‘สามารถ’อิดโรย! เข้ารพ.ราชทัณฑ์ ยื่นขอประกันซํ้า

ศาลอาญาไม่ให้ประกัน "เมียกับลูกหมอบุญ" ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน  ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์   ทนายเผยติดต่อหมอบุญไม่ได้ หาม "สามารถ"  เข้า รพ.ราชทัณฑ์ หลังอดอาหารเกือบ 4 วัน  ความดันตกเล็กน้อย อิดโรย "ทนายความ" เผยเจ้าตัวไม่ขอกู้ชีพหากช็อกหมดสติ โอดไม่ได้รับความเป็นธรรม เตรียมยื่นขอประกันอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่ น.ส.จารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี ภรรยาและลูกสาวของ นพ.บุญ วนาสิน ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการหลอกลวงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 43 วรรคแรก พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4, 5, 16 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยศาลใช้เวลาไต่สวนผู้ต้องหาเเละพนักงานสอบสวนผู้คัดค้านประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ

นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความผู้ต้องหา  เปิดเผยหลังยื่นคําร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวจําเลยทั้งสองคนว่า ได้แถลงต่อศาลว่าจําเลยทั้งคู่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และพร้อมปฏิบัติตามคําสั่งศาลอย่างเคร่งครัด รวมถึงเหตุผลเดิมที่เรื่องของลายมือชื่อปลอม และปัญหาด้านสุขภาพ แต่ทางพนักงานสอบสวนให้เหตุผลในการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีมูลค่าความเสียหายสูง   ตนไม่อยากก้าวล่วงศาล ซึ่งทุกอย่างนําเสนอต่อศาลไปหมดแล้ว ขึ้นอยู่กับศาลจะเมตตา

ส่วนกรณีที่ลูกความทั้งสองมีอาการเครียดถึงกับร้องไห้ในห้องพิจารณา ทนายความระบุว่า  เป็นเรื่องปกติ เพราะทั้งคู่เคยใช้ชีวิตอยู่แต่ภายนอก อีกทั้งมีปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยลูกสาวหมอบุญเป็นโรคซึมเศร้า ตนไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าโรคนี้หากพูดตอกยํ้าจะยิ่งทําให้แย่ลงได้ ในส่วนของแม่มีปัญหาหลายอย่างเกี่ยวกับผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม หากศาลพิจารณาแล้วยกคําร้อง ทีมทนายและลูกความต้องมีการหารือกันอีกครั้ง

สําหรับเรื่องคดี ทางทนายความยืนยันว่า จําเลยทั้งสองยืนยันคําเดิมต่อหน้าศาลว่าไม่รู้เห็น หรือมีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องของการปลอมลายเซ็น  โดยมีการนําเอกสารเก่ามาตรวจสอบ พบเป็นการปลอมเซ็นอย่างแน่นอน ส่วนที่หลายคนมองว่าการกล่าวอ้างเรื่องการหย่าในครอบครัวเป็นการหย่าการเมืองหรือปลอมๆ นั้น เป็นสิทธิของทุกคนที่จะคิดได้ ส่วนกรณีที่หมอบุญหลบหนีไปประเทศจีน ส่วนตัวไม่ได้มีการติดต่อไปหาหมอบุญ เพราะตนไม่มีช่องทางและไม่ใช่ทนายความของหมอบุญ

ต่อมาเวลา 16.38 น. ภายหลังศาลอ่านคำสั่งไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณาในทางไต่สวนแม้ปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้งสองยังไม่ได้หลอกลวงกลุ่มผู้เสียหาย และยืนยันว่าลายมือชื่อในเอกสารหลายฉบับตามที่ปรากฏในคดีนี้เป็นลายมือชื่อปลอมก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของผู้ต้องหาทั้งสองว่าปลอมหรือไม่ ทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายจำนวนมากคัดค้านการปล่อยชั่วคราว ประกอบกับการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น  พนักงานสอบสวนยังต้องสืบสวนหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินและการติดต่อระหว่างกลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มเติม

เมื่อพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาแล้ว คดีมีอัตราโทษสูง การกระทำมีลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ความเสียหายมีมูลค่าสูงกว่า 1  หมื่นล้านบาท หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสอง ยกคำร้อง

วันเดียวกัน ร.อ.ธีรศานต์ แก้วสง ทนายความของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ที่ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา กล่าวถึงอาการของนายสามารถ ที่ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์เมื่อเย็นวันที่ 27 พ.ย. ภายหลังอดอาหารและน้ำประท้วงสิทธิการประกันตัวว่า นายสามารถไม่ได้รับประทานอาหารตั้งแต่วันที่ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ควบคุมตัว เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ไม่ใช่การเรียกร้องเพื่อตนเองเท่านั้น แต่เป็นการเรียกร้องเพื่อผู้ต้องหารายอื่นที่อยู่ในสถานะเดียวกัน

