‘อุ๊งอิ๊ง’โต้ดรามาน้ำท่วม ไม่รักคนใต้แต่งงานไม่ได้

"อิ๊งค์" เครียด โต้ดรามาละเลยน้ำท่วมใต้ ไม่เช่นนั้นคงไม่แต่งงานกับคนใต้ วอนเปิดใจอย่ามองเป็นคนเหนือ ลั่นส่งความช่วยเหลือไปแล้วเร็วมาก ประกาศรักษาคำสัญญาเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ จ่อลงพื้นที่ปลายสัปดาห์ "มท.1" เชื่อสถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลายหลังปริมาณฝนลด เตรียมสำรวจความเสียหาย จ่อของบกลางเยียวยาในที่ประชุมครม.สัปดาห์นี้ "สทนช." เตือนรับมือพายุอีกลูกกลางเดือน ผวาจมบาดาลระลอก 2 

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เวลา 11.35 น. ที่ด่านศุลกากรแม่สาย ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย  จังหวัดเชียงราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุได้ส่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีลงพื้นที่ และจากการลงพื้นที่ในวันเดียวกัน ได้พูดคุยกับธนาคารต่างๆ ถึงมาตรการช่วยเหลือภายหลังอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นำมาตรการดังกล่าวไปใช้ช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ด้วย สำหรับตนจะลงพื้นที่หรือไม่นั้น ต้องดูสถานการณ์ก่อน เพราะหากตนลงไปต้องมีขั้นตอนการต้อนรับ เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมต้องมาต้อนรับ ดังนั้นหากสถานการณ์เรียบร้อยสามารถไปได้จะลงพื้นที่เลย

เมื่อถามว่า จะชี้แจงกระแสดรามาทางโซเชียลอย่างไรว่าไม่ได้ละเลยพี่น้องภาคใต้ นายกฯ  กล่าวว่า “โอ้ คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้  ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานกับคนใต้ไม่ได้นะคะ" ซึ่งวันที่เกิดเรื่อง ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แจกจ่ายงานประสานทั้งหมดตั้งแต่กลางคืน ไลน์คุยกัน โทร.คุยกัน ทำทุกอย่าง แต่การมาการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) เราวางแผนกันเป็นเดือน เพื่อมาฟื้นฟูพื้นที่ภาคเหนือ ให้รู้ว่าเราพร้อมกลับไปเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เป็นการฟื้นฟูพื้นที่ ซึ่งจำเป็นต้องมาเหมือนกัน และเรามีรัฐมนตรีและรองนายกฯ  เราส่งไปช่วยเหลือทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าจังหวัดนี้คนนี้ไม่ไปแปลว่าไม่สนใจ แบบนั้นไม่ได้เลย ไม่ใช่เลย แต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบมากมาย จึงต้องแบ่งงานกันทำ เพราะหากเกิดเหตุอะไรทั่วประเทศแล้วตนต้องไปทั้งหมดมันยาก

 “ยืนยันเราไม่ละเลย เมื่อเกิดเหตุเราต้องไป มีคนไป มีหน่วยงานเครื่องมือไป สำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ขอพูดว่ารัฐบาลขยับได้เร็ว ความช่วยเหลือไปถึงเร็วมาก ขอให้เปิดใจในเรื่องนี้ อย่าคิดว่าดิฉันเป็นคนเหนือ แต่งงานกับคนใต้ค่ะ คนที่ทำงานด้วยหลายคนก็เป็นคนใต้ จึงไม่ใช่เลยที่จะต้องมีดรามาในเรื่องนี้ และทุกคนไม่ว่าจะอยู่ภาคไหนเป็นคนไทย วันนี้ที่ดิฉันบอกจะขอเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ ต้องรักษาคำสัญญานั้น" น.ส.แพทองธารระบุ

เมื่อถามย้ำว่า จะลงพื้นที่สัปดาห์หน้าเลยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูความเหมาะสม ไม่ว่าจะเกิดภัยอะไรในจังหวัดใด ตนอยากไปทุกจังหวัด ถ้าทำได้ไปแน่นอน แต่อย่างน้อยขอให้ความช่วยเหลือไปถึงโดยเร็วที่สุด เพราะเรื่องนี้สำคัญกว่าคนหนึ่งจะปรากฏหน้าที่ไหน แต่ความช่วยเหลือและมาตรการต้องถึงทุกจังหวัดที่เกิดภัยพิบัติแบบนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว ในช่วงหนึ่งนายกฯ พูดด้วยสีหน้าจริงจังและมีแววตาเศร้าอย่างเห็นได้ชัด

ด้านนายภูมิธรรมกล่าวว่า ได้รับรายงานจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ว่าขณะนี้น้ำหลากลงไปแล้ว สามารถจัดเส้นทางให้กระทรวงคมนาคมเข้าไปช่วยลำเลียงอาหารเข้าไปได้พอสมควร แต่ยังมีความกังวลว่ายังมีฝนเข้ามาอีกรอบ เราเฝ้าระวังไว้ทั้งหมด และแม้ตอนนี้เรือจะลดความสำคัญลง เพราะใช้รถยนต์แทนได้ แต่ยังให้เรือประจำการอยู่ในพื้นที่ ถ้าน้ำมาอีกรอบจะได้ดูแลได้

ชี้น้ำท่วมใต้เริ่มคลี่คลาย

นายอนุทินกล่าวว่า จากการพยากรณ์อากาศมีความชัดเจนว่าปริมาณน้ำฝนน่าจะเริ่มลดลง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป จึงเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะเริ่มคลี่คลาย เพราะอุทกภัยภาคใต้นั้นแตกต่างจากภาคเหนือ เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนมากเพียงอย่างเดียว หากผลักดันน้ำลงสู่ทะเลได้ทุกอย่างจะดีขึ้น ซึ่งจากการติดตามความคืบหน้าจากผู้ว่าราชการจังหวัด พบว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ขณะที่การประเมินความเสียหาย ทั้งบ้านเรือนประชาชนและระบบสาธารณูปโภค ต้องรอให้น้ำลดลงก่อนถึงจะเข้าไปตรวจสอบได้ รวมทั้งเรื่องสุขภาพของประชาชน เพราะช่วงที่วิกฤตที่สุดคือหลังน้ำลด

ส่วนกรณีที่มีอาจารย์มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ถูกไฟดูดขณะเกิดเหตุน้ำท่วมนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการกำชับกับการไฟฟ้าให้ดูแลพื้นที่ในส่วนที่น้ำเข้าท่วม ซึ่งได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในครัวเรือน และทางจังหวัดได้มีการจัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีการอพยพประชาชนเข้ามาพักพิง และกำชับให้ดูแลชาวบ้านอย่างมีมาตรฐาน ทั้งเรื่องอาหารการกิน ที่นอนหมอนมุ้ง ตลอดจนสุขอนามัย สะอาดได้มาตรฐานไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อ พร้อมทั้งมีการอนุมัติเงินใช้ทดรองฉุกเฉินเพิ่มอีก 50 ล้านบาท ในจังหวัดเสี่ยงภัย รวมเป็นจังหวัดละ 70 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เหมาะสม เชื่อว่าสามารถดูแลประชาชนได้

นายอนุทินกล่าวถึงเงินเยียวยาว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อยู่ระหว่างประสานกับจังหวัดที่ประสบภัย ซึ่งส่วนใหญ่ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยทั้งจังหวัดอยู่แล้ว จะทำให้สามารถดำเนินการได้เร็วมากยิ่งขึ้น  เมื่อการสำรวจความเสียหายหากเข้าเกณฑ์ จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วจะมีการโอนเงินเข้าสู่บัญชีผู้ประสบภัยโดยตรง แบบเดียวกับการเยียวยาอุทกภัยที่ภาคเหนือ พยายามจะเร่งเสนองบประมาณเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ให้ได้ภายในสัปดาห์นี้

สำหรับหลักเกณฑ์เยียวยาเป็นไปตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นี้มาตั้งแต่อุทกภัยในภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ ซึ่งนายกฯ สั่งการว่าความเดือดร้อนขนาดนี้ไม่ประเมินความเสียหาย ควรใช้เกณฑ์สูงสุดครัวเรือนละ 9,000 บาท เนื่องจากน้ำนั้นมากกว่าปกติถึง 2 เท่า และไม่ได้มาตามฤดูกาล ซึ่งน่าจะต้องใช้หลักเกณฑ์นี้ไปจนถึงสิ้นปี

น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์สนับสนุนการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ทั้งนี้ ในการประชุมของ ศปช. นายภูมิธรรมในฐานะ ผอ.ศปช. มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์และแจ้งขอรับการสนับสนุนความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 (สงขลา) ทำงานร่วมกับ ศอ.บต. ซึ่งมีบทบาทคล้าย ศปช.ส่วนหน้า เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารทั้งการแจ้งเตือนประชาชน และการสร้างความเข้าใจในการบริหารจัดการสถานการณ์ ตลอดจนความช่วยเหลือที่จะเข้าไปถึงพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างตรงจุด โดยให้มีการถอดบทเรียนการสื่อสารในภาวะวิกฤตจากกรณีอุทกภัยในภาคเหนือ เพื่อนำมาปรับแผนการทำงานรองรับการสื่อสารสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ในครั้งนี้ด้วย

เตือนรับมือพายุอีกลูก

นายสุรสีห์​ กิตติมณฑล​ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (สทนช.) เปิดเผยว่า ภาคใต้ต้องเตรียมรับมือน้ำท่วมระลอก 2 ในกลางเดือนนี้ เนื่องจากจะมีพายุเข้าอีก 1 ลูก ประกอบกับลานีญา​ โดยขณะนี้สั่งการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะพื้นที่ใต้เขื่อนบางลาง ต้องมีการระบายน้ำออกบ้าง แต่ไม่ให้สูงกว่าพื้นที่ท้ายเขื่อนเกินกว่า 2 เมตร​ และในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ นายประเสริฐ​ จันทรรวงทอง​ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อ​เศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) จะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าในอีก 2 สัปดาห์สถานการณ์จะเบาลง​ไป         

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 22 พ.ย.-1 ธ.ค.67 ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ 1.นครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบ 51,081 ครัวเรือน 2.พัทลุง ได้รับผลกระทบ 96,122 ครัวเรือน เสียชีวิต 1 ราย 3.สตูล ได้รับผลกระทบ 2,604 ครัวเรือน 4.สงขลา ได้รับผลกระทบ 186,858 ครัวเรือน เสียชีวิต 5 ราย 5.ปัตตานี ได้รับผลกระทบ 144,702 ครัวเรือน เสียชีวิต 3 ราย 6.ยะลา ได้รับผลกระทบ 43,168 ครัวเรือน เสียชีวิต 1 ราย และ 7.นราธิวาส ได้รับผลกระทบ 92,851 ครัวเรือน เสียชีวิต 2 ราย

ที่ จ.ปัตตานี แม่น้ำทั้ง 2 สาย ทั้งยะลาและนราธิวาสที่ไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี ยังคงไหลมาสมทบต่อเนื่องก่อนไหลลงสู่ทะเล ทำให้หลายพื้นที่ยังคงเกิดน้ำท่วมสูง แม้ว่าน้ำทะเลไม่หนุน และน้ำลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ระดับน้ำยังคงน่าเป็นห่วง ขณะที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานีที่ถูกน้ำท่วมหนังสุดคือ ต.จะบังติกอ อ.เมืองฯ โดยชุมชนวังเก่า บริเวณถนนหลังวัง มีกว่า 300 ครัวเรือนได้รับผลกระทบท่วมสูง 80 เซนติเมตรถึง 1 เมตร  บางจุดสูง 2 เมตร เช่นเดียวกับชุมชนริมคลอง ต.จะบังติกอ อ.เมืองฯ ซึ่งติดกับริมแม่น้ำปัตตานี กว่า 300 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบท่วมสูง 1-2 เมตร หลายหลังไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ต้องอพยพออกจากพื้นที่                              

ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมืองฯ จ.สงขลา นายวัฒนา ถนอมศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา เปิดครัวร่มเมา ภายในอาคาร 7 ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. จนถึงวันที่ 2 ธ.ค. เลี้ยงอาหารนักเรียนที่ตกค้างอยู่ที่หอพักไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้         

ทั้งนี้ ก่อนหน้านายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน พร้อมด้วยนายสุรัตน์ ลายจันทร์ นายอำเภอเมืองสงขลา เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ณ ศูนย์อพยพชั่วคราวตลาดโคกไร่ หมู่ 8 ต.พะวง อ.เมืองสงขลา ซึ่งมีผู้ประสบภัยเข้าพัก 52 ครัวเรือน พร้อมมอบน้ำดื่มและอาหารสดพร้อมปรุงจากบริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำฯ  (PFP)

ที่ อ.เบตง จ.ยะลา เกิดดินสไลด์ด้านหลังอาคารที่ทำการเทศบาลเมืองเบตง โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเพราะเป็นวันหยุดราชการ แต่พบรถยนต์ของราชการเสียหาย 7 คัน

ที่ จ.นราธิวาส ฝนทิ้งช่วงตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สายคือ แม่น้ำบางนรา, แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่เอ่อล้นตลิ่งในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าต้องใช้เวลานานกว่า 1 สัปดาห์ สภาวะน้ำท่วมขังจะกลับคืนมาสู่สภาวะปกติ 

อย่างไรก็ตาม พบว่าแม่น้ำสุไหงโก-ลกยังคงมีปริมาณล้นตลิ่งอยู่เป็นช่วงๆ ซึ่งมวลน้ำป่าจากพื้นที่ อ.สุคิรินและแว้งได้ไหลระบายลงมาสมทบ และกำลังเคลื่อนตัวอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.สุไหงโก-ลกกับ อ.ตากใบ ที่น่าเป็นห่วงคือ เจ้าหน้าที่ชลประทานโครงการชลประทานมูโนะ พบรอยรั่วซึมของผนังกันน้ำที่อยู่ตรงกันข้ามกับโรงเรียนบ้านมูโนะ นายสมพร ประไพ หัวหน้าโครงการชลประทานมูโนะ จึงระดมเจ้าหน้าที่พร้อมรถแบ็กโฮทำการขนย้ายบิ๊กแบ็กจำนวนกว่า 30 ก้อน นำไปวางเสริมที่ฐานผนังกันน้ำเดิมที่มีรอยรั่ว เพื่อป้องกันไม่ให้มวลน้ำจากแม่น้ำไหลทะลักเข้าท่วมตลาดมูโนะเป็นระะลอกที่ 3  ซึ่ง 2 ครั้งที่ผ่านมาเกิดในช่วงสิ้นปี 2564 กับปี 2565.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง