร่ภูนับดาว จังหวัดสระบุรี บุกรุกที่ ส.ป.ก.ขึ้นมาหารือในที่ประชุม กมธ. เพื่อที่ กมธ.จะเข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยหากคณะ กมธ.มีมติให้เข้าไปตรวจสอบ จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อไป โดยเฉพาะหน่วยงานสำคัญคือ ส.ป.ก.

 “เรื่องที่ ส.ป.ก.เป็นเรื่องที่ กมธ.ที่ดินฯ ให้ความสนใจมาตลอดอยู่แล้ว ตั้งแต่เรื่อง ส.ป.ก.ที่จังหวัดสกลนคร ที่มีคนเข้าไปรุกที่ ส.ป.ก. โดยเรื่องรีสอร์ตภูนับดาว กมธ.ที่ดินฯ เอาเข้าที่ประชุมแน่ เป็นเรื่องที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง โดยหน่วยงานหลักที่จะเชิญมาก็คือ ส.ป.ก. เพราะเมีเคสกับ กมธ.ที่ดินฯ ตั้งแต่เคสทับลานแล้ว โดยรายละเอียดต่างๆ เขาก็ยังไม่ได้มาชี้แจงอย่างชัดเจน ทั้งการให้ ส.ป.ก.กับผู้ขอรับที่ดิน แต่เขาไม่มีคุณสมบัติ เรื่องไร่ภูนับดาว กมธ.ไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง ไม่ได้มาเล่นการเมือง แต่เราต้องการแสวงหาความถูกต้อง ถ้ามันผิด คือแทนที่จะเอาที่ดินไปให้เกษตรกร แต่กลับเอาไปให้นักการเมืองหรือคนที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง มันก็ชัดเจนว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นได้ เรื่องนี้ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน” ประธาน กมธ.การที่ดินฯ  กล่าว

ประธาน กมธ.การที่ดินฯ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบที่ดินเขากระโดงว่า  สัปดาห์นี้ กมธ.การที่ดินฯ ไม่ได้เชิญใครมาชี้แจง  แต่จะเร่งออกหนังสือเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลที่ กมธ.ต้องการตรวจสอบมาให้ ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กรมที่ดิน และคณะกรรมการสอบสวนของกรมที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ที่กรมที่ดินตั้งขึ้นมาตรวจสอบเรื่องที่ดินเขากระโดง  

ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า อยากให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่กำลังทำงานกันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งการทุจริตในหน้าที่ในการออกเอกสารสิทธิของทางราชการ ถ้าเจ้าหน้าที่ราชการส่วนจังหวัดและเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ไม่ร่วมด้วยคงทำได้ยาก การเบียดบังสิ่งที่ควรเป็นของเกษตรกรไปเอื้อประโยชน์นายทุน เรื่องเหล่านี้ควรหมดไปจากประเทศไทยเสียที ยิ่งพบว่ามีคนใกล้ชิดของผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน 10 ล้านบาท เรียกให้มาชี้แจงก็ไม่มา เรื่องนี้อยากฝากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำงานด้วยความเด็ดขาด คดีนี้พี่น้องประชาชนสนใจ ทุกคนอย่างรู้ว่าผู้ใกล้ชิดนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่คือใคร ถึงได้ทำผิดกฎหมายแบบไม่กลัวฟ้าไม่อายดิน

“ที่ออกมาพูดในวันนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นเรื่องการทุจริต เรื่องการแสวงหาผลประโยชน์ขณะมีอำนาจ ขนาดคนใกล้ชิดยังกล้าได้ขนาดนี้  ตัวจริงจะทำได้ขนาดไหน แต่เท่าที่ดูเหมือนทุกคนที่รับข่าวสารจะรู้ว่านักการเมืองท่านนั้นคือใคร  แต่กลับไม่มีการออกมาแถลงข่าวชี้แจงความบริสุทธิ์ของตัวเองเลย เห็นก็แต่การปล่อยข่าวขู่จะฟ้องผู้ที่ออกมาให้ข้อมูล เรื่องเหล่านี้เป็นประโยชน์สาธารณะ กล้าทำก็ต้องกล้ารับ อยากฝากไปถึงนักการเมืองใหญ่ท่านดังกล่าว ไม่ควรปกป้องหวานใจคนใกล้ชิด อย่าใช้วิธีโทร.หาคนโน้นคนนี้ให้ช่วยเหลือ เหมือนที่คนนินทาจนเข้าหูผมมา ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย รัฐบาลชุดนี้ปราบปรามการทุจริตผิดกฎหมายอย่างจริงจัง นักการเมืองใหญ่ผู้มากบารมีจะใช้บารมีแบบเดิม ใช้อำนาจแบบเก่า คงไม่ได้ผล ก่อนหน้าคนข้างกายเป็นแผล มาวันนี้คนข้างใจเป็นพิษ ซ้ำเติมโรคภัยไข้เจ็บกันไปใหญ่ อะไรก็ปิดไม่อยู่ ถ้าท่านไม่เกี่ยวก็ควรออกมาชี้แจงกับสาธารณะให้รู้กันไปเลย  อยากฝากไว้ให้คิด” นายพร้อมพงศ์กล่าว

อดุลย์ขยี้ที่ดินเขากระโดง

ขณะที่ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ผู้ก่อตั้งสภาที่ 3 กล่าวถึงการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โยนให้เป็นเรื่องของศาล ส่วนนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ชี้แจง กมธ.การที่ดินฯ ว่าคำพิพากษาศาลฎีกาผูกพันเฉพาะคู่ความ ส่วนอีก 900 แปลงต้องพิสูจน์สิทธิ ว่าส่อเจตนาปัดความรับผิดชอบ  ทั้งที่ตัวเองเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ปล่อยให้มีการดูถูกเหยียดหยามกระบวนการยุติธรรม  ละเมิดคำสั่งศาลสูงสุดที่มีคำพิพากษาชี้ขาดแล้ว ดังที่นายณฐพร โตประยูร ได้กล่าวโทษฟ้องร้องข้าราชการกระทรวงมหาดไทยและกรมที่ดินต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ร่วมกันฉ้อฉล โกงที่ดิน ของพ่อหลวง ร.5 และ ร.6 ที่พระราชทานแก่กรมรถไฟหลวงเพื่อใช้ประโยชน์แก่ราษฎรและส่วนรวม แต่มีการบ่ายเบี่ยงเพื่อช่วยเหลือพรรคร่วมรัฐบาล ถือว่าสมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงด้วย

นายอดุลย์กล่าวว่า เรื่องนี้แม้จะยืดเยื้อมานาน แต่เมื่อมีคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และศาลปกครองกลาง ทำให้เกิดความชัดเจนเป็นที่ยุติแล้ว เหลือเพียงการบังคับใช้กฎหมายเท่านั้น โดยเมื่อปรากฏชัดตามคำพิพากษาแล้วว่าที่ดินบริเวณเขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯ ดังนั้น เอกสารสิทธิจำนวน 900 แปลง ที่ออกทับที่ดินของการรถไฟฯ 5,083 ไร่ จึงเชื่อได้ว่าเป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ จึงไม่ต้องพิสูจน์สิทธิอีก กรมที่ดินซึ่งเป็นมูลเหตุแห่งปัญหาต้องเรียกเอกสารสิทธิทั้งหมดมาตรวจสอบทันที หากพบว่าเอกสารสิทธิรายใดออกทับที่ดินของการรถไฟฯ  ก็เพิกถอนได้ทันที เว้นแต่ว่าราษฎรรายใดพิสูจน์ได้ว่าอยู่อาศัยมาก่อนพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสร้างทางรถไฟหลวง การโยนภาระให้การรถไฟฯ ไปฟ้องราษฎรเอง ถือเป็นการขัดคำสั่งศาล ดังที่ท่านอัยการปรเมศวร์ อินทรชุมนุม เตือนสติอธิบดีกรมที่ดินว่า ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ม.61 วรรคที่ 8 ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาอย่างไร ให้อธิบดีกรมที่ดินหรือเจ้าพนักงานปฏิบัติตามนั้น นั่นคือต้องเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน ไม่ใช่ให้ไปพิสูจน์สิทธิ ซึ่งอาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่จะโดยมิชอบ

นายอดุลย์กล่าวด้วยว่า สภาที่ 3 จะจัดประชุมเสวนาของผู้เกี่ยวข้อง ที่รักชาติ รักแผ่นดิน เอาที่ดินของพ่อหลวงกลับคืนมา ในวันพุธที่ 4 ธ.ค.2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้องประชุม 14 ตุลา อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ในหัวข้อเรื่อง ทวงคืนที่ดินพ่อหลวง ร.5

เรืองไกรให้ข้อมูลอัลไพน์

ส่วนนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีหนังสือที่ ลต 0020/3702 มาถึงเพื่อเชิญไปให้ถ้อยคำตามคำร้อง 4 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือเรื่องร้องกรณีการถือหุ้นในบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด เพื่อให้การให้ถ้อยคำเรื่องบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด มีข้อเท็จจริงมากขึ้น จึงได้ขอเอกสารจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสรุปขั้นตอนผู้ถือหุ้นและการลดทุนตามวันเวลาต่างๆ ให้ กกต.นำไปพิจารณาต่อไป

โดยเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2563 แบบ บอจ.5 ของบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟฯ แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 74,700,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยมีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ถือหุ้น 7,470,000 หุ้น, นายพานทองแท้ ชินวัตร ถือหุ้น 22,410,000 หุ้น, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ถือหุ้น 22,410,000 หุ้น และ น.ส.แพทองธาร ถือหุ้น 22,410,000 หุ้น, วันที่ 29 เม.ย.2564, วันที่ 29 เม.ย.2565 แบบ บอจ.5 เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2566 แบบ บอจ.5 เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2567 แบบ บอจ.5 ของบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟฯ แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า มีทุนจดทะเบียนรวมเท่าเดิม โดยมีคุณหญิงพจมาน, นายพานทองแท้, น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธาร ถือหุ้นเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

นายเรืองไกรระบุต่อว่า ต่อมาวันที่ 16 ส.ค.2567 น.ส.แพทองธารได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2567 แบบ บอจ.5 ของบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟฯ แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 74,700,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยมีคุณหญิงพจมานถือหุ้น 7,470,000 หุ้น และ 22,410,000 หุ้น, นายพานทองแท้ ถือหุ้น 22,410,000 หุ้น, น.ส.พินทองทา ถือหุ้น 22,410,000 หุ้น โดยไม่ปรากฏชื่อ น.ส.แพทองธาร ที่เคยถืออยู่ 22,410,000 หุ้นแต่อย่างใด ข้อสังเกตน่าจะโอนให้แม่ เนื่องจากหมายเลขหุ้นตรงกัน และอาจเป็นการแจ้งโอนหุ้นที่ถืออยู่ 30% เกินกว่า 5% ตามที่กฎหมายกำหนดหลังจากเป็นนายกฯ แล้ว

นายเรืองไกรระบุต่อว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2567 บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟฯ ได้แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการรวม 2 รายการ คือ 1.มีมติพิเศษให้ลดทุนของบริษัทลง 237 ล้านบาท โดยลดจำนวนหุ้น คงเหลือทุนของบริษัท 510 ล้านบาท มูลค่าหุ้นละ 10 บาท และ 2.ให้แก้ไขเพิ่มเติมตราของบริษัท เป็นดังนี้ ข้อ 10.ตราของบริษัทมีดังที่ประทับไว้นี้ ข้อความข้างต้นเป็นข้อเท็จจริงทั้งจำนวนหุ้น รายชื่อผู้ถือหุ้น และตราของบริษัท บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟฯ จากทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่จะต้องนำไปให้เพิ่มเติมต่อ กกต. และอาจต้องขอให้เรียกพยานหลักฐานต่างๆ จากบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำด้วย ในวันที่ 3 ธ.ค. จึงต้องเอาพยานหลักฐานที่ชัดเจนพอควรไปประกอบการให้ถ้อยคำต่อ กกต.ด้วยตนเอง และจะขอให้ กกต.รีบดำเนินตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปว่า น.ส.แพทองธารจะมีเหตุสิ้นสุดเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบมาตรา 170 (5) หรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สว.ส่งสัญญาณเบรกแก้รธน.

แก้ รธน. "เพื่อไทย" ตีกรรเชียงหนี "พรรคส้ม" ปักธงเคาะร่างแก้ รธน. 256 ไม่แตะหมวดกษัตริย์ “ชูศักดิ์” ชี้พุ่งเป้าไปที่ ส.ส.ร.เป็นหลัก