 "การขอประกันตัวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพราะมูลค่าความเสียหายของคดีดิไอคอนกรุ๊ปที่ดีเอสไอประเมินมีมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท แต่ในทางการสืบสวนเงินที่ผ่านบัญชีของมารดานายสามารถนั้นมีเพียงแค่ 2.5 ล้านบาท หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 0.08% ของความเสียหายทั้งหมด และในขณะนี้ทุกบัญชีก็ถูกอายัดไปหมดแล้ว จึงไม่มีเหตุให้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมถึงความผิดมูลฐานยังไม่ชัดเจน และนายสามารถเองก็ไม่ได้มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี จึงเป็นเหตุผลว่านายสามารถควรได้รับการประกันตัวเพื่อออกมาต่อสู้คดี และจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น"

ร.อ.ธีรศานต์กล่าวว่า เดิมทีนายสามารถไม่ทราบว่าถูกออกหมายจับ โดยมีกำหนดการเดินทางไปทำบุญร่วมกับบุคคลอื่นอีกหลายคนที่วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย ในวันที่ 25 พ.ย. โดยจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับไว้อยู่แล้ว แต่เมื่อทราบว่ามีหมายจับ นายสามารถก็โทร.แจ้งความประสงค์ขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอทันทีว่าอยู่ที่วัดห้วยปลากั้ง และจะขอเข้ามอบตัว ก่อนประสานไปที่ สภ.แม่ยาว

ส่วนประเด็นที่มีการออกหมายจับนายสามารถในข้อหาฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินนั้น ทนายความกล่าวว่า กรณีนี้ดีเอสไอยังดำเนินการในข้อหาแชร์ลูกโซ่กับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ   ไม่แล้วเสร็จ และยังไม่มีความชัดเจนว่ามีความผิดหรือไม่ แต่กลับมีการแจ้งข้อกล่าวหานี้กับนายสามารถ จึงมองว่าไม่เป็นธรรม

 สำหรับอาการป่วยของนายสามารถ ร.อ.ธีรศานต์บอกว่า นายสามารถมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน ไขมัน ไตรกลีเซอไรด์สูง และโรคเกี่ยวกับตับอ่อน โดยเบื้องต้นแพทย์ได้เข้ามาตรวจแล้วพบว่านายสามารถมีอาการอ่อนเพลียจากการอดอาหาร พร้อมแนะนำให้กลับมารับประทานอาหารตามเดิม ซึ่งจากการที่เข้าเยี่ยม พบว่านายสามารถนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ ไม่มีแรง เหมือนคนจะวูบตลอดเวลา ซึ่งนายสามารถได้เซ็นรับทราบไปแล้วในหนังสือแจ้งความประสงค์ว่า หากเกิดช็อก หรือหมดสติ แพทย์ไม่ต้องทำการกู้ชีพ

ร.อ.ธีรศานต์กล่าวถึงการยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งไม่ให้ประกันตัวของศาลอาญา ซึ่งได้ดำเนินการในส่วนคำร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้นายสามารถเขียนเหตุผลแนบท้ายคำร้อง และจะมีทีมทนายมารับเอกสารจากนายสามารถที่เรือนจำ และรอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล เพื่อเตรียมยื่นคำร้องอุทธรณ์ที่ศาลอาญา จะประกันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ในวันที่ 29 พ.ย. ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ตนจะเดินทางไปเยี่ยมนายสามารถเพื่อหารือแนวทางการต่อสู้คดีอีกครั้ง                 

ด้านนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์  เปิดเผยว่า เนื่องด้วยนายสามารถไม่ได้รับประทานอาหารมาหลายวันตั้งแต่ก่อนเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จึงมีอาการความดันตกเล็กน้อย และอาจรวมถึงมีอาการเครียด แต่ไม่ได้มีอาการปวดท้องร่วมด้วย ทำให้ช่วงเย็นวันที่ 27 พ.ย. จึงต้องส่งตัวไปรับการรักษาที่ รพ.ราชทัณฑ์ ที่ผ่านมานายสามารถได้ดื่มน้ำ แต่ไม่ได้รับประทานอาหารหลายมื้อ ส่วนจะเป็นแพทย์ประจำเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่เป็นผู้ประเมินอาการนายสามารถ และวินิจฉัยนำส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่นั้น ต้องขอไปตรวจสอบรายละเอียดก่อน ว่าเป็นในเวลาหรือนอกเวลา เนื่องด้วยหากเป็นในเวลาปกติ หากแพทย์เข้าเวร แพทย์จะเป็นผู้ประเมิน แต่ถ้าเป็นนอกเวลาและฉุกเฉิน ก็จะเป็นพยาบาล อย่างไรขออนุญาตไปตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมก่อน

ส่วนนายสามารถจะต้องนอนพักรักษาตัวภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์นานเท่าไรนั้น จะเป็นการตรวจและวินิจฉัยโดยแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นหลัก หากมีความคืบหน้าอย่างไรเรื่องการตรวจร่างกาย ตนจะได้เรียนแจ้งอีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลอาญาไม่ให้ประกัน 'เมีย-ลูกหมอบุญ' เกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังศาลอ่านคำสั่งไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่น.ส.จารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี

เมีย-ลูกร่ำไห้กลางศาล ขอปล่อยตัวสู้คดี ตร.ค้านประกัน ยังติดต่อหมอบุญไม่ได้

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวน คำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่น.ส.จารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี  และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี ภรรยาและลูกสาวของ นพ.บุญ วนาสิน ผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน