ฟัน ‘หวานใจบิ๊ก’! ‘เต่า’ จ่อออกหมายคดีรุกส.ป.ก.10ล้านพัน ‘สามารถ’

"นฤมล" ขึงขัง ใครทำผิดรุกที่ ส.ป.ก.ฟันไม่เลี้ยง แต่ยังไม่ได้รับรายงานปมหวานใจอดีตรองนายกฯ เอี่ยวรีสอร์ตรุกที่ "บิ๊กเต่า" จ่อออกหมายเรียก-หมายจับ "หวานใจ"   อดีตรองนายกฯ หลังพบเส้นทางเงิน 10 ล้านเอี่ยวรีสอร์ตรุกที่ดิน พัน "สามารถ"

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 นางนฤมล  ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ออกมาเปิดเผยว่ามีหวานใจอดีตรองนายกรัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องกับรีสอร์ตรุกที่ดิน ส.ป.ก.ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ที่นายอิทธิ ศิริลัทธยากร  กำกับดูแล ซึ่งเรื่องของการตรวจสอบเข้าใจว่าดำเนินนโยบายต่อเนื่องตั้งแต่สมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ในสมัยนั้น ซึ่งท่านได้มอบนโยบายเอาจริงเอาจังเรื่องการบุกรุกที่ดิน  ส.ป.ก. เราจะเอาที่ดินคืนมาจากนายทุน เพื่อที่จะมาจัดสรรให้กับเกษตรกรมีที่ทำกิน ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและของกระทรวงเกษตรฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีคนมองว่าเป็นที่ดินของผู้มีอิทธิพล เคยเป็นอดีตรองนายกฯ จะมีปัญหาต่อการตรวจสอบหรือไม่ นางนฤมลตอบว่า คงไม่  เพราะทางทีมที่เข้าไปดูแลดำเนินการในทุกจุดทั่วประเทศที่มีการบุกรุกที่ดินของ ส.ป.ก. โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายทุนที่เอาที่ดินไปทำไม่ถูกต้อง ไม่ได้เอาไปทำเพื่อการเกษตร ซึ่งก็มีภาคใต้ที่เรายึดคืนมา อย่างที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สมัย ร.อ.ธรรมนัสเป็น รมว.เกษตรฯ และตนเป็น รมช.เกษตรฯ ก็ได้ลงพื้นที่ไปยึดคืนจากนายทุน เอามาให้เกษตรกรทำกินคนละไม่เกิน 5 ไร่ ซึ่งได้ดำเนินการไปตั้งแต่ปี 2564 เราก็ยังดำเนินการต่อ

เมื่อถามว่า รองนายกฯ ที่มีการพูดถึงอาจจะเชื่อมโยงไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รมว.เกษตรฯ ปฏิเสธว่า ยังไม่เห็นรายงาน และไม่ได้ดูอะไรเลยด้วย

ถามย้ำว่า ถ้าหากใช่ พล.อ.ประวิตรจริงๆ จะกังวลหรือไม่ เพราะเคยอยู่ด้วยกันมาก่อน นางนฤมลกล่าวว่า ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ เพราะยังไม่ได้รับรายงาน คงต้องถามนายอิทธิก่อน เพราะนายอิทธิกำกับดูแล ส.ป.ก. ก็ขอให้ทราบรายละเอียดจากท่านอีกที เพราะตอนนี้เดินทางไปลงพื้นที่จังหวัดยะลา

เมื่อถามอีกว่า จะสามารถพูดได้หรือไม่ว่า ต่อให้ใหญ่แค่ไหน ถ้ารุกที่เราจะเอาคืน นางนฤมลกล่าวว่า คงไม่ได้พูดว่าต่อให้ใหญ่แค่ไหน  เอาเป็นว่าใครก็ตามที่ทำไม่ถูกกฎหมาย ถ้าหากว่าเป็นที่ของ ส.ป.ก. ในส่วนที่กระทรวงเกษตรฯ รับผิดชอบ เราจะต้องทำไปเพื่อเกษตรกร ฉะนั้นหากเอกชนนำไปใช้ไม่ถูกกฎหมาย ก็ดำเนินการต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้เกษตรกรเป็นสำคัญ

ด้านนายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์  เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้นายธนดลดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ได้รอให้มีการร้อง จุดไหนที่มีลักษณะว่าไม่ได้ทำตามกฎหมาย ส.ป.ก. ทีมของนายธนดลจะลงไปทุกพื้นที่ โดยทำงานร่วมกับทีมงาน ส.ป.ก.ในพื้นที่ แต่หากกังวลว่าพื้นที่ไหนจะมีการข่าวรั่วไหลก็จะลงไปปฏิบัติการลับก่อน

เมื่อถามถึงกรณีไร่ภูนับดาวขณะนี้เป็นอย่างไร นายเศรษฐเกียรติกล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนที่คณะของนายธนดลลงพื้นที่และตรวจสอบอย่างเข้มข้น และไม่ใช่เฉพาะที่ภูนับดาว แต่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่อยู่ใน ส.ป.ก.ก็จะดำเนินการ เพื่อนำพื้นที่ให้แก่เกษตรกร

เมื่อถามอีกว่า ล่าสุดเหมือนพื้นที่ในไร่ดังกล่าวกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง นายเศรษฐเกียรติกล่าวว่า อันนี้ต้องตรวจสอบอีกครั้ง ตนยังไม่มีข้อมูลดังกล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ตำรวจได้ทำร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) รวมถึงนายธนดล ที่ไปสืบสวนกรณีไร่ภูนับดาว  ซึ่งไปตรวจสอบดูแล้วพบว่ามีการทุจริตในหน้าที่จริงในการออกเอกสารสิทธิโดยทุจริตของข้าราชการระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จึงจะเริ่มตรวจสอบและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังทราบว่าบริษัทที่เราตรวจสอบมีเส้นเงินไปถึงบุคคลใกล้ชิดของผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ประมาณ 10 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวถามว่า เส้นเงินจำนวน 10 ล้านบาทนี้ เชื่อมไปที่หวานใจหรือไปถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า เส้นเงินนี้เชื่อมไปถึงบุคคลใกล้ชิดที่เรียกว่าหวานใจ

เมื่อถามต่อว่า สัปดาห์หน้าจะมีเซอร์ไพรส์ใหญ่หรือไม่กับเส้นเงินเส้นนี้ รอง ผบช.ก.ตอบว่า ขอคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้ก่อน เพราะเท่าที่ทราบก็ประมาณนี้ เมื่อถามอีกว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สนิทสนมกับนายสามารถหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ก็เป็นกลุ่มคนใกล้ชิดกัน

ซักว่ากังวลในการทำคดีหรือไม่ เพราะชื่อที่เชื่อมไปถึงเป็นระดับบิ๊กเนม พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ไม่กังวล และไม่ห่วง เพราะเป็นเรื่องหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และเรื่องของข้อกฎหมาย ไปถึงใครก็ต้องโดนหมด ย้ำว่า “ถึงใครก็โดนหมดขอยืนยัน มันมาถึงขนาดนี้ เรากล้าเข้าไปทำงาน หากไม่ทำต่อประเทศไทยคงอยู่ยาก  คนผิดว่าไปตามผิด คนถูกว่าไปตามถูก สังคมจะน่าอยู่มากขึ้น"

ส่วนเส้นเงินจำนวน 10 ล้านบาทนี้ไปหยุดอยู่แค่หวานใจคนสนิทหรือมีไปถึงผู้ใหญ่ท่านนั้น  รอง ผบช.ก.เผยว่า เดี๋ยวจะต้องออกหมายเรียกมาสอบสวน หรือออกหมายจับเพื่อให้มาชี้แจงว่าเส้นเงินนี้เป็นเงินเกี่ยวกับเรื่องอะไร เพราะจากการตรวจสอบจะมีการโอนไปครั้งละ 2 ล้านบาท  จนครบจำนวน 10 ล้านบาท

เมื่อถามถึงหมายจับหรือหมายเรียกหวานใจคนสนิทจะใช้เวลานานหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ยังไม่แน่ใจ เพราะเพิ่งจะรู้เพียงคร่าวๆ แต่ในรายละเอียดสำนวนการสอบสวน ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานนิดหนึ่ง

ซักอีกว่า ชื่อที่ปรากฏอาจจะถูกวิจารณ์ว่ามีเรื่องนัยทางการเมือง รอง ผบช.ก.ตอบว่า เป็นไปได้หมด เพราะตอนที่เงินไหลออกไป เป็นช่วงที่พรรคการเมืองที่มีชื่อบุคคลท่านนี้กำลังมีอำนาจ  แต่ยืนยันไม่ใช่การกลั่นแกล้งหรือทำร้ายกัน แต่เป็นเรื่องของการตรวจสอบและขยายผลออกไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะช่วงนั้นตำรวจก็จับกรณี ส.ป.ก.หลายที่ เรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง มันถึงใคร  ใครทำไว้ก็ต้องรับกรรมอันนั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง